เมื่อหล่อนยิ่งดิ้นชายหนุ่มก็ยิ่งกดแรงกระแทกลงไป ทำให้ความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณขึ้น จนน้ำตาที่เพิ่งจะแห้งหายไหลทะลักออกมาอีกครั้ง
น้ำอุ่นๆ ไหลลงกระทบสัมผัสผิวแก้มสากๆ ทำให้วิรุจหยุดชะงักลดความดุดันลง ถอดถอนจุมพิตออกขยับริมฝีปากดูดซึมซับน้ำตาที่ไหลรินอาบสองแก้มซ้ายขวาอย่างลืมตัว
“ผมขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวลแต่ก็ไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวช่วงล่างเพราะความอัดแน่น ที่กำลังจะระเบิดไม่อาจหยุดลงได้ จึงได้แค่มอบความอ่อนโยนและผ่อนแรงลงกลายเป็นความเสียวซ่าน กลับมาเยือนหล่อนอีกครั้ง
ความเจ็บปวดเริ่มเบาบางลงเมื่อได้รับจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อนแต่แฝงไปด้วยความอ่อนหวานซาบซ่านยากที่จะปฏิเสธ
หญิงสาวบิดกายเร่า แอ่นอกเข้าเสียดสีอกแกร่งอย่างลืมตัว สิ่งที่หล่อนทำ เหมือนจะทำให้ผู้ชายด้านบนพอใจเป็นอย่างมาก เขาผละจากใบหน้าหวาน ก้มดูดยอดอกอวบที่ชูช่อแข็งชันท้าทายสายตา ลิ้มรสความหอมหวานเกินคำบรรยาย โลมเล้าไปทั่วเรือนกายเหมือนช่วยปัดเป่าความปวดร้าวที่เริ่มทรมาน ในกายสาวให้หมดไป
ความเสียวซ่านหลั่งไหลเขามาจนถึงขีดสุด แรงกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ร่างสองร่างเผลอครางออกมาส่งเสียงผสานกัน ยามถูกดึงออกมันวาบหวาม ยามมันกระแทกส่งเข้าฝังลึกลงมาใหม่ มันทำให้ใจรัญจวนเกือบหายใจไม่ทั่วท้อง ลมหายใจขาดหายเป็นห้วงๆไม่ต่างกัน แล้วความดื่มด่ำและเร่าร้อนก็มาถึงขีดสุด สายธารอุ่นถูกส่งออกมาเต็มรักพร้อมกับร่างบางที่เกร็งกระตุกสองสามครั้งบีบรัดแก่นกาย จนชายหนุ่มไม่กล้าขยับ
ร่างแกร่งก้มลงทาบทับ หายใจถี่รัวบนอกนุ่มที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อไม่ต่างกัน ก่อนจะเบี่ยงตัวลงนอนข้างๆร่างบาง ที่นอนหลับตานิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ได้แต่นอนดูนิ่งๆ อย่างไม่เข้าใจ
อาการนิ่งเงียบชวนให้อึดอัด ร่างแกร่งในสภาพเปล่าเปลือยผุดลุกขึ้นและตัดสินใจเอ่ยประโยคก่อนหน้านี้ขึ้นอีกครั้ง
“เมื่อคุณยังไม่มีใครและผมยังไม่มีใคร ผมก็ยังยืนยันคำเดิม ผมอยากให้คุณพิจารณาผมไว้สักคน ผมพูดจริงๆ...” เขาหยุดพูดและถอนหายใจเหมือนคนกำลังอึดอัด พร้อมก้มมองดูร่างบางที่ยังคงนอนนิ่งเงียบ
“บางที...สิ่งที่คุณเห็น มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้ คุณเมย์” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง ก้มหยิบเสื้อผ้าตัวเองตรงไปยังห้องน้ำ
มันคงถึงเวลา...บางทีเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจทำให้เขาเปลี่ยนใจ กลับไปทำงานเพื่อสานต่อกิจการผู้เป็นพ่อและเพื่ออนาคตของตัวเอง...
ร่างหนาจัดการตัวเองอยู่ในชุดเรียบร้อยก่อนจะก้าวออกจากห้องน้ำและสิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือร่างบาง ที่นอนอยู่บนเตียง เขาอยากคุยกับเธอให้รู้เรื่องและจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่า หล่อนจะยินยอมหรือไม่
แต่แล้วสิ่งที่เขาอยากให้เป็นกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อบนเตียงมีแต่ความว่างเปล่า รอยยับย่นของที่นอนยังมีอยู่ให้เห็น หัวใจเต้นตุบๆ ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งสายตามองเห็นหยดเลือดจางๆ ที่ติดอยู่บนเตียงมันยิ่งย้ำความรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้าหัวใจ หล่อนไม่คิดห่วงและเรียกร้องสิ่งที่เสียไปเลยหรือไง...อารมณ์เดือดตะโกนถามอยู่ในใจ
หล่อนรังเกียจเขาถึงขนาดชิงหนีไม่ยอมเจอหน้า ทำแบบนี้มันหยามกันชัดๆ...หนุ่มใต้ผิวเข้มรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วกาย มือหนากำแน่นเข้าหากัน แววตาแข็งกร้าวก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เมรีพาร่างที่บอบช้ำก้าวออกจากโรงแรมไปทันที หลังจากที่มั่นใจว่าชายหนุ่มคงตามออกมาไม่ทัน ตากลมโตที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นกวาดมองไปรอบๆ ถนนหนทางที่ไม่คุ้นเคย รถ! คือสิ่งที่จะพาหล่อนไปให้ไกลจากที่นี่
แล้วเริ่มจากตรงไหนดี...เมรีกระสับกระส่าย ดวงอาทิตย์ก็เริ่มลับแสง ถนนและสถานที่เคยผ่านมาก่อนหน้านี้ก็เริ่มเค้าลางว่าจะจำไม่ได้ แสงไฟบนท้องถนนเริ่มส่องแสงให้เห็นเมื่อยามแสงอาทิตย์เริ่มลับหาย
“จะไปไหน น้องสาวพี่ไปส่งให้เอาไหม” เสียงห้าวของผู้ชายดังมาจากด้านหลัง ทำให้คนที่ไม่แน่ใจว่าเสียงนั้นต้องการถามใครกันแน่หันมอง
ชายหนุ่มผิวเข้มทรงผมเกรียนร่างใหญ่ เดินยิ้มเห็นฟันขาวตรงเข้ามา “ถามใคร” เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแต่ก็อยากถามให้แน่ชัด
“ก็ถามคนสวยนะสิ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้จ๊ะ” สายตาคมดุดันน่ากลัวในความรู้สึกของเมรี ครั้นอีกฝ่ายยิ่งจ้องมา เหมือนต้องการมองให้ทะลุเห็นเนื้อในของเธอ เธอยิ่งอยากหนีไปจากตรงนี้
“ฉะ...ฉัน...ฉันมายืนรอแฟน” เธอตัดสินใจโกหกออกไป เผื่อบางทีชายหนุ่มแปลกหน้าอาจจะล่าถอย
แต่ผิดถนัด คำพูดเธอกลับไม่ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นถอยห่างไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเดินเข้ามาแล้วกระชากร่างเธอเข้าหาตัวสุดแรง
“ว้าย!” เธอร้องออกมาอย่างตกใจ แต่อีกฝ่ายหาได้ตกใจกลัว
“โกหก ฉันเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วและดูท่าทางเธอจะไม่ใช่คนแถวนี้” พูดจบก้มมองสำรวจร่างบางอีกครั้งอย่างจาบจ้วง “ไก่หลงหรือเปล่า...” เอ่ยกระซิบข้างหูขาว เมรีได้แต่เอี้ยวตัวหนี อีกทั้งรู้สึกขยะแขยง พร้อมจิกตามอง
“ไอ้บ้า!ไก่หลงอะไรของแก”
“ว้าว...ดุเสียด้วย อย่างนี้พี่ชอบ ไปไหมเดี๋ยวพี่ช่วยพาไปให้หายหลง” เอ่ยจบ กระชากร่างบางตามติดไป โดยไม่สนใจเสียงเอะอะโวยวาย
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า! รู้ไหมว่าแฟนฉันเป็นใคร” เธอตัดสินใจ ถามออกไป และใบหน้าของใครบางคนที่เธอนึกถึงก็ผุดขึ้นมา ผู้ชายนิ่งหน้าตายคนนั้น!
แต่อีกฝ่ายกลับมาสนใจฟัง ตั้งหน้าตั้งตาลากเธอไปยังจุดหมายที่ได้หวาดหวังไว้ ในรถ หรือที่ตรงไหนสักแห่งที่ปลอดผู้คน
“บอกให้ปล่อยไงเล่า” ให้ตายสิ คนแถวนี้ไปไหนกันหมด เธอสาดสายตาไปมา เห็นรถราวิ่งผ่านไปมา แต่ไม่มีใครสนใจข้างทางแม้แต่น้อย หรือคนพวกนั้นคิดว่าเรื่องของผัวเมีย! ไม่ได้การละ เมรีคิดหาแผนการแค่เวลาน้อยนิด สติๆจงมา…
“ฉันจะให้ผัวฉันจัดการกับแกคอยดู” อ้างถึง ‘ผัว’ ทั้งที่ไม่อาจรับเขาคนนั้น ที่มีสัมพันธ์อย่างไม่ได้ตั้งใจได้ด้วยเลย พร้อมกันนั้น เธอรั้งเท้าไม่ให้เดินตามแรงกระชากของชายร่างใหญ่หน้าดุน่ากลัว