ชาติก่อน
สายลมแรงพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างรถม้าทำให้ม่านปลิวไสว เสียงคำรามจากท้องฟ้าดังขึ้นเป็นระยะ เม็ดฝนสาดกระเซ็นเข้ามาด้านในไม่หยุดหย่อน ในอ้อมแขนของสตรีโฉมสะคราญที่มีใบหน้าซีดเผือดคล้ายเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา มีทารกถูกห่อด้วยผ้าไหมสีทอง เสียงเด็กร้องไม่หยุดหย่อน ทำให้หัวใจของคนอุ้มเต้นระรัวด้วยความวิตกกังวลและหวาดกลัว
“อุแว้ อุแว้!”
“ลูกแม่ไม่ต้องกลัว ต่อให้วันนี้พวกเราจะหนีไม่รอด แม่ก็จะพาเจ้าไปจากที่นี่ให้ได้” ถางเมิ่งหรู พระชายาในจวิ้นอ๋องแห่งแคว้นเฉินกอดห่อผ้าที่มีทารกน้อยด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก พระนางอาศัยจังหวะที่เพิ่งคลอดบุตรเสร็จรีบให้คนช่วยพาหนีออกมาจากจวนอ๋อง เพราะถึงอย่างไรท่านอ๋องนั้นก็ไม่เคยสนใจไยดีกันอยู่แล้ว เขาเกลียดตระกูลถางมาก ถ้าหากรู้ว่านางให้กำเนิดบุตรออกมาเป็นเพศหญิง จะต้องหาเรื่องกำจัดพวกนางสองคนแม่ลูกอย่างแน่นอน
เสียงของทารกน้อยเงียบลงไป มือเรียวสวยปลอบประโลมตบห่อผ้าเป็นจังหวะช่วยขับกล่อมให้หมิงเอ๋อผ่อนคลาย รถม้าแล่นไปในความมืดด้วยความเร็วโดยไม่ได้มีคนติดตามมา ป่านนี้หานเถิงซีน่าจะคงอยู่ในงานเลี้ยง ซึ่งสถานที่ถูกจัดขึ้นในวังหลวง กว่าเขาจะรู้ข่าวพวกนางก็คงหนีออกจากแคว้นเฉินได้แล้วกระมัง
ระหว่างที่หลับตาลงพักผ่อน รถม้าก็โยกคลอนสั่นไปมา นางกำนัลที่ติดตามมาด้วยเลิกม่านเข้ามารายงาน “แย่แล้วเพคะ ข้างหน้ามีดินโคลนถล่มลงมาจากภูเขา” เมื่อนางกำนัลพูดจบ รถม้าก็ถูกดินโคลนพร้อมน้ำป่าไหลหลากซัดจนแตกออกเป็นสองส่วน
ช่างอาภัพยิ่งนักชีวิตของทารกน้อยเพิ่งได้มีโอกาสถือกำเนิดขึ้นมาไม่ถึงสองชั่วยาม แต่จำเป็นต้องสิ้นสุดลงในวันนี้
“พระชายาเพคะ” นางกำนัลกับคนขับรถม้ากระเด็นไปคนละทิศทาง ส่วนถางเมิ่งหรูก็ถูกน้ำป่าพลัดไปอีกทาง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงทารกน้อยที่ถูกสายน้ำป่าพรากออกจากอกมารดาไปอย่างรวดเร็ว
น้ำตาของผู้เป็นมารดาหลั่งรินก่อนที่น้ำจำนวนมากจะพรากชีวิตของพวกนางให้สูญสิ้นไป “ช่างน่าตลกยิ่งนัก! ข้าเพียงแค่อยากหนีให้รอดจากอ๋องไร้ใจผู้นั้น เหตุใดสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งกันด้วย...” สิ้นเสียงตะโกนถางเมิ่งหรูก็จมน้ำหายไป ฟ้าคำรามสนั่นไร้ซึ่งความเมตตาปรานี ไม่นานนางก็กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ ภายใต้น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากเขาด้วยความป่าเถื่อน ต่อให้มีเก้าชีวิตก็เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้
คำอธิษฐานจิตสุดท้ายของถางเมิ่งหรูก่อนจากไป ‘หากชาติหน้ามีจริงดั่งพุทธองค์ทรงกล่าวเอาไว้ ข้ากับลูกขอไม่เจอกับอ๋องไร้ใจผู้นั้นอีก’