"อย่าลืมมารับด้วย แม่นัดห้าโมงเย็น"
พี่คิงพยักหน้ารับแล้วปล่อยให้เธอลงไปจากรถ ส่วนคำถามที่เขามีเงินหรือเปล่า เอาไว้ดูไปก่อน ถ้าเขาไม่มี พรุ่งนี้คงดูออกจากการใช้จ่าย ไหนจะค่าเยเย้กันอีก ถ้าเหลือแสนเดียวจริง ๆ คงเอาไม่อยู่หรอก
ที่คิดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเธอเห็นแก่เงินนะ แค่จะดูว่าเขาจนจริงหรือมาเวจนเพื่อลองใจเธอ เพราะถ้าไม่มีจริง ๆ เธอก็พร้อมโอนเงินคืนให้ และยกเลิกแผนที่เราตกลงกันเอาไว้ เขาจะได้ไม่ต้องหลอกแม่ และไม่ต้องเสียเงินกับเรื่องพวกนี้ด้วย [เนี่ย! วิญญาณคนดีเข้าสิงอีกแล้ว เดี๋ยวนักอ่านก็คิดว่าเป็นนางฟ้า ไม่ใช่นางเอก เเฮ่!]
อย่าเบะปากหมั่นไส้สิ นี่นางเอกไง~ (>0<)
"โอ๊ะ! ไอ้คิม"
ระหว่างที่กำลังคิดถึงเรื่องดี ๆ ไอ้คิมก็เดินออกมาจากลิฟต์อีกตัว เธอไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปกระโดดขี่คอคนตัวสูงอย่างสนิทสนม ซึ่งมันก็ยอมให้ขี่แต่ดูนิ่ง ๆ จนเธอต้องมองตามสายตาที่มันจ้องมองอยู่เบื้องหน้า
พรึบ!
คนตัวเล็กรีบกระโดดลงทันที เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นแม่ของไอ้คิม ที่เคยบอกว่าเหมือนคุณนาย และตอนนี้เกือบจะตีสามแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอแม่มัน
"สวัสดีค่ะ"
เธอยกมือไหว้แต่แม่มันไม่รับไหว้ แถมยังมองลูกชายด้วยสายตาตำหนิติเตียน ยิ่งทำให้เธอไปต่อไม่ถูก สภาพตัวเองก็ไม่ได้พร้อมจะรับมือกับใคร ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นของพี่คิง หน้าตาก็ไม่ได้แต่ง
"กูขึ้นห้องไปเลยได้ไหม..."
ถามเสียงแผ่วให้ได้ยินกันแค่สองคน
"อืม เดี๋ยวกูตามไป"
พอได้ยินประโยคนั้น ร่างเล็กก็รีบเอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกลิฟต์ลงมา พอลิฟต์เปิดออก เธอก็เดินเข้าไปท่ามกลางสายตาสองแม่ลูกที่มองกัน แต่ไม่พูดอะไรสักคำเลย นี่ไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบนะ แต่แม่พี่คิงเป็นมิตรกว่าเยอะ ไม่ต้องมายืนเกร็งเป็นหินแบบนี้ด้วย
"ติ๊ด!" เปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วพุ่งตรงไปล้มตัวนอนบนเตียงสีแดงฉาด ไม่รู้ว่าไอ้คิมจะตามขึ้นมาไหม แต้ถ้าตามขึ้นมาเดี๋ยวมันก็เปิดประตูห้องเธอเอง
"ติ๊ด!" ไม่ถึงสิบนาที เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ไอ้คิมเดินเข้ามาแล้วหยิบกระจกพกพาบนโต๊ะมาให้เธอดูรอยดูดที่ต้นคอตัวเอง ซึ่งมันเยอะมากจนน่าเกลียด
"เดี๋ยวนี้มึงปล่อยตัวเกินไปแล้วนะ" มันไม่พูดถึงเรื่องแม่ แต่พูดถึงเรื่องเพื่อนที่กลับมาในสภาพแบบนี้
"กูไปกับพี่จ๋า"
"พี่จ๋ากลับมาตั้งนานแล้ว เขาบอกว่ามึงไปผู้ชาย" เธอพยักหน้าหงึก ๆ แล้วลุกขึ้นไปนั่งคุยกับมันเรื่องแม่
"ทำไมแม่มึงมาเวลานี้วะ?"
"ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น"
"มึงก็ไม่ต้องสนใจเรื่องกีของกู กูบอกแล้วไงว่ากูหยุดไม่ได้แล้ว กูสบายใจที่จะเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อย ๆ มึงเข้าใจกูป่ะ?" เจ้าของใบหน้าสวยสวนกลับ ถึงแม้ว่าจะไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม แต่ก็ยังมีเสน่ห์แพรวพราวจนเพื่อนสนิทอย่างไอ้คิม ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ สุดท้ายมันก็ถอนหายใจแล้วนั่งลงบนเตียงนุ่ม
"เห้อ...กูไม่อยากทะเลาะกับมึง"
"กูก็ไม่อยากทะเลาะกับมึงเหมือนกัน งั้นเรามานอนกันไหม จะเช้าแล้ว กูโคตรง่วงเลย" ในเมื่อมันไม่อยากเล่าเรื่องแม่ เธอก็จะไม่ไปเค้นถามและเลือกที่จะล้มตัวลงนอน แล้วตบนฟูกเบา ๆ ให้มันลงมานอนด้วย
พรึบ~
ไอ้คิมถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวไปพาดบนหัวเตียง แล้วลงมานอนข้าง ๆ เธอ ก่อนจะหันดวงหน้าสวยเอียงข้าง
"กูไม่ชอบรอยพวกนี้เลย"
"เหอะหน่า มันอยู่บนคอกู อะ อื๊อ!"
เปรี้ยวร้องเสียงหลงเมื่อถูกเพื่อนรักดูดทับรอยเดิม จากที่รู้สึกแสบอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแสบกว่าเดิมอีก!
"มะ มึงมาดูดคอกูทำไมเนี่ย!?"
"มึงอยู่นิ่ง ๆ ไปเหอะ" มันชันตัวขึ้นคร่อม พลางกดมือทั้งสองข้างลงเตียง แล้วดูดทับทุกรอยที่อยู่บนต้นคอ ไม่ให้เหลือร่องรอยจากชายอื่นแม้แต่รอยเดียว
"ซี้ด!"
เสียงซี้ดซ๊าดดังขึ้นจากคนตัวเล็ก รู้ตัวอีกทีไอ้คิมก็เลื่อนริมฝีปากแนบแก้มใส เตรียมจะจูบปากในอีกไม่ช้า เธอที่ไม่อยากให้มันทำโดยขาดสติก็รีบห้ามไว้
"มะ มึงอย่า"
"ทำไม"
"มึงเป็นเพื่อนกูนะเว้ย"
"ไหนมึงบอกว่าพร้อมเป็นเมียกูไง"
"โถ่~ มึงก็รู้ว่ากูพูดเล่น"
"แต่กูไม่เล่น"
เชี่ย...แม่งเอาจริงป่ะเนี่ย!?
"กูเข้าใจที่มึงทำตัวแบบนี้นะเปรี้ยว มึงไม่อยากเป็นเหมือนแม่มึง มึงไม่อยากผูกมัดกับผู้ชายเพราะมึงเห็นพ่อนอกใจแม่มาตลอด แต่นี่กูเป็นเพื่อนสนิทมึงไง ถ้ามึงจริงจังกูจะดูแลมึงทั้งชีวิต ไม่นอกใจมึงแน่นอน"
"ไอ้คิม มึงฟังที่กูพูดนะ กูขอบใจที่มึงคิดจะดูแลกูไปทั้งชีวิต แต่กูไม่อยากเห็นมึงเสียใจ คือ...กูไม่ได้มีปมแค่เรื่องครอบครัว แต่สันดานกูมันแก้ยาก กูกลัวว่ากูจะทำเหมือนที่พ่อกูทำกับแม่ กูไม่อยากเสียเพื่...อุ๊บ!"
ริมฝีปากสีเชอร์รี่ถูกประกบจูบจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท ก่อนที่ลิ้นสากจะตวัดเข้ามาเกี่ยววนในโพรงปากชุ่มฉ่ำ เพื่อตักตวงความหวานจากคนตัวเล็ก
จ๊วบ~
มันยังไม่ยอมผละริมฝีปากออกไปง่าย ๆ ยังคงนวดคลึงกลีบนุ่มจนกว่าจะพอใจ แล้วดันร่างใหญ่เข้ามากึ่งกลาง ให้สองขาเรียวถ่างกว้างในท่ามาตราฐาน
"เปรี้ยว มึงมาเป็นของกูคนเดียวได้ไหม?"
คำถามนี้ถูกพ่นจากริมฝีปากหนา ที่เพิ่งผละจูบออกไปได้ไม่ถึงเสี้ยววิ ดวงตาสองคู่สอดประสานกัน ก่อนที่คนตัวเล็กจะผลักอก'แกร่งให้ลงไปนอนแทนที่
"กูถามจริง มึงจริงจังหรือว่ามึงแค่อยาก"
"กูจริงจัง"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"สักพักแล้ว ยิ่งเห็นมึงปล่อยให้ผู้ชายพวกนั้นทำรอยที่คอ กูยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรปล่อยให้มึงทำตัวแบบนี้"
สาวสวยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วสบตากับคนใต้ร่างอีกครั้ง พอเห็นว่าเพื่อนจริงจังก็ถอดเสื้อยืดออก โชว์รอยดูดบนเนินอกขาวอวบที่มันยังไม่เห็น
"มึงเห็นรอยดูดนี่ไหม?"
มันไม่ตอบ แต่ขบกรามเหมือนไม่ชอบใจ
"พี่ชายมึงเป็นคนทำ"
สีหน้าคนที่ได้ฟังเปลี่ยนไปทันที จากที่ไม่ชอบใจ ตอนนี้กับตกใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงยอมให้พี่ชายต่างมารดาของมันมีเซ็กซ์ด้วย ซึ่งเธอไม่มีเหตุผลมาตอบเพราะปกติไม่เคยปฏิเสธเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าตอนนั้นไม่สมยอม เดี๋ยวจะหาว่าโกหกอีก
"แล้วตอนนี้กูก็กำลังดูใจกับพี่ชายมึงอยู่"
เธอเลือกที่จะบอกไอ้คิมเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่าไปโป๊ะแตกต่อหน้าแม่ของพี่คิง ในเมื่อเขาจ้างมาตั้งสามแสน เธอก็ควรโกหกให้มันเนียน ๆ หน่อย อีกอย่างถ้าไม่พูดแบบนี้ออกไป ไอ้คิมคงไม่ยอมให้เธอไปทำตามแผนที่เราวางเอาไว้ มันต้องตื๊อจนกว่าจะได้เป็นผัวอ่ะ
"เหอะ...มึงยอมคบกับพี่ชายกู แต่มึงไม่ยอมคบกับกูเนี่ยนะ?" น้อยใจ คำเดียวที่ฟ้องอยู่บนหน้าไอ้คิม
"ก็แค่ดูใจไง ถ้าไม่รอดก็เลิก ส่วนมึง มึงมาบอกกูช้าไปค่ะไอ้ตี๋ ถ้ามึงบอกกูเร็วกว่านี้กูก็ให้โอกาสมึงค่ะ"
เธอไม่อยากหักดิบตัดความหวังของเพื่อน อย่างที่บอกไปอ่ะ ถ้าไม่มีมันก็ไม่มีเธอ ในเมื่อมันอยากได้โอกาส เธอก็อยากให้ แต่จะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะ บอกแล้วไงว่านี่เป็นคนร่าน ถ้าให้มันคุมคงจะยาก และอีกหนึ่งปัญหาคือเรื่องครอบครัว แม่มันจ้องจะแดกหัวเธอซะขนาดนั้น ไม่น่าปลื้ม ถ้าได้ลูกสะใภ้นิสัยแบบนี้
"ไม่ต้องมาพูดให้ความหวังกูเลย" ฝ่ามือใหญ่ดันร่างเล็กลงจากตัว แล้วลุกขึ้นไปดึงเสื้อเชิ้ตกลับมาใส่
"มึงไปเก็บเสื้อผ้า"
"เก็บทำไม?"
"กูจะให้มึงไปอยู่กับผัวมึง"
"ห๊ะ!?"
"อย่ามาทำหน้าอึน กูเคยบอกแล้วไงว่าถ้ามึงมีผัวเมื่อไหร่กูจะไม่รับผิดชอบชีวิตต่อจากนี้ ลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าเลย เดี๋ยวกูโทรตามผัวมึงมารับ" เปรี้ยวอ้าปากพะงาบ ๆ ในขณะที่ไอ้คิมดึงแขนเล็กให้ลุกขึ้นไปเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางของมัน บางทีแม่งก็โหดเกินไป พอรู้ว่าเธอมีผัวแล้ว ก็ไล่ออกจากคอนโดเลยค่า [สึด!]