“งั้น...หมออิฐจะกลับแล้วเหรอคะ” เกวลินถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นขวดเบียร์บนโต๊ะห้าหรือหกขวด เขานั่งคนเดียวกินหมดนั้นจริงๆ เหรอ คอแข็งชะมัด
“ครับ” เกือบเที่ยงคืนแล้ว คนในผับดื่มกินได้ที่กระโดดเต้นตามเสียงเพลง ทำให้เขาขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างไม่ตั้งใจ น่าแปลกที่เขาได้กลิ่นหอมอ่อนจากเรือนกายของหญิงสาว เธอรวบผมเป็นหางม้าทรงสูง เผยลำคอขาวที่ทำให้เขารู้สึกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“หมออิฐกลับยังไงคะ คงไม่ได้จะขับรถเองใช่ไหม” ยังพูดไม่จบประโยคดี ร่างเล็กก็ถูกกระแทกจนเธอถลาเข้าไปปะทะกับแผงอกของเขา แม้จะยกมือยันแผ่นอกได้ทัน แต่มันก็ไม่ต่างจากถูกโอบกอดเลยสักนิด เธอเงยหน้าขึ้นเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของเขาแล้วต้องขมวดคิ้วแล้วลดมือลงเป็นฝ่ายคว้าข้อมือลากเขาออกมาด้านนอกเสียเอง
เดี๋ยวนะ! นี่เขาโดนผู้หญิงฉุดเหรอ!
อิทธิพลแทบจะหายเมาในทันที ถูกมือเล็กลากออกมานอกผับ ห่างจากประตูทางเข้าออกแล้วเธอจึงปล่อยข้อมือเขา
“ขอโทษค่ะ คนเยอะมากเลย ไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามหมออิฐเลยนะคะ”
“ครับ” เขาพยักหน้ารับแล้วกลั้นหัวเราะ
“ว่าแต่หมออิฐกลับยังไงคะ เมื่อครู่ข้างในเสียงดังมาก กะทิฟังไม่ชัดค่ะ”
“กะทิ?” เขาเลิกคิ้วไปเชิงถาม หญิงสาวเหมือนเพิ่งรู้ตัว เธอชี้นิ้วที่ตัวเองแล้วแนะนำตัว
“ชื่อกะทิค่ะ หมออิฐคงจำไม่ได้ กะทิไปส่งของที่โรงพยาบาลบ่อยๆ อ้อ! วันนั้นหมออิฐเตือนเรื่องฉีดสเปรย์แอลกอฮอร์ใส่ตัวเองไงคะ”
“อ้อ...คุณไรเดอร์คนนั้นเอง”
“เอ่อ...ไรเดอร์ก็ไรเดอร์ค่ะ” เธอยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน จะบอกว่าไม่ใช่ก็กลัวว่าจะทำเขาหน้าแตก แต่งานที่ทำก็ไม่ต่างจากไรเดอร์นัก ถ้าเขามีภาพจำว่าเธอคือไรเดอร์ก็ช่างเถอะ
ยังดีที่ไม่ใช่คนไข้ของเขา อิทธิพลถอนหายใจโล่งอก “ผมกำลังจะกลับครับ ว่าจะเรียกรถอยู่”
“แท็กซี่เหรอคะ เรียกแท็กซี่ตอนผับใกล้ปิดใช้เวลาเกินยี่สิบนาทีแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหมออิฐไม่ถือสาให้กะทิไปส่งก็ได้นะคะ เมื่อกี้กะทิมาส่งขนมเค้กเอารถยนต์ที่บ้านมาค่ะ ไม่กล้าเอามอ’ไซค์มา กลัวเค้กหน้าคว่ำค่ะ ฮะฮ่า”
ผู้หญิงอะไร พูดไปหัวเราะไป
อิทธิพลสโคลงศีรษะไปมา เอาเถอะ ยังไงเขาต้องเรียกรถกลับคอนโดอยู่ดี นั่งรถเธอไปก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกมั้ง
“ก็ได้ครับ”
“ถ้างั้นก็เชิญเลยค่ะ ไปส่งที่คอนโดใช่ไหมคะ หรืออยากไปที่ไหน หรือแวะซื้ออะไรก่อนหรือเปล่า ถ้าจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ละก็ เหลืออีกยี่สิบนาทีเที่ยงคืนค่ะ หมออิฐต้องรีบตัดสินใจหน่อยนะคะ”
“เอ่อ...ครับ ซื้อเบียร์สักแพ็กก็ดี”
“แพ็กเดียวพอหรือคะ เอายกถาดไหมคะ กะทิพาไปซื้อใกล้ๆ ร้านขายส่งนี่เอง ได้ราคาถูกกว่าที่สำคัญ ถ้าเบียร์หมดแล้วออกมาหาซื้อเบียร์ไม่ได้ มันจะกร่อยเอานะคะ”
ท่าทางจริงจังของเธอทำเอาเขาต้องก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม แล้วพยักหน้ารับ
“ครับ ตกลงตามนั้น”
“โอเค.ค่ะ งั้นไปกันเลยนะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” เกวลินเดินนำไปที่รถเก๋งญี่ปุ่นคันเล็ก เธอเปิดประตูให้ผู้ชาย เธอรอจนเขาเข้าไปนั่งเรียบร้อยจึงปิดประตูให้แล้วล้วงมือหยิบโทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปบอกพี่ชายว่าเธอจะแวะส่งลูกค้าก่อน ซึ่งเธอก็ทำแบบนี้บ่อยๆ ผู้หญิงมาดื่มมาเที่ยวผับกลับไม่ไหว ผู้จัดการร้านโทรตามเธอให้มาช่วยรับลูกค้าไปส่ง อย่างน้อยก็ผู้หญิงเหมือนกัน สบายใจและปลอดภัยแน่นอน และที่สำคัญ เธอก็ได้ค่าบริการด้วย การันต์ส่งไอคอนหน้าดุแทนคำตอบ เธอหัวเราะแล้วเก็บมือใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วขึ้นนั่งฝั่งคนขับ
“เดี๋ยวแวะซื้อของก่อน หมออิฐดื่มเบียร์ยี่ห้ออะไรคะ”
รถเคลื่อนออกมาได้ไม่กี่นาทีก็ถึงร้านค้าที่เป็นตึกแถว เหมือนหน้าร้านจะปิดแต่มีคนนั่งเฝ้าด้านนอกอยู่ อิทธิพลบอกยี่ห้อเบียร์ที่ต้องการพร้อมยื่นธนบัตรสีเทาส่งให้ หญิงสาวรับเงินแล้วเดินเร็วๆ ไปสั่งของตามที่เขาสั่ง ชายหนุ่มมองร่างเพรียวลมเคลื่อนไหวคล่องแคล่วแสดงว่าเธอคงมาซื้อของที่นี่เป็นประจำ เพียงไม่กี่นาทีก็ได้เบียร์หนึ่งถาด พนักงานที่ร้านยกมาให้ใส่เบาะด้านหลังของรถ
“ตังค์ทอนค่ะ”
เกวลินยื่นเงินทอนให้เขา แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า เธอก็รับไว้อย่างเต็มใจ ทำให้เขาไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่ใช้ผู้หญิงไปซื้อเบียร์
“อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหมคะ” เจ้าของดวงตากลมสวยถามแล้วขับรถไปคอนโดของเขา
“ผมยังไม่ได้บอกทางเลย” เขาประหลาดใจที่เธอขับรถเส้นทางกลับคอนโดของเขา
“กะทิเคยไปส่งข้าวกล่องให้หมออิฐที่คอนโดค่ะ” เธอยิ้มแต่สายตายังจับจ้องไปที่ถนนเบื้องหน้า “ถ้าหมออิฐยังไม่ได้ย้ายที่พักนะคะ”
“อ้อ...คุณนั้นเอง” เขาสั่งอาหารประจำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านที่ได้เมนูมาจากพยาบาล “คุณนี่ทำหลายอย่างจริงๆ”
“ไม่เลือกงานไม่ยากจน งานสุจริตกะทิรับทำค่ะ” เธอหัวเราะเสียงใส “ที่บ้านเป็นร้านอาหารค่ะ พี่ชายเป็นพ่อครัว กะทิเป็นลูกมือ นอกจากข้าวกล่องแล้วก็รับจัด snack box หรือ coffee break เป็นพวกขนมไทยค่ะ แต่ขนมอบก็ทำได้นะคะ อย่างขนมเค้กวันนี้ก็ทำเองค่ะ ทำเองส่งเอง นักเลงพอ ฮะฮ่า”
ถ้าไม่พูดคำหัวเราะคำจะดีมาก เขาว่าตัวเองเมาประมาณหนึ่ง แต่ท่าทางเธอจะเมาพืชสมุนไพรเสียมากกว่า แต่เสียงใสๆ ฟังแล้วก็เพลินหูดีเหมือนกัน
“คุณกะทิทำงานแบบนี้นานหรือยังครับ” เขาถามนึกสนใจขึ้นมา
“เล่าแล้วเรื่องมันยาวแถมดราม่าอีกเล็กน้อยถึงปานกลาง หมออิฐยังอยากฟังอยู่หรือคะ” เธอตอบและตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ “คือกะทิเพิ่งเรียนจบค่ะ สมัครงานไว้แล้วหลายทีแต่เงียบสนิท ก็เลยรับจ้างไปทั่วค่ะ ส่งอาหารที่บ้าน รับซื้อข้าวของตามสั่ง รับส่งคนบ้าง อ้อ! เคยมีลูกค้าจ้างไปถวายสังฆทานเป็นเพื่อนด้วยนะคะ ตอนนี้ท่องบทถวายสังฆทานได้แบบไม่ต้องเปิดมือถือดูเลยค่ะ”