คนหนึ่งรักน้อยลง อีกคนก็หลงมากขึ้นทุกที / 2

1457 คำ
ถึงจะไม่ค่อยได้แชตคุยกันในช่วงเวลากลางคืน เพราะณัฐดลต้องสร้างความไว้ใจจากมินตรา แต่ในตอนเช้าเขาก็รีบไปเจอแพรวาตามปกติ เพราะไม่อยากให้แพรวารู้สึกว่าเขาได้เธอแล้ว แล้วจะทิ้งเธอไปอย่างที่แม่สาวน้อยพร่ำพูด "เย็นนี้เราไปกินข้าวด้วยกันได้ไหมคะ แพรอยากกินข้าวกับพี่ณัฐตอนเย็นบ้าง" ความหนักใจเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะแพรวานั้นเมื่อตกเป็นของเขาแล้ว เธอก็มีความต้องการที่จะอยู่ใกล้ๆ กับเขาเป็นธรรมดา ณัฐดลเองก็ไม่ต่างกัน นับวันก็ยิ่งรู้สึกรักสาวนักศึกษาคนนี้เขาไปทุกที “ได้สิ” ณัฐ ไม่กล้าขัดใจแพรวา เพราะแค่เขาลดระยะเวลาคุยกับเธอ ในช่วงที่อยู่กับมินตราลง ก็เป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายจะแย่ ถึงเขาจะได้เธอแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย กลับกันเขากลับรู้สึกยิ่งรักยิ่งหลงเธอมากกว่าเดิม แต่อยากจะได้เธอซ้ำๆ ทั้งที่กับมินตราไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันนานแล้ว อาจจะเพราะแพรวายังใหม่ และเธอก็เด็กกว่ามินตราหลายปี จึงพอจะยับทำให้เขาตื่นเต้นและใจเต้นแรงได้พอสมควร “ถ้างั้น เลิกเรียนแล้ว แพรจะรอพี่ณัฐนะคะ” สาวน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดี และยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าในตอนนี้ ณัฐดลกำลังเครียดแค่ไหน เมื่อวานเขาก็ทำผิดแผนไปแล้วรอบหนึ่ง พลาดท่าจนทำให้มินตรารู้เข้า ว่าเขาออกไปข้างนอก แม้จะไม่ได้ถูกจับได้ แต่ก็เชื่อว่ามินตราคงกำลังระแคะระคายอยู่ไม่น้อย ณัฐยิ้มอ่อนโยนให้แพร แม้ในใจจะรู้สึกกังวลเล็กน้อย "ดีมากครับ ไว้พี่จะโทรหาน้องแพรอีกทีตอนเลิกงานนะคะ" แม้จะมีเรื่องยุ่งยากรออยู่ แต่เขาก็อยากจะทำให้แพรวามีความสุขให้ได้ 'วันนี้เลิกงานช้านะ เราทำโอที' ณัฐดลส่งข้อความหามินตรา เมื่อรับปากกับแพรวาไปแล้วว่าจะไปกินข้าวมื้อเย็นกับเธอ หญิงสาวมองข้อความของแฟนหนุ่ม และรู้สึกว่ามันแปลก เพราะเธอเคยเกลี้ยกล่อมให้ณัฐดลทำโอทีมาก่อน แต่เขายืนยันว่าจะไม่ทำมาโดยตลอด “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะมิน” เพื่อนของมินตราซึ่งกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ด้วยกันเอ่ยถาม คนถูกถามพยายามสลัดความสงสัยออกจากหัว และมองว่าการที่ณัฐดลคิดอยากทำงานมันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว “เปล่าไม่มีอะไร ตอนแรกคิดว่าสั่งข้าวผิด” เธอพูดแก้ตัวก่อนจะตอบกลับข้อความของแฟนหนุ่ม ‘โอเค’ ตอนเย็นมาถึง ณัฐดลขับรถไปรอรับแพรวาตามที่ได้ส่งข้อความไปนัดหมายเอาไว้ เขาเฝ้ามองหาหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ ในเวลาแบบนี้ เพราะกลัวคนรู้จักจะมาเจอเข้า จนกระทั่งเห็นแพรวาเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ณัฐดลลุกยืนขึ้นพลางโบกมือส่งสัญญาณให้กับเธอ "ขอโทษนะคะ ที่ทำให้รอนาน" แพรวาพูดขณะขึ้นมานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของชายหนุ่ม "ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่ยินดีรอ" ณัฐดลตอบด้วยรอยยิ้ม เขาขับรถไปยังร้านอาหารที่เคยไปด้วยกัน เพื่อจะได้มีเวลาพูดคุยกับแพรวาอย่างเป็นส่วนตัว และไม่เป็นเป้าสายตาของใคร ชายหนุ่มขับรถไปจอดให้เรียบร้อย แล้วพาแพรวาเดินเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ ที่เคยมากันก่อนแล้วหนหนึ่ง พักงานในร้านต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น ทั้งคู่เลือกอาหารและสั่งเครื่องดื่มเหมือนเคย "วันนี้เหนื่อยจากเรียนมากไหมคะ" ณัฐดลเอ่ยถามขณะรออาหาร "ก็ปกตินะคะ อาจจะเรียนยากขึ้นนิดหน่อย ถ้าเหนื่อยคงจะเหนื่อยกิจกรรมมากกว่า แล้วพี่ณัฐละคะ" แพรตอบพลางยิ้ม ก่อนจะถามเขากลับบ้าง "พี่ก็เหมือนกันครับงานก็ยุ่งๆ นี่ก็ต้องกลับไปทำโอทีต่อ ทุกวันนี้หายเหนื่อยได้บ้างก็เพราะได้มาเจอกับน้องแพรนี่แหละ" เขารีบออกตัวก่อนจะต้องแยกย้าย แพรวาดูสีหน้าไม่ดีนักเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอเริ่มรู้สึกตงิดใจที่ณัฐดลมักจะไม่ว่าง และอ้างว่าติดงานช่วงกลางคืนทุกที อาหารมาถึง ทั้งคู่กินอย่างช้าๆ พลางพูดคุยเรื่อยเปื่อย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเคย ทำให้ณัฐดลลืมความกังวลใจไปชั่วขณะ เขามองสาวน้อยนักศึกษาอย่างเอ็นดู ลึกๆ ก็รู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เขาได้พบกับเธอ แพรวาเองก็รู้สึกดีใจที่ได้มาใช้เวลากับณัฐดล เธอรู้สึกอยากจะมีช่วงเวลาแบบนี้ต่อไปนานๆ แต่ก็ต้องยอมเข้าใจเมื่อเขายกเอาเรื่องงานมาอ้าง “พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะคะ” เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกับแพรวาที่บ้านของเธอ ณัฐดลเพิ่งจะนึกได้ว่าเขาต้องรีบกลับห้อง เพราะตอนนี้ดูจะดึกแล้ว หลังจากกินข้าวอิ่มแพรวาก็ชวนเขาไปนั่งเล่นที่บ้านต่อ เพราะวันนี้พ่อแม่ของเธอยังไม่กลับมาบ้าน และแน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอีกครั้ง จนณัฐดลลืมเวลากลับอีกตามเคย “ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่ต้องรีบเข้าออฟฟิศแล้วนะ จะไม่ทันแล้ว” ณัฐดลรีบออกตัว “ค่ะ” แม่สาวนักศึกษาเดินเข้ามาหาชายคนรัก ก่อนจะเขย่งตัวเข้าไปหอมแก้มเขาอย่างไม่อายฟ้าดิน “แพรรักพี่ณัฐนะคะ” เธอบอกกับเขา “พี่ก็รักแพรค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” ถึงจะอยากอยู่ต่ออย่างไร ณัฐดลก็ต้องรีบกลับแล้ว เขาขับรถจากบ้านของแพรวา ผ่านการจราจรที่ติดขัด แม้จะเร่งอย่างไรก็เร็วได้เท่านั้น ช่วงเวลากลับบ้านเป็นช่วงเวลาที่รถบนถนนเส้นที่ต้องขับผ่าน ค่อนข้างจะติด แต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาจะได้เอามาใช้เป็นข้ออ้างกับมินตราแฟนสาวของเขาได้ ณัฐดลแวะซื้อของกินติดมือไปด้วย เผื่อเอาไว้กันท่าหากแฟนของเขาบ่นใส่ แล้วก็จะได้อ้างได้ด้วยว่าแวะซื้ออะไรกินระหว่างทางแล้ว เพราะข้าวที่กินไปกับแพรวายังอิ่มอยู่ เมื่อกลับมาถึงห้องชายหนุ่มกลับพบว่าไฟยังไม่ได้เปิด ข้าวยังไม่ได้หุง และสภาพห้องก็ดูเหมือนว่ามินตราจะยังไม่กลับมา เขาดูเวลาที่นาฬิกาบนผนังห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “นี่มันก็ดึกแล้วนี่หว่า ทำไมมินยังไม่กลับอีกวะ” พอคิดแล้วก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามินตราแอบไปหาเข้าที่บริษัทหรอกนะ ในหัวของคนทำผิดก็คิดได้แต่หวาดระแวงเท่านั้น เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองปิดเครื่องเอาไว้ และเมื่อกดเปิดเครื่องก็พบว่าข้อความมากมายถูกส่งมาจากทั้งมินตราและเพื่อนของเธอ ทั้งยังมีข้อความการติดต่อที่ไม่สำเร็จจากเบอร์โทรของมินตราอีกจำนวนไม่น้อย ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่ปกติ เขารีบโทรกลับไปหามินตราทางไลน์ของเธอ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนต้องเปลี่ยนไปโทรตรงทางเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ติดอีกเช่นกัน ชายหนุ่มพยายามตั้งสติก่อนจะเลือกโทรกลับไปหาเบอร์ของเพื่อนมินตราที่โทรเข้ามาหาเขา “ฮัลโหลเมย์ พี่โทรหามินไม่ติดเลย มินเป็นอะไรหรือเปล่า” “มินอยู่โรงพยาบาลน่ะพี่ มันโดนรถชนตรงหน้าบริษัทตั้งแต่เลิกงานแล้ว แต่ติดต่อพี่ไม่ได้เลย โทรไปหาคนที่ออฟฟิศพี่เขาก็บอกว่าเลิกงานตั้งนานแล้ว แยกกันกลับหมดแล้ว” เสียงจากปลายสายทำณัฐดลชาวาบไปทั้งตัว เขาไม่ได้ตกใจที่มินตราประสบอุบัติเหตุ แต่ตกใจเรื่องที่มีคนโทรไปหาคนที่ทำงานต่างหาก “เออ...เรื่องมันยาว ยังไงพี่ขอที่ที่พี่จะไปหามินหน่อยได้ไหม” “อ๋อได้ๆ เดี๋ยวเมย์ส่งให้ในแชตนะ” พูดจบก็วางสายจากกันไป ณัฐดลยังคงพยายามคิดหาคำแก้ตัว โดยไม่ได้สนใจเลยสักนิด ว่ามินตราจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม