ตอนที่ 7 : เลขาฯ หญ้าอ่อน
ตลอดทางโถงเดินยาวจากชั้นล่างขึ้นลิฟต์ไปจนถึงห้องประชุม พนักงานในบริษัทต่างยกมือไหว้ท่านประธานที่ตอบรับคำทักทายทุกคนอย่างสุภาพทั่วถึง ทุกก้าวย่างสุขุมและรอยยิ้มบอกว่าเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ไม่ถือตัวเลย
“คุณแป๋ว... ฝากน้องใหม่ด้วยนะครับ จะให้คุณณดาช่วยอะไรได้ก็ให้ทำไป จะได้กลับบ้านไวกันนะ”
“ค่ะคุณอนันต์”
สาวใหญ่รับคำด้วยรอยยิ้มหวาน รุ่นน้องคนดีกระชับกอดเอกสาร เดินผ่านผู้ใหญ่ก็ก้มศีรษะลงอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อไปนั่งเก้าอี้ทำงานของตน
วันนี้มาทำงานกันสี่คน งานไม่หนักมากทว่าสายตาของคนมาส่งกลับดูเป็นกังวลใจ ก่อนที่เขาจะชี้นิ้วสั่งงานเป็นนักร้องเพลงแร็พ! ค่อยออกจากห้องไป
สมฉายาว่าไร้ความปรานี งานกองโตถูกส่งให้นันทกานต์และปรีญาดา นักศึกษาฝึกงานใหม่อีกคน ณดาเห็นสีหน้าของพี่ ๆ ราวกับว่าแบกโลกไว้ทั้งใบจึงรีบบอก
“มีอะไรให้น้องดาช่วยบอกได้เลยนะคะพี่แป๋ว ดา... โดนคุณวีทิ้งมาชั่วคราวค่ะ คุณ ๆ เขาดีกันแล้วรักกันหวานชื่น...”
“คุณน้อง... ไม่ต้องทำเยอะงานน่ะ ทำตัวสวย ๆ เดี๋ยวพี่ให้ช่วยอะไรพี่บอก แต่ว่า...” ปรีญาดาเงียบไปกลอกตาไปมาเพราะคิดว่าจะพูดดีหรือเปล่า สุดท้ายก็พูด “ได้ดีแล้วอย่าลืมพี่นะคะคุณน้อง”
“คะ?”
“ไม่มีแฟนก็รีบมีนะคะ แถว ๆ นี้มีโสดอยู่หนึ่งอัตราหาได้ไม่ยากค่ะ”
ความภาคภูมิใจของณดาแทบหายไป หลังจากที่มาทำงานไม่กี่เดือนก็ได้เดินตามหลังเจ้านายใหญ่ หญิงสาวไม่ได้คิดเรื่องที่พวกพี่ ๆ คิดกันเลย
“น้องดาขา... ดูก็รู้ว่าบอสสนใจเป็นพิเศษนะคะ ใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์อย่าแก่แล้วแก่เลยแบบพวกพี่” นันทกานต์เสริม
“ไม่มั้งคะ สาว ๆ เขาเยอะจะตาย” เธอหัวเราะพี่ ๆ ที่ทำยักคิ้วหลิ่วตาแล้วหัวเราะกลับ ก่อนจะผลัดกันบ่นว่าณดาช่างเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ยย!
ก็คงจะจริง ถึงเธอจะพกความมั่นใจมาเกินร้อย แต่สอบตกเรื่องผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไร เวลามีใครมาจีบก็วิ่งหนีหลุน ๆ มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ความสวยของเธอจึงไม่เป็นประโยชน์ เคราะห์ร้ายกว่าคือไม่เคยมีแฟนสักคน
ตอนนี้เธอยังคิดแค่การเป็นมนุษย์เงินเดือน ตื่นเช้าแต่งตัวสวยไปใช้แรงงานทาส ตั้งใจทำงานถวายหัวให้เจ้านาย
“หิวแสงเป็นเรื่องดี แต่ถ้าแสงส่องมาเมื่อไรให้กลืนลงท้องเลยนะคะ จะได้ไม่ลำบากค่ะ”
คนหนึ่งเดินมาจากหน้าห้องแล้วเดินไป เป็นคำกล่าวลอย ๆ ที่ทำเอาณดางุนงง เป็นเชิงว่าหล่อนจิกกัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตบท้ายด้วยการแนะนำการพัฒนาคุณภาพชีวิต...
น้ำขึ้นในรีบตัก... ‘หิวแสง’ ที่ว่าอยากเด่นอยากดังอยากมีดีกว่าคนอื่น ๆ เขา ถ้าหากว่าแสงมาให้รีบพลีกายแก้ผ้าเข้าไปรับอย่างนั้นหรือ?
คงไม่ใช่แนวเธอ ณดากำลังมองว่าการจะเป็นเลขาฯ ที่ดีต้องทำงานอะไรบ้างในแต่ละวัน เธอจึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เมื่อนันทกานต์โยนงานผ่านอีเมลมา ให้เธอลองจัดตารางงานประชุมของท่านประธานให้เป็นระบบระเบียบเสียใหม่ รวมถึงงานกลางคืนที่มีคนคอยดูแลนัดหมายร่วมกับบัตเลอร์ประจำบ้านอย่างคุณภีมหรือ ‘ภากร’
ฝาแฝดคนพี่ทวงเจ้านายสาวคืนไปจากเธอเสียแล้ว ณดามองโลกในแง่ดีว่าเป็นโอกาสทองที่จะได้เรียนรู้งานจากเลขาฯ รุ่นเก๋าอย่างพี่นันทกานต์
“ไม่ต้องห่วงนะคะ มีอะไรก็โทรหาพี่ แต่พี่ว่าไม่น่าจะมีหรอก ท่านทานข้าวกับนักธุรกิจด้วยกันไม่ดึกมากก็กลับกันแล้ว คุณอนันต์ท่านไม่ใช่สายเมาโต้รุ่ง ทำแค่งานคือจบแล้วกลับบ้านนอนค่ะ ส่วนนอนกับใครนั้น...”
รุ่นพี่คงไม่ได้พูดต่อแต่ยิ้ม... เป็นอันรู้กัน ตัวเขาถึงได้ไม่สานงานเมาต่อยังไงล่ะ!
“ค่ะ ดาจะทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ มีอะไรจะรีบโทรหาพี่นันต์กับพี่แป๋วนะคะ”
นั่นหมายความว่ากี่โมงก็โทรได้สำหรับพี่สาวทั้งสองคน ณดาเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกพอเลิกงาน
ณดาทำงานของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอไม่เคยปล่อยให้เจ้านายต้องทวงเอกสารงานประชุมหรืองานอะไรเลยแม้สักอย่างเดียว ขนาดว่าวันนี้เลขาฯ ประจำตัวของท่านประธานอย่างนันทกานต์ขอใช้สวัสดิการลาพักร้อนไปฮันนีมูนกับสามี ทั้งหมดตกเป็นหน้าที่ของเธอ ที่เดินตามหลังท่านมาตั้งแต่เช้าแล้ว
“ประชุมสิบโมงตรงบริษัท Complex คุณอนันต์จะดื่มกาแฟสักแก้วก่อนเข้าห้องประชุมไหมคะ?”
“ก็ดีครับ”
“ลาเต้หวานน้อย... น้ำตาลก้อนนึงเสิร์ฟคู่กับบิสกิตนะคะ คุณอนันต์จะรับของว่างอะไรเพิ่มบอกณดาได้เลยนะคะ”
สิ่งที่ณดามีนอกจากรอยยิ้มคือความเอาใจใส่ เธอเก็บทุกรายละเอียดงานทั้งของลูกสาวและคุณพ่อ ยังไม่ลืมเรื่องปากท้องหน้าโต๊ะทำงานผู้บริหารตัวใหญ่ เจ้าของห้องหน้าตาคร่ำเครียดกับเอกสารกองโตมาได้สักพัก
“ครับ... นั่นแหละ ถ้าวันไหนผมเบื่อลาเต้ ผมจะบอกคุณละกัน”
“ค่ะคุณอนันต์ ดาชงกาแฟอร่อยทุกสูตร เบื่อเมื่อไรบอกได้เลยนะคะ”
คนฟังไหวไหล่ตอบว่ากาแฟเธอน่ะก็อร่อยอยู่! คนชงยังหอมน่ากินใช่ย่อย เสียงหวาน ๆ ตาใส ๆ เจ้านายพูดว่ายังไงก็ตามใจไปเสียหมด ปกติเขาเป็นคนเอาการเอางานยังเผลอละสายตาจากเอกสารขึ้นมองเลขานุการสาว
ขณะที่ร่างบางในเดรสสีเบจขับผิวขาวเนียนละเอียดหมุนตัวกลับไปบริเวณเครื่องชงกาแฟด้านนอก ก่อนจะกลับมาพร้อมแก้วกาแฟเย็น วางลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ณดาคงรู้ตัวว่าใส่อะไรสวยก็ตั้งใจแต่งตัวไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยไม่เกรงใจหนุ่มน้อยใหญ่ในออฟฟิศ รวมถึงคนที่เอาแต่มองมาหลายวัน
อนันต์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาพอใจเลขาฯ หญ้าอ่อน! กว่ามนุษย์ป้าแก่ ๆ ที่เห็นหน้ากันมาเป็นยี่สิบปีเสียอีก
“เลิกงานแล้วไปรอที่ร้านอาหารเลยละกันนะ ผมไม่อยากให้ใครเขาไปนินทา”
“ต่อให้มีคนนินทาดาก็ไม่สนใจค่ะ” พูดพลางหยิบเอกสาร เตรียมตัวที่จะไปจดรายงานการประชุม เจ้านายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟา
“ผมว่าการที่คนไม่มองเราไม่ดีจะเป็นเรื่องดีกว่า สำหรับผู้หญิงดี ๆ อย่างคุณณดา...”
“ขอบคุณค่ะคุณอนันต์ ดาแล้วแต่บอสตัดสินใจเลยค่ะ”
อนันต์ไม่คุ้นชินกับคำว่า ‘บอส’ เท่าไรแม้ว่าเธอจะทำงานมาหลายวันแล้ว แต่เขาต้องหยุดคิดเรื่องนั้นเพื่อไปทำงานทำการ ประจวบเหมาะพอดีกับที่หยิบงานของตน โดยได้รับความช่วยเหลือ เธอส่งกระเป๋าหนังใบใหญ่ให้เขาที่กำลังชื่นชมเธอทางสายตาอย่างไม่ปิดบังเมื่อร่างบางก้าวเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มละมุนผ่านเรียวปากงามสีเชอร์รี
“ขออนุญาตนะคะ...”
มือเรียวเลื่อนขึ้นถือวิสาสะจับเส้นเนคไทให้ตรง วงหน้าหวานงามขมวดมุ่นกับมัน โดยไม่ทันคิดไตร่ตรองให้ดีว่าทำเกินหน้าที่หรือเปล่า เพราะเลขาฯ คนอื่นเขาก็ทำกันหากว่าเจ้านายไม่ถือ ยิ่งถ้าเจ้านายเป็นคนโสดแก่ ๆ ไม่มีเมีย ณดาคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาหวงเขาซึ่งเธอรีบผละมือจากท่านในทันทีอย่างสุภาพ
“ขอบคุณครับ...” เขายิ้มแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นขึงขังจริงจัง “ขอเรื่องหนึ่ง... เวลางานอย่าเข้ามาใกล้ ๆ ผมเป็นพวกประสาทไวกับสาว ๆ... อายุอ่อนกว่าเยอะ ๆ น่ะ”
คนได้ยินเบิกตากว้างมองสีหน้าเร่าร้อนของเขาในตอนนี้ ก่อนที่เธอจะก้มหน้างุด ๆ พื้นพรม รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้โกหกเพราะเผลอเหลือบไปเห็นโดยบังเอิญ กางเกงเอวต่ำคับแน่นตุงกลางเป้าบอกถึงขนาด
โอ้พระเจ้า!
“ขอประทานโทษค่ะ… คือ... วันหลังดา... จะระวัง”
“ไม่เป็นไรไม่ได้ว่า... แค่บอกให้รู้เอาไว้”
“ค่ะ คุณอนันต์” ใบหน้าสดสวยแดงซ่านเพราะความอับอายขายขี้หน้า ณดาคงไม่ลืมเว้นระยะห่างจากเจ้านายสายร้อนอีกเด็ดขาด!