Chapter .1 **ทายาทอสูรตัวร้าย**
ตั้งแต่ทำงานเป็นครูอนุบาลมาแสนนาน แต่นี่เป็นครั้งแรกในประวัติความเป็นครู!! ที่มณีรินต้องพบเจอ เธอเริ่มจะปวดศีรษะตุ๊บๆ การมาทำงานเป็นคุณครูในโรงเรียนอนุบาลในต่างแดน... เป็นประสบการณ์ที่แสนดีนับตั้งแต่เหยียบย่างลงบนแผ่นดิน ‘โรม’ แต่...วันนี้ มณีรินกำลังจะอกแตกตาย เมื่อเด็กชายที่เธอชมเป็นหนักหนาตอนที่พบสบตากันครั้งแรกว่าน่ารักน่าเอ็นดู กำลังแผลงฤทธิ์...ขอถอนคำพูดตอนนี้ทันไหม? เมื่อวีรกรรมของพ่อเจ้าประคุณกำลังทำให้นางฟ้าในตัวของเธอพักงาน และกำลังจะกลายร่างเป็นแม่มดใจร้ายแทนที่ พร้อมที่จะสาปเด็กดื้อ เด็กซนให้กลายเป็นหุ่นไล่กา!! ไอ้เด็กแสบนี่คิดจะลองดีเธอเหรอไง? คิดเหรอว่าเป็นลูกคนรวยแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ!! ร้องกรีดๆ อาละวาดขวางปาทำลายข้าวของ สร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กๆ คนอื่นๆ จนถอยกรูดไปแอบหลบอยู่มุมห้องนับสิบคน...
“ไม่เอา!! เค้าจะกลับบ้าน...จะกลับไปหาแด๊ด!! ไม่เรียนแล้ว... มีแต่เด็กผู้หญิงปัญญาอ่อน...พูดไม่รู้ฟังเย้ย...ออกไป๊!!”
เด็กชายผมดำใบหน้ายับย่น คราบน้ำตาเปรอะเต็มข้างแก้มและใบหน้า เขากำลังอาละวาด!! ออกฤทธิ์ออกเดช ขวางปาสิ่งของทุกสิ่งที่อยู่ใกล้มือ จนสิ่งของเล่านั้นหล่นเกลื่อนพื้นห้อง ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าห่ม กระเป๋า หรือแม้แต่ตุ๊กตาหมีน้อยที่เกลื่อนกระจายระเกะระกะ
“วินเซ้นต์!! ครูบอกให้หยุด!!” มณีรินตัดสินใจเดินเข้าไปประจันหน้ากับเด็กชายคนนั้น... เธอแปลกใจว่าทำไมพี่เลี้ยงหรือคนที่คอยอารักขาเด็กนั่นถึงถอยไปอยู่ห่างๆ ไม่มีใครสักคนกล้าเข้าไปหยุดการกระทำของเด็กชายวัย5ขวบคนนี้?
“ไม่... ออกไป๊!! อย่ามายุ่งนะ เค้าจะกลับบ้านไม่อยู่ที่นี่แล้ว... จะกลับบ้านหาแด๊ด”
เด็กชายตวาดแว้ดๆ เขาล้มลงไปนอนที่พื้นและดิ้นพลาดๆ หลับหูหลับตาแหกปากร้องเสียงดังลั่น
“ดีน่ากันเด็กๆ ออกไปที่ห้องอื่นก่อน เดี๋ยวรินจะจัดการเด็กคนนี้เองค่ะ” เด็กๆ ทั้งหมดพากันแตกตื่น พวกเขาหลบอยู่มุมห้องและดวงตาสั่นไหว บ้างคนเริ่มเบะปากเตรียมจะร้องไห้ เธอไม่อยากให้เด็กคนอื่นต้องตกใจและหวาดผวาไปด้วย จึงตัดสินใจให้ครูพี่เลี้ยงพาเด็กคนอื่นๆ ย้ายออกไปจากห้องแห่งนี้เสียก่อน จะได้จัดการเด็กชายที่กำลังอาละวาดอยู่นี่ให้ถนัดถนี่
“จะดีเหรอคะ?”
“ไปเถอะค่ะ...รินรับมือได้ แค่เด็กงอแงคนเดียวเอง แค่นี้จิ๊บๆ”
“แต่ว่า” ดีน่าพยายามจะแย้ง จริงอยู่ว่าใครๆ ก็ปราบเด็กดื้อได้เมื่อมันเป็นอาชีพ แต่มันติดตรงที่เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา!! เขาไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ ในเมื่อเขาเป็นบุตรชายของแองเจลโล่ โรเรนโซ่มาเฟียอิตาลีคนดัง มหาอำนาจทางการเงิน ผู้ชายที่ก่ำกึ่งระหว่างสะอาดบริสุทธิ์กับดำมืด แต่กลับหล่อเหลาปานเทพเจ้า...และเหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าแอรีสเทพแห่งสงคราม และมณีรินยังไม่รู้... เธอพึ่งมาทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นวันแรกๆ
“สบายมากค่ะ...รินรับมือได้” หญิงสาวยิ้มรับ เธอดันประตูห้องให้ปิดลงเพื่อปิดกั้นสายตาอยากรู้จากคนภายนอก เธอรู้ว่าครูพี่เลี้ยงไม่สบายใจ!! เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววออกมาแบบนั้น แต่อีแค่เด็กดื้อคนเดียว...ทำไมเธอจะปราบพยศเขาไม่ได้ เมื่อเธอเคยรับมือเด็กที่ดื้อกว่านี้มาแล้วมากมาย...แค่เด็กงอแงคนหนึ่ง...ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงเธอหรอกน่า...
หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอก เธอปล่อยให้เด็กชายคนนั้นอาละวาดได้เต็มที่ ลากเก้าอี้มานั่งมองเฉยๆ โดยไม่คิดจะห้าม...เมื่ออยากร้อง... อยากทำลายข้าวของนักก็ทำไป!! เธอจะดัดสันดานเด็กคนนี้...ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!! และผู้ปกครองของเขาจะต้องเป็นคนจ่ายค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น โทษฐานที่เลี้ยงและตามใจจนเด็กเสียคน!!
“อื่อๆ จะกลับบ้านจะไปหาแด๊ด ไม่อยู่ที่นี่แล้ว...ไม่อยากเรียน”
หญิงสาวทอดสายตามองอาการงอแงของเด็กชาย ที่เธอคิดว่าเขาน่ารักที่สุดเท่าที่เคยพบเจอเด็กๆ มา ใบหน้ากลมป้มแหยเก ดวงตากลมโตขุ่นจัด ปากเล็กๆ นั้นแบะเบี้ยว พร้อมกับพ่นคำพูดไม่น่าฟังออกมา จนเธออยากจับไปอบรมใหม่ คราบน้ำตานองหน้า แต่กลับดิ้นรนทุรน ทุรายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ
เธอคิดว่าเอาอยู่ กับการพยศของเด็กชายคนนี้!!
“ทำไมไม่อยากเรียนคะ อยากเป็นคนโง่เหรอ? คนโง่ถูกหลอกง่ายๆ และต้องทำงานใช้แรงงาน เหนื่อยจะตายแต่ได้เงินนี๊ดเดียวเองนะ” เธอพูดเสียงเรียบและแอบสังเกตปฏิกิริยาของเด็กน้อย เขาหยุดชะงักไปนิดก่อนจะเริ่มต้นตะแบงเสียงใหม่อีกครั้ง
“ช่างสิ!! ไม่อยากเรียนกับเด็กผู้หญิง จะกลับบ้านหาแด๊ด!!”
“เป็นลูกแหง่เหรอไง? เป็นเด็กผู้ชายนี่...ทำไม่ติดพ่อล่ะจ้ะ...มาโรงเรียนแล้วร้องแงๆ กลับบ้านไม่อายเพื่อนเหรอไงเล่า” เธอถามเสียงอ่อนๆ มองสบดวงตาเล็กๆ ที่พราวฉ่ำด้วยน้ำใสๆ
“เค้าไม่ได้เป็นลูกแหง่...แต่ไม่ชอบเสียงเด็กผู้หญิง รำคาญ!!” ปากจิ้มลิ้มนั่นขยับพูด เขาหยุดร้องไห้แบบอัตโนมัติ และค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มือเล็กๆ นั่นปาดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองลวกๆ
“ไม่ชอบ...แล้วทำไม่ต้องอาละวาดแบบนี้ล่ะ บอกกันดีๆ สิ เดี๋ยวครูก็จัดการให้เอง”
“ก็บอกแล้วไม่มีคนฟังนี่!!” ริมฝีปากยื่นออกมานิดๆ เหมือนกำลังงอนเต็มที่
“ทีหลังบอกครูนะ ครูจะจัดการให้ และวันนี้เราต้องช่วยกันเก็บของที่เธอทำรก โอเค!!”
“ไม่!!”
“มันก็มีทางเลือกแค่สองทาง...1.เก็บของแล้วครูจะไม่ทำโทษ กับ2.ครูจะลงโทษหนู ที่สร้างเรื่องวุ่นวาย เอาแบบไหนดีล่ะจ้ะ”
“กล้าเหรอ? ตัวไม่รู้เหรอว่าเค้าเป็นใคร? กล้าทำอันตรายเค้าเหรอไง...” เด็กชายกระตุกยิ้ม ทำท่าทางกวนโอ้ยแต่เด็ก จนมณีรินตัวกระตุกมือคันยิบๆ อยากจะฟาดก้นงอนๆ นั่นสักที ที่แสดงท่าทางไม่น่ารักสมกับน่าตาน่าเอ็นดูนั่นสักนิด
“พูดกับครูที่เป็นผู้ใหญ่ ใช่คำพูดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะคะ... และทำไม? ครูจะไม่กล้า ในเมื่อครูเป็นครูของหนู”
“เค้าเป็นลูกใครตัวยังไม่รู้เลย...คงไม่อยากถูกไล่ออกหรอกมั้งคร๊าฟครู ทางที่ดีอย่ามายุ่งกับเค้าจะดีกว่านะ” มณีรินยิ้มย่อง แหนะๆ ไอ้เด็กนี่ยังกวนโทสะเธอต่อ ปากจิ้มลิ้มนั้นยกยื่น มันน่าจับฟาดก้นและกระหน่ำฟัดเสียเหลือเกิน เด็กอะไรทั้งน่ารักและน่ากระทืบในคราเดียวกัน สงสัยพ่อแม่ตามใจจนเคยตัวล่ะสิ...เดี๋ยวมณีรินคนนี้จะปราบเสียให้สิ้นพยศ
“ทำไมครูต้องรู้ด้วยล่ะว่าวินเซ้นต์เป็นลูกใคร? เมื่ออยู่ในโรงเรียน...ครูใหญ่ที่สุด และหากเราทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ที่นี่คือโรงเรียนไม่ใช่บ้าน!!”
“กล้าเหรอ กล้าทำก็ลองดูจะฟ้องแด๊ด!! ให้แด๊ดจัดการครู” หน้าเล็กๆ นั่นลอยหน้าลอยตายั่ว นางฟ้าใจดีในตัวเธอ...ถอยหลังกลับไปซุกอยู่มุมห้อง...ปล่อยให้แม่มดใจร้ายออกมาทำงานแทน เพื่อปราบอาการพยศของเด็กชาย ที่กำลังยืนกอดอกปากยื่นอยู่ตรงหน้า ให้รู้เสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร!!
“ครูให้เวลาวินเซ้นต์ตัดสินใจ5 นาที ถ้าหากเก็บของที่ถูกปาเกลื่อน ครูก็จะไม่ทำโทษ... แต่ถ้าไม่...ครูก็จำเป็นต้องทำนะจ้ะ” มณีรินเดินไปคว้าไม้บรรทัดที่วางอยู่ตรงโต๊ะทำงานตัวเอง เธอถือไว้ในมือและเดินย้อนกลับมากลางห้องอีกครั้ง แววตาไหววูบของเด็กชายมันทำให้เธอกระหยิ่ม นี่แค่การขู่หากเขาไม่ยอมทำจริงๆ เธอก็จำเป็น
“ตัวจะตีเค้าเหรอ?”
ดวงตาคู่เดิมมีแววไม่แน่ใจ เมื่อเงยหน้ามองสบนัยน์ตากับคุณครูคนสวย
“ใช่!! ครูจะตี...หากวินเซ้นต์ยังดื้อ”
หญิงสาวแสร้งตีสีหน้าเคร่งๆ
“เค้าจาฟ้องแด๊ดนะ ตัวไม่กลัวแด๊ดเค้าเหรอ?”
เด็กชายพยายามแย้ง แม้จะแอบกลัวนิดๆ
“ไม่กลัว? ทำไมต้องกลัวล่ะคะ บอกแล้วที่โรงเรียน...ครูใหญ่สุด!! แด๊ดวินเซ้นต์ก็มาสั่งห้ามครูไม่ให้ทำโทษวินเซ้นไม่ได้”
“ตัวไม่รู้จักแด๊ดเค้าสิ!! แด๊ดเค้าน่ากลัวนะ”
ใบหน้าเล็กๆ เชิดขึ้น มือป้อมๆ ยกขึ้นกอดอก ทำท่าทางหยิ่งทนงให้มณีรินเห็น