Chapter 7

1475 คำ
สองวันต่อมา… พีเจตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ เขาเตรียมตัวจะออกไปบ้านของแพมเพื่อรับสองพี่น้องไปเที่ยวเล่นตามที่สัญญาไว้ เขาโทรศัพท์ไปหาหญิงสาวไว้แล้ว เธอเพิ่งตื่นแต่น้องพั้นช์ยังหลับอยู่เขาก็เลยมารดน้ำต้นไม้เล่นระหว่างรอเวลาออกเดินทาง “อารมณ์ดีอะไรแต่เช้าลูก อย่างกับคนมีความรัก” คนเป็นแม่เห็นลูกชายมีท่าทีแปลกไปก็อดแซวไม่ได้ นานแค่ไหนที่ไม่ได้เห็นเขาแบบนี้ ปกติจะเงียบครึ่มทำแต่งานจนคิดว่าจะขึ้นคานซะแล้ว “ก็ประมาณนั้นครับแม่” “จริงเหรอ นี่แม่แค่แซวเล่นนะไม่ได้คิดจริงจังเลย ไหนลองบอกแม่สิว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร” เขาปิดน้ำวางสายยางลงก่อนจะหันมาคุยกับคุณแม่ด้วยรอยยิ้มเอิบอิ่มไปด้วยความสุข คนเป็นแม่เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “แม่รู้จักดารายุคใหม่มั้ยครับ แม่ดูละครหรือเปล่า” “ดูสิ ตอนนี้ก็ดูอยู่” “ครับ เธอเป็นดาราชื่อแพม ไม่รู้ว่าแม่จะรู้จักรึเปล่าละครปัจจุบันที่เธอเล่นเป็นพีเรียด รักนี้นิรันดร์ดร แนวย้อนยุคนะครับแม่ที่เล่นเป็นนางเอก” คุณแม่ร้องอ่อออกมาทันที เธอกำลังติดละครเรื่องนี้อยู่พอดีนางเอกสวยมากแถมยังแสดงเก่งอีก อย่าบอดนะว่าลูกชายของเธอไปติดพันนางเอกนะ “อย่าบอกนะว่าลูกจีบคนนั้น” “ใช่ครับแม่ ตอนนี้เธอเพิ่งจะเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสายการบินของเรา ผมได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นบอกเลยนะครับว่าเธอน่ารักมาก พูดเก่ง สวยกว่าในทีวีเยอะเลยแถมยังฉลาดอีก ถ้าแม่ได้เจอรับรองว่าถูกใจแน่นอน” เขาพูดไปยิ้มไปจนคนเป็นแม่ชักอยากจะเจอตัวจริงซะแล้ว ผู้หญิงที่ทำให้ลูกชายของเธอเป็นได้ขนาดนี้แสดงว่าคงมีดีไม่น้อย แต่ก็ว่าไม่ได้เป็นถึงนางเอกดังสวยขนาดนั้น ไม่แปลกที่จะมีแต่คนชมชอบ แต่ถ้าลูกชายรักและจริงจังเธอก็ยินดีจะรับมาเป็นสะใภ้ “ไว้พามาเจอสิ พ่อเรานะอยากอุ้มหลานแล้ว จะหญิงชายตอนนี้ได้หมดขอแค่มีเถอะ จะทำอะไรก็รีบเข้าล่ะแม่เอาใจช่วย” เขาสวมกอดคุณแม่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ถ้าคุณแม่โอเคแค่นี้ก็ดีมากแล้ว เหลือแค่ทำให้หญิงสาวยอมรับรักเขาเท่านั้นเรื่องอื่นมันง่ายไปหมด “ครับแม่ ผมจะรีบทำให้เธอรับรักผม ถึงตอนนั้นผมจะขอเธอแต่งงานเลย” “เร็วทันใจจริงๆ” เขาหอมแก้มคุณแม่ก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถทันที ใช้เวลาเดินทางเกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย ตอนนี้แพมกับน้องพั้นช์กำลังเดินจับมือกันลงมาชั้นล่าง ทั้งสองคนแต่งชุดไปรเวทธรรมดาสวมหมวกคนละใบหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามา “สวัสดีค่ะอาพีเจ” “สวัสดีค่ะสาวน้อย วันนี้แต่งตัวน่ารักกันจังเลย” “น้องพั้นช์น่ารักค่ะ แต่พี่แพมเค้าเรียกว่าสวย” หนูน้อยร้องค้านออกมาเสียงหลง พี่สาวของเธอเป็นดาราดังใช้คำว่าน่ารักไม่ได้หรอก ยิ่งเธอเห็นพี่แพมแสดงละครในทีวีได้แต่งตัวสวยๆเธอก็อยากสวยแบบนั้นบ้าง “พี่แพมสวยเสมอสำหรับอาครับ” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน หญิงสาวยิ้มเขินก่อนจะปล่อยมือน้องพั้นช์ให้เดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พีเจอุ้มน้องพั้นช์ขึ้นมาก่อนจะพากันเดินออกไปขึ้นรถ วันนี้เขาพาเด็กน้อยไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าก่อนอันดับแรก จากนั้นค่อยคิดว่าจะพาไปที่ไหนต่อ “ไหนมีแบบชุดเจ้าหญิงให้อาดูมั้ยคะ” “มีค่ะ เมื่อคืนน้องพั้นช์ค้นหาในไอแพด พี่แพมช่วยดูค่ะ” “ต้องสวยมากแน่เลย” “สวยสิคะ พี่แพมคะน้องพั้นช์ขอดูรูปชุดเจ้าหญิงหน่อยได้มั้ย จะเอาให้อาพีเจดูค่ะ” เด็กน้อยหันไปอ้อนหญิงสาวเสียงออดอ้อน เธอหยิบโทรศัพท์มากดเปิดภาพแล้วส่งไปให้น้องพั้นช์ถือไว้ในมือ เมื่อถึงลานจอดรถพีเจก็ดูภาพที่หน้าจอโทรศัพท์ “ว้าว สวยจังเลย ว่าแต่มันจะมีร้านไหนนะ” “มีที่ชั้นสามค่ะ แพมไปซื้อให้น้องพั้นช์บ่อย” “โอเคงั้นไปกันเลยครับ” ทั้งสามคนกุมมือกันเดินไปชั้นสาม แพมที่แต่งตัวธรรมดาสวมแว่นตาใส่หมวกจึงไม่เป็นที่สังเกตเท่าไหร่ เมื่อมาถึงร้านที่ว่าพีเจก็อุ้มเด็กน้อยไปเลือกชุดเจ้าหญิงโดยมีแพมเดินตามอยู่ไม่ห่าง “ชุดนี้เลยค่ะอาพีเจ” “ได้เลย เอาชุดนี้ครับ น้องพั้นช์คะอาให้อีกสามชุดหยิบได้เลยค่ะ หรือจะเอาเยอะกว่านั้นก็ได้ไม่ว่ากัน” เด็กน้อยหันไปมองหน้าแพมก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ เธอแค่อยากได้ที่ชอบอีกอย่างพี่แพมสอนว่าอย่าเอาเปรียบคนอื่น แค่เขาใจดีซื้อให้ก็ดีมากแล้ว เราควรจะเอาแต่พอดี “พอแล้วค่ะ น้องพั้นช์เอาแค่นี้พอ” “ทำไมน้อยจังเลยคะ อาให้อีกนะไม่ต้องเกรงใจหรือว่ากลัวพี่แพมจะบ่น ไม่ต้องกลัวนะอาปกป้องหนูเอง” เขานั่งยองๆมองน้องพั้นช์ เกรงว่าพี่สาวจะพูดอะไรออกมารึเปล่าเด็กน้อยถึงไม่กล้าหยิบจับอะไรมากนัก หรือไม่ก็เกรงใจ “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือพี่แพมสอนไว้ว่าเราจะเอาแค่ที่อยากได้ก็พออย่าโลภมาก อีกอย่างตอนนี้น้องพั้นช์อยากได้แค่นี้ค่ะ” เขายิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กน้อย ถือว่าสอนกันมาดีมากเด็กถึงได้เป็นแบบนี้ ถ้าเขามีลูกขึ้นมารับรองว่าแพมจะต้องอบรมสั่งสอนลูกได้เป็นอย่างดี แบบนี้หายห่วงเลย “โธ่เอ้ย งั้นอาซื้อรองเท้าให้อีกคู่นะคะ แล้วจะยอม” “ได้มั้ยคะพี่แพม” เด็กน้อยหันไปมองพี่สาว แพมพยักหน้ายิ้มๆเป็นเชิงอนุญาต น้องพั้นช์ยิ้มออกมาทันทีก่อนจะจูงมือพีเจไปเดินเลือกรองเท้าอีกคู่ จากนั้นทั้งสามคนก็ขับรถออกจากห้างแล้วไปหาร้านไอศกรีมทาน ไม่อยากอยู่ที่ห้างนานเพราะกลัวจะมีคนจำแพมได้ “ร้านนี้อร่อยนะมีไอศกรีมเยอะมาก น้องพั้นช์เลือกได้เลยค่ะ” เขาส่งเมนูให้เด็กน้อยไม่ลืมที่จะส่งไปให้หญิงสาวด้วย เธอเอ่ยขอบคุณก่อนจะสั่งสิ่งที่ชอบ “เอามะม่วงค่ะ” “ชอบกินไอศกรีมมะม่วงเหรอครับ แปลกที่เราชอบเหมือนกันเลย” เขาเท้าคางเอ่ยถามหญิงสาว เธอพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “เมื่อก่อนก็ไม่ได้ชอบค่ะ แต่ว่าคนที่แพมชอบเขาชอบกินก็เลยลองกิน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นชอบไปเลย” เขาทำหน้าสลดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างตัดพ้อ “อิจฉาคนที่คุณแพมชอบจัง ผมอยากได้ยินว่าคุณชอบผมแบบนี้บ้าง” “ไม่ต้องไปอิจฉาหรอกค่ะอีกอย่างเรื่ิองมันก็นานมากแล้ว ตอนนี้ถือซะว่าแพมชอบเหมือนป๋าเจแล้ว แปลกดีนะคะเราชอบอะไรเหมือนกันแทบทุกอย่างเลย ใจตรงกันด้วย” “เรื่องความชอบมันไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนกันทุกอย่างก็ได้ แต่ว่าเรื่องหัวใจมันต้องตรงกันนะครับคุณแพมว่ามั้ย” เขามองสบตาเธออย่างสื่อความหมาย แพมยิ้มออกมาบางๆก่อนจะวางเมนูลงที่โต๊ะ “บางทีมันอาจจะตรงกันแล้วก็ได้นะคะ” “คุณแพมหมายความว่ายังไงครับ” เขาเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น หญิงสาวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหันไปคุยกับน้องพั้นช์แทน “น้องพั้นช์กินไอศกรีมมะม่วงมั้ยคะ” “ไม่ชอบค่ะ น้องพั้นช์ชอบกินช็อกโกแลต มะนาว สตรอว์เบอร์รี่ค่ะ” พีเจที่ไม่ได้คำตอบก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ใจแข็งจริงๆเมื่อไหร่เธอจะยอมรับรักเขาซักทีเนี่ย ‘ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่งรู้จักกันก็เถอะ แต่ว่าเขาใจร้อนนี่นา เฮ้อ!’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม