ทำความรู้จัก

3240 คำ
ไทโย Talk เช้าวันต่อมา  @ลานจอดรถ โรงพยาบาลเอกชน "หมอลินทร์" เสียงของคนที่อยู่ด้วยกันทั้งคืนกับผมดังขึ้นมาจากด้านหลังขณะที่ผมกำลังเดินไปยังรถของตัวเองเพื่อกลับบ้าน "อ้าว หมอเรย์ ผมนึกว่าคุณออกไปแล้วซะอีก" ผมเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเธอเดินอยู่ด้านหลังผมทั้งที่ตอนลงวอร์ดผมเห็นเธอเดินออกมาจากแผนกก่อนผมสักพักหนึ่งแล้ว "ไปซื้อกาแฟมาค่ะ นี่ค่ะกาแฟเย็นตอนเช้า จะได้ไม่หลับในตอนขับรถ" เธอยื่นกาแฟที่ถือมาสองแก้วซึ่งตอนที่ผมเห็นก็ไม่คิดว่าเธอจะซื้อมาให้ผมหรอกนะ คิดว่าเธออาจจะซื้อกลับบ้านมากกว่า "ขอบคุณครับ" ผมเอ่ยขอบคุณก่อนจะรับกาแฟจากมือเธอ "วันนี้รถไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ" ผมเอ่ยแซวเล็กน้อยระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินไปรถของตัวเองกัน "ได้ทีแซวเลยนะคะ เช็กสภาพรถก่อนจะขับออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ มั่นใจได้ว่าแบตไม่หมด หม้อน้ำไม่รั่ว ยางรถไม่ซึม และน้ำมันเต็มถังค่ะ" "ดีแล้วครับ จะไม่มีปัญหาระหว่างทาง ผู้หญิงขับรถคนเดียวมันอันตราย" "ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง" "ครับ เป็นเพื่อนร่วมอาชีพและยิ่งทำงานด้วยกันเรื่องความเป็นห่วงผมว่าก็ต้องมีกันเป็นธรรมดา เหมือนที่คุณซื้อกาแฟให้ผมนี่ไงครับ" ผมยกกาแฟในมือที่เธอซื้อให้เป็นการยกตัวอย่างให้เธอเห็นภาพมากขึ้น "นี่หมอลินทร์รีบกลับบ้านไปหาภรรยาหรือเปล่าคะ" เธอเอ่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าล้อเลียนและน้ำเสียงเหมือนกำลังแซวผม ทำให้ผมอดที่จะยิ้มขำกับอาการของเธอไม่ได้ "ครับ เมื่อคืนเธอบอกไว้ว่าจะทำอาหารเช้าไว้รอ ถ้าไม่รีบกลับไปทาน อาจจะเกิดการงอนได้ ผมยิ่งง้อไม่ค่อยเป็นซะด้วย เลยไม่ค่อยอยากให้มีปัญหา" ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติแล้วยิ้มให้เธอบางๆ แต่อยู่ๆ ผมรู้สึกว่าเห็นว่าตาของเธอไหววูบลงไปแล้วเปลี่ยนเป็นปกติทันทีในเวลาต่อมา จนผมคิดว่าก่อนหน้านี้เพียงแวบหนึ่งผมคงอาจจะตาลายเพราะไม่ได้นอนก็ได้ที่เห็นเหมือนกำลังเศร้า "ดีแล้วค่ะ ถึงรถฉันแล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ" เธอโบกมือให้ผมก่อนที่จะเปิดประตูรถเข้าไป ผมจึงยืนรอให้เธอขับรถออกไปก่อนแล้วค่อยไปขึ้นรถตัวเอง       เวลาต่อมา  @คฤหาสน์ยูกิโอะ หลังจากที่ผมขับรถมาถึงหน้าบ้าน คนขับรถในบ้านก็วิ่งเข้ามารับช่วงต่อเอารถไปจอดที่โรงจอดรถทันที ส่วนผมก็เดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดีกับกาแฟที่หมอเรย์ซื้อให้ผม เมื่อผมก้าวเข้ามาในตัวบ้านผมก็ได้กลิ่นอาหารโชยออกมาห้องครัวตั้งแต่ห้องโถงกลาง ทำให้รู้ว่าภรรยาตัวน้อยของผมคงตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาทำอาหารให้ผมแล้ว ผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปหาคนที่รอคอยผมอยู่ "ไท" เสียงของภรรยาตัวน้อยของผมเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหันหลังให้ผม แค่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามา เธอก็รู้แล้วว่าเป็นผมที่เดินเข้ามาหาเธอ "เสร็จแล้วเหรอ" ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอกำลังตักข้าวต้มกุ้งใส่ถ้วยแล้ววางลงถาดที่อยู่บนโต๊ะข้างหมอข้าวต้ม "ค่ะ ดีจังที่ไทมาพอดีที่ทำเสร็จ ไทจะได้ทานตอนยังทำเสร็จใหม่ๆจะได้คุณค่าทางอาหารเต็มที่" "แล้วของโซ่หละ ทำไมไม่ตักของโซ่ไปทานกับพี่ด้วย" "ไทจะอาบน้ำก่อนไหม หรือทานข้าวเลยดี" "ขอทานข้าวต้มฝีมือภรรยาก่อนแล้วกันครับ แล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำ แล้วนอนกอดภรรยาตัวน้อยต่อทีเดียว ดีไหม" พอผมพูดจบเธอก็ตักข้าวต้มอีกถ้วยแล้วเรียกเด็กรับใช้มายกถาดข้าวต้มไปจัดวางบนโต๊ะอาหาร ปกติภรรยาตัวน้อยของผมจะไม่ค่อยร่วมรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับผมหรอก เธอจะเตรียมอาหารเช้าให้ผมเองแทบทุกเช้า ส่วนตัวเธอจะนั่งมองผมทานอาหารเช้าฝีมือเธอก่อนที่ผมจะไปเรียนในทุกวัน พอผมออกไปเรียนแล้ว เธอถึงมาจัดการตัวเอง มันทำให้ผมรู้สึกว่าเธอดูแลผมดีเกินไปในบางครั้งจนบางทีเหมือนเกิดความเหินห่างกันบนเส้นบางๆ และผมคอยบอกตัวเองเสมอว่าจะพยายามมีเวลาให้เธอและทำกับเธอเหมือนสามีภรรยาทั่วไปที่ทำกัน แม้ว่าความรู้สึกของผมจะมีเพียงความรักที่พี่ชายมีต่อน้องสาวก็ตาม นั่นคือหน้าที่ของผมที่ผมสัญญาต่อหน้าพ่อผมไว้แล้วว่าจะดูแลเธอตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม "เอามาจากไหนคำว่า คนดี" ผมเอ่ยถามระหว่างที่เราสองคนกำลังทานข้าวต้มฝีมือเธออยู่ "เอามาจากกูเกิ้ลค่ะ" เธอตอบผมด้วยน้ำเสียงร่าเริงแล้วยิ้มให้ผมจนผมอดยิ้มตอบกลับไปไม่ได้ "มันมีความหมายว่ายังไงเหรอถึงเอามาเรียกพี่แบบนั้น" ผมเอ่ยถามอย่างอยากรู้ เพราะทุกอย่างที่เธอทำลงไปมันมีความหมายเสมอและมักจะสำคัญทุกครั้งเวลาที่เธอทำอะไรออกมา "คำว่า คนดี ที่คนส่วนใหญ่มักใช้เรียก แฟน หรือ คนรัก มันมีความหมายสำคัญมากกว่าการเป็นสรรพนามทั่วไปที่ใช้เรียกกัน มันหมายถึงเธอเป็นคนที่มีค่าต่อฉัน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อฉันมาก โซ่เลยอยากเรียกไทว่า คนดี เพราะในชีวิตของโซ่ไทคือสิ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุดในชีวิต" เมื่อเธอเห็นสีหน้าผมที่เปลี่ยนไปหลังจากเธอพูดจบ ทำให้สีหน้าของเธอสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดจนผมต้องรีบปรับสีหน้าของตัวเองแล้วเอามือขึ้นมาลูบที่ศีรษะเธอเบาๆอย่างเอ็นดู "โซ่ก็เป็น คนดี สำหรับพี่เหมือนกัน" ผมตอบกลับพร้อมกับยิ้มให้เธอบางๆ "อ้อ อีกอย่างคำนี้ถ้าเอาไปพูดเวลาอ้อนแฟนจะทำให้แฟนรักมากขึ้นถึง 50% เลยนะ โซ่เลยอยากพูดเผื่อไทจะรักโซ่ขึ้นมาบ้าง สัก 1% ก็ยังดี" จากต้นประโยคที่น้ำเสียงร่าเริงเป็นเศร้าจบท้ายอีกครั้งเมื่อเธอเรียกร้องความรักจากผมที่ผมให้เธอไม่ได้ "ทานข้าวต้มเถอะ มันจะเย็นแล้วนะ วันนี้อยากไปไหนไหมหรืออยากนอนดูหนังที่บ้าน" ผมเปลี่ยนเรื่องสนทนาทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของเธอเศร้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่คลอ "ขอโทษนะที่โซ่เรียกร้องอีกแล้ว ต่อไปโซ่จะระวังให้มากกว่านี้ ขอโทษค่ะ" "มันไม่ใช่ความผิดของโซ่ อย่าโทษตัวเอง" "อือ..ทานดีกว่าเนอะเดี๋ยวมันจะเย็นแล้วไม่อร่อย" เธอพูดจบก็ก้มหน้าตักข้าวต้มใส่ปากโดยไม่มองมาทางผมอีกเลย ทำให้ผมเห็นน้ำตาที่ร่วงลงมาใส่ชามข้าวต้มก่อนที่เธอจะเบือนหน้าหลบไม่ให้ผมเห็นมัน "ขอโทษ" ผมเอ่ยออกมาเบาๆไม่ให้เธอได้ยิน จากนั้นเราสองคนก็รับประทานอาหารเช้ากันอย่างเงียบๆด้วยความรู้สึกสับสนและเศร้ากันอีกวัน เวลาต่อมา  @ห้องนอนไทโยและโซ่ทอง คฤหาสน์ยูกิโอะ "ไม่อยากออกไปไหนจริงๆเหรอ ที่จริงพี่ก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นะ ขับรถพาโซ่ไปเที่ยวข้างนอกได้ หรือไม่งั้นเราก็ให้คนขับรถขับให้ถ้าโซ่กลัวว่าพี่จะหลับในตอนขับรถ พี่เห็นโซ่อยู่แต่บ้าน พี่กลัวโซ่จะเบื่อ" "ไม่เอา โซ่อยากนอนกอดไทมากกว่า ออกไปก็เจอคนเยอะแยะ โซ่ไม่อยากให้ใครมองสามีของโซ่ โซ่หวง" ผมรู้ว่าเธอไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นหรอก เธอเหงา เธออยากออกไปข้างนอก แต่ไม่อยากไปไหนเพราะเห็นว่าผมไม่ได้มีเวลาพักเลยตั้งแต่ขึ้นวอร์ดตอนเรียนหมอปี 5 กลับมาก็สภาพแทบหมดแรงในบางวัน จนหลังๆเธอเลือกที่จะนอนกอดผมแล้วปล่อยให้ผมพักเต็มที่โดยที่เธอก็ทำนั่นนู่นนี่อยู่ในห้องนอนเงียบๆ เพื่อจะได้คอยดูแลเวลาผมตื่นขึ้นมา บางวันที่ผมหลับไปแล้วตื่นมาโดยที่เธอไม่รู้ ผมก็เห็นเธอนั่งซ่อมเสื้อผ้าให้ผมบ้าง เปิดเน็ตดูการทำอาหารบ้าง บางทีก็เห็นเธอนั่งใช้ถักผ้าพันคอให้ จนทุกวันนี้ทุกชิ้นบนตัวผมเป็นงานฝีมือของภรรยาตัวน้อยทั้งหมด การที่เธอไม่ยอมเรียนต่อเป็นอีกเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นด้วยกับเธอ แต่ไม่สามารถบังคับอะไรเธอได้ ทำได้เพียงยอมรับการตัดสินใจของเธอ ผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเธอชอบอะไร เพราะสิ่งที่เธอทำที่ผ่านมาล้วนเกี่ยวกับตัวผมทั้งสิ้น แทบไม่มีอะไรเลยที่เธอทำเพื่อตัวเอง จนผมยิ่งรู้สึกผิดอยู่ในใจทุกวันนี้ว่า การที่ผมเลือกในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วดึงเธอเข้ามาในชีวิตมันคือสิ่งที่ผมคิดถูกแล้วจริงหรือ ผมดูแลและทำให้เธอให้มีความสุขบ้างหรือยังตั้งแต่ที่เธอเป็นภรรยาของผม "โซ่" ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอ เมื่อเห็นเธอนั่งซ่อมเสื้อหมอที่มันขาดตรงกระเป๋าเสื้ออยู่หลังจากที่ผมตื่นนอนแล้ว "ตื่นแล้วเหรอคะ หิวไหม เดี๋ยวโซ่ไปเอาของว่างมาให้ทาน หรือจะทานข้าวเที่ยงเลยคะ" "ยัง ขอกอดภรรยาตัวน้อยก่อนได้ไหมครับ" แล้วเธอก็ละจากสิ่งที่ทำเดินเข้ามาหาผมที่เตียงแล้วล้มตัวลงมานอนให้ผมกอดอย่างว่าง่าย นี่แหละคือภรรยาตัวน้อยของผม ไม่ว่าผมต้องการอะไร เธอไม่เคยไม่มีบอกว่าไม่ได้ หรือแม้ว่ายุ่งมากแค่ไหนถ้าผมต้องการเธอ เธอก็จะรีบมาหาผมทันที มันทำให้ผมรู้สึกโกรธตัวเองในหลายครั้งที่ทำไมผมถึงไม่สามารถที่จะรักเธอได้ทั้งที่เธอแสนดีและรักผมมากขนาดนี้   ทานตะวัน Talk วันอาทิตย์  @ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านทองหล่อ(ร้านของเหนือนที) "จะทานร้านนี้เหรอ" เกลเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมของฉันเอ่ยถามเมื่อฉันชวนมาทานข้าวเที่ยงเป็นอาหารญี่ปุ่น "ร้านเพื่อนหมอที่ฝึกงานที่เดียวกัน เพิ่งเปิดร้านสัปดาห์แรกเลยมาชิมสักหน่อย เกลชอบอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ" ฉันบอกกับเพื่อนก่อนจะพากันเดินเข้าไปในร้าน "เที่ยงนี้อาหารญี่ปุ่นก็ได้ เห็นแก่เพื่อนนะถึงยอมมา" "สวัสดีค่ะหมอเหนือ" ฉันเอ่ยทักทายเจ้าของร้านที่กำลังรับลูกค้าอย่างขะมักเขม้น วันนี้ดูลูกค้าเยอะทีเดียว คิดผิดหรือคิดถูกที่เลือกมาทานวันนี้นะ แล้วฉันก็พยายามมองหาว่ามีโต๊ะสำหรับสองที่หรือไม่ไปพลางๆด้วย "หมอเรย์ โต๊ะไม่มีว่างเลย จะเป็นอะไรไหมครับถ้าจะไปนั่งร่วมกับพวกเพื่อนผม พอดีหมอลินทร์ หมอเพิร์ธ และหมอไม้ เพิ่งมาเพิ่งถึงนั่งอยู่ด้านใน และเหลือที่นั่งว่างอีกสองที่" ฉันมองหน้าเพื่อนที่มาด้วย เมื่อเห็นว่าเกลพยักหน้าตกลงฉันจึงยอมไปนั่งรวมกับกลุ่มหมอลินทร์ "เฮ้ย พวกมึง ขอให้เพื่อนร่วมอาชีพนั่งด้วยอีกสองคนได้ไหมวะ ตอนนี้ที่นั่งเต็มหมดเลย" "เอาดิ นั่งหลายคนจะได้สนุก งานนี้ลดนะโว้ยไอ้เหนือ" "ดูมึงจนมากนะไอ้เพิร์ธ ได้ข่าวพ่อมึงเพิ่งซื้อบริษัทเพิ่มเองหนิ" "ก้อเพราะพ่อกูเอาเงินไปซื้อบริษัทเพิ่มเลยจนอยู่ตอนนี้" "ไอ้สัส!" "หมอเรย์เชิญครับ แล้วคุณ.." "เกลค่ะ" "ครับ เชิญนั่งก่อนครับ เดี๋ยวให้เด็กเอาเมนูมาให้" ฉันยืนมองคนทั้งสองเถียงกันอยู่ด้านหลังเจ้าของร้านอย่างอดนึกขำไม่ได้ในการพูดคุยระหว่างกันอย่างเป็นกันเองมากๆ ความสนิทสนมของพวกเขาทำให้อดที่จะแอบอิจฉาไม่ได้ในความรักของพวกเขา ฉันก็มีเพื่อนสนิทนะแต่ก็ยังไม่นึกขนาดพูดจากันได้ขนาดนี้เลย จนกระทั่งเจ้าของร้านได้เชิญให้ฉันและเพื่อนเข้าไปในร่วมโต๊ะด้วย จึงได้เห็นหญิงสาวคนในเดียวในโต๊ะนั่งอยู่ หน้าตาจิ่มลิ้มน่าเอ็นดู ดูจากหน้าตาแล้วเธอยังเด็กอยู่เลย "สวัสดีค่ะ" ฉันเอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้าที่นั่งข้างหมอลินทร์ก่อนทำให้เธอยิ้มตอบฉันแล้วก้มศีรษะเล็กน้อยเหมือนการทักทายกลับ "โซ่จ๊ะนี่หมอเรย์บัดดี้ตอนฝึกงานของพี่ หมอเรย์ครับนี่โซ่ทองครับภรรยาของผม" ฉันได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากๆของหมอลินทร์แล้วมองหน้าหญิงสาวที่นั่งข้างเขาที่ยิ้มตลอดเวลาอย่างมีความสุข ดูท่าทางเป็นคู่รักที่รักกันมากทีเดียว "สวัสดีค่ะ ภรรยาตัวน้อยของหมอลินทร์" ฉันเอ่ยทักทายอีกฝ่ายก่อน แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคสุดท้ายของฉันเหมือนสีหน้าของเธอดูตกใจเล็กน้อย "สวัสดีค่ะ คุณหมอเรย์ ขอแบบนี้ได้ไหมคะ" เธอทักทายตอบฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมมากๆ จนฉันยิ้มให้อย่างยินดี "ได้ค่ะ ภรรยาของเพื่อนก็เหมือนน้องสาวคนหนึ่ง จะเรียก พี่เรย์ ก็ได้นะคะ" ฉันตอบกลับอีกฝ่ายไปแล้วยิ้มให้อย่างจริงใจ ตอนนี้ฉันรู้สึกเอ็นดูเธอมาก ไม่แปลกที่หมอลินทร์จะรักและเรียกว่าภรรยาตัวน้อย เพราะเธอทั้งทะนุถนอมและน่าปกป้องมากๆจริงๆ "อ้อ นี่เพื่อนฉันเองค่ะ เกล นี่เพื่อนหมอที่ฝึกงานด้วยกันแต่อยู่คนละมหาลัยกับเรา หมอลินทร์บัดดี้ทำงานกับเราและน้องโซ่ภรรยาหมอลินทร์ คนนี้หมอเพิร์ธ ส่วนคนนี้หมอไม้" ฉันแนะนำให้คนทั้งโต๊ะได้รู้จักกัน เมื่อแนะนำกันเสร็จ พวกเราก็ทักทายกันและพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องเคสที่เจอมากัน ทำให้ภรรยาตัวน้อยของหมอลินทร์และเกลเพื่อนของฉันเลือกที่จะนั่งฟังมากกว่า ส่วนฉันก็มีพูดมาบ้างจากที่มีคำถามจากหมอเพิร์ธบ้าง หมอไม้บ้าง ขณะที่รับประทานอาหารกันไปและพูดคุยกันไป ฉันสังเกตว่าหมอไม้ดูจะห่วงภรรยาของเพื่อนพอสมควร พยายามชวนคุยและคอยดูแลตักอาหารให้ บางครั้งก็ยังมีสะกิดให้หมอลินทร์ทำนั่นนี่ให้ภรรยา จนฉันอดสงสัยไม่ได้ตกลงใครสามีกันแน่ "แล้วหมอเรย์มีแฟนหรือยังครับ" อยู่ๆหมอเพิร์ธก็เอ่ยถามฉันขึ้นมา แล้วหมอลินทร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ทำเอาฉันไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียวเมื่อเจอสายตาของเขา "หมอเรย์ยังไม่มีแฟนค่ะ เพราะพ่อหวงมาก ลูกสาวนายตำรวจใหญ่ก็แบบนี้" เกลเป็นฝ่ายตอบคำถามนี้แทนฉันที่ยังเงียบกับสายตาคู่นั้นของชายหนุ่มตรงหน้า "สวยๆแบบหมอเรย์ไม่คิดว่ายังโสดอยู่นะครับ เป็นเรื่องที่แปลกดีจริงๆ" คำพูดและน้ำเสียงของหมอไม้ทำให้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับว่าเขาไม่ค่อยพอใจยังไงก็ไม่รู้ แต่ฉันก็ยิ้มตอบกลับไปไม่ได้พูดอะไร "หมอไม้จะจีบหมอเรย์เหรอคร้าบ พูดแบบนี้" เป็นหมอเพิร์ธที่แซวขึ้นมา แล้วฉันก็เห็นคนตรงหน้าฉันหันไปสนใจและคุยกับภรรยาตัวน้องของเขาโดยไม่สนใจคนอื่นๆที่ยังสนทนากัน เหมือนกับว่าตอนนี้พวกเขามีกันเพียงสองคนเท่านั้น ทำเอาอยู่ๆทำให้ความน้อยใจของฉันมันเกิดขึ้นมาเสียดื้อๆ ฉันน้อยใจอะไร ฉันยังสงสัยตัวเอง จนฉันส่ายหน้าตั้งสติให้กลับมาและทำตัวเป็นปกติ "เป็นอะไรหรือเปล่าเรย์" เกลเอ่ยถามฉันคงเห็นอาการที่ผิดปกติของฉันแน่ๆ "เปล่า อาหารอร่อยไหม อันนี้ก็อร่อยนะ" ฉันตักอาหารที่บอกว่าอร่อยใส่จานเกลแล้วยิ้มให้เพื่อนเพื่อปิดอาการที่แปลกไปของตัวเองที่หาคำตอบยังไม่ได้ "พี่เรย์ เอ่อ เรียกได้ใช่ไหมคะ" ภรรยาตัวน้อยของหมอลินทร์เอ่ยขึ้นมาคุยกับฉันด้วยอาการประหม่าจนฉันสัมผัสได้ เธอเอ่ยคุยกับฉันเมื่อหมอลินทร์ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ "ได้ค่ะ น้องโซ่ พี่เรียกแบบนี้ได้เหมือนกันใช่ไหมคะ" "ค่ะ" เราสองคนยิ้มให้กันหลังจากขอเอ่ยเรียกสรรพนามกันและกัน "พี่เรย์สวยเหมือนที่ไทบอกเลย" "ไท?" "ไทโย เป็นชื่อญี่ปุ่นของกลินทร์ค่ะ" "หืมม หมอลินทร์เอาเรย์ไปนินทากับภรรยาด้วยเหรอเนี๊ย" "ไม่ได้นินทาเลยค่ะ แค่ตอบคำถามของโซ่เท่านั้น" "อ๋อ น้องโซ่ก็สมกับเป็นภรรยาตัวน้อยของหมอลินทร์มากเลยค่ะ ขอถามได้ไหมคะ น้องโซ่อายุเท่าไรคะ" "ปีนี้ 18 แล้วค่ะ โซ่กับไทอายุห่างกัน 3 ปี" อะไรอายุน้อยกว่าฉันอีกเหรอ เข้าข่ายอัจฉริยะนะ เข้ามหาลัยตอนอายุ 16 ปี ขนาดฉันว่าตัวเองเข้าตอนอายุ 17 ว่าเร็วแล้วเจอสามีของหญิงสาวตรงหน้าขอยอมรับในความเก่งของเขาเลย "แล้วน้องโซ่เรียนต่อที่ไหนคะ" "โซ่เรียนจบมัธยมตอนอายุ 15 ค่ะ พอจบก็ไม่ได้เรียนต่อค่ะ โซ่อยากดูแลไทมากกว่าที่จะเรียนต่อ เพราะไม่มีอะไรที่น่าสนใจอยากให้โซ่เรียน" คำตอบของคนตรงหน้าทำให้รู้ว่าทั้งชีวิตของเธอให้กับผู้เป็นสามีคนเดียว ฉันไม่เคยเจอเลยที่สมัยนี้ยังมีผู้หญิงที่เป็นช้างเท้าหลังยอมเดินตามสามีอย่างไม่ขัดอะไร พอมานึกถึงตัวเองฉันจะทำได้แบบน้องเขาไหมนะ "ดูน้องโซ่จะรักลินทร์มากเลยนะคะ" "ค่ะ โซ่รักไทมาก เราสองคนรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ ไทดูแลโซ่มาตลอด" "แบบนี้นี่เอง น่ารักจังค่ะ" "พี่เรย์สวยมากเลยนะคะ โซ่อยากสวยแบบพี่เรย์จัง" "น้องโซ่เป็นแบบนี้น่ารักจะตาย ไม่งั้นหมอลินทร์ไม่คิดถึงจนบางทีพี่ยังแอบเห็นหมอลินทร์มีเหม่อตอนเวลาที่วินิจฉัยอาการคนไข้ด้วยนะคะ พี่แอบเม้าส์" "ไทมีเหม่อด้วยเหรอคะ" "อื้อ..ใช่แล้วค่ะ" "ดูหมอลินทร์ก็รักน้องโซ่มากเลยนะคะ" "ไม่รู้สิคะ แต่สำหรับโซ่ ไทเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโซ่ค่ะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม