ทุกคนย่อมมีอารมณ์

1372 คำ
 “ไอ้...ไอ้” เสียงสั่นระริกกดอารมณ์ไว้อย่างหนัก อยากด่าให้หายแค้นแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะดูจากแววตาแล้วผู้ชายตรงหน้าไม่ได้แค่ขู่แน่นอน เธอได้แต่จดจ้องนิ้วมือที่ยกขึ้นชี้หน้าแสดงถึงความไม่ยอมใคร น้ำลายเหนียวๆ ถูกกลืนลงคอภาพที่เห็นบอกให้รู้ว่าเขาสื่อถึงอะไร อย่าคิดทำนะ เดี๋ยวพ่อจัดให้ “ฉันจะฟ้องคุณใหญ่ เรื่องของแก” เมื่อคิดว่าด่าไม่ได้ เมรีก็ขู่ให้ เพื่อความสะใจ แต่เปล่าเลย คนถูกขู่ไขว้ไหล่ “เชิญตามสบายครับ หากคุณคิดว่าคุณใหญ่จะฟังคนอย่างคุณ ขนาดหน้าเขาก็ไม่อยากจะมองคุณเลย”  เขาไม่รู้สึกสะทกสะท้านคำขู่นั้นแม้แต่น้อยแต่กลับตอกกลับจนอีกฝ่ายหน้าบิดเบี้ยว บางครั้งเขาก็รู้สึกเห็นใจหล่อนนะ!เขารู้ว่าหล่อนต้องเจ็บกับคำพูดนี้ แต่ก็อยากให้ผู้หญิงเอาแต่ใจได้คิดบ้างและรู้จักฟังคนอื่นบ้างก็เท่านั้น… หัวใจที่มีแผลอยู่แล้วถูกสะกิดซ้ำด้วยคำพูด ทำให้เจ็บจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ปากบางกัดเม้มจนเป็นเส้นตรง ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นสู่ยอดอก จนอยากระบายสิ่งที่ถูกเอ่ยถึง ยิ่งอาการเมาค้างไม่สิ้นฤทธิ์บวกกับคำพูดโดนใจดำทำให้หูอื้อตาลายพุ่งตรงไปยังร่างแกร่งอีกครั้ง “นายจะรู้ดีไปแล้วนะ ไอ้...ว้าย!” ด้วยความที่อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ คนเมามุ่งตรงไปยังผู้ชายปากดี หมายจะทำร้ายให้สาแก่ใจ เท้าที่ขยับเกิดสะดุดกับขาตัวเองจึงทำให้เกิดเสียงร้องหวีดว้ายตามมา “อ้าว เฮ้ย ระวัง!” ร่างหนาถลาเข้ารับร่างบางที่กำลังเสียหลักเกือบหัวคะมำ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าการเสียหลักของเธอ ผ้าขนหนูที่พันกายอยู่หลุดลุ่ยกองอยู่บนพื้นห้อง การที่จะเปลี่ยนใจไม่ให้เข้าใกล้เธอตอนนี้ช้าไปเสียแล้ว… “อ้าย!!!ไอ้บ้า” เสียงหวานด่าทอ ใบหน้าแดงเถือก เมื่อเห็นสภาพของตัวเองไม่ต่างกับก่อนหน้านี้ เธอยันมือเรียวไปบนอกหนา พาตัวออกห่างเพื่อตั้งหลัก ก้มลงปิดสิ่งสงวนอย่างลวกๆ พร้อมก้มย่อตัวลงเก็บผ้าที่กองอยู่บนพื้น รีบพันร่างเปล่าเปลือยของตัวเอง คนช่วย ยืนมองร่างบางที่ไม่ได้ตังใจโชว์สายตา อย่างขำๆ “ไม่เห็นจะต้องปิด ในเมื่อผมก็เห็นของคุณมาหมดแล้ว” เขาบอกอย่างจงใจให้อีกฝ่ายได้คิด และนั้นใบหน้านวลที่มีสีเลือดฝาดอยู่แล้ว แดงเถือกจรดลำคอพร้อมคำด่า “ไอ้บ้า แกมันคนฉวยโอกาส” เธอลืมสิ่งที่ชายหนุ่มสั่งไว้ก่อนหน้านี้ ใบหน้าคมเข้มตึงขึ้น ทำให้เมรีนึกขึ้นได้ว่าพลาดไป มือเรียวยกขึ้นปิดปากตัวเองทันที แต่วิรุจไม่สนว่าหล่อนจะสำนึกตนหรือไม่ “ผมบอกคุณแล้ว ว่าอย่าด่าผมอีก...” เขาย่างสามขุมเข้าหาร่างบาง “คุณมันสวยแต่หน้าตา แต่ด้านสมองคุณมันกลับไม่เก็บความจำไว้เลย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ใจไม่นิ่งเหมือนน้ำเสียง เท้ายังคงเดินตรงเข้าหา โดยอีกคนต้องรีบถอยให้ห่างเขาเช่นกัน “นายว่าฉันโง่ แล้วนายไม่โง่กว่าหรือไง มาอยู่เป็นคนขายแรงงานราคาต่ำอยู่ได้ ถ้าฉลาดจริงก็ไปเป็นนายจ้างของตัวเองสิ ไอ้โง่...” แม้จะกลัวแต่ปากก็ยังโวยวาย เท้าที่ถอยหลังเริ่มลังเล เมื่อกวาดสายตาเห็นว่าตัวเองกำลังจะติดกำแพงปูน ไร้หนทางหนีจากท่าทางคุกคามนั้น หัวใจเริ่มสั่น แววตาหวาดหวั่น มองซ้ายแลขวา ไม่มั่นใจความปลอดภัยของตัวเอง แต่ความกลัวไม่ได้ทำให้สมองหยุดสั่งงาน จะหนีไปขวาก็ไม่ได้ ซ้ายก็ไม่ได้ ส่วนด้านหน้าก็เป็นกำแพงมนุษย์จะทำไงดีละทีนี้... ให้ตายสิ...ในใจเขาเดือดปุดๆ กรามหนาขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน “หยุดเลย คุณมันยิ่งกว่าโง่เสียอีก หึ... ผู้หญิงเป็นอย่างนี้กันสินะ ผู้ชายไม่เอาก็บากหน้าเข้าหา กลัวขายไม่ออกหรือไง? ” ชายหนุ่มตะคอกกลับ ความคิดบางอย่างที่เขาไม่เคยเก็บมาคิด หลังจากที่พาตัวเองออกจากบ้านมา  เหตุผลที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าทำไมหนุ่มนักเรียนนอกอย่างเขาต้องพาตัวเองออกมาทำงานเป็นลูกจ้างของคนอื่น ทั้งที่พ่อของตนก็มีฟาร์มเลี้ยงม้าใหญ่โตและต้องการคนสานต่อดูแลกิจการต่อจากท่านแต่เขาก็ต้องตัดสินใจหนีออกมา แค่ทิ้งจดหมายเอาไว้ว่า ‘ต้องการหาประสบการณ์’ แต่ความจริงเหตุผลในใจมากกว่านั้น ชายหนุ่มอย่างเขาไม่อยากเอ่ยให้ผู้ใหญ่รับรู้ ยอมเก็บความอึดอัดและอัดอั้นแบกออกมา แม้จะรักและอยากยืนเคียงข้างผู้เป็นพ่อ หาก...ก็ได้แต่คิดเมื่อผู้เป็นพ่อไม่ต้องการเขาเอาผู้หญิงรุ่นลูกทำเมีย... แล้วเขาละจะอยู่เพื่ออะไร...เมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หวังแค่เป็นแม่เลี้ยง... ไม่มีใครรู้ประวัติที่แท้จริง แม้แต่เจ้าของไร่กาแฟที่รับเข้าทำงาน ไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นคนจังหวัดใด เรียนจบอะไร แค่รู้ว่าเขาต้องการทำงานและตั้งใจทำงานอย่างคนขยัน จึงทำให้เจ้าของไร่คนก่อนไว้ใจจึงเลือกผลงานของการทำงานมากกว่าประวัติ จนกลายเป็นหัวหน้าคนงาน และคุมงานต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ สายตาคมเข้ม มองหน้าหญิงสาวที่ไม่ต่างอะไรกับกระต่ายตัวน้อยที่กำลังตกเป็นเหยื่อ เมื่อหลงทางเข้ามาด้ายเหตุผลการเอาแต่ใจ ความเจ็บปวดที่ถูกยกมากล่าว ทำให้หนุ่มที่เรียบขรึม กลายเป็นเสือหนุ่มเลือดร้อน พร้อมขย้ำเหยื่อ เสียงกรามขบเข้าหากันจนเกิดเสียง ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาสิ้นความอดทนด้วยเหตุผลที่เธอปากร้ายได้น่าเกลียดที่สุด...ใบหน้าของใครบางคนซ้อนทับเข้ามาในสมอง ก่อนจะรีบสลัดทิ้งคำว่า ‘เกลียด’ แทรกเข้ามาในห้วงความคิดแทนที่ความรู้สึกทั้งหมด “แกดูถูกผู้หญิงเกินไปแล้วนะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” น้ำเสียงกร้าวจัดบวกกับแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือด ต่อว่าอย่างไม่เกรงกลัว กรามหน้าบดกัดจนเกิดเสียงในหลายรอบ จนปวดไปทั้งหน้า “โทษผมไม่ได้แล้วนะ ปากคุณพาจนเอง” พูดจบตวัดคว้าร่างบางด้วยมือเดียว เหมือนกับหล่อนเป็นใครบางคนที่เคยทำให้เขาทรมานใจ แทรกเข้ามาในความรู้สึก เอาคืน สั่งสอน อวดเก่ง ถือดี! “ว้าย!นายจะทำอะไร?” คนปากกล้า ร้องเสียงหลง พยายามดิ้นให้หลุดจากมือหนาที่บีบกุมไหล่เนียนของตนไว้ ความเมาเกือบหายเป็นปลิดทิ้งในครานี้ “ก็ทำอย่างที่บอกไง” น้ำเสียงเขาเยือกเย็น จนเมรีหนาวในอก และไม่ทันระวังตัว วงแขนหนาอีกข้างก็ตวัดคว้าเอวบาง ยกร่างเธอพาดไว้บนบ่าอย่างง่ายดาย ตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มที่ดูสุขุมเงียบนิ่งจะทำอะไรที่ไร้มารยาทได้ “ไม่นะ ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อยไง ไอ้คนเลว มันจะมากไปแล้วนะ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คำด่าที่สาดออกมา ทำให้คนฝังใจ นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่มืดดำ เขาไม่ได้ยินคำขอและคำด่าอีกแล้ว “อ๊าย!เจ็บนะ” แม้สติไม่ได้อยู่กับร่องกับร้อย แต่ความรู้สึกยังมีครบ เสียงสั่นพยายามกรีดร้อง เมื่อร่างของตัวเองถูกทุ่มบนเตียงกว้างอย่างแรงและไม่ทันตั้งตัว คนที่แบกรับน้ำหนักไม่ได้ทุกข์ร้อน ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ดูซิ หลังจากนี้ ปากจะด่าว่าใครได้อีก” เอ่ยจบร่างหนาก็ตามลงมาทาบทับร่างที่พยายามถอยหนี แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามความต้องการของชายหนุ่ม จากแรงขัดขืนที่มีอยู่น้อยนิดของสาวใต้ร่าง มีหรือที่จะสู้แรงช้างสารที่กำลังตกมันอย่างเขาได้...  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม