จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด เธอกลับพูดออกมาเสียยืดยาวอย่างน่าสงสาร เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากอุ้งมือมาร จนเสือร้ายอย่างเอริคถึงกับใจอ่อนยวบลง เมื่อได้ฟังคำที่หญิงสาวผู้น่าสงสารพูดจนจบประโยค
‘ตัวเล็กๆ แค่นี้รู้จักพูดเอาตัวรอดเป็นเสียด้วย เขาประเมินค่าหล่อนผิดไปจริงๆ’ กายแกร่งยืนขึ้นเต็มความสูง จ้องมองร่างบอบบางที่รีบลุกขึ้นไปยังประตูและเปิดมันออก คล้ายกับจะพยายามไล่เขาออกไปจากห้องอย่างกรายๆ แม้ว่าปากของเธอจะไม่พูด แต่สายตาคู่สวยกับการกระทำของหล่อนกำลังขับไล่เขาอย่างชัดเจน ให้เขารีบออกจากห้องไปไวๆ
เจ้าของร่างสูงกำยำถอนหายใจหนักๆ ออกมา ส่ายหน้าเล็กน้อยเพราะเสียอารมณ์ ทั้งๆ ที่เขาสามารถเขมือบหรือสามารถที่จะทำอะไรหล่อนก็ได้ แต่เขากลับทำไม่ลง ชายหนุ่มเริ่มจะไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ว่าเขากลายเป็นสุภาพบุรุษไปตั้งแต่เมื่อไหร่
‘บ้าชะมัด!’
อลิชชารีบปิดประตูและกดล็อก หัวใจของเธอยังเต้นตึกตักอยู่เลย ทั้งกลัวทั้งหวาดหวั่น กลัวว่าตนเองจะไม่รอด กลัวว่าเขาจะไม่ยอมฟังที่เธออ้อนวอน แต่พอเอริคใจอ่อนยอมปล่อยเธอออกจากกรงแขนของเขา หญิงสาวถึงกับหอบหายใจเหมือนคนที่เพิ่งจะรอดตายมาหมาดๆ หวังว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป คงจะไม่เกิดเหตุการณ์น่าหวาดเสียวแบบนี้อีกนะ
“คุณเอริค ฉันหวังว่าคุณคงจะไม่ทำกับฉันแบบนี้อีกนะคะ” หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ พิงหลังกับประตูบานใหญ่ พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปนอนบนเตียงกว้าง ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องตลอดเวลา
ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ห้องข้างๆ จะเข้าห้องนอนไปหรือยัง ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงหลายนาที จึงได้ลุกขึ้นมายืนอยู่ริมหน้าต่าง พลันสายตาก็ก้มลงไปเห็นรถสีบรอนซ์มันปลาบแล่นออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว
‘เขาไปไหน หรือว่าพอเขาไม่ได้เธอเขาก็เลย ออกไปหาที่ระบายกับผู้หญิงคนอื่นอย่างงั้นหรือ’ พอคิดเดาส่งเดชแบบนี้ หัวใจของเธอก็ชักจะไม่เป็นสุข มันร้อนรนวูบวาบในหัวใจแปลกๆ
ร่างบางที่ยืนพิงอยู่ริมหน้าต่าง รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก มือเย็นขึ้นมาเล็กน้อย นี่เธอกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ ความรู้สึกเหมือนแฟนกำลังจะนอกใจเลย แต่ว่าเอริคไม่ใช่แฟนของเธอนี่ แล้วทำไมเธอจะต้องรู้สึกแบบนั้นด้วย เขาจะไปไหนก็เรื่องของเขาสิ เธอจะต้องไปแคร์ทำไม
ไม่ใช่ว่าอลิชชาจะไม่เคยชอบใครมาก่อน สมัยที่เธอยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอก็เคยคบกับเพื่อนชายคนหนึ่ง เขาดูดี ใจดี และเรียนเก่ง เป็นรุ่นพี่ที่คอยติววิชาเรียนให้ตลอด แต่เมื่อเธอกับเขาตกลงคบกันเป็นแฟนเพียงแค่ไม่ถึงเดือน และวันนั้นก็เป็นวันวาเลนไทน์พอดี เขาขอมีอะไรกับเธอ แต่เธอไม่ยอม เขาก็เลยเปลี่ยนใจไปคบกับเพื่อนของเธอแทน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หญิงสาวก็ยังไม่คิดที่จะเปิดใจมีใครอีกเลยมาจนถึงวันนี้
เธอเดินทางจากเมืองไทยมาที่ปารีส ก็เพื่อออกมาตามหาพ่อผู้ให้กำเนิด เธอเซ็นสัญญาเป็นลูกจ้างเขาก็เพราะความจำเป็น เธอกับเอริคเพิ่งรู้จักกันได้สองวันเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะมีจิตพิศวาสต่อเขาในเวลาอันรวดเร็วปุบปับแบบนี้ พอคิดได้ดังนั้นร่างบางก็เดินมานอนบนเตียงนุ่มอีกครั้ง แล้วก็หลับไปในที่สุด
เวลาประมาณเที่ยงคืน อลิชชาก็ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ แต่แสงไฟจากตารถสองข้างสาดส่องมากระทบทางหน้าต่าง ทำให้หญิงสาวต้องเดินเข้าไปแหวกผ้าม่านดู ก็เห็นแอสตันมาตินคันหรูกำลังขับเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้านอย่างรวดเร็ว และจอดกึกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินโงนเงนไปมาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
แม่บ้านผู้สูงวัยเดินออกไปรับเจ้านายหนุ่ม ลัวโซต้องคอยประคองร่างหนาไม่ให้ล้มตรงทางขึ้นบันไดตรงหน้าบ้าน อลิชชาเห็นเข้าจึงรีบเดินลงไปดู เผื่อว่าจะช่วยอะไรแม่บ้านลัวโซได้บ้าง เพราะท่าทางของเอริคคงจะเมาจัด
“คุณแม่บ้านคะ ให้อริสช่วยมั้ยคะ” อลิชชาถามหลังจากที่เห็นแม่บ้านลัวโซพาคุณชายของเธอมานอนแผ่อยู่บนโซฟา โดยดวงตาของชายหนุ่มแทบจะไม่ลืมเลยด้วยซ้ำ แต่ร่างหนาก็พยายามที่จะลุกขึ้นนั่ง
“ลัว...โซ พาผมขึ้นปายนอน...ในห้องนอน...หน่อยสิ” เสียงห้าวฟังดูอ้อแอ้เต็มที
“ได้ค่ะ อริสช่วยฉันพาคุณชายไปนอนที่ห้องของเขาหน่อยนะ” หญิงชราหันมาขอความช่วยเหลือเด็กสาว เพราะไม่อยากปฏิเสธน้ำใจของสาวน้อย
“ได้ค่ะคุณแม่บ้าน” แล้วอลิชชาก็เดินมาหิ้วปีกอีกข้างของคนตัวโตที่เมาไม่ค่อยจะรู้เรื่องขึ้นไปยังชั้นสอง และตรงไปยังห้องนอนของเขา
อลิชชากับแม่บ้านลัวโซค่อยๆ วางร่างที่แสนหนักอึ้งนั้นลงบนที่นอนไม่ค่อยจะเบานัก เพราะเขาตัวโตมาก ขนาดแรงผู้หญิงสองคนช่วยกันหามก็ยังหิ้วมาลำบากขนาดนี้ อลิชชาไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าปล่อยให้คนแก่ๆ อย่างแม่บ้านลัวโซหิ้วปีกเขาขึ้นมาบนห้องคนเดียว จะทุลักทุเลมากแค่ไหน
“เอ่อคุณแม่บ้านคะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว คุณแม่บ้านไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวที่เหลือให้อริสจัดการให้เอง” สาวน้อยรับอาสา เพราะสงสารคนแก่ที่ต้องมาดูแลคนเมาดึกๆ ดื่นๆ แต่เธอยังวัยอ่อนกว่า หนำซ้ำในสัญญาเธอก็คือลูกจ้างของเอริคคนหนึ่ง ก็เลยคิดอยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง
“เธอแน่ใจนะ ว่าทำคนเดียวได้” อลิชชากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะตอบแม่บ้านว่า
“แน่ใจค่ะ”
“ตกลง ฉันยกหน้าที่ดูแลคุณเอริคให้เธอก็แล้วกัน เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารและทำงานบ้านแต่เช้า ส่วนเธอก็คงต้องเตรียมตัวรับการเทรนจากคุณซานดร้าที่จะมาถึงในตอนเช้าเหมือนกัน แต่คงสายๆ หน่อย ฉันขอตัวนะ”
“ค่ะ” อลิชชาขานรับเสียงเบาหวิว รู้สึกหนักใจกับหน้าที่ที่เธออาสารับทำเองเหมือนกัน