"เตย มีเสื้อให้พี่มั้ย"
ร่างสูงที่ตามไปรังแกฉันถึงในห้องน้ำเดินออกมาพร้อมกับร่างกายที่มีหยดน้ำเกาะตามตัวเป็นเม็ดเล็กๆ พันผ้าเช็ดตัวของฉันไว้รอบเอว เผยแผงอกแน่นๆและกล้ามเป็นมัด
เออ มันก็ดูเซ็กซี่แหละ ใครเห็นต้องกรี๊ดแน่ๆ แต่เห็นหลายครั้งแล้วทำไมต้องมาทำเหมือนตัวเองเท่มากด้วย
"ไม่มี ใส่ตัวเดิมแล้วพี่ก็กลับห้อง" ฉันบอกแล้วรีบแต่งตัว ใส่ชุดนอนแบบเดรสสั้นแล้วเดินไปเป่าผม
"อย่าใจดำ" ว่าแล้วเขาก็เดินดุ่มๆไปที่ตู้เสื้อผ้าของฉัน
"มีเสื้อแฟนเก่า จะใส่มั้ย"
"ไม่ใส่" เขาตอบแบบไม่ต้องคิด "ยังเก็บไว้อีกเหรอ ทำไมไม่ทิ้ง"
"ก็ว่าจะทิ้ง" ฉันบอกแล้วหันไปมองเขาที่กำลังเสียมารยาทกับตู้เสื้อผ้าฉันอยู่ "ไหน หลบไปจะหาให้"
"รอผัวเก่ากลับมาเอาไง" พี่คิวพูดแล้วยิ้มมุมปาก บอกตามตรงว่ามันทำให้ฉันหงุดหงิดมากๆ
"ไม่ได้รอ ถ้าจะกวนประสาทก็ไม่ต้องมานอนนี่ไปเลย เตยไม่หาให้ละ" ฉันหมุนตัวจะเดินหนีไปแต่พี่คิวเพราะความรำคาญแต่เขาก็ยังดึงรั้งข้อมือฉันเข้าไปหาอีกรอบ
"ล้อเล่น รีบหาให้หน่อย"
"..." ฉันขมวดคิ้วมองพี่คิวแล้วดึงมือกลับมาอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมหันกลับไปหาเสื้อให้เขาต่อ
"ไม่เอาเสื้อมันนะ" เขาบอกแล้วขยับตัวให้ฉันแทรกเข้าไปหาเสื้อผ้า
จะมาคิดเล็กคิดน้อยทำไมก็แค่เสื้อแฟนเก่าฉัน
"รู้แล้ว ไม่ได้อยู่ในนี้ซักหน่อย"
"เอาไปทิ้งด้วยจะได้ไม่ต้องเดินร้องไห้ในห้างอีก อายชาวบ้าน" คำพูดของเขาทำให้ฉันตวัดสายตาไปมองอีกรอบ
"ก็ไม่ได้อยากร้องมั้ย มันออกมาเอง" พูดจบฉันก็หันกลับมาดูเสื้อต่อก่อนจะดึงเสื้อยืดตัวใหญ่ของพ่อที่ซักเก็บไว้ออกมา "อันนี้เสื้อพ่อ"
"แน่ใจนะว่าพ่อ"
"ทำไมพี่คิวต้องเรื่องมาก เสื้อใครก็ใส่ไปได้มั้ย ถ้าไม่อยากใส่ก็กลับไปเลย" ฉันบ่นแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่เขาก็รั้งข้อมือฉันเอาไว้
"กางเกงมีมั้ย"
"..." ฉันไม่ตอบ ดึงกางเกงกีฬาขาสั้นพอดีเข่าออกมา เขาน่าจะใส่ได้พอดีเพราะฉันซื้อมาใส่ตอนปีหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่รู้จักการแต่งตัว "จะนอนนี่จริงเหรอ"
"หรือจะให้เอาเสร็จแล้วนอนร้องไห้คนเดียวอยู่ในห้อง" เขาพูดแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียง คำพูดคำจาไม่น่าฟังเอาซะเลย
"เตยผ่านจุดนั่นมาแล้วไม่จำเป็นต้องน้องนอนร้องไห้" ฉันเป่าผมตัวเองต่อจนมันแห้งจึงเก็บของให้เข้าทีแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง
"..." พี่คิวทำเพียงแค่หัวเราะในลำคอ เขาเอื้อมมือไปหยิบมือถือมาแล้วนอนเล่นอย่างไม่สนใจ
ฉันจึงเล่นของตัวเองบ้างก็เห็นข้อความจากเพื่อนใหม่ที่เพิ่งแอดกันมาก่อนหน้านี้ที่ร้านเหล้าอยู่บนหน้าจอ
Sun : ถึงหอแล้วเหรอ
ลืมไปเลยเพราะเสียเวลากับพี่คิว เขาบอกว่าถึงหอแล้วให้ทักไปบอก ตอนนี้ยังทันมั้ยนะ
Toeyhom : ถึงแล้ว โทษทีไม่ได้บอกนาย
ฉันพิมพ์ข้อความส่งไปแล้วก็ออกจากหน้าต่างแชท เข้าเฟสเลื่อนดูอะไรเรื่อยเปื่อย
"เอามือถือมาหน่อย"
"ทำไม"
"..." พี่คิวไม่ได้พูดอะไรดึงมือถือฉันไปอย่างเสียมารยาทก่อนจะกดอะไรยุกยิกแล้วเขาก็ขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนมีอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ยื่นมือถือคืนมาให้ฉัน
"เสียมารยาท" ฉันต่อว่าแล้วดูมือถือตัวเองที่อยู่ตรงหน้าต่างแชทของซัน แสดงว่าเขาเปิดเข้ามาอ่านเหรอ หรือแค่เผลอกดโดน
Sun : โสดจริงเหรอ
Sun : งั้นจีบได้ใช่มั้ย
ฉันเม้มปากเข้าหากันแอบมองพี่คิวเขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา จึงตอบข้อความนั้นของซันไป
Toeyhom : (สติ๊กเกอร์หัวเราะ)
ฉันออกจากหน้าต่างแชทอีกครั้ง พี่คิวก็วางมือถือของเขาไว้ข้างหมอนก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำแล้วหันหน้าไปอีกทาง
ฉันเอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียงจนตอนนี้ทั้งห้องมืดสนิท นอนหันหลังให้พี่คิวแล้วหลับตาลง ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวเพื่อกล่อมตัวเองหลับ
ซักพักก็ได้ยินคนด้านหลังดิ้นยุกยิกแล้วขยับเข้ามาใกล้ ก่อนจะสวมกอดฉันจากด้านหลังแล้วกระซิบถาม
"เมื่อกี้ไปไหนมา" เสียงและลมหายใจของเขาแนบอยู่ตรงข้างหูของฉัน
"เที่ยว" ฉันตอบสั้นๆแล้วคิดสงสัยอยู่ในใจ ว่าเขามาสนใจเรื่องนี้ทำไม ปกติเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัว
"..." เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
"มีอะไรหรือเปล่า" ฉันเป็นฝ่ายถามออกไปด้วยความสงสัย
"อย่านอนกับคนอื่นตอนที่มีฉัน"
ฉันนิ่งอึ้งไปนานเพราะคำพูดของเขา มันเป็นคำที่แอบทำให้เจ็บแสบพอสมควรจนอดไม่ได้ที่จะย้อนถามเขาบ้าง
"ทำอย่างกับพี่ไม่มี"
"ฉันไม่มี"
"..." แล้วที่เห็นเดินด้วยกันวันนี้อีกล่ะ จะบอกว่าแค่พาไปเดินห้างเหรอแล้วก็ยัยคะนิ้งอีก ฉันได้แค่คิดเป็นคำถามไว้ในใจไม่ถามออกไปเพราะไม่อยากให้เขามาคิดว่าฉันสนใจชีวิตเขาขนาดนั้น "ถ้าเตยทำแบบนั้นแล้วพี่จะเลิกยุ่งกับเตยใช่มั้ย"
"..." เขาเงียบไปเลยไม่ตอบคำถามฉันอีกนิ่งด้วยได้ยินแต่เสียงลมหายใจเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
"เงียบทำไม"
"เธอจะทำ เพื่อไม่ให้ฉันมายุ่ง?"
"ก็คิดอยู่" ฉันตอบเสียงเรียบแล้วจับข้อมือของเขาออกจากตัว แต่เขาก็ยังเลื่อนแขนจะกอดฉันไว้อีกรอบ
"ถ้าฉันไม่ให้เธอทำล่ะ"
"อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของ" ฉันบอกเสียงเรียบแล้วหลับตาลง
"..." แล้วเขาก็เงียบไปเลย
ก็แค่คำพูดและการการทำของผู้ชายเจ้าชู้คนหนึ่ง ฉันจะคิดอะไรมากทำไม เขาไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉันด้วยซ้ำเราก็แค่คนที่หาความสุขชั่วคราวด้วยกันทั้งคู่
หลายวันต่อมา
หลังจากวันนั้นพี่คิวก็ไม่ได้มาหาฉันอีกแต่ก็ได้ยินยัยคะนิ้งบ่นว่าพี่เขาไม่ค่อยตอบไลน์ เพราะเขารีบทำโปรเจ็ค
ซึ่งมันก็ดีแล้ว
แต่เขาก็ยังจะทิ้งของไว้ในห้องฉันอยู่ดี นี่คงเป็นวิธีการของคนเจ้าเล่ห์แบบเขานั่นแหละ
"พวกแก ฉันเลิกกับน้องบอลแล้วนะ" อยู่ๆยัยคะนิ้งก็พูดออกมาตอนที่พวกเรากำลังนั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่หอสมุดของมหาวิทยาลัยเพราะวันนี้อาจารย์ไม่เข้าสอน วิชาเช้านี้เลยเป็นการส่งงานแทน
"เลิกทำไม" เค้กเงยหน้าขึ้นมาถามทันทีฉันเองก็ด้วย ไม่รู้ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา
แต่ฉันพอจะรู้เหตุผลของมันว่าทำไมถึงเลิก
"ไม่รู้อะ ไกลกันมั้งความห่างไกลมันทำให้รักกันน้อยลง" คะนิ้งตอบแล้วไหวไหล่ขึ้นเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรกับการจบความสัมพันธ์ครั้งนี้
"ไม่ใช่ว่าเพราะแกอยากมีคนใหม่เหรอ" ยัยเค้กพูดจบก็ส่ายหน้าแล้วเขียนงานต่ออย่างไม่สนใจ ฉันเลยเลิกสนใจยัยคะนิ้งด้วยอีกคน
"คะนิ้งคิดว่าพี่คิวเขาจะมาคบด้วยเหรอ" คำถามที่ออกจากปากของต้องตาทำเอายัยเค้กเงยหน้าขึ้นมาอีกรอบ
"ฉันจะจีบพี่เขาจริงจัง เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่สนใจฉันคงเห็นว่าฉันมีแฟน" ยัยคะนิ้งตอบแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ถามหน่อย ถ้าแกคบคนนี้แล้วแกจะมีคนอื่นอีกมั้ย" ยัยเค้กถาม
"ไม่แน่นอน" คะนิ้งตอบอย่างมั่นใจ
"ต้องตาว่าคะนิ้งไม่มีหรอกแต่พี่เขานั่นแหละจะหักหลัง เพราะพี่เขาคงไม่จริงจังกับคะนิ้ง"
"ยัยต้องตา!!"
"แกก็พูดตรงเกิน แต่ฉันเห็นด้วย" แล้วสองคนนั้นก็หัวเราะกันเหมือนกำลังแกล้งเพื่อนอยู่
"ยังไงพี่เขาก็สยบเพราะฉันแน่ คอยดู ผู้ชายอย่างพี่คิวต้องเจอผู้หญิงร้ายๆจะได้ตามหวงตามหึง" บางทีฉันก็คิดนะว่ายัยนี่มันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน ขนาดฉันเป็นเพื่อนมันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะคิดได้แบบนี้
คนอย่างพี่คิวจะไปจริงจังกับใครได้ คำว่าหวงหรือหึงคงไม่เคยเกิดขึ้นกับคนอย่างเขาเลยด้วยซ้ำ
"ฉันว่าแกเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้เถอะ" ฉันเป็นคนพูดคำนี้ออกมา ไม่ใช่เพราะหวงเขาหรอกแต่ไม่อยากให้ยัยคะนิ้งไปทุ่มเทให้คนแบบพี่เขา
ขนาดรู้ว่าฉันกับคะนิ้งเป็นเพื่อนกันเขาก็ยังจะยุ่งทั้งสองคนเลย
"อะไรของแกยัยเตย นานทีออกความเห็นมาดักทางฉันซะงั้น"
"ก็มันจริง เขาไม่ใช่คนดี"
"แกไปรู้ได้ไง ไม่ได้รู้จักพี่เขาดีด้วยซ้ำ"
ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่กับเพื่อนตัวเองแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น บอกตามตรงนะ ถ้าไม่คบกับมันมาสามปีฉันคงไม่เตือนไม่บอกปล่อยให้มันโดนหลอกไปเถอะ