ณัฐวุฒิเลิกคิ้วขึ้น “ลวนลาม” เขามองเธอตั้งแต่ศีรษะไล่ลงไปตามคอ หน้าอก เอว และชายกระโปรง “เสียมือผมเปล่าๆ” เขายกมือหนึ่งขึ้นบีบรีบฝีปากบนล่างของเธอเข้าหากัน “ถ้าคุณกล้าเรียกจิกหัวผมอีก ผมจะบีบปากคุณให้มันเขียวไปเลยดีไหม?”
หญิงสาวพยายามดิ้น ใช้มือผลักและข่วนเขา ณัฐวุฒิยังคงบีบปากเธอแน่นแล้วรวบเอาสองแขนไว้ด้านหลัง กดเธอลงกับโซฟา หน้าอกของเขาแนบอยู่กับหน้าอกของเธอ ลมหายใจร้อนๆ ของชายหนุ่มพ่นอยู่ใบหู น้ำฟ้าอับอายจนใบหน้าร้อนผ่าว เมื่อรู้ว่าสู้เขาไม่ได้ เธอจึงหยุดดิ้น
“ดี รู้จักสงบแบบนี้ผมจะยอมปล่อย”
เธอกระพริบตา เจ็บไม่เท่าไหร่แต่โมโหที่ตนเองสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้จนน้ำตาจะไหลเพราะความโมโห น้ำฟ้าส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ
“ได้ ผมจะปล่อย” เขาเห็นใบหน้าของเธอแดงระเรื่อก็รู้สึกว่าตัวเองทำรุนแรงเกินไป
พอณัฐวุฒิลุกขึ้นจากร่างของน้ำฟ้า เธอก็ลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องไม่ยอมเหลียวหลัง เธอนึกโมโหให้ตนเองที่ไม่ยอมจดจำว่าคนอย่างณัฐวุฒินั้นร้ายกาจเพียงใด ต่อไปอย่าเจอเขาอีกเป็นหนทางที่ดีที่สุด
งานเลี้ยงประจำปีที่วิลล่าแห่งใหม่ในจังหวัดตราด มีพนักงานบริษัทวินเนอร์เบฟเวอเรจและบริษัทสกายกิฟต์ที่เป็นบริษัทกาแฟน้องใหม่ภายใต้การบริหารงานของธนาเข้ามาร่วม
แต่เดิมธนาบุกเบิกธุรกิจน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง มาก่อน ต่อมาเริ่มผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพออกจำหน่าย และตอนนี้เขาสนใจในธุรกิจกาแฟจนเข้าสู่บริษัทเล็กๆ ที่ชื่อสกายกิฟต์มาพัฒนาเป็นแบรนด์ร้านกาแฟพรีเมี่ยมและโรงงานกาแฟสำเร็จรูป
น้ำฟ้าขับรถตามมาทีหลัง พอมาถึงวิลล่าเธอเห็นท้ายรถสปอร์ตคันหรูของเกวลินก็นึกหงุดหงิด
“คุณฟ้าค่ะ อย่าเพิ่งแซงค่ะ ใกล้จะถึงแล้ว” พนักงานหญิงที่เธอให้ติดรถมาด้วยคอยดูแอพพลิเคชั่นนำทางชี้ให้ดูประตูทางเข้า
“เกวอีกแล้ว ฉันล่ะเกลียดน้ำหน้ายายคนนี้นัก ถ้ามันเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องฉันจริงๆ ฉันต้องเอาคืนแน่”
เธอจอดรถในช่องที่อยู่ใกล้กับรถของเกวลิน พนักงานต้อนรับรีบมารับกระเป๋า เธอสั่งให้ผู้ติดตามเอากระเป๋าไปเก็บ ส่วนตนเองก็สอดส่ายสายตามองหาธนา มองไปลานจอดรถก็ไม่มีรถของธนาจึงเดินไปยังร้านกาแฟที่แยกอยู่ส่วนหน้าของโรงแรม ทักทายพูดคุยกับคนรู้จักในบริษัท
“คุณฟ้า ไปดูเขาแข่งกีฬาฮาเฮกันทางโน้นไหมคะ?” ผู้ติดตามชี้ไปยังชายหาด พนักงานกลุ่มใหญ่ในชุดลำลองกำลังรวมตัวกัน
“ไปสิ นั่งอยู่แต่ในร้านกาแฟก็น่าเบื่อเหมือนกัน” น้ำฟ้าลุกขึ้น ตั้งแต่มาถึงเธอยังไม่เห็นศัตรู นึกสบายเพราะคิดว่าเขาน่าจะมาพร้อมกับธนา
แต่พอเดินไปถึงชายหาดก็เห็นร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบถือโทรโข่งกำลังประกาศให้พนักงานเข้าแถวเพื่อแบ่งทีมในการแข่งขัน เธอหันหน้าหนีแต่เห็นเกวลินเดินมายืนอยู่อีกด้าน
“วันนี้ฉันต้องคุยกับพี่นาให้รู้เรื่อง สี่ปีก่อนคนที่ใช้ยาแบบนั้นกับพี่นาไม่ใช่ฉัน ทำไมฉันต้องถูกกล่าวหาด้วย?”
“คุณนาจะยอมคุยกับคุณฟ้าเหรอคะ?”
“ฉันคงต้องบุกไปเคลียร์กับพี่นาถึงห้องนั่น เรื่องอะไรจะให้เกวลินลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างพี่นา”
ธนามาถึงตอนแดดอ่อนแสง เขาแต่งตัวด้วยชุดลำลองดูแปลกตา เกวลินถลาเข้าไปรับ ส่วนน้ำฟ้าได้แต่มองดูห่างๆ ธนาเคยประสบอุบัติเหตุรถบรรทุกชนจนต้องผ่าตัดสมอง แม้จะกายภาพบำบัดและพักรักษาตัวอยู่นับปีแต่เขายังมีอาการปวดหัวและอารมณ์เกรี้ยวกราด โดยเฉพาะกับเธอ
“คุณฟ้าไม่ไปคุยกับคุณนาเหรอคะ?”
“ไม่ได้ ถ้าเข้าไปตอนนี้เกิดพี่นาเสียงดังใส่ฉันขึ้นมา ฉันก็เสียหน้าแย่ รอให้คนน้อยๆ ค่อยเข้าไปคุย”
ในสายตาของน้ำฟ้า ธนาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหล่อ เรียนเก่ง และร่ำรวย เหมาะที่จะเป็นสามีของเธอที่สุด ในเมื่อทุกคนต่างยกย่องเขา หากเธอได้แต่งงานกับธนาก็จะได้รับการยอมรับไปด้วย
น้ำฟ้าพยายามขยับไปนั่งร่วมโต๊ะเดียวกับธนา แต่ที่นั่งของเธอก็ยังอยู่ห่างจากเขาโดยมีคนอื่นนั่งคั่น ท่านประธานบริษัทวินเนอร์มาในชุดลำลองทำให้ดูหล่อเหลาเหมือนดาราหนุ่มมากกว่าจะเป็นนักธุรกิจ
บนเวทีมีการประกาศผลขวัญใจกิจกรรม คนที่ได้รางวัลก็คือผ่านภพ วิศวกรหนุ่มจากโรงงานกาแฟและทักษพรพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทสกายกิฟต์
“คุณฟ้า ท่านประธานทำไมหน้าตึงจังคะ? มองดูคู่ขวัญเหมือนไม่พอใจเลยล่ะค่ะ หรือว่าข่าวลือนั่นจะเป็นความจริง?”
“ข่าวลือ? ข่าวลือไหน?”
“ก็ข่าวที่ว่าท่านประธานชอบพนักงานหญิงของสกายกิฟต์ น่าจะเป็นทักษพรคนนี้นี่ล่ะค่ะ ข่าวว่าคุณภัทรเองก็ชอบด้วยนะคะ”
“จริงเหรอ?” น้ำเสียงของน้ำฟ้าเบาโหวง เธอจ้องผู้หญิงที่ยืนอยู่กลางเวที “ก็รูปร่างหน้าตาดีอยู่หรอก แค่พนักงานธรรมดา พี่นาจะชอบเหรอ?”
“ได้ยินว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกติดคนหนึ่งด้วยนะคะ”
“หา!” น้ำฟ้ารีบยกมือขึ้นปิดปาก ดีที่เธอไม่ได้ส่งเสียงดังมากนัก “ไม่ได้ๆ ฉันต้องรีบปรับความเข้าใจกับพี่นา”
เกวลินเดินตามธนาขึ้นเวที เลขานุการหญิงของเกวลินถือลังไวน์ตามหลังขึ้นไป ธนามอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะและพนักงานที่ถูกสุ่มจากระบบการลงคะแนนผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ
“พี่นาคะ เกวขอมอบรางวัลเพิ่มให้ผู้ชนะด้วยนะคะ” เกวลินยื่นผายมือไปยังลังไวน์ที่เลขาของตนถืออยู่ “ไวน์องุ่นเลิศรสจากไร่ของครอบครัวเกวเองค่ะ”
ธนาพยักหน้าอนุญาต เกวลินได้รับการปรบมือโห่ร้องชื่นชมจากคนข้างล่าง น้ำฟ้าหน้าเสีย
“หมั่นไส้ ดูมัน มันทำเหมือนเป็นแฟนกับพี่นาแล้ว”
“ใจเย็นๆ ค่ะคุณฟ้า ก็แค่มอบรางวัล ดูจากสายตาท่านประธานแล้ว ไม่ได้คิดเกินเลยกับคุณเกวแน่”
“จริงนะ” น้ำฟ้าค่อยสีหน้าดีขึ้น เธอตั้งใจตามธนามาเพื่อปรับความเข้าใจโดยเฉพาะ
ธนาเดินกลับลงมานั่งที่โต๊ะ น้ำฟ้าอยากจะเอาใจแต่กลับทำพลาด เธอหยิบขวดไวน์หวังจะรินให้ธนาด้วยตนเองแต่กลับทำปลายขวดปัดไปถูกแก้วไวน์ตกลงไปโดนเสื้อผ้าจนเลอะเทอะ
“พี่นา ฟ้าไม่ได้ตั้งใจค่ะ”
ธนาขมวดคิ้ว สีหน้าฉุนเฉียว พยายามรักษามารยาทด้วยการข่มเสียงให้ต่ำลง “ไม่เป็นไร” เขาหันไปมองคนในโต๊ะ “ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”
ณัฐวุฒิรีบตามธนาออกไป เขาได้พักในวิลล่าหลังน้อยที่อยู่ด้านหลังฝั่งเดียวกับกลุ่มของทักษพร ตอนนี้วิลล่าน้อยถูกธนาขอไปพักแทนแล้วเพื่อหลบหนีความวุ่นวายจากเกวลินและน้ำฟ้า ส่วนเขาต้องย้ายไปพักบนห้องพักสุดหรูที่อยู่บนสุดของอาคารใหญ่
“แกไปดูแลข้างใน คอยระวังอย่าให้มีคนรู้ว่าฉันนอนห้องไหน?”
“ครับ” ณัฐวุฒิถอยกลับไปเห็นน้ำฟ้ากำลังจะเดินออกจากบริเวณจัดงานพอดี เขาจึงรีบเดินไปขวาง “จะรีบไปไหนครับคุณฟ้า?”
“ไม่ใช่เรื่องของแก ถอยไป” น้ำฟ้านึกโมโหไม่หาย เป็นเพราะเธอถูกณัฐวุฒิบีบปากเมื่อวันก่อน แม้จะหายเจ็บแล้วแต่ความเจ็บใจยังคงอยู่
“กลับเข้าไป ไม่งั้นผมจะหักขาคุณซะ”
น้ำฟ้าได้ยินน้ำเสียงของณัฐวุฒิก็ตกใจ ฟังดูแล้วไม่เหมือนกับการข่มขู่ เธอถอยกลับเข้าไปในงานเลี้ยงและกระแทกก้นลงบนเก้าอี้ด้วยความโมโห
“รินไวน์ให้ฉันหน่อย” เธอยกแก้วไวน์ขึ้น
เกวลินที่นั่งอยู่ถัดไปสองที่นั่งยิ้มเยาะ มองดูน้ำฟ้าที่ดื่มไวน์องุ่นแบบยกไม่ยั้ง “มีอีกหลายขวดนะ น้ำฟ้า ถ้าชอบดื่มมาก ฉันยกให้”
คนถูกเยาะ วางแก้วลงบนพื้น “ได้ ที่เหลือฉันจะดื่มเอง มีอีกสักลังไหมล่ะ?”
ธนาอาบน้ำแต่งตัวแล้วกลับเข้ามายังบริเวณงานอีกครั้ง น้ำฟ้ามองตามสายตาของธนาก็เห็นว่าแอบเหลือบมองไปทางทักษพรหลายครั้ง พนักงานหญิงแห่งสกายกิฟต์กำลังพูดคุยกับผ่านภพอย่างถูกคอ แววตาและท่าทางของธนาแสดงออกชัดว่ากำลังเคืองที่เห็นชายหญิงคู่นั้นสนิทสนมกัน
*******************