Noodee' s Part
"อ๊ายยยย!"
เสียงของแอลลี่กรีดร้องออกมาอย่างคนอัดอั้น ท่าทางนิ่งขรึมที่วางมาดมาตั้งแต่ตอนแรกถูกปลดปล่อยออกทันทีที่พี่การันต์กับคู่ขาของเขาเดินออกไปจนมองตามไม่เห็นแม้แต่เงา
"ฉันจะบ้าตาย นี่พวกแกให้ฉันมาแอ๊บแมนทำไมเนี่ย!" แอลลี่บ่นต่อทันทีที่ระบายความอัดอั้นด้วยการกรีดร้องเสร็จ
ก็หลังจากที่เพื่อนเสนอทางเลือกให้ฉันลองเดินหน้าอ่อยพี่การันต์ดู ฉันก็คิดหนักอยู่หลายวันจนกระทั่งตัดสินใจได้ว่าจะลองดูสักตั้ง จึงได้วางแผนกันออกมาเที่ยวที่ไนต์คลับของพี่เขาแบบนี้ แต่กว่าจะเข้ามาได้ก็เล่นเอาฉันหน้างออยู่หลายรอบ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่ห้ามบุคคลทั่วไปเข้า จะต้องเป็นสมาชิกของคลับเท่านั้นถึงจะเข้าได้
ถึงฉันมีศักดิ์เป็นน้องสาวเจ้าของคลับแห่งนี้ก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจที่พี่การันต์ทำเลยสักนิดเดียว
"เอาน่า ช่วย ๆ เพื่อนไงแอลลี่" พิงค์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ยกมือขึ้นตบไหล่ปลอบใจแอลลี่ที่ต้องทำตัวแอ๊บแมนช่วยฉันในแผนการอ่อยพี่ชายในครั้งนี้
"นี่ยัยคนสวย พี่มันพูดจาคะขากับแกแบบนี้ตลอดเลยเหรอ" แอลลี่หันมาถามฉันอย่างอยากรู้
"ก็พูดแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉันตอบ ก่อนที่แอลลี่จะบ่นตามหลังมาอีกครั้ง
"ฉันจะบ้าตาย ถามจริงเถอะหนูดี แกไม่หวั่นไหวกับคำพูดหวานหูและน้ำเสียงอ่อนโยนของพี่มันบ้างเลยเหรอ"
"จะไปเหลือเหรอ ไม่งั้นฉันก็ตัดใจไม่ชอบเขาได้แล้วสิ" จะบอกว่าชินฉันก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกนะ เพราะถ้าตอนยังเป็นเด็กฉันก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้ใจตัวเองว่าชอบเขา การที่ได้ยินถ้อยคำหวาน ๆ พวกนั้นจากเขาทีไรก็มักจะหวั่นไหวทุกที
"แล้วจะเอายังไงทีนี้ พี่มันออกไปกับคู่ขาไม่สนใจแกเลย" พิงค์ถาม
"ฉันอยากกลับแล้ว" ฉันทำปากยื่นหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ
มันเจ็บจี๊ดในอกทุกครั้งที่เห็นเขาควงคนอื่นไม่ซ้ำหน้า และดูเหมือนว่าแผนการครั้งนี้จะล้มเหลว ทั้งที่ตอนที่เขาลงมารับ ฉันเห็นว่าเขาจ้องมองฉันไม่วางตา โดยเฉพาะตรงหน้าอกที่ล้นออกมานอกเสื้อสายเดี่ยวของฉัน แต่พอคู่ขาเขามาเขาก็รีบไปกับคู่ขาเอาซะงั้น
"อะไรกัน นี่ยังไม่เริ่มเลยแกจะมายอมแพ้ไม่ได้นะหนูดี"
"ก็พี่มันไปกับผู้หญิงคนอื่นแล้วจะให้ทำยังไงเล่า!" ฉันบอกหน้างอง้ำยิ่งกว่าเดิม อุตส่าห์ลงทุนแต่งตัวมาขนาดนี้ยังจะไม่สนใจอีก
หรือว่าจริง ๆ แล้วเขา… คิดกับฉันแค่น้องสาวที่คลานตามกันมาในท้องเดียวกันเท่านั้นนะ
"เอาน่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว ถือว่าออกมาเที่ยวสนุกกันแล้วกัน" พิงค์ลุกขึ้นจากที่เดินมานั่งลงที่พักแขนบนโซฟาของฉันแล้วตบไหล่ปลอบใจ
"ก็ได้" ว่าแล้วฉันก็เอื้อมมือคว้าแก้วของตัวเองขึ้นมาถือไว้ก่อนจะยกขึ้นดมกลิ่นของแอลกอฮอล์ในแก้วแล้วได้แต่ทำหน้าแหยะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามพิงค์พร้อมวางแก้วในมือลงที่เดิม "สั่งค็อกเทลได้มั้ย"
"น่าจะได้มั้ง ฉันก็ไม่เคยมาที่นี่" พิงค์ตอบพร้อมมองซ้ายมองขวา ทำให้ฉันต้องมองตามอย่างสงสัย
"แกหาอะไรพิงค์" ฉันถาม
"ดูลาดเลาไง ว่าโต๊ะอื่นเขามีค็อกเทลมั้ย"
ได้ยินแบบนั้นฉันก็พยักหน้ารับแล้วช่วยเพื่อนมองหา ก่อนจะสะกิดแขนให้มันดูว่าโต๊ะที่อยู่ถัดไปสองโต๊ะมีแก้วค็อกเทลอยู่ด้วย พิงค์ที่มองตามก็พยักหน้าก่อนมันจะมองหาบริกรของร้านต่อเพื่อที่จะช่วยสั่งค็อกเทลให้ฉัน
ถึงจะเคยออกมาเที่ยวสถานที่แบบนี้อยู่บ้าง แต่การสั่งเครื่องดื่มหรือแม้แต่การพาเข้าผับต่าง ๆ ส่วนใหญ่พิงค์กับแอลลี่จะเป็นคนจัดการทั้งหมด อีกอย่างฉันเองก็ไม่เคยดื่มเหล้าที่มันผสมเข้มข้นด้วย ดื่มเป็นแค่ค็อกเทลที่มีรสหวานเท่านั้น แต่ถ้าดื่มเยอะก็เมาไม่ต่างกัน
นานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วที่ฉันกับเพื่อนนั่งดื่มกันอยู่ แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับเพื่อนทั้งสองเลยสักนิด เอาแต่ชะเง้อคอมองทางเพื่อดูว่าคนที่บอกว่าเดี๋ยวจะกลับมานั้น จะกลับมาจริง ๆ หรือเปล่า เพราะนี่เขาก็หายไปกับคู่ขาของเขานานจนฉันจะร้องไห้อยู่แล้วนะ เพราะในหัวฉันตอนนี้มันกำลังจินตนาการถึงภาพที่พวกเขาคงกำลัง…มีความสุขกันอยู่
"เดี๋ยวฉันมานะ ขอไปห้องน้ำก่อน" ฉันหันไปบอกเพื่อนทั้งสองเมื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำหลังจากที่ดื่มค็อกเทลสีสวยรสหวานไปได้เพียงสองแก้วเท่านั้น ต่างจากพิงค์กับแอลลี่ที่สลับกันผสมเหล้าดื่มราวกับน้ำเปล่า
"ให้ไปเป็นเพื่อนมั้ย" พิงค์ถาม
"ไม่เป็นไรๆ แกดื่มต่อเลย" ฉันบอกแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองไปรอบ ๆ อีกครั้งแล้วเดินออกมาจากโต๊ะเพื่อหาทางไปห้องน้ำที่ก็ไม่รู้ว่าที่ชั้นสองนี้ห้องน้ำอยู่ตรงไหน
"พี่คะ!" ฉันรีบเรียกบริกรที่กำลังเดินถือถาดเครื่องดื่มผ่านมาไว้เพื่อถามทาง
"ครับ?"
"ห้องน้ำไปทางไหนคะ"
"ค่อนข้างซับซ้อนครับ เดินตรงไปก่อนแล้วค่อยถามการ์ดหรือบริกรคนอื่นอีกที" พอเขาบอกแบบนั้นก็เดินถือถาดเครื่องดื่มเดินต่ออย่างเร่งรีบทันที เล่นเอาฉันถึงกับยืนงงกับการบอกทางที่แทบไม่ได้อะไรเลย นอกจากเดินไปก่อนค่อยถามทางเอาข้างหน้า
"อะไรกันเนี่ย" ฉันบ่นอย่างหงุดหงิดอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องเดินตามที่บริกรคนนั้นบอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพื่อจะหาทางไปห้องน้ำให้เจอ
ฉันเดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดินผ่านโต๊ะโต๊ะหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมสุดก่อนจะมีทางเดินยื่นออกไป
หมับ!
"อ้ะ!" แรงฉุดที่ข้อมือทำให้ฉันแทบหงายหลังจนต้องส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ แล้วรีบหันกลับไปมองด้านหลังตัวเองทันที "ปะ ปล่อยนะ"
"ไปไหนครับคนสวย หรือว่ากำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า"
"ไม่หลง ปล่อยซี่!" ฉันตอบก่อนจะพยายามบิดข้อมือตัวเองออกจากมือหนาที่มีสัมผัสหยาบกร้านของชายมีอายุคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จัก
"แต่เสี่ยว่าหนูหลงนะ มานั่งก่อนมา เดี๋ยววันนี้เสี่ยไปส่งที่บ้านเอง"
"ก็บอกว่าไม่ได้หลง… อ้ะ! กรี๊ดดดดด!" ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจพร้อมกับกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อถูกไอ้แก่บ้ากามนั่นดึงอย่างแรงจนเสียหลักล้มพาดลงไปบนตักของมัน
ฟุบ!
"ปล่อยฉันนะไอ้บ้ากาม ช่วยด้วย! ช่วยหนูดีด้วย พี่การันต์ช่วยหนูดีด้วย!" ฉันดิ้นสุดแรงที่มีพยายามพาตัวเองลุกขึ้นจากตักไอ้แก่บ้ากามนี่ ปากก็ร้องให้คนช่วยอย่างลนลาน
เพี้ยะ!
"กรี๊ดดดดดดด!" แรงจากฝ่ามือหนาที่ฟาดเข้าที่ก้นของฉันทำเอาฉันกรีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม
นี่ฉัน…นี่ฉันโดนไอ้แก่บ้ากามมันใช้มือฟาดเข้าเต็มก้นเลยใช่ไหม น่าขยะแขยงที่สุด!
เสียงกรีดร้องของฉันทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นเริ่มให้ความสนใจจนฉันได้ยินเสียงคนพูดคุยกันดังอยู่รอบข้างแข็งกับเสียงเพลง โดยที่ฉันยังอยู่ในท่าคว่ำหน้าพาดอยู่บนตักไอ้แก่บ้ากามนี่อยู่
"ไม่เอาน่าคนสวย อย่าโวยวายสิ คุยกันดี ๆ ได้น่า"
"พี่การันต์! กรี๊ดดดดดด!" ในเมื่อสู้แรงมันไม่ได้สิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอดก็คงเป็นการแหกปากให้ดังที่สุด เพื่อให้พี่การันต์ได้ยิน อาจจะเป็นความคิดที่ปัญญาอ่อน แต่ถ้าเขาไม่ได้ยินฉันเชื่อว่าคนของเขาต้องได้ยินบ้างล่ะ
พรึ่บ!
เคล้ง!!
ร่างกายของฉันลอยหวือขึ้นจากตักไอ้แก่บ้ากามอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ทันจะได้มองว่าเกิดอะไรขึ้นก็มีเสียงแก้วแตกกระจายอยู่ใกล้ ๆ กับโสตประสาทการได้ยินของฉัน
ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงที่ยืนโอบกอดฉันไว้แน่น ริมฝีปากฉันสั่นระริกเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่นด้วยความกลัวและดีใจในเวลาเดียวกัน "พะ พี่รันต์"
"อย่าหันกลับไป"
ฉันกำลังจะหันกลับไปมองด้านหลังว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่ากลับมีเสียงเข้ม ๆ สั่งไว้ ซึ่งเสียงนั้นดังขึ้นอยู่เหนือศีรษะของฉัน โทนเสียงที่เขาเปล่งออกมานั้นฟังดูน่ากลัวจนฉันรีบซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา สองมือยกขึ้นกำเสื้อเขาไว้แน่นด้วยความกลัว
ไฟบริเวณนี้สว่างจ้าขึ้นทันทีที่เสียงแก้วแตกกระจายสงบลง พร้อมกับเสียงเพลงที่เงียบไปพร้อมกัน ทำให้ฉันแอบลอบมองดูบรรยากาศรอบข้างที่ตอนนี้ผู้คนต่างมองมายังจุดที่ฉันยืนอยู่ โดยที่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าด้านหลังนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง พอดึงสายตากลับมาก็เหลือบเห็นมืออีกข้างของพี่การันต์กำลังสั่นระริกอย่างชัดเจน ในมือของเขากำรอบคอขวดแก้วที่ด้านท้ายขวดนั้นแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี เส้นเลือดที่หลังมือหนาปูดขึ้นเด่นชัดไล่ขึ้นมาตามท่อนแขนของเขา
นี่เขา… เสียงแก้วแตกเมื่อกี้มาจากฝีมือของเขาเหรอ?
คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบหันกลับไปมองด้านหลังด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะพบกับไอ้แก่บ้ากามที่ลวนลามฉันเมื่อกี้นี่คอพับกับโซฟาหมดสติไปแล้ว บนศีรษะอาบไปด้วยเลือดสีเข้มอย่างน่ากลัว ก่อนจะมีเสียงเข้มตะคอกดังขึ้นจนฉันสะดุ้งโยน
"ก็บอกว่าอย่าหันไปมองไงวะ!"