5.มิตรภาพครั้งใหม่

1082 คำ
ความเดิม-"พี่เอใช่มั๊ยคะ จำน้องเอ๋ยได้มั๊ยคะ สวัสดีค่ะ" "จำได้ครับ เป็นน้องเอ๋ยเองเหรอ นั่นโทรศัพท์น้องสาวของพี่ครับ แกเป็นยังไงบ้าง เป็นลมล้มฟุบไปเลยเหรอ" กานต์บุรุษพึมพำออกมาอย่างเพ้อ ๆ .................................... เจ้าหน้าที่: ญาติผู้ป่วยมาแล้วใช่มั๊ยคะ เชิญให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้านนี้ด้วยค่ะ "ได้ครับ /งั้นพี่ขอตัวสักครู่นะครับแล้วจะมาคุยด้วย" กานต์บุรุษตอบรับเจ้าหน้าที่และหันมาคุยกับอัญญารินทร์เพียงครู่แล้วตามเจ้าหน้าที่ไปที่ห้องฉุกเฉิน จากนั้นสองอา-หลานก็พากันนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างสงบเสงี่ยมและไม่ลืมจะส่งข่าวไปบอกคนที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย สักพักใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกและเจ้าหน้าที่ก็เข็นคนป่วยที่ตอนนี้รู้สึกตัวและสามารถนั่งรถเข็นได้แล้วออกจากห้องตามด้วยกานต์บุรุษที่เดินตามมาติด ๆ "เป็นยังไงบ้างครับ หมอบอกว่าเป็นระบบอะไร" เปรมมนัสเอ่ยถามขึ้นอย่างห่วงกังวล "เบื้องต้นพบเลือดซีดแล้วก็พบปัญหาเรื่องก้อนในมดลูกครับ นี่น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เลือดซีด" ด้านเปรมมนัสที่คิดไว้ในใจตรงเป๋ง เอาไงดีล่ะ "แล้วคุณเอใช่มั๊ยครับ" "ครับผมชื่อเอ เป็นพี่ชายของยัยกุ้งแห้งนี่ชื่อบีครับ" "คือผมเป็นแพทย์ทางนรีเวชครับ ผมว่าผมมีทางรักษานะครับ ถ้าก้อนไม่ใหญ่มากเราอาจไม่ต้องผ่าตัด อีกอย่างเลือดซีดด้วยไม่ใช่หรือครับ" "ครับ ผมกลัวน้องจะเสียการเรียนครับ โรคพวกนี้ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นด้วยไม่ใช่หรือครับ พอดีน้องเรียนบัญชี เพิ่งขึ้นปีหนึ่งน่ะครับ แล้วผมก็เหลือกันสองคนพี่น้อง พ่อแม่ตายหมดแล้วครับ" กานต์บุรุษเล่าด้วยใบหน้าสลด "ไม่ต้องกังวลไป ผมจะหาทางช่วยแนะนำเรื่องรักษาน้องคุณเองครับ แต่ผมอยากให้น้องได้ตรวจเฉพาะทางที่ละเอียดกว่านี้ก่อนครับ" "ได้ครับ แล้วผมจะพาน้องไปนะครับ" กานต์บุรุษเอ่ยยิ้ม ๆ "ผมแนะนำที่โรงพยาบาลนี้นะครับ นี่นามบัตร เป็นโรงพยาบาลของเพื่อนผม เป็นแพทย์รุ่นเดียวกันกับผมหลังนามบัตรผมโน้ตอะไรบางอย่างไว้แล้วนะครับไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลนั้นนะครับแล้วทางนั้นจะรู้เองครับ" เปรมมนัสเขียนอะไรบางอย่างลงที่หลังนามบัตรแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม "ได้ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมพาน้องสาวกลับบ้านก่อนนะครับ/ปะ บีกลับบ้านกัน ไหวมั๊ยไอ้กุ้งแห้งเอ้ย" "ไหวซิพี่เอ /ขอบคุณนะตัวเองที่ช่วยพามาหาหมอ" กานต์ธิดาหันไปขอบคุณเด็กสาวที่มองดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอและหันไปยกมือไหว้อีกคนที่เคยประคารมกันมาแล้ว แล้วหันหลังกลับไปกับพี่ชายเงียบ ๆ "ทำไมมองตาละห้อยเลยล่ะอานัท ไป..กลับบ้านคุณปู่ค่า ป่านนี้คุณพ่อกับคุณปู่รอแย่แล้วค่า" "อ๋อ ได้ซิไปกลับบ้านกัน" @บ้านอนันตวรรณาวงษ์ เมื่อสองอาหลานมาถึงบ้านลงจากรถได้ก็รีบเดินเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่นทันที "ยัยหนูคนนั้นเป็นอะไรมากหรือเปล่าล่ะ ทำไมพากันมาเสียมืดค่ำเลย" เป็นเปรมชัยที่เอ่ยถามขึ้น "ก็เป็นลม คงเลือดซีดน่ะครับ คุณหมอซาวด์ดูพบก้อนที่มดลูกครับ เห็นพี่ชายว่ากำลังเรียนปีหนึ่ง คงรุ่น ๆ เดียวกันกับน้องเอ๋ยของเรานี่แหละครับ" เปรมมนัสกล่าวราบเรียบแต่นัยน์ตาดูวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย "รู้จักกันเหรอลุก ดูนายเป็นห่วงกังวลกับเด็กคนนั้นจัง" "เคยเจอกันก่อนนี้ครั้งนึงครับ ก็พอจะรู้ว่าน้องไม่ค่อยสบาย ปวดท้องเวลามีรอบเดือนบ่อย ๆ น่ะครับก็เลยสงสาร ยังเด็กอยู่เลยครับ" "อืม นั่นซิ โรคภัยไข้เจ็บเดี๋ยวนี้มันไม่ต้องรอเวลาหรอกนะ ชีวิตคนเราก็สั้นแค่นี้เอง" เปรมชัยพูดเป็นนัย ๆ "........" เปรมมนัสเงียบ แต่เขากำลังใช้ความคิดว่ายังไงก็ต้องช่วยเด็กสาวคนนี้ให้จงได้ในเมื่อมันตัดออกไปจากความคิดไม่ได้ก็เข้าไปยุ่งเสียเลยให้มันรู้ดำรู้แดงกันไป ด้านอัญญารินทร์ที่มองหาบิดาจนคอยาวจนเปรมชัยอดขำไม่ได้ "พ่อเราไปเอนน่ะ คงทำขนมจนเหนื่อย ปู่ส่งข้อความไปบอกคุณพยาบาลมานพให้พาลงมาแล้วหละ" เปรมชัยเอ่ยยิ้ม ๆ สักพัก "น้องเอ๋ย มาแล้วเหรอลูก พ่อทำคุ๊กกี้ไว้ให้ ของว่างก็มีนะ ไปที่โต๊ะอาหารกัน" เปรมกิจเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับกวักมือเรียกลูกสาวหวอย ๆ "ค่า คุณพ่อ หนูกำลังหิวพอดีเลย" เด็กสาวเดินสับเท้าไปหาบิดาแล้วเดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิงไปที่โต๊ะอาหารทันที "หึหึ สองคนนั่นไปล๊ะ มันมีอะไรมากกว่านั้นใช่มั๊ยลุก" เปรมชัยเอ่ยถามอย่างตรงประเด็น "ครับ ผมเอาเด็กนั่นออกจากหัวไม่ได้ครับคุณพ่อ" "หึหึ เอาออกจากหัวไม่ได้ก็เอามาใส่หัวเสียเลยซิ่ ลูกเต้าเหล่าใครล่ะ" "พ่อแม่ตายหมดครับ อยู่กับพี่ชายสองคน รู้สึกว่าน้องเอ๋ยจะรู้จักกับพี่ชายของน้องครับ ได้ยินเรียกว่าพี่เอครับ" "ก็ไม่ยากที่จะสืบนิ่ จะทำอะไรก็ทำ ถูกใจก็ไปต่อ อย่ายื้อเวลา พ่อมีบทเรียนมาจากแม่ของน้องเอ๋ยแล้ว พ่อไม่อยากให้นัทเป็นแบบนายกิจอีกคนนะ พ่อไปดูสองพ่อลูกนั่นหน่อยนะ จะไปแย่งหลานกินขนมเสียหน่อย หึหึ" ชายชราเอ่ยยิ้มแถมติดตลกในตอนท้าย ..ขอบคุณครับพ่อ ถ้าผมมั่นใจเมื่อไรผมจะเดินหน้าไม่ถอยเลยครับ.. เปรมมนัสได้แต่พึมพำคนเดียวหลังจากชายชราเดินไปไกลแล้ว จากนั้นเขาจึงล้วงกระเป๋ากางเกงไปหยิบโทรศัพท์มือถือมากดอะไรบางอย่างแล้วเก็บลงไปที่เดิม เขาได้แต่นั่งคิดอะไรไปเพลิน ๆ แอบเผลอยกยิ้มมุมปากไปโดยไม่รู้ตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม