บทที่8 เข้าทางเสือแหละ

1770 คำ
“หวงก้างอะไรของมึง ไร้สาระ” พิชยะปฏิเสธออกไปทันทีแต่ก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับท่าทีของเพื่อน หากแต่ภายในใจก็ยอมรับกลาย ๆ ตั้งแต่คืนนั้น…เขาก็รู้สึกอยากจะรู้จักตัวตนของมนต์มีนาให้มากกว่านี้ “มึงอย่ามาปฏิเสธซะให้ยาก มึงก็เห็นไอ้ภิมแล้วไม่ใช่เหรอวะ ตอนแรก ๆ ก็ปฏิเสธกูเสียงแข็งแบบนี้แหละ สุดท้ายเป็นไง ทุกวันนี้หลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้น หลงเมียจนลืมเพื่อนลืมฝูง ชวนไปเที่ยวก็ไม่ค่อยอยากจะไป” ใส่อารมณ์สุด ๆ เหมือนคนที่เก็บกดมานานแล้วได้ระบายออกมา ในขณะที่พิชยะนิ่งไป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะยอมรับซะทีเดียว เขากับพิธาต่างกันลิบลับ… “เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” เจ้าของร่างสูงลุกขึ้นยืนถือแก้ววิสกี้เดินออกไปจากงาน หมอธนามองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างคนกำลังใช้ความคิด ถ้างานนี้พิชยะหมายจะตะครุบเหยื่อตัวเดียวกับเขา เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้แน่ เวลาล่วงเลยไปกระทั่งสามทุ่มเศษ ๆ ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดลูกสาวคนเล็กของบ้านกิจธาดาวงศ์ยังคงครึกครื้น เสียงเพลงจังหวะเร้าอารมณ์ประกอบกับแอลกอฮอล์รสชาติขมปร่า ทำให้พิชชาและพวกเพื่อน ๆ ของเธอเริ่มจะเมากันบ้างแล้ว หากแต่ทุกคนก็ยังอยากสนุกต่อ ระหว่างที่กำลังวาดลีลาอย่างไม่มีใครยอมใครอยู่นั้น หนึ่งในเพื่อนของพิชชาผู้ทำหน้าที่ประหนึ่งดีเจในคลับก็เบาเสียงเพลงก่อนจะเสนอความคิดดี ๆ ขึ้น “มาเล่นเกมกันมั้ย” “เกมอะไรของมึงวะ” แต่ละคนแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วยเพราะพวกตนกำลังสนุกสนานกันอยู่ “เออน่า รับรองว่าพวกมึงต้องชอบ” “เกมอะไรก็พูดมาดิวะ ลีลาอยู่ได้” “เออจริง พวกกูอยากรู้แล้วเนี่ย แต่ถ้าเกมของมึงไม่สนุกระวังไว้เลยนะอีรี่” ตัวแทนหมู่บ้านชี้หน้าดีเจสาวสวย “เออๆ ใจร้อนไปได้ พวกมึงตั้งใจฟังนะเกมนี้มีอยู่ว่า ให้พวกเราแต่ละคนเอาเงินออกมาคนละเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องไม่ต่ำกว่าห้าร้อย” “ไม่เอาด้วยหรอก มึงจะหลอกเอาเงินพวกกูไปเที่ยวกับผู้ชายอีกแล้วใช่ไหม” ทุกคนต่างก็คิดแบบนี้ เพราะเมื่อเทอมที่แล้วเชอร์รี่คนนี้เพิ่งจะหลอกเพื่อน ๆ ลงขันจนได้เงินจำนวนหนึ่งแล้วขอเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวแต่ก็แอบเอาเงินที่ว่านี้ไปใช้กับผู้ชายจนหมด “เรื่องนั้นกูก็ขอโทษพวกมึงไปแล้วไงสัญญาแล้วด้วยว่าจะไม่ทำอีก” เจ้าตัวยกมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพยอย่างคนสำนึกผิดพร้อมกับทำตาละห้อยจนพวกเพื่อน ๆ ยอมเชื่อ “เออ พวกกูจะให้โอกาสมึงครั้งสุดท้ายเกมอะไรว่ามา” คนที่ทำท่าจะร้องไห้ยิ้มร่าก่อนจะเดินถือจานกระเบื้องไปเรี่ยไรเงินกับเพื่อนจนครบทุกคน หลังจากช่วยกันนับแล้วได้เงินมาสองหมื่นห้าพันบาท เพราะบางคนก็ควักออกมาทั้งกระเป๋า “เงินที่พวกเราลงขันในค่ำคืนนี้จะมีเจ้าของแค่คนเดียว” “ยังไงวะ” หนึ่งในนั้นสงสัยปนไม่ไว้ใจเจ้าหล่อน “ก็จับชื่อขึ้นมาหนึ่งคนโดยการจับฉลาก จับได้ชื่อใครคนนั้นก็ต้องจับฉลากอีกครั้งเพื่อเสี่ยงว่าจะได้กติกาอะไรแลกกับเงินรางวัล” ทุกคนหันมองหน้ากัน เมื่อเห็นว่าความคิดของเพื่อนเข้าท่าตัวแทนหมู่บ้านอีกคนก็พูดขึ้น “ก็น่าสนใจดีแต่ต้องมีการตรวจสอบชื่อก่อนนะเว้ยว่าไม่มีการโกงเกิดขึ้น” “เออ เชิญพวกมึงตรวจสอบได้เลย” เพื่อความยุติธรรมเชอร์รี่ได้ขอให้พนักงานโรงแรมเป็นคนเขียนชื่อทุกคนลงไปในกระดาษแทนตัวเอง ใช้เวลาไม่นานมากตอนนี้ทุกคนก็ยืนล้อมวงรอเสี่ยงดวงกันด้วยความตื่นเต้น โดยหนึ่งในคนที่สนใจเกมนี้ก็คือมนต์มีนา ตอนนี้มนต์มีนาเหลือตัวคนเดียว เพราะจนป่านนี้เธอก็ยังไม่สามารถติดต่อมารดาแท้ ๆ ได้ ตั้งแต่สุรีพรไปต่างประเทศกับสามีใหม่ก็ไม่ส่งข่าวคราวแม้แต่ข้อความสักฉบับ พ่อเสีย ส่วนแม่ก็เสพสุขคนเดียว มนต์มีนาจึงไม่ต่างจากคนไร้ญาติ ด้วยความเมตตา คุณมนูญกับคุณเพ็ญพิชย์จึงช่วยเหลือหญิงสาวทั้งค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว หากแต่หญิงสาวก็ไม่อาจจะรับไว้ทั้งหมด แค่ทุกวันนี้เธอได้มาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตไม่ต่างจากลูกหลานคนหนึ่งของกิจธาดาวงศ์ เธอก็ซาบซึ้งในบุญคุณมากพอแล้ว ช่วงนั้นมนต์มีนาต้องหางานพิเศษทำเพราะเธออยากยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง จนได้งานทำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่สัปดาห์ก่อนเจ้าของร้านก็ประกาศปิดกิจการกะทันหันเนื่องจากร้านขาดทุนต่อเนื่องหลายเดือน จึงไม่สามารถประคับประคองธุรกิจต่อไปได้ ไม่มีแม้กระทั่งเงินจ่ายค่าแรงให้กับพนักงาน พนักงานทุกคนรู้ว่าร้านประสบปัญหาทางการเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงที่เกิดโรคระบาดเมื่อสองปีก่อน แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าของร้านจะเห็นแก่ตัวหนีหนี้ก้อนโตไปอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้พนักงานนับสิบกว่าชีวิตรับชะตากรรมกันเอง สิ้นเดือนที่ผ่านมาเธอไม่ได้รับเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว ลำพังเงินเก็บหอมรอมริบที่เธอต้องแบ่งมาใช้ในชีวิตประจำวัน หลายครั้งนำไปใช้จ่ายในการเรียนตอนนี้เธอจึงไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเทอม ซึ่งปีสุดท้ายใช้เงินค่อนข้างเยอะ มนต์มีนาไม่ได้บอกให้พิชชารู้ถึงความลำบากของตนเองเพราะกลัวพิชชาจะเล่าให้คุณมนูญกับคุณเพ็ญพิชย์ฟัง หรือไม่ก็คงจะเป็นตัวพิชชาเองที่จะให้เงินเธอมาจ่ายค่าเทอม ซึ่งเธอไม่ได้ต้องการจะรบกวนใคร เหลืออีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะถึงกำหนดจ่ายค่าเล่าเรียนวันสุดท้าย มนต์มีนาจึงคาดหวังกับการเล่นเกมในครั้งนี้มาก “พร้อมยัง” พยักหน้ากันด้วยความพร้อมเพรียง แม้ว่าหลายคนในนี้จะเป็นลูกคนมีเงิน แต่เงินจากการเล่นเกมที่ยังไม่รู้กติกาก็สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เพื่อความยุติธรรม จึงเป็นพนักงานของโรงแรมที่จะเป็นคนจับรายชื่อขึ้นมาจากกล่องกระดาษที่ปิดมิดชิดทั้งสี่ด้าน จากพากันกรึ่ม ๆ กลับเป็นว่าเกมในครั้งนี้ทำให้ทุกคนสร่างเมา พิชยะกับหมอธนายังคงทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ที่โต๊ะไม่ได้ออกความเห็นหรือเข้ามายุ่มย่าม ปล่อยให้พิชชากับพวกเพื่อน ๆ สนุกกันอย่างเต็มที่ หลังจากกลับเข้ามาในงาน หมอธนาก็ไม่เห็นว่าพิชยะจะให้ความสนใจมนต์มีนาเหมือนในตอนแรก ตรงกันข้ามเขายังเข้าไปหว่านเสน่ห์กับเพื่อนของน้องสาวหลายคน จึงโล่งใจคิดว่าตัวเองคงไร้คู่แข่ง เพราะหลังจากคืนนี้ไปหมอธนาตั้งใจจะเดินหน้าจีบมนต์มีนาอย่างจริงจัง “มึงว่ากติกาแลกกับเงินหมื่นนั่นคืออะไรวะ” เอ่ยขึ้นอย่างคนอยากรู้อยากเห็น ทว่าพิชยะกลับตอบกลับน้ำเสียงไร้อารมณ์ “โทษทีกูไม่อยากรู้เรื่องของเด็ก” “เออ กูอยากรู้เรื่องของเด็ก แล้วมันทำไมวะ” อยากจะง้างหมัดใส่ปากไอ้นี่เต็มทน แต่ติดที่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยพิชยะเป็นแชมป์เทควันโดของชมรมห้าปีซ้อน ปัจจุบันนี้เจ้าตัวก็ยังหาเวลาแวะเวียนไปฝึกปรือฝีมือที่โรงเรียนเทควันโดของคนรู้จักอยู่บ่อย ๆ ในขณะที่หมอธนามักจะใช้วันหยุดหมดไปกับผู้หญิง ในขณะที่บรรยากาศระหว่างเพื่อนกำลังคุกรุ่นเสียงโห่ร้องของกลุ่มนักศึกษาก็ดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของสองหนุ่มให้หันไปมอง ตอนนี้พนักงานโรงแรมประกาศชื่อผู้โชคดีที่จะได้เสี่ยงจับกติกาขึ้นมาเรียบร้อย เสียงดังลั่นเมื่อครู่จึงเป็นเสียงที่เกิดจากความผิดหวังและเสียดายของทุกคน “ดีใจด้วยนะมีน” พิชชากระโดดกอดมนต์มีนาราวกับจับได้ชื่อตัวเอง “ดีใจอะไรล่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะได้กติกาอะไร” ไอ้ดีใจก็ดีใจอยู่หรอก แต่เธอยังไม่รู้เลยว่าจะจับได้กติกาอะไรนี่สิ เพื่อนแต่ละคนก็ยิ่งมีความคิดแผลง ๆ กันอยู่ด้วย ความกังวลฉายขึ้นในดวงตาของหญิงสาวก่อนจะแอบขี้โกงด้วยการอธิษฐานขอต่อพระภูมิเจ้าที่อยู่ในใจ ‘เจ้าที่เจ้าทาง ศาลตายายเจ้าขา เห็นแก่ที่ลูกช้างเคยนำขนมอร่อย ๆ ไปไหว้ทุกวันพระ ครั้งนี้ช่วยลูกช้างด้วยนะเจ้าคะ ขอให้ลูกช้างจับได้กติกาง่าย ๆ ทีเถอะ แต่ไม่เอาที่ต้องวิ่งไปแหกปากไปนะเจ้าคะเพราะวันก่อนลูกเพิ่งจะเดินเตะขาโต๊ะเท้ายังเจ็บอยู่เลย อีกอย่างข้างบ้านก็มีลูกเล็กกลัวว่าเสียงของลูกจะไปรบกวน เอาเป็นว่าลูกขอกติกาง่ายๆ ก็พอเจ้าค่ะเพื่อที่ลูกช้างจะได้นำเงินจำนวนนี้ไปจ่ายค่าเล่าเรียน ไม่ต้องเดือดร้อนคุณลุงคุณป้า สาธุ! แล้วพรุ่งนี้ลูกช้างจะซื้อขนมกับผลไม้ชุดใหญ่ไปถวายให้เลยเจ้าค่ะ’ แอบติดสินบนเจ้าที่ของบ้านกิจธาดาวงศ์เรียบร้อยแล้วมนต์มีนก็ลืมตาขึ้นมา นับหนึ่งถึงสิบแล้วหย่อนมือลงไปในกล่องกระดาษ หัวใจเต้นเร็วขึ้นหลายระดับในตอนที่มือควานหากระดาษขึ้นมาสักใบ เพื่อน ๆ ต่างก็พากันลุ้นจนตัวโก่งไปด้วย โดยเฉพาะหมอธนา ถึงกับเดินมาผสมโรงลุ้นและเป็นกำลังใจอยู่ข้าง ๆ เธอในขณะที่พิชยะนั่งจิบวิสกี้ไม่มีท่าทีตื่นเต้นสักนิด พอสุ่มกระดาษขึ้นมาได้หนึ่งใบมนต์มีนาก็กลั้นใจส่งให้กับเพื่อนอีกคนช่วยอ่านกติกา “กติกามีอยู่ว่า…ถ้าเป็นผู้ชายจับได้กระดาษใบนี้ต้องจูบกับยัยฟินน์ต่อหน้าทุกคน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่จับได้ต้องไปจูบพี่ชายของยัยฟินน์ที่นั่งอยู่ตรงโน้น” ---------- เอาแล้วไง ดันเข้าทางใครบางคน 555 ตอนหน้ามาลุ้นว่าน้องจะเห็นแก่เงิน เอ้ย จะทำตามกติกามั้ยน้าา แต่เงินตั้งสองหมื่นห้านะลู้กกก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม