“ทำไมติดต่อยากเย็นขนาดนี้เนี่ย เฮ้อ...เจ้านายของคุณกลับไปแล้วจริงๆเหรอ?”
น้ำเสียงอันไม่พอใจของอลิซ นางแบบสาวสวยคู่ควงคนล่าสุดของเพชรภีระดังขึ้นเมื่อเดินเข้ามานั่งลงข้างกายใหญ่ของเกรย์
“อืม กลับไปก่อนที่ผมจะกลับอีก...”
เกรย์ที่ตัดสินใจมาดื่มที่ผับด้วยความผิดหวังบอกขึ้น
“แล้วทำไมคุณมาอยู่นี่ล่ะ นึกว่าจะไปต่อกับสาวที่ทำงานด้วยกันซะอีก”
“หายไปไหนไม่รู้...อยู่ดีๆก็หายไป”
อลิซถามขึ้น เมื่อก่อนหน้านี้เกรย์อุตส่าเอามาโม้ให้เธอฟังว่าเจอเนื้อคู่แล้ว และวันนี้จะพาเนื้อคู่สาวไปจัดหนักหลังจากเสร็จงานเลี้ยงแต่ดันมานั่งดื่มอยู่คนเดียวแบบนี้
“หึหึ คุณอุตส่าวางแผนจัดหนักเอาไว้แท้ๆ เห็นทีคืนนี้เราคงต้องไปด้วยกันแล้วล่ะ”
สีหน้าและน้ำเสียงอันเย้ายวนบ่งบอกว่าถึงแม้จะไม่ได้เจอเพชรภีระแต่เธอก็ยังมีเกรย์คอยเป็นเพื่อนร่วมเตียงอยู่
“ไปหาคนอื่นเถอะ คืนนี้ผม...”
หมับ!
ปากที่กำลังบอกปฏิเสธถูกปิดลงเมื่ออลิซขยับเข้ามานั่งใกล้แล้วจูบลงที่ปากหยักโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเมื่ออลิซรู้ดีว่าเกรย์ไม่เคยหักห้ามใจได้เลยสักครั้ง
“จุ๊บ...จ๊วบๆๆ จุ๊บบ”
“ฮึ่ม...”
และก็เป็นอย่างที่อลิซต้องการเมื่อเกรย์ตอบสนองจูบของเธอกลับทันทีเช่นกัน เรียวลิ้นสากตวัดเข้าไปเชยชิมปากเล็กอย่างกระหายเมื่อความต้องการที่คิดว่าจะเอาไปลงกับตะวันกลับต้องเอามาลงกับอลิซแทน
มือใหญ่ตวัดโอบเอวคอดแล้วดึงให้เธอขึ้นมานั่งคร่อมกลางกายของเขาที่ตอนนี้เอ็นร้อนกำลังขยายใหญ่รอรับการสอดใส่เติมเต็มจากเธอ เขากดจูบหนักหน่วงอย่างไม่คิดถนอมเมื่อรู้ดีว่าคนบนร่างชอบแบบไหน
“จุ๊บๆๆๆ จ๊วบๆๆๆ อื้อ จุ๊บๆ”
ทั้งสองเฝ้าจูบซับแลกลิ้นหนักหน่วงอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว เมื่อรอบข้างก็ไม่ได้มีใครสนใจพวกเขาสองคนเช่นกัน เพราะถือเป็นเรื่องปกติของการร่วมรักหรือจูบกันในสถานที่แบบนี้
“อลิซไม่ไหวแล้ว อื้อ จัดการเลยสิ อ๊า ใส่เข้ามา อื้อออ”
ปากที่พึ่งเป็นอิสระกระซิบบอก ก่อนที่จะถูกสนองความต้องการด้วยเอ็นใหญ่ ที่เกรย์งัดเอามันออกมาจากกางเกงโดยไม่คิดอายเมื่อขนาดของมันนั้นทำให้เขาภูมิใจเสียด้วยซ้ำถ้าเกิดมีคนเห็น ก่อนจะดุนดันสอดใส่เข้าไปในร่องสาวที่ไร้ซับในเมื่ออลิซนั้นมักจะเตรียมพร้อมกับเรื่องแบบนี้ตลอดเวลาเธอจึงแทบไม่เคยสวมใส่ชั้นในให้เสียเวลา
สวบบบบบ
“อ๊าาาาา กระ...เกรย์ อื้ออออ”
“เป็นไง ใหญ่กว่าของบอสใช่ไหม”
“อ๊า ใช่ อื้อ ดีที่สุด อ๊ะ อื้อ”
เกรย์ที่สุดแสนจะภูมิใจในขนาดของตัวเองถามขึ้นเมื่อดันเข้าไปจนสุดร่องสาวแล้ว ก่อนที่อลิซที่ตอนนี้กำลังเสียวซ่านจะตอบรับในสิ่งที่เขาถามเมื่อรู้ดีกว่าเกรย์จะตอบสนองให้เธออย่างหนำใจถ้าเกิดเธอชื่นชมเขาทั้งๆที่อาจจะไม่เป็นความจริงก็ตามที แต่ด้วยสิ่งที่เธอต้องการทำให้เธอต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน
จากนั้นทั้งสองก็เริ่มบทรักหนักหน่วง เกรย์ใช้มือใหญ่ยกร่างเล็กให้ตอบสนองเขาโดยใช้ปากดูดซับเสียงครวญครางของเธอเอาไว้ จากนั้นไม่นาน ร่างสาวก็กระตุกเกร็งพร้อมๆกันกับที่ร่างใหญ่ปลดปล่อยน้ำรักออกมา ทั้งสองใช้เวลากว่าสิบนาทีก่อนที่จะพากันออกจากผับไปเพื่อไปต่อกันที่คอนโดของอลิซ เมื่อแค่ครั้งเดียวมันไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของพวกเขาได้
“ฉันจะไปเอง คุณก็ไปทำงานของคุณสิ”
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะเข้าศูนย์วิจัย นั่นก็ที่ทำงานของผม คุณลืมไปแล้วรึไง”
“ก็แล้วทำไมต้องอยากเข้าไปวันนี้ล่ะ ปกติก็ไม่เคยเห็นเข้า”
“อะไรกัน ผมเข้าไปทุกวัน แค่คุณไม่เห็นเอง”
“................”
เช้าวันต่อมา เสียงโต้เถียงกันดังขึ้นไม่หยุด เมื่อตะวันจะไปทำงานและเพชรภีระจะไปกับเธอด้วย ซึ่งปกติเธอไม่เคยเห็นเขาที่ศูนย์วิจัยทั้งๆที่เขาไปแอบดูเธอทุกวัน และพอรู้ว่าเขาไปที่นั่นทุกวันตะวันถึงกับอึ้งเงียบไปทันที สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ขึ้นรถไปทำงานกับเขาจนได้
“หือ? นั่น...นั่นบอสนี่ มากับซันเหรอ...”
เสียงพนักงานที่ศูนย์วิจัยที่เห็นว่าตะวันเดินลงมาจากรถของเพชรภีระเลยพากันพูดซุบซิบอย่างสงสัย ทำเอาตะวันที่พอจะรู้ได้แต่ถอนหายใจและพยายามเดินแซงเพชรภีระแต่ยิ่งเธอทำแบบนั้นเขาก็ยิ่งเดินเข้ามาประชิด
“บอกว่าให้เดินห่างๆไงล่ะ! เอ๊ะ! นี่คุณ”
ตะวันพูดออกมาเป็นภาษาไทยเพื่อไม่ให้ใครเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังพูดกับเขา
“อ่าว ผมก็แค่จะขึ้นลิฟต์”
“งั้นก็เดินไปก่อนสิ”
“อะไรกัน แค่เดินด้วยกันก็ไม่ได้รึไง”
“ไม่! เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด”
“หือ? ผิดเหรอ? ผิดอะไร ไม่มีอะไรที่ผิดนี่ ก็เราสองคน...”
“พอๆๆๆ ฉันเหนื่อยจะพูดกับคุณแล้ว”
สุดท้ายตะวันก็ต้องยอมแพ้สะบัดตัวเดินจ้ำอ้าวนำเขาไปที่ลิฟต์ ซึ่งเพชรภีระก็ไม่ได้ใส่ใจรีบเดินตามเธอไป เมื่อตอนนี้เขามีความสุขเหลือเกินที่ได้อยู่กับเธอ
“ทำไมสองคนนั้น...”
ทางด้านเกรย์ ที่พึ่งเดินเข้ามาและทันที่จะเห็นว่าตะวันเดินเข้าไปในลิฟต์กับเพชรภีระเลยอดมองอย่างสงสัยไม่ได้
“ใช่ไหมล่ะ สองคนนั้นน่ะมาทำงานด้วยกัน ฉันเห็นกับตา”
และเพื่อนร่วมงานที่เดินเข้ามาหาก็บอกขึ้นตามที่เห็น ยิ่งทำให้เกรย์มองไปที่ทั้งสองอย่างสงสัย ก่อนจะคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่อยู่ดีๆตะวันก็หายตัวไป ซึ่งมันก็เกิดขึ้นหลังจากที่เพชรภีระขอตัวกลับ
หรือว่าสองคนนั้น...
เกรย์คิดขึ้นมาในใจอย่างอดสงสัยไม่ได้ เมื่อมันช่างดูเหมาะเจาะจนเกินไป
“เดี๋ยวเย็นนี้ผมมารับ รอผมเข้าใจไหม?”
เพชรภีระบอกขึ้นหลังจากตื๊อเดินมาส่งตะวันถึงห้องทำงาน
“...................”
ตะวันไม่ตอบรับแต่เดินเข้าไปในห้องทำงานของเธอด้วยหัวใจที่เต้นรัว เมื่อตอนที่อยู่ในลิฟต์กันสองคนนั้นเขาดันดึงเธอเข้าไปจูบจนแทบขาดลมหายใจและยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระก็ตอนที่ลิฟต์เปิดออกนี่แหละ
ปึง...
“คนบ้า!!!”
พอเข้ามาในห้องตะวันก็อดต่อว่าเขาออกมาไม่ได้ มือเล็กยกขึ้นเช็ดปากตัวเองเมื่อรู้สึกว่าลิปสติกที่ทามาคงเลอะเทอะไปหมดแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผลั๊วะ!
“อะไรอีกล่ะ!...เอ่อ..เกรย์ มีอะไรเหรอคะ?”
ตะวันที่คิดว่าเป็นเพชรภีระที่เคาะประตูห้องทำงานของเธอเลยเดินมาเปิดพร้อมกับคิดว่าจะต่อว่าเขาเต็มที่ แต่กลับกลายเป็นเกรย์ที่ยืนอยู่ ทำเอาเธอเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน
“ผมแค่จะเอานี่มาให้...ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่า ดูคุณอารมณ์ไม่ดี”
เกรย์ถามขึ้นพร้อมกับยื่นกระเป๋าของเธอที่เขาเก็บเอาไว้เมื่อคืนมาให้ จนตะวันที่เห็นอดที่จะตกใจไม่ได้เมื่อเธอดันลืมมันไปเสียสนิทเลย
“ขอบคุณมากนะคะเกรย์ ฉันลืมมันไปเลย”
เธอเอ่ยขอบคุณเขาพร้อมกับยื่นมือไปรับมันมาแล้วเชิญเขาเข้าไปคุยกันในห้อง แต่เกรย์ปฏิเสธเมื่อเขามีประชุมต้องไปเตรียมเอกสาร
“เฮ้ออออ ลืมได้ยังไงกัน...”
ตะวันอดถอนหายใจอย่างหนักใจไม่ได้ เมื่อดันลืมกระเป๋าไปเสียสนิทเลยจริงๆ