ตอนที่ 6
“เรื่องมันก็จบไปนานแล้ว พี่ว่าให้เรื่องนี้มันจบไปพร้อมกับน้าฝ้ายเถอะ” เมื่อปีที่แล้วก่อนที่จิราภรเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เธอล้มป่วยอยู่นานหลายเดือน และเธอก็สารภาพเรื่องนี้ให้กับพชรมนฟังหมดแล้ว
“เรื่องแม่ดิฉันพอเข้าใจค่ะ แต่เรื่องน้องสาว ทำไมคุณต้องเอายัยพลอยทำเมียอีกคนหนึ่งด้วย”
“พลอยเค้าเป็นโรคซึมเศร้าน่ะ แพทต้องเข้าใจน้องสิ พี่ปฏิเสธพลอยได้ที่ไหนกัน ไม่ใช่แพทลองถามเรื่องนี้กับพี่พิมพ์ดูก็ได้”
“ค่ะ..ช่างเถอะ วันนี้ดิฉันไม่ได้มาด้วยเรื่องนั้นหรอกค่ะ”
“แพท! คอยพี่นานมั้ย” ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ พิมพ์ชนกก็โผล่เข้ามาพร้อมกับลูกชายของเธอ และยังไม่ทันที่น้องสาวจะได้พูดอะไรต่อ พี่สาวที่ไม่ได้เจอกับน้องมาตั้งเกือบสองปีนับแต่งแต่มารดาเสียชีวิตไปรีบเอ่ยถามด้วยความไม่รู้ เพราะเธอมัวแต่เลี้ยงลูก เลยไม่ได้ติดตามข่าวต่าง ๆ
“วันนี้ไม่มีคิวถ่ายละครเหรอจ๊ะ..ถึงแวะมาหาพี่ได้” ทั้งคู่หันไปตามเสียงใสแจ๋วนั้น
“สวัสดีครับน้าแพท” เด็กน้อยที่จำน้าสาวได้ก็รีบปล่อยมือจากคุณแม่และวิ่งมาหาพชรมนที่ยืนอยู่ทันที เพราะแม่ของเธอเปิดรูปและละครหลังข่าวของน้าสาวให้ดูอยู่บ่อย ๆ
“สวัสดีค่า..น้องคิม ไหนมาให้น้าอุ้มหน่อยสิคะ อึ๊บ!..ไม่เจอตั้งนานหลานโตขึ้นเยอะเลยนะคะพี่พิมพ์” พชรมนอุ้มน้องคิมขึ้นแนบกายอย่างรักใคร่พร้อมกับหอมแก้มของเด็กน้อย
“ไม่ได้โตอย่างเดียวนะจ๊ะ ดื้อด้วยนะสิ”
“ใครว่าน้องคิมดื้อ น้องคิมป่าวดื้อสักหน่อยค๊าบ ไม่เชื่อถามคุณพ่อดูก็ได้” เสียงน่ารักบ้องแบ๊วหันมาค้อนคุณแม่แล้วก็หันไปทางคุณพ่อทันที
“น้องคิมครับ คุณน้าเค้ามีเรื่องจะคุยกับคุณแม่ เดี๋ยวน้องคิมไปเล่นกับคุณพ่อที่ห้องเราก่อนนะครับ” ชญานนท์รีบบอกลูกชาย แล้วยื่นมือมาขอลูกชายจากพชรมนทันที หลังจากนั้นชญานนท์จึงพาน้องคิมลูกชายวัยสี่ขวบออกมาแล้วปล่อยให้สองพี่น้องได้คุยกัน
ดาราสาวถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้เห็นหน้าพี่สาวของเธอ ตั้งแต่ที่มารดาเสียไปสองพี่น้องก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จะมีก็แค่โทรคุยและวิดีโอคลอบ้างเป็นบางครั้งที่พชรมนว่างเท่านั้น แต่การเป็นนางเอกระดับแนวหน้าทำให้พชรมนแทบจะไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย แล้วทั้งสองก็ได้คุยปรับทุกข์กันอยู่นาน
“พี่พิมพ์ช่วยแพทด้วยนะคะ”
“พี่อยากให้แพทพักเรื่องวงการบันเทิงเอาไว้ แล้วมาอยู่กับพี่ที่นี่สักพักก่อน” พิมพ์ชนกยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมของเธอ
“ถ้าทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าแพทยอมรับความจริงน่ะสิคะ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ พี่ว่าถ้าเราอยู่เฉย ๆ ไปสักพักเดี๋ยวคนก็ลืมกันไปเอง” เพราะทุกครั้งคนที่คอยปิดข่าวให้นางเอกสาวไม่ใช่พิมพ์ชนก แต่เป็นชญานนท์ต่างหาก และครั้งนี้ข้อแม้มันก็จะมากเกินไปที่พิมพ์ชนกจะไปขอร้องให้เขาช่วยเหลือน้องสาวของเธอได้
“แล้วงานที่เหลือของแพทละคะ”
“ก็แล้วแต่คนจ้างเค้าสิ ถ้าเค้าจะไม่จ้างเราต่อเพราะเรื่องข่าวนั่น เราก็ไม่เห็นต้องแคร์เลยนี่จ๊ะ”
“แล้วอยู่ที่นี่พี่พิมพ์จะให้แพททำอะไร”
“พี่จะให้แพทช่วยโปรโมทโรงแรมที่พี่เบสกำลังจะเปิดใหม่ในเร็ว ๆ นี้จ้ะ”
“เมื่อไหร่คะ”
“ก็เดี๋ยวรอพี่เบสเค้าบอกอีกทีนะ ช่วงนี้แพทก็อยู่เฉย ๆ นั่ง ๆ นอน หรือจะช่วยพี่เลี้ยงน้องคิมไปก่อนก็ได้”
“โอเคค่ะ...งั้นเดี๋ยวช่วงนี้แพทจะช่วยพี่พิมพ์ดูแลน้องคิมเองนะคะ”
“แล้วแพทพร้อมเข้ามาอยู่กับพี่วันไหนจ๊ะ”
“วันนี้เลยก็ได้ค่ะ”
“โอเคร งั้น..ถ้าเรื่องขนของ เดี๋ยวพี่จะส่งคนไปช่วยนะ”
“ไม่เป็นค่ะ แพทมีของไม่เยอะ แค่กระเป๋าเสื้อผ้า แล้วก็ของใช้ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเองค่ะ”
“พี่ก็หมายถึงแค่นั้นแหละจ้ะ เพราะอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกไม่ต้องเอามาให้เสียเวลาหรอกที่นี่มีให้พร้อมทุกอย่าง แค่เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาก็พอแล้ว”
"ค่ะ งั้นเดี๋ยวสักช่วงสองทุ่มแพทจะกลับมานะคะ"
"ได้เลย เดี๋ยวพี่ให้คนเตรียมห้องไว้ให้ เอาห้องติดกับห้องพี่เลยนะ"
"ก็ดีเหมือนค่ะ อยู่ใกล้พี่พิมพ์กับน้องคิม แพทจะได้ไม่เหงา"
ด้วยศักยภาพทางสมองและอำนาจเงินอันมหาศาล ทำให้ชญานนท์ในปัจจุบันนี้ย่อมไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ เพียงแค่ว่าเขาจะทำมันหรือเปล่า เขาเดินกลับมาหาภรรยาอีกครั้ง พร้อมกับส่งลูกน้อยให้พี่เลี้ยงไปดูแล หลังจากที่พชรมนกลับไปแล้ว
“ครั้งนี้แพทต้องเป็นเมียผมเท่านั้น” มาเฟียหนุ่มยื่นคำขาดกับภรรยา
“ค่ะ แต่พิมพ์ขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้มั้ยคะ”
“อะไร”
“ถ้าคุณได้น้องสาวพิมพ์เป็นเมียแล้ว คุณต้องหย่าให้พิมพ์”
“นั้นไม่ใช่ปัญหาพิมพ์ ผมไม่ผูกมัดคุณเอาไว้หรอก เพียงแต่ว่าน้องคิมต้องอยู่กับผม”
“น้องคิมต้องอยู่กับแม่ คุณไม่มีสิทธิ์”
“มีสิ..สิทธิ์ความเป็นพ่อไง แล้วศาลก็ต้องยอมให้ผมดูแลลูกอยู่แล้ว เพราะว่าผมสามารถให้ทุกอย่างกับลูกได้มากกว่าคุณ”
“คุณนี่มัน”
“หยุดก้าวร้าวผมเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากโดน...”
“ทำไม คุณจะทำไม” ริมฝีปากอิ่มย้อยสีชมพูจัดสั่นระริกด้วยความโกรธ สามีหนุ่มไล้มือไปยังสัดส่วนเบื้องล่างที่ยั่วยวนตา แล้วพลางกระชากเอวบางเข้าหาตัว ร่างบางสั่นระริกเมื่อเขาขยับกายจ้วงเข้าหาอย่างลึกซึ้ง เธอพยายามขยับสะโพกหนี แต่แรงรักของเขาก็โอบรอบลำตัวเธอด้วยแขนอันแข็งแกร่ง
“จะขืนใจฉันอย่างนั้นเหรอ” ความปรารถนาที่สั่งสมมานานดูแรงกล้าจนภรรยาสาวไม่กล้าแม้แต่จะสบตา ตัวตนความเป็นชายบ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะล่วงเกินหล่อน
“ก็ไม่แน่ ถ้าคุณยังดื้ออยู่แบบนี้”
“แล้วเมื่อสักครู่ ไปเลี้ยงลูก หรือไปพาแม่เลขาฯสาวนั่นขึ้นเตียงมาล่ะ” พิมพ์ชนกเชิดหน้าขึ้นถามด้วยความหึงหวงทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพิมพ์ ถ้าคุณไม่หยุด ผมจะขืนใจคุณตรงนี้” พิมพ์ชนกรู้สึกว่าเธอกำลังโดนคุกคามจากสามีร่างบางเริ่มดิ้นประท้วงก่อนจะพลิกกายหนี แต่มือหนาก็ยังตามมาดึงร่างของเธอกลับไปกอดในที่สุด
“คอยดูเถอะฉันจะฟ้องหย่า” ความหึงหวงที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากอารมณ์ผสมผสานระหว่างเจ็บปวดเสียใจ โกรธ กลัว เป็นอาการของคนที่รู้ว่ากำลังจะสูญเสียคนรักไป
“หึ!..ฟ้องหย่างั้นเหรอ ไม่มีวันนั้นหรอกพิมพ์” สามีหนุ่มพูดจบก็ปล่อยร่างภรรยาสาวให้เป็นอิสระ พร้อมกับเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้ให้เธอนั่งร้องไห้อยู่เพียงคนเดียว จนน้องสาวเธอมาถึง