ตอนที่ 3 รับน้อง

1724 คำ
การเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก เป็นปีที่มีกิจกรรมเยอะมาก เยอะจนงง ไหนจะซ้อมเชียร์ ไหนจะเลือกประธาน แล้ววันนี้ก็เป็นวันจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ บอกตรง ๆ ว่าฉันไม่ได้ชอบไอ้กิจกรรมบ้าบออะไรพวกนี้นักหรอก แต่มันจำเป็นต้องเข้าร่วมไง เพราะเป้าหมายสุดหล่อของฉันอยู่ในทีมว้ากด้วย ฉันเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยพร้อมกับนับดาว แล้วเราสองคนก็แยกกันเดินคนละทางเหมือนกับทุกวัน “เอ้าน้อง! เดินเร็ว ๆ สิครับ มัวแต่ยืดยาดอืดอาดอยู่ได้ อยากวิ่งรอบสนามกันหน่อยไหม!” รุ่นพี่หุ่นล่ำมาดเซอร์คนเดิมตะโกนใส่โทรโข่งไม่หยุด นี่ก็ไม่รู้จะแหกปากอะไรหนักหนา แค่พูดปกติใส่โทรโข่งก็ได้ยินไปทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว เด็กปีหนึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดที่สกรีนโลโก้ของคณะใส่คู่กับกางเกงวอร์มขายาว ยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อรอคำสั่งจากรุ่นพี่ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร มหกรรมทำลายความหน้าตาดีของน้อง ๆ ก็เริ่มขึ้น เมื่อพี่รหัสทั้งหลายนำถังเล็ก ๆ ที่ใส่สีไว้หลากหลายสีสัน มาป้ายลงบนใบหน้าของน้อง ๆ ตัวเอง “ขอพี่ป้ายหน่อยนะครับ น้องน้ำหอม” ว่าแล้วนิ้วเรียวยาวของพี่เหนือน้ำก็สัมผัสลงบนแก้มขาวเนียน แค่แตะเบา ๆ ก็ทำเอาเห่อร้อนไปทั่วหน้า พี่น่านฟ้าที่ยืนอยู่ข้างกันก็เหมือนเดิม นิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร ส่วนพี่ม่านหมอกฉันไม่เห็นตั้งแต่เข้ามาแล้ว “วันนี้พี่ม่านหมอกไม่มาเหรอคะ” เมื่อสงสัยก็ต้องถาม “น้ำไม่เห็นตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วค่ะ” พี่เหนือน้ำส่ายหัวก่อนที่จะตอบออกมา “ไอ้หมอกมันไม่ชอบกิจกรรมอะไรพวกนี้หรอก ป่านนี้คงไปจีบสาวอยู่คณะอื่นแล้วมั้ง” เขาตอบพร้อมกับทำใบหน้าชวนหมั่นเขียว “เหนือ แกไปบอกน้องมันอย่างนั้นทำไม” หืม จู่ ๆ พ่อคนปากหนักก็ยอมพูดออกมา เอาจริง ถึงพี่น่านฟ้าจะไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยพูด แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของเขาล่ะ ว่ากันว่า คนนิ่ง ๆ แบบนี้ อย่างอื่นน่ะ แซ่บ!! หลังจากเอาสีมาป้ายหน้าป้ายตาฉันเสร็จพวกรุ่นพี่ก็กลับไปรวมตัวกัน เด็กปีหนึ่งก็ยืนเข้าแถวอยู่ที่เดิม แล้วก็เริ่มประกาศกิจกรรมรับน้องที่จะต้องทำมีอะไรบ้าง สิ่งแรกที่พวกเราจะทำกันก็คือ เข้าบ้านผีสิง จะเรียกบ้านผีสิงก็ไม่ได้หรอก แค่มีผ้าสีดำมาขึงไว้ตามทาง แล้วก็ประดับตกแต่งด้วยพวกอุปกรณ์ที่ใช้ในวันฮาโลวีน ก็ตื่นเต้นดี แต่ที่ตื่นเต้นที่สุดก็คือ พี่รหัสจะต้องเป็นคนจูงมือน้องให้เดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนสุดทางเดิน แล้วคิดดูสิ ฉันผู้เป็นหญิงสาวตัวเล็กตัวน้อย มีผู้ชายสุดเพอร์เฟกประกบอยู่หน้าหลัง แถมยังมีมือหนาอุ่นของพี่เหนือน้ำจูงไปตามทางเดินอีก บอกได้คำเดียวว่า ฟิน! “เมื่อกี้กลัวหรือเปล่า” จู่ ๆ ก็มีเสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง “ไอ้พวกนั้นเล่นแรงไปหน่อย” เป็นพี่น่านฟ้าที่ถามขึ้น พอหันไปมองก็เห็นว่าเขากำลังจ้องหน้าอยู่ ให้ตายเถอะ ฉันแพ้สายตาของเขาจริง ๆ นัยน์ตาสีเทาที่เหมือนกำลังจะดูดกลืนวิญญาณของฉันลงไป “ก็ตกใจมากอยู่เหมือนกันค่ะ” ต้องเล่นบทสาวน้อยน่าทะนุถนอม “แต่ก็สนุกดี พวกพี่เขาก็น่ารักดีค่ะ” ฉันไม่ได้ตาฝาด คนนิ่ง ๆ อย่างพี่น่านฟ้าหยักยิ้มมุมปากก่อนที่จะเดินไปสมทบกับรุ่นพี่คนอื่น ๆ ส่วนฉันก็กลับไปรวมตัวกับเด็กปีหนึ่งเหมือนเดิม เล่นกันอีกสองเกมก็ถึงเวลาพักทานอาหารเที่ยง ซึ่งพวกรุ่นพี่ได้ทำการแจกข้าวกล่องให้กับน้อง ๆ ของตัวเอง แล้วก็จับกลุ่มทานข้าวด้วยกัน จะว่าดีมันก็ดี แต่ฉันก็ไม่ชินสายตาหลาย ๆ คู่ที่จ้องมองมาที่พวกเราทั้งสามคนเลย โดยเฉพาะนักศึกษาหญิงที่มีอยู่ไม่เยอะ พวกเธอทั้งหมดหันมองมาทางฉันอย่างกับนัดกันไว้ “ไม่อร่อยเหรอครับน้องน้ำ ทำไมถึงไม่กินล่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายมีเล่นเกมอีก จะไม่มีแรงเอานะครับ” พี่เหนือน้ำถามขึ้น เมื่อเห็นฉันเอาแต่เขี่ยข้าวในกล่องแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ “คือน้ำไม่ค่อยชินค่ะ” ฉันตอบออกไปตามตรง “ปกติเวลากินข้าวไม่เคยมีคนมองขนาดนี้” “เดี๋ยวก็ชิน เพราะเธอต้องอยู่กับพวกพี่อีกนาน” ฉันเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าที่ยังก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่ด้วยความสงสัย พี่น่านฟ้าหมายถึงอะไรกันนะ “รีบทานเถอะครับน้องน้ำ เดี๋ยวจะหมดเวลาพัก” พ่อคุณทูนหัวคนนี้ก็แสนดีเหลือเกิน นี่ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้หน้าตาเหมือนกันจนแยกแทบไม่ออก คงจะไม่มีใครเชื่อว่าเป็นฝาแฝดกัน ทั้งนิสัยและบุคลิก แตกต่างกันอย่างกับเกิดมาจากคนละตระกูล ฉันรีบทานข้าวอย่างว่าง่าย แหม ช่วงนี้เป็นช่วงมัดใจเสือ ก็ต้องทำตัวให้น่ารัก ๆ เข้าไว้ ทานข้าวเสร็จพวกรุ่นพี่ก็ปล่อยให้พักอีกเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเล่นเกมต่อไป ถือว่าโชคดีมาก ๆ ที่การรับน้องของที่นี่ไม่ได้มีอะไรแปลกพิสดารอย่างที่เห็นในข่าว ส่วนมากก็เล่นเกมสนุก ๆ มีโดนแกล้งบ้าง แต่ก็แค่เรื่องเล็กน้อย “เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็เหลือเกมสุดท้ายแล้วที่พวกเราจะได้เล่นด้วยกันวันนี้ จบจากเกมนี้พวกพี่ก็จะปล่อยให้น้อง ๆ กลับบ้านนะครับ” รุ่นพี่คนเดิมประกาศให้น้อง ๆ ได้ยิน เกมสุดท้ายที่ว่าก็คือการวิ่งเปรี้ยว โดยมีการแบ่งเป็นทีม ทีมละสี่คน เกมนี้จะมีเฉพาะรุ่นน้องเท่านั้นที่ร่วมเล่น ส่วนพี่ ๆ จะคอยยืนเชียร์ “เตรียมตัวนะครับ 3 2 1 ไป!!” เสียงนกหวีดดังลั่นพร้อมกับสัญญาณปล่อยตัว ฉันได้วิ่งเป็นคนที่สี่ เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างพยายามวิ่งกันสุดตัว จนจะมาถึงคิวของฉัน ระหว่างที่ตั้งท่ารอผ้าจากเพื่อนมายื่นให้ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว แผนเรียกร้องความสนใจ รับผ้ามาจากเพื่อน แล้วฉันก็ออกตัววิ่งทันที พยายามจะไล่ตีอีกฝ่ายให้ทัน “อ๊ะ ว้าย!!” ฉันกรีดร้องพร้อม ๆ กับร่างกายที่ถลาไปกับพื้นสนาม “เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บมากไหม” ฉันเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำถาม ก็เห็นพี่น่านฟ้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ สีหน้าของเขาดูตกใจมาก แล้วเขาก็ค่อย ๆ ประคองฉันให้ลุกขึ้น “มะ ไม่เป็นไรค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย” ที่จริงมันเจ็บมาก “เดี๋ยวล้างแผลใส่ยาก็ดีขึ้นค่ะ” พี่น่านฟ้าประคองฉันให้มานั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ แล้วพี่เหนือน้ำก็วิ่งเอากล่องอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาให้ “ล้างแผลใส่ยาก่อน เดี๋ยวติดเชื้อจะยุ่ง” เสียงทุ้มเข้มของผู้ชายหน้านิ่งพูดขึ้น “ทำไมถึงได้ไถลขนาดนั้นได้” ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป คือที่จริงก็ไม่คิดว่าจะไถลแรงจนเป็นแผลลึกที่ข้อศอกขนาดนี้ ตอนแรกก็ตั้งใจแค่จะหกล้มเพื่อเรียกร้องความสนใจก็แค่นั้น “โอ๊ย พี่ มันแสบ” เขาเอาสำชีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลแล้วก็ปาดลงโดยไม่บอกไม่กล่าว “อยู่นิ่ง ๆ เรื่องแค่นี้ยังทนไม่ได้ ถ้าเจออะไรที่ใหญ่กว่านี้จะทนได้ยังไง” พี่น่านฟ้าพูดทั้งที่ยังป้ายแอลกอฮอร์ลงบนแผลฉันไม่หยุด ช้อนสายตาขึ้นไปมองพี่เหนือน้ำที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ รายนั้นก็ไม่ช่วยอะไรเลย เอาแต่ยืนยิ้มมองฝาแฝดตัวเองทรมานฉันอย่างอารมณ์ดี หลังจากใส่ยาเสร็จฉันก็ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรอีก ไม่นานพวกรุ่นพี่ก็ปล่อยพวกเรากลับบ้าน สอดส่ายสายตามองหาเพื่อนสนิทก็ยังไม่เห็นมา แสดงว่าคณะของนับดาวคงจะยังรับน้องไปเสร็จ ฉันก็เลยเดินไปรอที่คณะของเพื่อนแทน แต่มาถึงก็เห็นพี่ม่านหมอกกำลังนั่งดูการรับน้องอยู่ที่คณะคหกรรมศาสตร์ เออ แปลกไหมล่ะ คณะตัวเองมีไม่อยู่ แต่มานั่งดูคณะคนอื่น ///// สองขายาวก้าวเดินไปพร้อมกันเพื่อไปยังที่จอดรถ อีกคนยังทำหน้านิ่ง ๆ ส่วนอีกคนนั้นเอาแต่ยิ้มกริ่มไม่หุบ “น่านถลาเข้าไปหาน้องไวขนาดนั้น นี่อย่าบอกนะว่ามองน้องอยู่ตลอดเวลา” เสียงของเหนือน้ำเอ่ยถามขึ้น “ก็เป็นปกติหรือเปล่า รุ่นพี่ต้องดูแลรุ่นน้อง” “ก็คงปกติ ถ้ารุ่นน้องคนนั้นไม่ใช่น้องน้ำหอม” เหนือน้ำยังคงพูดแหย่คู่แฝดตัวเองไม่หยุด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าน่านฟ้าสนใจเด็กคนนั้นมากแค่ไหน ก็แน่ล่ะ เพราะเขาเองก็สนใจไม่ต่างกัน “แล้วนี่เราจะรุกได้เมื่อไหร่” เหนือน้ำยังคงเอ่ยถามต่อ ความรู้สึกตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว อยากจะครอบครองหญิงสาวเต็มที “อย่าทำให้น้องตกใจ ดูท่าทีไปก่อน” น่านฟ้าก็ตอบไปตามสไตล์ตัวเอง อย่างที่เคยบอก ผู้หญิงที่จะยอมคบผู้ชายสองคนพร้อมกัน มันไม่ได้หาง่าย ๆ จะยังไงก็ต้องให้เธอยอมพวกเขาโดยสมัครใจ //////////////////////////////////////////// ยัยน้องก็วางแผนอ่อยสุดฤทธิ์ ส่วนเจ้าแฝดก็วางแผนจะกินน้อง ศีลเสมอกันสุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม