"ไงมึง กูนึกว่าตายคานมไปแล้ว" ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องวีไอพีส่วนตัว วาฟิกซ์พ่นคำทักทายเพื่อนตัวเองทันที ช่วงนี้ครูซไม่ค่อยโผล่หัวมาให้เพื่อนได้เห็นหน้าค่าตาสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าติดธุระหรือติดอะไรกันแน่ถึงได้ทำตัวยุ่งขนาดนั้น
"ใครมันจะเหมือนมึง" คนมีเมียเป็นตัวเป็นตนอย่างวาฟิกซ์จะไปรู้อะไร มีเมียดีไม่พอทั้งยังเก่งและขยันอีก หาได้จากที่ไหนแบบนี้
"ทำใจนะน้อง พอดีพี่มันคนเอวหวาน"
"มั่นหน้ามาก" แม้อายุของพวกเขาใกล้จะเข้าเลขสี่แล้วก็ตาม ความจิกกัดทะเลาะกันเหมือนเด็กไม่เคยหายไปจากสองคนนี้เลยสักครั้ง ครูซจะนิ่งเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่กับเพื่อนเขาจะเป็นคนที่พูดมากที่สุด เหมือนทุกคนเป็นความสบายใจให้กับเขาไปแล้ว
"เป็นไงบ้างวะงานที่โกดัง" กวนพอได้ชื่นใจ หลังจากหาที่นั่งได้วาฟิกซ์จึงถามถึงเรื่องงานที่เพื่อนกำลังทำอยู่ แม้จะเป็นห่วงแค่ไหน แต่เขาเชื่อว่าครูซจัดการปัญหาได้แน่นอน
"เริ่มเข้าที่แล้ว" ตอบเสียงเรียบ
"ดีแล้ว"
"แล้วไอ้เจ้าของร้านมันไปไหน" ครูซถามหาเจ้าของร้านอย่างไมเนอร์ แขกมาเยี่ยมทั้งที ทว่าเจ้าของไม่ออกมาตอนรับ แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน
"มีปัญหาอะไรกับกู" เพิ่งพูดถึงไปหยก ๆ เจ้าของใบหน้าดุดันก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง
"นึกว่าไปแอบเอากับเด็กในร้านอีก" ครูซอดที่จะกระแนะกระแหนไมเนอร์ไปไม่ได้
"นั่นมันสันดานมึง" มีหรือคนโดนด่าจะสนใจ ครูซยกแก้วเหล้าในมือกระดกรวดเดียวหมด แม้เหล้าในแก้วจะคมบาดคอสักแค่ไหน แต่กลับทำอะไรอีกคนไม่ได้ เขาดื่มราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
"หึ" ถ้าให้พูดถึงความน่ากลัวในแก็งค์ ครูซคือคนที่น่ากลัวที่สุด ภายนอกดูเหมือนเข้ากับคนง่าย ทั้งที่ความเป็นจริงเขานั่นแหละคือคนที่ไม่ชอบเข้าสังคมเอาซะเลย ไมเนอร์กับไซลอนดูน่ากลัวตรงที่เป็นคนพร้อมพุ่งชนกับทุกเรื่อง บุคลิกนิ่งขรึมบวกไม่ชอบพูดคนเลยมองว่าทั้งสองนั้นดูน่ากลัว แต่หารู้ไม่ว่าครูซนั้นยิ่งกว่าปีศาจที่อยู่ในร่างคน เขามันพวกเจ้าเล่ห์แผนการ
"เรื่องนั้นกูให้คนจัดการแล้ว" วันก่อนมีคนบุกเข้าไปก่อกวนที่โกดังคลังสินค้าครูซ ไมเนอร์จึงสั่งคนของตนให้ไปจัดการ ไม่ใช่ว่าครูซไม่มีลูกน้อง เพียงแต่คนพวกนั้นต้องเป็นไมเนอร์เท่านั้นถึงจะเอาอยู่ เพราะมันคือศัตรูเบอร์หนึ่งของเพื่อนเขา
"อย่าโหดเยอะพวกมึงอ่ะ" วาฟิกซ์ผู้ไม่ชอบใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหาเอ่ยปรามเพื่อนทั้งสอง ครูซ ไมเนอร์และไซลอน สามคนนี้มีอะไรที่คล้ายกันเยอะโดยเฉพาะเรื่องฆ่าคน ทั้งสามทำเรื่องเหล่านั้นได้อย่างเลือดเย็น ครูซเหมือนคนใจดี แต่ตัวตนที่แท้จริงกลับเป็นคนที่ไม่เคยเห็นอกเห็นใจใคร เขาไม่มีทางก้มหัวให้ใครเด็ดขาด และที่สำคัญ..ไม่ชอบคนล้ำเส้น
"กูไม่ทำใครก่อน ถ้าไม่มายุ่งกับของ ๆ กู" เขาเน้นประโยคหลังให้ได้ยินชัดเจน อะไรที่มันเป็นของเขาแล้ว ไม่มีวันให้ใครหน้าไหนได้เข้าใกล้เป็นอันขาด
"ของที่ว่านี่คือเมีย?" หมายถึงมิเกล
"...." ครูซไม่ตอบ การเงียบของเขาคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
"เออ จะว่าไปช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเมียมึงเลยว่ะ" พอกลับมาคบกันครั้งนี้ มิเกลดูไม่สนิทกับใครเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยเห็นไปไหนมาไหนกับครูซสองต่อสอง ดูเก็บตัวอยู่แต่บ้าน นาน ๆ ถึงจะมาหาครูซที่บ้านที ส่วนใหญ่จะเป็นครูซที่เป็นฝ่ายไปหาเธอ พักหลัง ๆ ครูซเองก็เริ่มถอยห่างเพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับงานที่โกดังและบริษัท เลยกลายเป็นว่าทั้งสองแทบไม่มีเวลาให้กัน
"ทำงาน" มิเกลเธอมีบริษัทเป็นของตัวเอง มันอาจไม่ใหญ่มากแต่ก็เป็นที่รู้จักของผู้คนพอสมควร เธอเปิดบริษัทด้านออกแบบดีไซน์เสื้อผ้าแฟชั่น วัน ๆ อยู่แต่กับงานจนไม่มีเวลาให้กัน ซึ่งครูซเองก็ไม่เคยโวยวายแต่อย่างใด เขาเข้าใจว่านั่นคืองานของเธอ
"หึ" ไมเนอร์แค่นหัวเราะในลำคอราวกับไปรู้อะไรมา ครูซสบตาอีกคนนิ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี
"เมื่อไหร่สองคนนั้นจะมา" วาฟิกซ์ถามถึงเพื่อนอีกสองคนที่ยังไม่โผล่หน้ามา
"คิดถึงมันหรือไง" ไม่วายจะโดนครูซแซะ
"เสือก"
"วันนี้มึงเรียกเด็กมาเอา?" ครูซไม่แปลกใจที่ไมเนอร์จะรู้ ถือว่าปกติมากสำหรับพวกเขา จะว่าได้เอาไหมก็คงตอบได้เต็มปากว่าไม่ เพราะเขามารู้ทีหลังว่าเธอเป็นเพื่อนใครบางคน คนที่พยายามหลบหน้าเขาอยู่ช่วงนี้ สุดท้ายครูซต้องไล่หญิงสาวกลับแล้วเรียกเด็กในสต็อกตัวเองมาแทน และมีอีกเรื่องที่เขาไม่สามารถบอกใครได้..
"เบื่อ ๆ" ตัดปัญหาด้วยการตอบไปแค่นั้น รำคาญเรื่องไร้สาระ
"มึงไม่กลัวมิเกลรู้?"
"...." ถ้าเขาไม่อยากให้รู้ เธอก็จะไม่มีวันได้รู้มันเด็ดขาด และเชื่อว่ามิเกลไม่มีทางรู้แน่นอน
"เหี้xจริงเพื่อนกู"
"เลิกเสือกเรื่องกูได้แล้ว" ตั้งแต่มาทั้งสองยังไม่หยุดพูดเรื่องส่วนตัวเขาสักที อยากรู้อะไรกันนักกันหนา
แอดด
ซึ่งในขณะเดียวกัน.. ประตูห้องถูกผลักเข้ามาด้วยน้ำมือไซลอน ถัดไปก็เป็นมาร์คิสที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"ช้าจังพวกมึง"
"แวะทำธุระ" ไซลอนเดินไปนั่งข้างวาฟิกซ์ ส่วนมาร์คิสเลี่ยงไปนั่งยังที่ประจำตัวเอง
"กูอยู่ได้ไม่นาน" ไซลอนบอกกับทุกคน เขามีธุระต้องไปจัดการต่อให้เสร็จ ได้รับปากกับเพื่อนไว้แล้วเลยจำเป็นต้องมา เดี๋ยวมีมารผจญไปป่วนเขาอีก
"ไอ้วาฟิกซ์มาดวลเหล้ากับกูเลยมึง" ครูซที่ไม่รู้จะไปไหนจึงเรียกวาฟิกซ์ให้มาแข่งดวลเหล้ากับตัวเอง วันนี้รู้สึกเบื่อ ๆ เลยอยากหาอะไรทำแก้เบื่อสักหน่อย นั่นก็คือชวนเพื่อนดื่ม
"ทำไมต้องกู" นั่งกันอยู่เต็มห้องแต่ครูซเจาะจงมาที่เขาคนเดียว
"เห็นมึงดูเครียด ๆ" เพราะงานที่บริษัทค่อนข้างยุ่ง เนื่องจากใกล้วันงานเข้าไปเรื่อย ๆ วาฟิกซ์และไซลอนจำเป็นต้องอยู่จัดการกระทั่งมืดค่ำพวกเขาถึงได้กลับ พอเคลียร์เสร็จก็ตรงมาที่ผับไมเนอร์ทันที ส่วนไซลอนแยกไปทำธุระส่วนตัวก่อนจึงตามมาทีหลัง
"ก็นิดหน่อย"
"งั้นดีเลย มาแดกกับกู"
"เดี๋ยวเมา"
"เหล้าไม่ใช่น้ำเปล่าที่แดกแล้วไม่เมา"
"พวกมึงสองตัวเลิกเถียงกันสักวันจะตายไหม" ไมเนอร์ทนฟังอยู่นานต้องทนไม่ไหวเมื่อเริ่มรำคาญ คุยกันดู ๆ ดีสักครั้งไม่ได้เลยใช่ไหมถึงสรรหาแต่เรื่องมาจิกกัดไม่เว้นวัน คนทะเลาะไม่เหนื่อยแต่คนฟังนี่แทบก้มกราบแล้วนะ
"มันเริ่ม" วาฟิกซ์ชี้ไปที่ครูซ
"สันขวาน"