ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นความหายนะ
แม้ผมจะไม่อยากอยู่กับไอ้ไฟมากแค่ไหน แต่ความเสียดายเงินมันก็มีมากกว่า แล้วผมก็ทำสำเร็จ ผมกับไอ้ไฟอยู่ร่วมกันมาได้ แบบไม่ตีกันมาครบสองสัปดาห์แล้ว
ทุกอย่างมันเป็นเหมือนที่ผมคิดไว้ คือเราต่างคนต่างอยู่ ไอ้ไฟไม่ยุ่งกับผม ผมก็ไม่ยุ่งกับมัน คำพูดอะไรก็ไม่มี นอกจากอะไรที่จำเป็นต้องพูด แม้แต่ตาก็แทบจะไม่มองกันด้วยซ้ำ
พอเป็นแบบนี้ แม้มันจะไม่ได้เจริญหูเจริญตา แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เรียกได้ว่าก็ไม่อยากอยู่ แต่ถ้าให้อยู่ก็พออยู่ได้
ในเรื่องนี้ผมยังไม่มีโอกาสได้บอกไอ้พวกเพื่อน ๆ ของผม เพราะทุกวันนี้คนที่ผมเจอ มีแค่ไอ้เจมส์ที่เรียนคณะเดียวกัน และไอ้ฟิวที่เจอกันบ้างเพราะเรียนมหา’ ลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ซึ่งความจริงเพื่อนในกลุ่มผมไม่ได้มีแค่สองคนนี้ แต่ยังมีไอ้กร และไอ้กิตที่เรียนอยู่คนละมหา’ ลัยอีก ผมเลยกะว่าจะรอเล่าให้พวกมันฟังพร้อมกันทีเดียวอาทิตย์หน้า ที่เราจะนัดกินเหล้ากัน
แล้วผมก็อยากให้มันผ่านเวลามานิดนึงด้วย เพราะถ้าไปบอกตั้งแต่แรกว่าผมได้อยู่กับไอ้ไฟ ไอ้เจมส์มันคงยุให้ผมย้ายออก ไม่ก็ยุให้ผมทำสงครามกับไอ้ไฟ ซึ่งผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น ผมต้องการความสงบ เลยไว้รอเกือบ ๆ ครบเดือนค่อยไปบอกพวกมันทีเดียวจะง่ายกว่า
พูดถึงกินเหล้าแล้ว นอกจากสัปดาห์หน้าที่ผมมีนัดกับไอ้พวกเพื่อน ๆ ในแก๊งของผม วันนี้ผมก็มีนัดอีก เป็นพวกรุ่นพี่ในคณะที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับผม เขาจะนัดเลี้ยงรุ่นน้องที่มาเรียนคณะเดียวกับเขา วันนี้ผมเลยลาภปาก ได้กินฟรีไปอีกวัน
ปกติแล้วเวลาผมต้องกลับเย็น ผมจะบอกไอ้ไฟด้วยการแปะโพสต์อิตไว้ที่ประตูว่ากลับดึก เพราะเผื่อมีอะไรด่วน หรือมีตรวจหออะไรขึ้นมามันจะได้รู้ แต่วันนี้ผมไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
เพราะงานเลี้ยงครั้งนี้มันมีไอ้ไฟด้วย
สถานที่เลี้ยงกันวันนี้คือร้านที่พวกรุ่นพี่ของผมบอกว่าเป็นร้านประจำที่คนในสาขาเราชอบมากินกัน โต๊ะที่เรานั่งเป็นโต๊ะใหญ่สุดในร้าน เพราะจำนวนคนเราก็ค่อนข้างเยอะ แม้เราจะเพิ่งเปิดเทอมไปไม่ถึงอาทิตย์ แต่ก็ต้องบอกว่าทุกคนที่มาในวันนี้สนิทกันแทบจะหมดแล้ว เพราะเป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่ากัน
โดยรวมแล้วสำหรับผม ปาร์ตีวันนี้มันก็ถือว่าดี แต่ติดอย่างเดียวตรงที่มันมีพวกไอ้ไฟด้วยนี่แหละ
“เหม็นขี้หน้าพวกแม่งฉิบหาย”
เสียงบ่นของไอ้เจมส์ดังขึ้น มันเป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุด แล้วก็เป็นคนที่โดนไอ้แทน เพื่อนในกลุ่มไอ้ไฟแย่งแฟน จนทำให้เราสองกลุ่มไม่ถูกกันทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ ว่าในบรรดาเพื่อนในกลุ่มผมทุกคน ไอ้เจมส์เนี่ยแหละ เป็นคนที่เกลียดกลุ่มไอ้ไฟมากที่สุด
“ช่างพวกแม่งเถอะน่า มองอะไรที่มันน่าสนใจดีกว่า เดี๋ยวจะเสียอารมณ์เปล่า ๆ” ผมบอกให้ไอ้เจมส์อย่าไปสนใจพวกไอ้ไฟมาก เพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันเสีย
“เออ ๆ กูเกรงใจพวกรุ่นพี่หรอกนะ อุตส่าห์พามาเลี้ยง”
ไอ้เจมส์พูดกับผม แต่ตาหันไปมองไอ้แทน และไอ้ไฟเหมือนไม่ค่อยพอใจ ก่อนจะหันไปดูดนตรีสดหน้าร้านแทน
การดื่มของเราจบลงในเวลาเกือบ ๆ เที่ยงคืน สภาพแต่ละคนเมาปลิ้นจนแทบจะคุยกันไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะไอ้เจมส์ที่ผมต้องไหว้วานรุ่นพี่พามันไปส่งหอ เพราะดูแล้วยังไงก็ไม่รอด ส่วนสภาพผมเองก็ไม่ต่างกัน มันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร แต่บังคับตัวเองไม่ค่อยได้แล้ว
ผมกลับมาถึงหอได้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสติเพราะรุ่นพี่อีกคนมาส่ง แต่ก็ไม่ได้มาส่งแค่ผม พี่เขายังเอาไอ้ไฟกลับมาด้วย เพราะเราอยู่หอในเหมือนกัน ผมมองดูสภาพไอ้ไฟ บอกเลยว่าเละยิ่งกว่าผม มันพูดจาไม่รู้เรื่อง ลืมตาก็แทบจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว
“พี่ส่งแค่หน้าหอนะ มึงสองคนไปห้องถูกใช่ไหมเนี่ย”
“ถูกพี่” ผมพอมีสติตอบได้ ส่วนไอ้ไฟก็ได้แต่พยักหน้า แต่ก็ไม่รู้ว่าที่พยักหน้าไปนี่รู้เรื่องหรือพยักหน้าไปเฉย ๆ
พอรุ่นพี่ส่งผมสองคนเสร็จ ผมก็เดินนำขึ้นห้องไป ไม่คิดจะสนใจไอ้คนที่มันเดินไม่ค่อยตรงเลยด้วยซ้ำ
ทันทีที่ผมขึ้นไปถึงห้อง สิ่งแรกที่ผมทำคือถอดเสื้อผ้าออก หาผ้าขนหนูมาพันช่วงล่างไว้ เตรียมตัวจะไปอาบน้ำ แต่ที่ยังไม่อาบเพราะยังมึนอยู่มาก ๆ เลยมานั่งซึม ๆ อยู่ข้างเตียงก่อน
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งมึนตามประสา ประตูก็เปิดออก ไอ้ไฟเข้ามาในห้องแล้วกระโจนลงบนเตียงเป็นอย่างแรก แต่มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าเตียงที่มันทิ้งตัวลงไม่ใช่เตียงของผม
“เฮ้ย เตียงกู ไอ้ทุเรศ ลงไปเลยนะมึง”
ผมประคองร่างที่สติไม่เต็มร้อยของตัวเองไปดึงไอ้ไฟให้ลุกจากเตียง แต่ขนาดตัวผมกับมันก็ต่างกันเกินกว่าผมจะดึงมันไว้ได้
“ไอ้ไฟ ไอ้เวร ลุก”
“ง่วง อย่ายุ่ง” ไอ้ไฟพูดแบบไม่ค่อยได้สติ ตามันหลับพริ้มสบายใจบนเตียงของผม แต่มีเหรอผมจะยอม
“ก็ไปนอนเตียงมึงดิ อันนี้เตียงกู แล้วน้ำก็ไม่อาบ สกปรกฉิบหาย ลุกเลยนะมึง” ผมโวยวายลั่นห้องแล้วพยายามยื้อยุดฉุดกระชากไอ้ไฟเต็มที่ แต่มันก็ไม่มีท่าทีจะลุก แถมมันยังรวบเอวผมไว้แล้วเอามือมาปิดปากผมด้วย
“หนวกหู”
“ไอ้เออ อ่อยอู”
“โอ๊ย หนวกหู”
พรึบ
ไอ้ไฟโวยวายแล้วพลิกตัวให้ผมนอนลงบนเตียง ก่อนตัวมันจะขึ้นมาคร่อมด้านบนทับผมไว้ ผมจึงใช้จังหวะนี้แกะมือมันออกแล้วแหกปากลั่นห้องมากกว่าเดิม
“ไอ้เหี้ยไฟปล่อยกู....อื้อ”
คราวนี้พอผมร้องดังขึ้น ไอ้ไฟมันก็เลยต้องหาอะไรมาปิดปากผมอีกครั้ง แต่รอบนี้มันไม่ได้ใช้มือ แต่เลือกจะใช้ปากของมันปิดปากของผมแทน
ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก พยายามจะโวยวายอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าพอผมเปิดปาก ยิ่งกลายเป็นเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้ามาในปากของผม
“อื้อ” ผมช็อกที่โดนไอ้ไฟจูบ แต่มันก็ไม่ได้มีเวลาให้สมองได้ช็อกนาน เพราะพอลิ้นเข้ามา ไอ้ไฟมันก็ทำการหลอกล้อเล่นกับลิ้นของผม ตอนนั้นสติที่เหลืออยู่น้อยนิดบอกผมว่าผมต้องดิ้นให้หลุดจากสถานการณ์นี้ให้ได้ แต่ความเมามันก็ดันทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้
“อื้อ”
ผมจูบตอบไอ้ไฟโดยอัตโนมัติ
จากสงครามเมื่อครู่ ก็กลายเป็นว่าผมกำลังไอ้ไฟกำลังนัวจูบกันอยู่ ไอ้ไฟมันไม่มีสติ แต่ดันจูบดีจนผมเคลิ้ม พอมันโชว์ฝีมือผมก็ไม่ยอมแพ้ จูบตอบเหมือนกัน
ความเมา ความมึน ความงง ทุกอย่างตีกันในหัวจนสมองผมเบลอ ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก ผมรู้แค่อย่างเดียวว่าผมชอบ ผมอยากจูบอีกเยอะ ๆ
เราสองคนนัวจูบกันแบบนั้นอยู่เกือบสิบนาทีก่อนไอ้ไฟจะปล่อย สติอันน้อยนิดสั่งให้ผมด่ามัน แต่ปากผมดันไม่มีแรง แทนที่ไอ้ไฟมันจะหยุด มือหนามันดันดึงผ้าเช็ดตัวของผมออกแล้วลูบไล้ไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายผม
“ไอ้เหี้ยไฟ”
ผมด่ามันออกมาเสียงแผ่วเบา ตั้งใจว่ารอบนี้จะต้องตั้งสติแล้วยกขาถีบมันออกให้ได้ แต่ยังไม่ทันจะได้ถีบ มือหนาก็ขยับมากอบกุมแก่นกายของผมไว้
“อื้อ”
มือหนาหยอกล้อทักทายแก่นกายของผม อาจจะด้วยความเมา หรืออาจจะเพราะไม่ได้มีเซ็กซ์มานาน แต่แค่ไอ้ไฟมันจับ ร่างกายผมก็ขนลุกซู่ ส่วนล่างตั้งชันสู้มือมันทันที
ผมลืมบอกไปว่าผมเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย แล้วผมก็ชอบเซ็กซ์มาก การมาโดนปลุกปั่นอย่างนี้มันก็ยากเหลือเกินที่จะต้านทาน
แต่ผมเกลียดพวกไอ้ไฟ!
ผมทวนสิ่งนี้ในหัวแล้วดึงมือไอ้ไฟออก ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้น แต่ไอ้คนเมามันไม่ยอม มันดึงตัวผมให้นอนลงใหม่ แล้วรูดแก่นกายของผมต่อ
“เล่นหน่อย”
ไอ้ไฟพูดออกมาเหมือนคนไร้สติ ต้องบอกว่าผมเองก็ไม่ได้รู้ว่าไอ้ไฟมันเป็นแบบไหน ชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ถ้าให้เดาในตอนนี้ ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ต่างจากผมเท่าไร เพราะผู้ชายที่ชอบผู้หญิง คงไม่ได้อยากจะมาเล่นจู๋คนอื่นแบบนี้รึเปล่านะ
“อื้อ”
ในเมื่อสู้แรงไม่ไหว สุดท้ายผมก็ยอมหยุดสู้ ดวงตากลมของผมค่อย ๆ หลับลง ปล่อยให้ไอ้ไฟใช้มือชักรูดส่วนกลางของผมไปแบบนั้น
“เมื่อย” เวลาผ่านไป ไอ้คนเมาที่ใช้มือให้ผมมันก็หยุดมือลงแบบดื้อ ๆ แล้วทิ้งตัวเหมือนจะนอน ทำเอาผมอารมณ์เสียเลยประคองร่างตัวเองลุกขึ้น แล้วจะไปจัดการตัวเองต่อในห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ลุก ไอ้ไฟมันก็คว้ามือผมไว้ แล้วดึงมือผมไปวางบนเป้าตัวเอง
“ทำให้บ้าง”
“ทำให้บ้างเชี่ยไร มึงทำกูไม่เสร็จด้วยซ้ำ”
ไอ้คนเมาทำหน้าหงอย แล้วทิ้งตัวหลับตาเหมือนจะหลับ เห็นแบบนี้ผมเลยหมั่นไส้ มาทำให้ผมค้าง มันก็ต้องค้างบ้าง
ผมถอดกางเกงของไอ้ไฟออก ก่อนจะตามด้วยกางเกงใน ตอนทำผมก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากแค้น แต่พอถอดกางเกงไอ้ไฟออกเท่านั้นแหละ ภาพตรงหน้าก็ทำเอาผมสตันต์ไปนิดหน่อย
“อึก” ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ เมื่อเห็นสิ่งที่เคยหลบซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงของไอ้ไฟ ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้เคยเข้าไปอยู่ในกางเกงตัวนั้นได้ไง เพราะดูจากขนาด มันไม่น่าจะมีอะไรปิดมิดเลย
ผมมองส่วนนั้นของไอ้ไฟด้วยความเมากับสติที่เหลือเพียงน้อยนิด กว่าจะรู้ตัวอีกที ผมก็เผลอไปนั่งคุกเข่าลงตรงหว่างขาของไอ้ไฟแล้ว
“ไอ้เหี้ย”
ผมมองส่วนนั้นไปแล้วก่นด่าไอ้ไฟไป มันก็ทำหน้างงที่โดนด่า แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เห็นแบบนั้นผมเลยยิ่งหมั่นไส้มันไปใหญ่
เพียะ
ผมใช้มือตีที่ส่วนหัวมน ๆ ของมัน แต่พอโดนตีมันยิ่งผงกหัวขึ้นสู้ สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจทำอะไรที่ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะทำ
แผล็บ
ผมโน้มหน้าเข้าไปเลียส่วนหัวมน ๆ นั่น แล้วช้อนตามองไอ้ไฟ ตอนนี้ไอ้คนหลับมันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองผมแบบสะลึมสะลือ ผมเลยจัดการครอบปากลงบนส่วนใหญ่โตนั้นแบบทีเดียวแทบมิดคอ
“อื้อ”
“อื้ม”
ไอ้ไฟหลุดครางออกมาทันทีที่ผมครอบปากลง เห็นแบบนั้นผมยิ่งได้ใจ ขยับหัวขึ้นลงรัว ๆ ทันที
ผมใช้ลิ้นเลียหยอกล้อเล่นกับส่วนหัวกลม ๆ ขณะที่ปากก็ขยับขึ้นลง ดูดกลืนของไอ้ไฟเต็มที่ ผมมั่นใจว่าสกิลปากของผมไม่เป็นสองรองใคร แม้ตอนนี้ไอ้คนที่กำลังใช้ปากให้มันจะเมา แต่ผมก็จะโชว์ลีลาอย่างถึงที่สุด
“อ่อก อ่อก”
มือสองข้างที่เคยจับต้นขาแกร่ง เลื่อนมาหยอกล้อเล่นกับพวงไข่ทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าเพราะเมาหรืออะไร ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกคึกขนาดนี้ก็ไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าถ้าไอ้ไฟไม่น้ำแตก ผมไม่ยอมแน่ ๆ
“อ่อก”
“อื้ม”
ผมทั้งดูดทั้งรัวลิ้นแล้วช้อนตามองหน้าไอ้ไฟไปด้วย จนไอ้ไฟมันก็เหมือนจะไม่ไหว เอวหนาเริ่มเด้งสวนเข้ามาในปากผมบ้าง
“อื้อ”
ผมมองภาพที่ไอ้ไฟกำลังซี้ดปากแล้วเด้งเอวสวนเข้ามาด้วยใจเต้นรัว ผมชอบเวลาใช้ปากแล้วคู่นอนเด้งเอวสวนคืนแบบนี้ ยิ่งคู่นอนดูทนไม่ไหว ดูเสียวมากเท่าไรผมยิ่งรู้สึกเสียวตามมากขึ้น
ผมเลื่อนมือข้างนึงลงไปชักรูดส่วนกลางร่างกายขณะที่ใช้ปากไปด้วย พอเห็นว่าผมรูดส่วนกลางไปด้วย ไอ้ไฟมันก็ยิ่งโยกเอวเข้ามาแล้วกดหัวผมไว้จนตอนนี้น้ำตา น้ำลายของผมมันไหลเยิ้มเละเทะไปหมด แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจจะเช็ดมันออก
ผมกับไอ้ไฟต่างคนต่างกำลังต่อสู้กันด้วยการขยับของตนเอง แต่จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ไอ้ไฟที่ไม่ค่อยมีสติคว้าโทรศัพท์ผมขึ้นมากดรับ แต่ผมก็ดึงโทรศัพท์ไปได้ทันแล้วกดตัดสายไป
ผมทำสายตาดุใส่ไอ้ไฟก่อนจะดูดแก่นกายมันแรง ๆ พอเห็นแบบนั้นไอ้คนเมาก็ยิ้มออกมา ก่อนจะกลับมาตั้งใจเด้งเอวใส่ผมแบบรัว ๆ อีกครั้ง
เราเร่งเร้าจังหวะใส่กันก่อนจะถึงโค้งสุดท้าย ทั้งผมและไอ้ไฟกระตุกรัว ๆ ก่อนจะปลดปล่อยออกมา ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ไฟมันก็ไม่ยอมถอยกายออก มันปลดปล่อยทุดหยดหยาดของมันเข้ามาในปากแบบเต็ม ๆ
“อ่อก แค่ก ๆ”
น้ำสีขาวที่เยอะแสนเยอะของไอ้ไฟทำเอาผมสำลัก แต่แทนที่เจ้าของมันจะสำนึก มันดันทำหน้ามีความสุข แล้วแกล้งเอาส่วนหัวบาน ๆ ของตนเองมาเขี่ยแก้มผมอีก
“แค่ก ไอ้เหี้ยไฟ”
“เสียว”
ผมด่าออกไป แต่ไอ้ไฟมันไม่ตอบโต้ แถมยังมองผมตาเยิ้ม ๆ แล้วพูดว่าเสียว ก่อนจะดึงผมขึ้นไปนอนกอด
ก่อนที่ภาพในสมองของผมจะค่อย ๆ ตัดไปในที่สุด