“สวัสดีค่ะมาดามจิล” ทิชาโบกมือทักแม่บ้านประจำหอพัก
“ดีจ้าทีร่า ออกไปแต่เช้าเลยนะ” นางส่งเสียงทักทายกลับ
ขนมปังชิ้นสุดท้ายถูกยัดใส่ปาก ทิชาเลยไม่ได้ตอบคำถามนั้น
หลังปั่นจักรยานมาเกือบ10นาที เธอเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบๆ อิงจักรยานพิงข้างกำแพงในตรอกเล็กๆ ด้านหลังร้านอาหารไทยที่สามีชาวอเมริกันร่วมกันเปิดกับภรรยาชาวไทย กิจการไปได้ดี มีลูกค้าแวะเวียนมาชิมเนืองแน่น และที่นี่แทบจะเป็นทำงานประจำของทิชาเลยเชียวแหละ กับเวลาแปดชั่วโมง เธอทำงานเต็มที่ให้คุ้มกับค่าแรงที่นายจ้างจ่าย
“สวัสดีค่ะพี่แอ้” เสียงสดใสทักทายเจ้าของร้านชาวไทยที่กำลังคิดสตางค์ในแต่ละบิลที่ขายได้เมื่อวันก่อน
“สวัสดีจ้า มาแต่เช้าเลยนะทีร่า” สาวชาวไทยทักทายกลับด้วยสำเนียงคนบ้านเดียวกัน
“ชดเชยเมื่อวานไงคะ!” ทิชาตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
ตารางเรียนของเธอเมื่อวันก่อน กินเข้ามาในเวลาทำงาน เธอเลยขอตัวกลับก่อน และเพื่อนร่วมงานไม่ขัดข้อง ซึ่งมันไม่บ่อยนัก และเธอก็พร้อมจะชดเชยเวลาให้เต็มที่ ถึงเจ้าของร้านจะใจดี เธอก็ไม่อยากเอาเปรียบเขา เมื่อเงินแต่ละบาท กว่าจะได้มาช่างยากเย็น
“พักบ้างก็ได้นะ เล็กน้อยแค่นั้นพี่ไม่ว่าอะไรหรอก”
“แค่นี้ หนูไหวค่ะพี่” ข้อแขนเล็กๆ ยกขึ้นสูง แถมเบ่งกล้ามให้ประภา เจ้าของร้านคนสวยดู
“อิๆ” สาวใหญ่โครงศีรษะ นึกทึ่งความขยันของสาวร่างเล็ก
ทิชารีบเดินไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะเดินออกมาด้านนอก และลงมือทำความสะอาดพื้นอย่างแข็งขัน 1ชั่วโมงในการทำความสะอาด เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน และเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็เริ่มทยอยเข้ามาก่อนเวลาเปิดร้านนิดหน่อย
มันก็เหมือนทุกวัน ลูกค้าแวะมาชิมรสมือของเชฟที่ปรุงอาหารไทยขาย หลังปรับปรุงรสจนเหมาะกับลิ้นของคนต่างชาติ แม้จะไม่แซ่บเท่าต้นตำหรับ แต่ก็อร่อยไม่แพ้สูตรเดิม...ที่แตกต่างคือรสชาติที่ซอฟลงไปค่อนข้างเยอะ!
ทิชาเดินไปประจำที่ เธอดูแลลูกค้าในจำนวนโต๊ะที่เท่ากับเด็กเสิร์ฟคนอื่น แต่เพราะความเอาใจใส่ อัธยาศัยดี เธอจึงมีลูกค้าเจ้าประจำมากกว่าทุกคน นั่นย่อมหมายถึงจำนวนทิปที่ได้ ก็ย่อมมากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นเช่นกัน
“มาแต่เช้าทุกวันเลยนะทีร่า” แอนนาสาวอิตาเลี่ยนกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานและเพื่อนที่เรียนในวิทยาลัย’ เดียวกัน ก่อนจะเดินเลยเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทำงานแทน ทิชายิ้มให้ ไม่ทันได้ตอบ เพื่อนก็เดินหายไปด้านในเสียแล้ว เธอเลยลงมือเช็ดโต๊ะต่อ คร่าเวลาก่อนที่ลูกค้ารายแรกจะเดินผ่านประตูเข้ามาใช้บริการ
แต่ก่อนที่ลูกค้าจะเข้ามาด้านใน แอนนาเดินกลับมาในชุดเตรียมพร้อม หล่อนยื่นหนังสือพิมพ์ที่พับครึ่งไว้ส่งให้ ทิชาแทน ‘อะไร?’ หญิงสาวขยับปากถาม
“ดูเองสิ” แอนนาดึงผ้าในมือของทิชาไปและเริ่มลงมือเช็ดโต๊ะแทนเพื่อน
หัวไหล่กลมกลึงยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเปิดหน้าที่ถูกพับครึ่งไว้ออกดู
มุมปากได้รูปบิดลงเล็กน้อย เมื่อมองเห็นภาพที่เพื่อนต้องการให้เห็น เธอเงยหน้ามองเพื่อน และแอนนากำลังมองมาที่ตนเองพอดี
ทิชาแยกเขี้ยวให้แอนนา “โธ่!! นึกว่าใคร” หญิงสาวบ่นอุบ โยนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ ข้างตัว
แอนนายกมือปิดปากหัวเราะร่วน ข่าวที่เธออยากให้เพื่อนเห็นคือภาพสุดสวีทวี๊ดวิ้วของลอร่ากับผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าแม็กซิมัสเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูก เขาหล่อ เขารวยเว่อร์ แถมยังโสดแม้จะอายุเยอะไปสักหน่อยหากเทียบกับตนเองและเพื่อนร่วมงาน เมื่อเธอกับทิชามีอายุแค่23ปี แม็กซิมัสปาเข้าไป36ปี แต่กลับยังดูดีเกินวัย
ระหว่างลอร่ากับทิชามีข้อพิพาทหลายครั้ง ไม่ว่าจะในคลาสเรียนที่สองสาวเรียนที่เดียวกัน ล่าสุดแม่สาวไฮโซนั่นตามไปป่วนเธอถึงที่ทำงานพิเศษ เป็นชนวนเหตุให้เธอถูกไล่ออกมา...
ทิชาเลยต้องระวังตัวจัดที่ทำงาน เมื่อลอร่าดูเหมือนจะจงใจมีเรื่องกับเธอโดยเฉพาะ การที่สาวเสิร์ฟมีเรื่องกับลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะผิด หรือถูก สาวเสิร์ฟจะต้องถูกลงโทษเสมอ ทิชาเบื่อการจองเวรกับแม่สาวรายนั้น เธอมีเรื่องให้คิดมากกว่าการมาตั้งแง่เอาชนะกับคนถือตัวอย่างลอร่า หลายครั้งเธอเลยยอมให้ แต่ฝ่ายหลังดูเหมือนจะได้ใจ ตามรังควานเธอหนักข้อขึ้น
จนทิชายอมทิ้งงานที่เป็นรายได้ของตัวเอง เพื่อยุติความบาดหมางนั้น
“คราวนี้คู่ปรับของเธอดูเหมือนจะคว้าได้ผู้ชายดีที่สุดในประเทศไปครองเลยนะ”
แอนนาแอบกระเซ้าช่วงที่เดินผ่าน พร้อมกับทิ้งเสียงหัวเราะไว้ให้ทิชาได้ยิน
“ใครสนล่ะ ฉันมาเรียนนะแอน ไม่ได้มาหาแฟน!” หญิงสาวพึมพำตอบ สลัดความสนใจที่มีกับลอร่าทิ้ง สิ่งที่เธอควรทำคือการตั้งใจทำงานและเรียนให้จบตามเวลาเดิม
อเมริกาไม่ใช่บ้านเกิด เธอมาที่นี่เพื่อศึกษาหาความรู้กลับไปพัฒนาประเทศของตนเอง
อีกอย่างเธอกับลอร่าอยู่คนระดับ ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ดูต่ำต้อยในสายตาของเจ้าหล่อนเสมอ คงเป็นเพราะเธอดันมีผลการเรียนล้ำหน้าหล่อน เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของหล่อนโดยตรง เมื่อทิชาแทบจะไม่มีเวลาพัก เธอเอาเวลาที่ไหนอ่านหนังสือทบทวนการเรียน ในขณะที่ลอร่ามีทั้งติวเตอร์และหนังสือดีๆ หล่อนเลยรู้สึกเสียหน้า และเมื่อเจอะเจอกับทิชาในคราบสาวเสิร์ฟเจ้าหล่อนเลยไม่รีรอที่จะซ้ำเติม
ทิชายุ่งๆ กับการเสิร์ฟจนลืมเรื่องติดค้างในหัว เธอเหนื่อยเกินกว่าจะไปใส่ใจเรื่องหยุมหยิมกวนใจ หลังเสร็จงาน เธอก็ต้องรีบเร่งไปเรียนให้ทันเวลา ใช้เวลา24ชั่วโมงคุ้มค่าที่สุด เมื่อเธอไม่ใช่คนร่ำรวยที่จะได้เรียนอย่างเดียวเหมือนเช่นลอร่า นักเรียนทุนที่ต้องหาค่ากิน ค่าที่อยู่อาศัยเอง ทิชาเลยจำเป็นต้องดิ้นรนอย่างหนัก เหนื่อยแทบขาดใจแต่นั่นคือสิ่งที่เธอต้องทำ หากอยากคว้าความสำเร็จกลับไปสร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัว
นาฬิการาคาถูกบอกเวลาตรงพอๆ กับนาฬิการาคาเรือนแสน หญิงสาวพลิกนาฬิกาบนข้อมือดูเวลา หลังจบวิชาเรียนคาบสุดท้าย เธอรวบหนังสือเรียนกับโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่ายัดลงในกระเป๋าเป้ใบเก่ง กำลังจะขยับตัวออกจากที่นั่ง ก็มีเสียงเรียกดังๆ หยุดความตั้งใจของเธอเสียก่อน
“ทีร่าๆ เดี๋ยวสิ!!”
ทิชาหมุนตัวมองหาคนเรียกเธอ จึงเห็นว่าลอร่านั่งเด่นกลางคนกลุ่มนั้น เจ้าหล่อนเชิดหน้า ปลายตามองเธออยู่พอดี
“มีอะไรหรือ? ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ... เดี๋ยวจะไปทำงานสาย”
เธอไม่อยากเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ดังนั้นการตรงต่อเวลาคือสิ่งที่ทิชาทำมาตลอด
“มีสิ ถ้าไม่มีฉันจะรั้งเธอไว้ทำไมล่ะ” เจสสิก้า เพื่อนคนสนิทของลอร่าเป็นคนพูด
เมื่อไม่อยากสร้างปัญหาชวนปวดหัวเพิ่มขึ้น ทิชาจึงจำใจเดินเข้าไปหาคนกลุ่มนั้น
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าลอร่ากำลังควงกับใครอยู่?” เจ้าหล่อนเกริ่นนำเหมือนเป็นการอวดในที
“อืม” หญิงสาวจำใจพยักหน้ารับ ข่าวดังออกขนาดนั้น ทำไมคนอื่นๆ จะไม่รู้ล่ะ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา เพราะหากมีคำพูดเล็ดลอดออกมาสักนิดเดียว เธอคงถูกกระแหนะกระแหนอีกนาน
“แม็กเค้าเป็นเจ้าของร้านอาหารดังๆ หลายแห่งเลย หากเธอสนใจอยากทำงานที่นั่น ฉันก็พอจะคุยให้ได้นะ”
ลอร่าเป็นคนพูด ความหวังดีนั่น ทิชาไม่กล้ารับ เธอกลัวใจเจ้าหล่อนเหลือเกิน กลัวว่าลอร่าจะมีแผนการทำให้เธอขายขี้หน้าอีก
“ขอบใจจ้ะ พอดีฉันได้งานประจำแล้วน่ะ” ทิชายิ้มรับ บอกปัดความหวังดีนั่นด้วยรอยยิ้ม
“ร้านอาหารกระจอกๆ ค่าจ้างชั่วโมงละ10US สู้ร้านดังอย่าง Little jones restaurants.ได้ยังไง!” เจสสิก้าพูดแทรก มีรอยยิ้มแปลกๆ บนเรียวปากอิ่มของหล่อน จนทิชาเริ่มระแวง
เธอเคยได้ยินชื่อเสียงร้านอาหารหรูแห่งนั้นมาบ้าง ครั้งหนึ่งเธอเคยไปสมัครงานที่นั่น แต่ภัตตาคารระดับนั่นไม่รับเด็กพาร์ทไทม์ เธอเลยชวดไปตามระเบียบ แต่คนไม่ท้ออย่างทิชาในที่สุดก็หางานได้ แม้จะเป็นแค่เด็กเสิร์ฟต่ำต้อย แต่เป็นอาชีพสุจริตที่เธอใช้เลี้ยงชีพตนเอง
“ฉันว่า ค่าแรงมันต่างกันเยอะนะทีร่า!” เจสสิก้าพยายามท้วง
“ขอบใจอีกครั้งนะ แต่ฉันเกรงใจพี่เจ้าของร้านน่ะ เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันเอง หากลาออกไปตอนนี้ ที่ร้านเขาก็คงเดือดร้อนเหมือนกัน”