บทที่ 2 อ่อยให้อยาก... (1)

1489 คำ
ทางด้านชายหนุ่ม หลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเองก็รีบตรงเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน สุขภัณฑ์ทุกชิ้นเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ มีอ่างอาบน้ำสีขาวทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นอยู่ในโซนเปียก ด้วยความที่ห้องน้ำกว้างมากจึงถูกแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจน ทั้งโซนเปียกและโซนแห้ง โดยมีผนังกระจกเป็นตัวคั่นกลาง ให้อารมณ์ไม่ต่างจากห้องน้ำหรูในโรงแรมระดับห้าดาว ชายหนุ่มเดินเนื้อตัวเปลือยเปล่าไปยืนใต้เรนชาวเวอร์ ก่อนจะเปิดระดับน้ำแรงเพื่อดับความร้อนรุ่มในกาย การได้เจอบัวบูชาอีกครั้งทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนรุนแรง ร่างกายถูกกระตุ้นเร้าง่ายดายเหมือนในอดีต ยามที่เขาและเธอได้ร่วมรักกัน บลูเวลปล่อยให้สายน้ำเย็นรินไหลรดกายอยู่เกือบชั่วโมง ถึงได้ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันเอวสอบไว้อย่างหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นกล้ามท้องแน่นเป็นลอนสวย บ่งบอกถึงวินัยในการดูแลตัวเองอย่างดี ในระหว่างที่เขากำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ หลังจากยืนมองเครื่องมือสื่อสารที่กำลังสั่นไม่หยุด แค่เห็นเบอร์เขาก็จำได้ว่าใคร ถึงไม่อยากรับสายก็จำเป็นต้องรับ เพราะว่าเธอคือคู่หมั้น “ครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงตอบรับ สีหน้าเฉยเมยไร้ความรู้สึก ออกจะรำคาญด้วยซ้ำที่ต้องรับสายคุณหมอแสนดี ผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบ แต่ที่ยอมหมั้นหมายด้วยเพราะเป็นความต้องการของมารดา “พี่บลูเวลทำอะไรอยู่คะ ทำไมรับสายช้าจัง” เสียงถามเจื้อยแจ้วทว่าปลายคำถามแอบแฝงความน้อยอกน้อยใจ บลูเวลไม่เคยโทรหาเธอก่อนเลย สักครั้งก็ไม่เคย มีแต่เธอเท่านั้นที่โทรหาเขาก่อน “ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ คุณแสนดีมีอะไร” น้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างจากตัวเขา คนในสายถึงกับสะอึก เจ็บและจุกในอก เธออยากคุยกับคู่หมั้นของตัวเองจำเป็นต้องมีธุระด้วยเหรอ ถึงจะโทรหาได้ “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากโทรมาคุยด้วย” มีความสั่นเครืออ่อนไหวเจืออยู่ในน้ำเสียง แสนดีพยายามบอกตัวเองว่าอย่าสนใจ อย่าได้แคร์ พี่บลูเวลของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ “ครับ” ถึงจะตอบแค่สั้นๆ คำเดียวแต่คนฟังก็รับรู้ได้ถึงความเฉยชาห่างเหิน “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เราไปเที่ยวกันไหมคะ” หญิงสาวสลัดความน้อยใจทิ้งแล้วรีบเข้าเรื่องทันที เพราะอีกไม่กี่วันจะเป็นวันหยุดของการทำงาน เธออยากมีโมเมนต์ไปเที่ยวกับคู่หมั้นบ้างจึงโทรมาชวนเขา “ครับ” ก็ยังตอบเหมือนเดิม น้ำเสียงของเขาเนือยๆ ไม่ได้ฟังดูว่าสนใจทำให้คนปลายสายอยากจะร้องไห้ ความรู้สึกในใจปวดร้าวทรมานเจียนตาย แต่ต้องฝืนทำเป็นไม่สนใจเก็บมันเอาไว้แล้วเอ่ยถามต่อ “ไปไหนดีคะ พี่บลูเวลมีที่แนะนำไหม” คนอยากไปเที่ยวถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนหวังว่าฝ่ายชายจะมีคำตอบดีๆ แต่ก็ต้องผิดหวัง “ไม่มี” บลูเวลเป็นพวกมีโลกส่วนตัวสูง จะพูดมากกับคนสนิทและพูดน้อยกับคนไม่สนิท ซึ่งเธอก็จัดเป็นคนกลุ่มหลัง ถ้าใครไม่รู้จักจะคิดว่าเขาหยิ่ง พูดจาน้อยคำราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วง “เดี๋ยวแสนไปหาข้อมูลเองก็ได้ค่ะ” “ครับ” “ถ้าได้แล้วจะส่งไปให้นะคะ” “ครับ” “แสนไม่รบกวนแล้ว แค่นี้นะคะ” “ครับ” บทสนทนาจบลงไม่ต่างจากทุกครั้ง คุณหมอแสนดีหน้าหงอยเหมือนหมาที่เจ้าของไม่รักหลังจากวางสาย เธอต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาได้ ใช่เธอรู้ดีว่า การหมั้นหมายครั้งนี้เกิดจากผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงาม ไม่ได้เกิดจากความชอบพอกันของคนสองคน บลูเวลแค่ยอมทำตามคำสั่งของมารดาเท่านั้น ทุกวันนี้เขาไม่เคยใส่แหวนหมั้นเลย ในขณะที่เธอไม่เคยถอดแม้แต่นาทีเดียว “เป็นอะไรไปคะคุณหนูของพี่นิ่ม” พี่เลี้ยงวัยกลางคนเอาน้ำเข้ามาให้คุณหนูของตนเองพอดี เห็นคุณหนูนั่งเศร้าจึงเข้าไปถาม นิ่มเลี้ยงแสนดีมาตั้งแต่แบเบาะจึงรักไม่ต่างจากลูกในไส้ เอาอกเอาใจสารพัดขอแค่คุณหนูบอกมา “พี่บลูเวลเย็นชากับแสนดีเหลือเกิน” คุณหมอสาวฟ้องทั้งน้ำตา ในบ้านหลังนี้นอกจากพี่เลี้ยงก็ไม่มีใครเข้าใจเธอเลย คุณพ่อคุณแม่ก็เอาแต่ออกงานสังคม หรือไม่ก็เอาแต่ทำงาน พวกท่านไม่เคยมีเวลาให้เธอตั้งแต่เกิดจนโต “ผู้ชายพูดน้อยก็แบบนี้แหละค่ะ คุณหนูอย่าคิดมากเลยนะคะ” พี่เลี้ยงพยายามปลอบใจ ในสายตานิ่ม ไม่มีผู้ชายคนไหนเหมาะสมกับคุณหนูมากไปกว่าบลูเวล เธอจึงคอยเสี้ยมให้แสนดีปักใจอยู่กับบลูเวลคนเดียว “แต่บางทีแสนก็น้อยใจ กำจัดอีผู้หญิงชั้นต่ำไปได้แล้วแท้ๆ ทำไมพี่บลูเวลยังเป็นแบบนี้” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยโทสะยามที่คิดถึงบัวบูชา ตอนที่รู้ว่าบลูเวลแอบเลี้ยงบัวบูชาเป็นเมียเก็บ เธอโกรธมาก พังข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่เลี้ยง “ตอนนี้คุณหนูเป็นถึงคู่หมั้น ยังไงก็มีภาษีดีกว่าผู้หญิงอื่น” เพราะพี่เลี้ยงมีนิสัยขี้อิจฉา เห็นแก่ตัว ทำให้แสนดีซึมซับมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นเรื่องถูกต้อง บัวบูชาไม่เหมาะกับบลูเวล ส่วนคนที่เหมาะสมกับชายหนุ่ม ก็คือเธอเอง “ใช่ค่ะ พูดถึงผู้หญิงคนนั้นแล้ว โคตรสะใจเลย อีคนไม่เจียมตัว” แสนดียิ้มร้ายเมื่อหวนคิดถึงวันที่ตัวเองลงทุนตกน้ำเพื่อใส่ร้ายบัวบูชา แล้วทุกคนก็เชื่อ เพียงเพราะเธอเป็นลูกผู้ลากมากดี เป็นคนในวงสังคมเดียวกัน ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่โตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า “คุณหนูพูดถูก ป่านนี้นังเด็กนั่นคงมีผัวเป็นฝรั่งแล้วค่ะ หายหน้าหายตาไปนานขนาดนี้ เผลอๆ มีลูกเป็นคอกไปแล้วก็ได้” “ขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ แสนเกลียดมัน” “ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วค่ะคุณหนูของพี่นิ่ม” คุณหมอสาวยิ้มราวกับภูมิใจนักหนาที่ได้กำจัดผู้หญิงของบลูเวลออกไปให้พ้นทาง สีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องดั่งจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แบบนี้ ก็มีแต่พี่เลี้ยงคนสนิทเท่านั้นที่ได้เห็น แม้กระทั่งบิดามารดาผู้ให้กำเนิดก็ไม่เคยเห็นด้านนี้ของเธอ หลังจากคุยกับคู่หมั้นเสร็จบลูเวลตัดสินใจไปที่ห้องของบัวบูชาอีกครั้ง แต่ไม่ว่าเคาะประตูเท่าไรเธอก็ไม่ยอมเปิด เขาจึงถือวิสาสะกดรหัสปลดล็อกแล้วเปิดเข้าไปเอง ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาร่างของหญิงสาว แต่ภายในห้องรับแขกดูเงียบกริบ จึงเดินเข้าไปดูในห้องนอนเผื่อว่าเธอเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะได้เข้าไปช่วยเหลือทัน “หนูดาวเป็นลูกสาวกก จบชั้นมอหก โรงเรียนบ้านหนองใหญ่ คุณแม่ขายไร่ขายนา ส่งดาวเข้ามาเรียนมหาลัย มาเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ ยูนิเวอร์ซิตีที่ทันสมัย ดาวสวยดาวเริดดาวเด่น คนมันสวยทำอะไรก็เด่น ก็เลยถูกพรีเซนต์ให้เป็นดาวมหาลัย...” เสียงร้องเพลงแบบเพี้ยนๆ ที่ไม่ตรงกับคีย์ของนักร้องนำ ไม่ใช่นักร้องนำของวงดนตรีแต่หมายถึงนักร้องนำจังหวะ ดังออกมาจากทางห้องน้ำ “คนอะไรสวยไม่พอยังร้องเพลงเพราะอีก เพราะอะไรถึงร้อง ฮ่าๆๆๆ” พูดเองขำเอง ทำให้คนแอบที่เข้ามาพลอยขำไปด้วย ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธออยู่ที่ไหน ทว่าในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะหันหลังเดินออกไป หญิงสาวก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี “บอสขามาหาบัวเหรอคะ” คนเพิ่งน้ำอาบเสร็จลืมหยิบผ้าขนหนูเข้าไปด้วย ออกมาจึงไร้ผ้าห่มกาย ด้วยความที่อยู่เมืองนอกมานานเธอเลยชินกับการนุ่งน้อยห่มน้อย จนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นชีเปลือย “...” บลูเวลตัวแข็งทื่อกับภาพตรงหน้า แม่เจ้าโว้ย! ทำไมบัวบูชาถึงได้มีแรงดึงดูดทางเพศขนาดนี้ ดอกบัวตูมเต่งสองดอกข้างบนเขาเคยเคล้นคลึง กลีบบัวข้างล่างเขาเคยแย้มสัมผัส สติของชายหนุ่มหลุดกลับเข้าไปในอดีตทำให้ไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม