“อีกสามวันเจอกัน หนีให้ไกล หนีให้พ้น หนีให้รอดนะ!” น้ำใส เคร่งเครียดมันไม่ใช่คำท้าทายแต่มันเป็นคำเย้ยหยันจากเขาต่างหาก เพราะทั้งเธอและเขาต่างรู้ดีว่าเธอไม่มีทางหนีจากการตามล่าของเขาได้ อย่างวันนี้เขามาดักหน้าเธอก่อนที่เธอจะมาเสียอีก
“เอ็ดเวิร์ด เราต่างคนต่างไปจากกันด้วยดีไม่ได้เหรอ?” น้ำใสลองเสี่ยงดู บางทีเธอเอ่ยกล่าวลาและบอกเลิกเขาไป น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
“คงไม่” เอ็ดเวิร์ดยังมีแก่ใจตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ซึ่ง อารมณ์ใดๆ เขาทำเหมือนดั่งกับว่าคำถามนั้นเป็นคำถามทั่วๆไป
“ตามใจคุณแล้วกัน” น้ำใสนิ่งไปอึดใจและตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ หันหลังเดินกลับไปยังโต๊ะ เดินเกมตามแผนของตัวเองต่อไปเพราะมีชีวิตน้อยๆรอเธออยู่
“เจ้านาย ไอ้ผู้ชายคนนั้นใส่บางอย่างในแก้วเครื่องดื่มของคุณน้ำใสนะครับ” อาร์เชอร์อดย้ำอีกครั้งไม่ได้ เมื่อได้ยินการสนทนาทุกอย่าง และไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายยังปล่อยให้น้ำใสกลับไปเผชิญกับสิ่งนั้นอีก แม้ทั้งสองจะไม่ลงรอยกันนัก แต่ให้คนตาบอดที่มีหูและยังได้ยินอยู่ ก็ไม่มีทางตีความคำพูดและน้ำเสียงนั้นไปเป็นแบบอื่นเลย เจ้านายเขาแค้นรักฝังแน่นมากเลยละ
อืม “เธอก็รู้แล้วเหมือนกัน” เอ็ดเวิร์ดตอบกลับไม่แสดงอารมณ์ใดจน อาร์เชอร์และเจเนตมองตากันอย่างไม่เข้าใจ
อ๊ะ! เจเนต ร้องเสียงในคอ เมื่อสายตามองไปยังโต๊ะที่น้ำใสจากไป จู่ๆก็มีผู้หญิงที่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดอายุไม่มากเลยเดินเข้าไปหาไซม่อน พร้อมกับแก้วเครื่องดื่มในมือ เธอทรุดนั่งลงตรงที่น้ำใสนั่งอยู่ สายตาและร่างกายยั่วยวน ไซม่อนอย่างจงใจส่วนเอ็ดเวิร์ดเดินออกมาจากที่นั่น และกลับเข้าไปในรถแต่ยังรอฟังการรายงานสถานการณ์จากเจเนตดั่งเดิม
“ตอนนี้คุณน้ำใสกลับไปถึงโต๊ะแล้ว เหมือนสามคนกำลังเจรจาคุยอะไรกัน คุณน้ำใสสั่งให้เธอคนนั้นไสหัวไปซะก่อนที่ความอดทนของเธอจะไม่เหลือ...จากการอ่านปากเธอค่ะ” มุมปากของเอ็ดเวิร์ดกดลึก ความสามารถด้านนี้แหละของเจเนตที่เขาต้องการและท่านอดัมก็หาคนที่เขาต้องการมาให้ตามคำขอและการรายงานอย่างต่อเนื่องก็มาเรื่อยๆ...แม้เจเนตเป็นคนที่มีความอดทนต่ำแต่ความสามารถในการอ่านปากเธอไม่ธรรมดาและเธออ่านได้หลายภาษาเสียด้วย
น้ำใสแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนที่ไซม่อนปล่อยให้ ผู้หญิงที่ดูน่าจะอ่อนวัยมากแต่ใช้การแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดมากลบเกลื่อนเพื่อมายั่วยวนเข้าถึงเนื้อถึงตัวไซม่อน น้ำใสที่ทรุดนั่งตรงข้ามยื่นมือไปหยิบแก้วของตนขึ้นมา หลังจากที่ปล่อยประโยคที่สอง “ไซม่อน ถ้าคืนนี้คุณต้องการยายเด็กคนนี้งั้นฉันไปก่อนก็ได้” น้ำใสเอ่ยพร้อมกับยกแก้วของตัวเองขึ้นจรดปาก แต่เธอยังไม่ดื่มมัน เธอเพียงต้องการสูดกลิ่นแยกแยะชนิดยาที่ไซม่อนใส่เข้าไปในแก้วเครื่องดื่มของเธอ แต่...
“ไม่จำเป็น เราสามคนก็ได้นะคะ” หญิงสาวเปรี้ยวจี๊ดเอ่ยออกมา ทำให้น้ำใสที่กำลังทำทีจะดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในแก้วชะงัก
ซาดดดด ด้วยความเหนือการคาดหมาย น้ำใสสาดเครื่องดื่มนั้นใส่แผ่นอกหญิงสาวฝั่งตรงข้ามไปทันที “ฉันไม่มีรสนิยมแบบนั้น” เธอพูดจบวางแก้วและเดินจากไปในทันที ไซม่อนที่เงียบมาตลอดถึงกับเบิกตากว้างและเมื่อดึงสติของตัวเองกลับมาในวินาทีต่อมา เขาลุกและเดินตามน้ำใสไปทันทีปล่อยหญิงสาวจี๊ดจ๊าดกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอที่เผยออกมาเพียงแว็บเดียวไปอย่างไม่สนใจ แต่รอยยิ้มของเธอนั้นหาได้รอดพ้นสายตาของเจเนตที่คอยจับตามองอยู่ แม้มีเพียงแว็บเดียวแต่สิ่งที่เห็นก็ถูกรายงานไปให้เอ็ดเวิร์ดรู้
“ออกกันมาได้แล้ว” เอ็ดเวิร์ดพูดสั้นๆสายตามองไปยังทางออกสถานบันเทิง และเขาก็เห็นร่างบอบบางของน้ำใสออกมา และห่างไปอีกหน่อย คือไซม่อนที่เดินตามมา “น้ำใส เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ เอาเถอะ! ฉันจะเล่นไปตามแผนของเธอและตามเก็บดอกเบี้ยจากเธอทุกๆสามวันไปเรื่อยๆ” เอ็ดเวิร์ดกล่าวเยียบเย็นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อเขาปิดระบบการติดต่อกับ อาร์เชอร์และเจเนตไปแล้วหลังคำสั่งสุดท้ายนั้น
“คุณต้องการอะไร”น้ำใสหันกลับไปเมื่อเธอเองก็รู้สึกถึงการติดตามและประชิดตัวมากขึ้น
“โรส” ไซม่อนเข้าประชิดน้ำใสอย่างรวดเร็ว และเธอคาดไม่ถึงว่า ไซม่อนที่เข้าถึงตัวเธออย่างรวดเร็วมือข้างหนึ่งจะคว้าปลายคางเธอไว้พร้อมกับดึงดันจนแผ่นหลังของเธอแนบกับกำแพงทันที “หรือว่าให้เรียกว่าคุณลูเธอร์ดีละ”
น้ำใสกัดปากตัวเองไว้ ไซม่อนรู้ว่าเธอเป็นใครมาตลอด เขาถึงใส่ ไซยาไนต์ในเครื่องดื่มของเธอ เพื่อที่จะกำจัดเธอทิ้งอย่างเลือดเย็นในทันที โหดร้ายสิ้นดี คนแบบเขาช่างประมาทไม่ได้เลย
“ก็ดี! ถ้ารู้กันแล้วนายก็รู้สิ่งที่ฉันต้องการ” น้ำใสเค้นเสียงเปล่งออกไป แม้เธอจะเจ็บไม่น้อย เพราะไซม่อนออกแรงบีบใบหน้าเธอจนเธอรู้สึกว่ากรามจะหักในอีกไม่นานแน่ๆถ้าเขายังไม่ผ่อนแรง แม้เธอจะแข็งแรงแต่ร่างกายเธอก็บอบบางตามฉบับกระดูกผู้หญิงอยู่ดี
“เอามือแกออกมาจากเธอซะ!!!” เสียงเหยียบเย็นดังมาจากด้านหลัง พร้อมกับปลายกระบอกวัตถุเย็นเยียบที่ไซม่อนรู้ว่าคืออะไรจ่ออยู่ที่ด้านหลังตรงตำแหน่งหัวใจของเขา ไซม่อนมุ่นคิ้วเมื่อเขาไม่รู้สึกตัวเลยก่อนหน้านี้ว่ามีอันตรายกำลังเยื้องย่างเข้ามาจากด้านหลัง ผู้ชายด้านหลังเขาเป็นใครกัน
“นิ้วแกที่จะลั่นไกกับแรงมือฉันที่จะหักคอผู้หญิงคนนี้ อะไรจะเร็วกว่า
กัน”
“ใครจะเร็วกว่าไม่สำคัญ เพราะฉันยังเป็นคนที่มีลมหายใจอยู่” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยเสียงเยือกเย็นไร้ความรู้สึกจนไซม่อนรู้สึกว่าผู้หญิงในกำมือเขาไม่ได้สำคัญกับคนที่จ่อปืนอยู่ด้านหลังเขาเลย
“โอเค...โอเค ฉันปล่อยผู้หญิงคนนี้ ส่วนนายก็ปล่อยฉัน” ไซม่อนต่อรอง
“ไม่ ไม่.../หุบปาก!!!” น้ำใสที่ร้องบอกปฎิเสธ เธอจะเสียไซม่อนไปไม่ได้ เพราะเขาเป็นเบาะแสสำคัญของเธอ แต่คำร้องของน้ำใสถูกสกัดกั้นด้วยเสียงเยือกเย็นของเอ็ดเวิร์ด
ไซม่อนค่อยๆคลายมือออกและค่อยๆขยับถอย ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดก็ทำตามคำพูดที่ลดปลายประบอกปืนแต่ยังเล็งไปที่ไซม่อน “ไสหัวไปซะ!” เอ็ดเวิร์ดบอกกับไซม่อน ทำให้ไซม่อนไม่พอใจเป็นอย่างมากแม้จะพยายามมองใบหน้าคนตรงหน้าแต่ก็ไม่อาจเห็นได้ชัดนัก ชายร่างใหญ่กำยำใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครามีฮูดสวมทับไว้และจุดที่พวกเขาอยู่แสงก็น้อยมาก ไซม่อนจึงไม่อาจเห็นใบหน้าคนที่มาช่วยเหลือน้ำใสได้ชัดๆ แต่ที่แน่ๆ เธอรู้จักผู้ชายคนนี้