"คุณหนูได้เวลาไปเรียนแล้วนะครับ"
เอดานที่จำต้องช่วยผู้เป็นเจ้านายเลี้ยงลูกทั้งที่เขาเป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยเดินเข้ามาปลุกเด็กน้อยวัยสิบขวบที่ไม่เคยตื่นสายเลยด้วยตัวเอง สงสัยเมื่อวานเธอจะโดนคุณแม่ของเธอดุจนทำให้วันนี้งอแงไม่อยากไปเรียนอีกตามเคยและอาจจะหาข้ออ้างไปคลุกตัวในร้านขนม
เขาเข้ามายืนในห้องที่ไม่ใช่แนวเจ้าหญิงเหมือนเด็กทั่วไปแต่กลับตกแต่งโทนสีขาวสะอาดตาจนเขายืนมองอยู่ชั่วครู่ถึงได้ปลุกเด็กน้อยตัวจ้ำม่ำที่นอนขดตัวกลมอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาว ไม่ใช่ว่าไม่เคยเข้ามาในนี้แต่ระยะหลังเจ้านายฝ่ายพ่อหวงลูกสาวหนักมากจนเขาต้องห่างออกไป มองๆไปแล้วก็เหมือนผูกพันกับที่นี้เพราะนิทานไม่กี่เรื่องที่เด็กนางฟ้าตัวน้อยของบ้านนี้ชอบให้เล่าก่อนนอน
แต่พอเรียกเด็กสาวที่เคยดีดตัวลุกด้วยความชอบไปโรงเรียนและอยากจะออกไปกินช๊อตโกแลตในตอนเช้าหลังอาหารหลักก็ไม่ตื่นเธอนอนนิ่งอย่างน่าประหลาดใจ
เขาเรียกซ้ำอีกหลายรอบแต่ในใจเริ่มกังวลเธออาจเป็นอะไรหรือกำลังเล่นอะไรเกินเด็กอีก ถ้าไม่ติดว่าเจ้านายสั่งเอาไว้ห้ามแตะต้องตัวเธอเขาคงเปิดผ้าห่มออกดูคนด้านในไปแล้ว
เอดานยืนมองอยู่นานสองนานปากก็เรียกเธอไม่ขาดจนคอเริ่มแห้ง ถ้าด้านนอกไม่วุ่นวายจนเสียงเข้ามาถึงด้านในเขาคงออกไปตามพ่อหรือแม่ของเธอเข้ามาแล้วแต่ครอบครัวนี้มีลูกห้าคนที่กำลังซนมีแต่คุณหนูลูกจันทร์ที่พอจะรู้เรื่องมากที่สุดแต่ก็ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน
"หนาว"
เธอไม่รู้ว่าเขามายืนนานแค่ไหนแต่เพิ่งจะได้ยินเสียง ใบหน้ากลมๆ เลยฝืนออกมาจากผ้าห่มทั้งที่อากาศบนที่วัดอุณหภูมิภายในห้องก็บอกว่ากำลังดีแต่เธอกลับหนาวเข้ากระดูก
ใบหน้าที่เคยมีเลือดฝาดสวยกำลังดีเหมาะกับวัยเด็กตอนนี้แดงระเรื่อด้วยพิษไข้อย่างน่าสงสาร แล้วเธอก็ซุกตัวเข้าไปอยู่ภายในผ้าห่มอีกรอบ
"ไปหาหมอนะครับ"
เอดานละเมิดคำสั่งกร้าวที่ประกาศเอาไว้ด้วยการดึงปลายผ้าห่มให้ผ้าสีขาวนั่นเปิดออกเขาจะได้ดูอาการเธอให้ชัดขึ้นกว่านี้แต่ทว่า
"ไม่ไป"
เป็นธรรมดาของเด็กทั่วไปที่จะไม่ชอบการต้องไปโรงพยาบาล ลูกจันทร์ขดตัวจนกลมมากขึ้นจนเหมือนหมอนกลมๆ ใบหนึ่งบนเตียงนอนเล็ก เธอไม่ชอบการต้องไปนั่งให้รอหมอตรวจและจับเนื้อของเธอเอาเข็มจิ้มจนเจ็บระบม
"บอกแล้วว่าไม่อยากมา"
ลูกจันทร์หันไปค้อนวงใหญ่ใส่คนที่กำลังเข็นรถให้เธอนั่ง ถ้าเป็นป๊ะป๊าหรือแม่แคทเธอคงก้มหน้าเงียบอย่างเด็กกลัวหมอทั่วไปแต่กับเอดานเธอทำอย่างกับเป็นคนพิเศษที่เขาต้องดูแลร่างกายร่วมถึงจิตใจของเธอให้ดีที่สุด
เอดานก้มหน้าเข็นรถต่อตามหน้าที่ของเขา เขาไม่เคยบอกเหตุผลหรือความจริงอะไรกับใครอยู่แล้ว กับคุณหนูตัวน้อยนี้ก็ด้วยเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลมีหน้าที่แค่ขับรถกับเข็นรถมาส่งเธอเท่านั้น
"ไม่น่ารักเลยนะคะ"
แคทธารีนที่อุ้มลูกชายคนเล็กอยู่หันมาดุปนขำอาการของลูกสาวคนโต ถ้าลูกสาวของเธอโตกว่านี้คงคิดว่าแอบชอบพอกับเอดานแต่นี้วัยสิบขวบคงไปจำอาการค้อนวงใหญ่แบบนี้มาจากพวกการ์ตูนในยูทูปที่เธอชอบดู
"ไข้ขึ้นสูง มีตุ่มขึ้นด้วย หมอขอตรวจเลือดนะคะ ทนเจ็บหน่อยนะ"
อุปกรณ์เจาะเลือดครบชุดวางตรงหน้าพร้อมกับน้ำตาของคนป่วยที่ไหลออกมาเป็นทางยาว มองไม่ออกเลยว่าสาวน้อยของเราเคยสดใสแค่ไหน นี้ขนาดเข็มยังไม่ถูกเนื้อถูกตัวเธอเลยนะยังขนาดนี้ถ้าถูกโรงพยาบาลแตกแน่นอน
เสียงร้องไห้ดังออกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งที่หมอแค่จับแขนของเธอ ลูกจันทร์ร้องไห้จนน้ำตาไหลเปียกเสื้อนอนของเธอ และไม่มีหมอคนไหนกล้าเข้ามาทำอะไรเธอ
"ลูกจันทร์ คนเก่งของแม่แคท ไม่งอแงนะคะ ให้คุณหมอเจาะเลือดนะคะ"
แคทส่งลูกให้เอดานอุ้มส่วนเธอก็นั่งลงคุยกับลูกสาวที่กลัวจนไม่สนใจใคร คิดถึงพ่อของลูกจริงๆ ถ้าเขามาด้วยคงอุ้มลูกสาวและกอดเธอเอาไว้ให้หมอเจาะเลือดเรียบร้อยไปแล้วแต่เธอกลับทำได้แค่ปลอบกับกอดอุ้มคงไม่ไหวลูกจันทร์ตัวไม่ใช่เล็กๆ
"ผมเองครับ"
เอดานส่งเด็กชายตัวน้อยที่กำลังจะร้องไห้คาอกเขาเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดอุ้มมากกว่าเขาที่ดูจะดิบเถื่อนเกินกว่าที่เด็กจะสนิทด้วย ถึงจะเจอหน้ากันทุกวันก็ใช่ว่าจะวางใจให้ใครอุ้มง่ายๆ ซะที่ไหนเด็กคนนี้ห่วงเนื้อห่วงตัวสมกับที่เป็นลูกคนเล็กของบ้านซะไม่มี