บทที่ 7 ในฐานะพี่ชาย

1336 คำ
วันต่อมา... การันต์เดินลงมาจากห้องนอนในช่วงสายของวัน ด้วยชุดสบาย ๆ อยู่บ้าน สายตาคมมองไปรอบบ้านที่เงียบสงบราวกับไม่มีใครอยู่ แม้แต่แม่บ้านสักคนก็ไม่เห็น เขาเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงห้องนั่งเล่นก็ยังไม่เจอใคร ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นรถที่จอดสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่หน้าบ้านพร้อมกับคนเป็นแม่ที่ยืนอยู่ด้วย ไม่รอช้าเขารีบเดินตรงไปหาคนเป็นแม่ทันที เพราะรถคันที่จอดสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่หน้าบ้านนั้นคือรถของน้องสาวเขา "แม่ครับ" ผ้าแพร แม่ของชายหนุ่มหันกลับหลังทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้ยเคยของลูกชายเรียกจากทางด้านหลัง "ตื่นแล้วเหรอ วันนี้มีแซนด์วิชเผื่อพี่ด้วยนะ" "น้องจะไปไหนครับ?" เขาไม่ได้สนใจคำพูดของคนเป็นแม่ มองเลยไปที่รถยนต์คันหรูของหนูดีที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ ที่เขาถามแบบนั้นก็เพราะวันนี้วันหยุด หนูดีไม่น่าจะมีเรียน "ไปทำงานกับเพื่อนน่ะ" ผ้าแพรตอบลูกชายพร้อมกับเดินขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า "แล้วน้องกลับกี่โมงครับ" "ไม่กลับจ้ะ น้องขอค้างที่คอนโดเพื่อนถึงอาทิตย์หน้าเลย" "ว่าไงนะครับ!?" คำตอบของคนเป็นแม่ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้วถามเสียงดัง "แม่บอกว่าน้องจะไปค้างอยู่กับเพื่อนหนึ่งอาทิตย์ เพื่อจะทำงานส่งอาจารย์" "ไม่เห็นจำเป็นนี่ครับ ไปกลับเอาก็ได้" การที่เธอออกไปค้างที่อื่นแบบนั้นก็อยู่ไกลสายตา แล้วถ้าเกิดแอบหนีไปเที่ยวกลางคืนอีกจะทำยังไง เกิดถูกลวนลามแบบเมื่อคืนอีกจะทำยังไง "จากบ้านเราไปมหาวิทยาลัยก็ใช้เวลาพอสมควรนะ ถ้าให้น้องไปกลับ กว่าจะเรียนเสร็จในแต่ละวัน กว่าจะช่วยกันทำงานกับเพื่อน กว่าน้องจะถึงบ้านก็คงดึกตื่นแล้ว แล้วยังจะต้องตื่นไปเรียนอีก แม่คิดดูแล้วแบบนั้นน้องคงเหนื่อยมากและไม่มีเวลาพักผ่อนแน่ ๆ แม่เลยอนุญาตให้น้องไปค้างกับเพื่อนช่วงที่เร่งทำงานส่ง" ผ้าแพรร่ายยาวอธิบายถึงเหตุผลให้กับลูกชายฟัง เธอไม่ใช่แม่หัวโบราณที่ต้องกรีดกันหรือสั่งห้ามลูก ๆ ทำนู่นทำนี่ ที่จริงเธอสนับสนุนให้หนูดีออกไปอยู่คอนโดที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่อยากไป การเดินทางจากบ้านไปเรียนก็ไม่ได้ไกลมากขนาดนั้น แต่ถ้าเวลามีงานกลุ่มต้องทำร่วมกับเพื่อนถึงจะขออนุญาตออกไปค้างกับเพื่อนบ้างบางครั้ง "…" การันต์นิ่งเงียบไปไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาคิดตามคำพูดคนเป็นแม่แล้วเห็นด้วยกับเหตุผลนี้จึงไม่คัดค้านอะไร "แต่แม่ว่าน้องเริ่มเรียนหนักขึ้นทุกวัน แม่ว่าจะไปดูคอนโดใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยให้น้อง แต่รอพ่อว่างจากงานก่อน หรือถ้าพี่พอมีเวลาว่างก็ดู ๆ ให้แม่หน่อยนะ ดูไว้หลาย ๆ ที่เดี๋ยวแม่ให้น้องเลือกอีกที" "คอนโดผมมีสองห้อง ให้น้องไปอยู่กับผมก็ได้นี่ครับ" การันต์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ไม่รู้ว่าแม่เขาลืมหรือยังไงว่าเขามีคอนโดอยู่แถวมหาวิทยาลัย แต่ตั้งแต่ที่เรียนจบและเริ่มทำไนต์คลับเป็นของตัวเองเขาก็แทบไม่ค่อยได้อยู่ ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ไนต์คลับซะมากกว่า "จริงสิ! แม่ลืมไปได้ยังไงเนี่ย" "ถ้าจะให้น้องไปอยู่แม่ก็ให้คนไปตกแต่งและทำความสะอาดแล้วกัน เพราะผมก็ไม่ค่อยได้อยู่ดูแล จะอยู่ที่คลับเป็นส่วนใหญ่" เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยได้พักที่คอนโดตั้งแต่ที่เริ่มทำไนต์คลับของตัวเองตั้งแต่เรียนจบ อีกห้องที่ว่างก็แทบจะกลายเป็นห้องเก็บของไปแล้ว "งั้นดีเลย เดี๋ยวแม่ให้แม่บ้านไปทำความสะอาดแล้วจะติดต่อสถาปนิกไปช่วยออกแบบตกแต่ง" "ครับ แล้วแต่แม่จะทำ แต่ยกเว้นห้องนอนผมห้ามยุ่ง" พื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาไม่ค่อยชอบให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ถึงจะเป็นคนในครอบครัวก็เถอะ "จ้า ๆ ว่าแต่ทำไมถึงได้กลับมานอนที่บ้านได้ล่ะ ปกติถ้าวันนี้วันหยุดพี่ต้องเคลียร์งานที่คลับไม่ใช่เหรอ" ผ้าแพรพยักหน้ารับตามคำพูดของลูกชาย ก่อนจะใช้สายตามองร่างสูงโปร่งของลูกชายที่อยู่ในชุดสบาย ๆ ตั้งแต่หัวจรดแล้วถามอย่างสงสัยและจับผิด "ผมมาส่งน้อง" การันต์ตอบกลับเสียงเรียบตามความจริง เรื่องเมื่อคืนเขายังไม่ทันจะได้เคลียร์กับน้องให้รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ ตื่นมาคนตัวเล็กก็ออกจากบ้านไปก่อนแล้ว แถมยังกว่าจะกลับเข้ามาก็อีกเป็นสัปดาห์ "มาส่งน้อง? เมื่อคืนน้องไปเที่ยวที่คลับพี่รันต์เหรอ" "ครับ แอบพาเพื่อนเข้าด้วย แม่รู้ใช่ไหมว่าน้องออกไปเที่ยวที่แบบนั้น" "รู้สิ น้องบอกแม่ทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน" "แล้วแม่ก็ให้น้องไปงั้นเหรอครับ?" การันต์ขมวดคิ้วแน่นถามกลับอย่างสงสัยทันที "แล้วแม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องห้ามน้องด้วยล่ะ น้องโตแล้วนะ น้องดูแลตัวเองได้แล้ว อีกอย่างน้องก็ไม่ได้ไปบ่อย นาน ๆ น้องจะขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนที" ผ้าแพร่ตอบคำถามลูกชายอย่างมีเหตุมีผล เพราะลูกสาวคนเล็กของเธอไม่เคยที่จะทำอะไรนอกลู่นอกทาง ขนาดจะออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนยังมาขออนุญาตเธอก่อนทุกครั้ง การันต์ที่ได้ยินคนเป็นแม่ตอบกลับมาแบบนั้นก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม อยากจะสวนกลับคนเป็นแม่นักว่าน้องยังดูแลตัวเองไม่ได้ น้องถูกคนลวนลามและยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่หากพูดออกไปมีหวังแม่เขาได้คิดมากแน่หากรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักถูกลวนลามในพื้นที่ของเขา พื้นที่ที่มีกฎแน่นหนาขนาดนั้นแต่ก็ยังมีพวกไม่รักษากฎเล็ดลอดเข้าไปได้ "แล้วนี่จะทานข้าวเลยมั้ย แม่จะให้แม่บ้านจัดการให้" ผ้าแพรเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ได้พูดอะไรต่อจากที่เธอพูดจบก่อนหน้านี้ "ไม่ครับ ผมจะกลับคอนโดแล้ว" "เอาแซนด์วิชมั้ย แม่ใส่กล่องให้" "ไม่เป็นไรครับ" การันต์ปฏิเสธทันทีพร้อมกับหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปเอาของที่ห้องนอนตัวเองเพื่อกลับคอนโดอย่างที่บอกคนเป็นแม่ไป "เอาไปทานระหว่างทางก็ได้นี่ เผื่อรถติด การ์ตูนเป็นคนทำเองนะ เดี๋ยวน้องเสียน้ำใจแย่ถ้ารู้ว่าพี่ชายไม่ทานอาหารที่ตัวเองทำให้" สองเท้าหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของคนเป็นแม่ "หนูดีทำ? น้องทำให้ผมเหรอครับ?" เมื่อคืนเธอยังมีท่าทีโกรธเคืองเขาอยู่เลย ทำไมถึงได้มาทำอาหารให้เขาได้ "เห็นบอกว่าครั้งก่อนพี่จะแย่งน้อง วันนี้วันหยุดน้องเลยตื่นมาทำแซนด์วิชเอง เลยตั้งใจทำเผื่อพี่ด้วย ตกลงจะเอามั้ยแม่จะได้ให้แม่บ้านจัดใส่กล่องให้" ผ้าแพรอธิบายพร้อมถามความเห็นลูกชายอีกครั้ง "ครับ เอาก็ได้ครับ" การันต์รีบกลับคำขานรับทันทีที่รู้ว่าคนที่ทำแซนด์วิชคือหนูดี ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจทำให้เขาด้วยเหตุผลอะไร แต่เขาคงไม่ปฏิเสธหากรู้ว่าน้องตั้งใจทำให้ ถึงจะยังรู้สึกโกรธเธอเรื่องเมื่อคืนอยู่บ้างก็ตาม แต่จะว่าโกรธก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาไม่ได้โกรธเธอ เขาแค่หวงเธอ… หวงในฐานะพี่ชาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม