แซบเท่านั้นที่จะครองใจนาย
“พี่นุ่ม หนูจะต้องใส่ชุดพวกนี้จริงๆ เหรอ” อัณชญามองเสื้อผ้าที่นุ่มสรรหามาให้อย่างไม่แน่ใจ เพราะแต่ละชุด ไม่สั้นเสมอจิ๋ม ก็คว้านคอลึกเกือบถึงสะดือ
“เออ ใส่ชุดพวกนี้ อัณก็แซบเลยนะ เดี๋ยวพี่ช่วยแต่งหน้าอีก รับรองแซบเด็ด เผ็ดเหมือนกินพริกทั้งสวน”
“พี่นุ่มแน่ใจนะว่าใส่แล้วนายจะชอบ”
“ก็แหงสิ อีพวกที่อยู่ตึกส้ม ก็แต่งแบบนี้ทั้งนั้น บางคนนะใส่แค่ชุดชั้นในเดินไปมาในบ้านเสียอีก” ขณะป้าหมายและเด็กรับใช้คนอื่นง่วนอยู่กับงานบ้านที่ตึกใหญ่ นุ่มก็ถือโอกาสมาเรือนพัก เพื่อจัดแจงความแซบให้อัณชญาอย่างที่รับปากไว้
“ถ้าใส่แล้ว นายชอบ หนูก็จะใส่”
“เออ ใส่เลยๆ เดี๋ยวพี่แต่งหน้าให้ แล้วเดี๋ยววันนี้นายกลับบ่าย พี่จะให้อัณยกของว่างไปให้นายในห้องหนังสือ นายชอบนั่งทำงานที่นั่น หลังกลับจากไร่”
อัณชญารีบหยิบชุดแซกสีแดงเพลิง สั้นเสมอจิ๋มและคว้านลึกจนเห็นนมครึ่งเต้ามาใส่
“โห เห็นผอมๆ ตัวเล็กเหมือนเด็กประถม ไม่คิดว่านมจะระดับ
มหา’ลัย” นุ่มกวาดสายตาสำรวจร่างเล็กด้วยแววตาชื่นชม เพราะไม่คิดว่าเด็กสาวจะซ่อนรูป เห็นผอมๆ แต่มีทรวดทรง อก เอว และสะโพกกลมกลึง ก้นงอนจนนึกอยากฟาดมือตีอย่างมันเขี้ยว
“นายชอบคนนมใหญ่เหรอ” อัณชญาถามด้วยสีหน้าซื่อๆ
“ก็แหงสิ คนนมใหญ่ก็ได้ใจนายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลือคือลีลาล้วนๆ”
“งั้นพี่นุ่มสอนลีลาให้หนูได้หรือเปล่า”
“เฮ้ย ได้ไงล่ะ ของแบบนี้มันต้องฝึกปรือเอง แต่ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ”
“หนูจะพยายาม” เด็กสาวพูดด้วยสีหน้าหนักใจ เพราะการฝึกปรือเอง มันอาจหาดูหนังโป๊ได้ แต่ประสบการณ์นี่สิ จะไปหาจากไหน แฟนก็ไม่มี และตอนนี้คงมีใครไม่ได้ เพราะเธอกลายเป็นสมบัตินายไปแล้ว ถึงยังไม่ได้ทำหน้าที่ แต่เขาก็ซื้อเธอไว้แล้ว
“เออ อย่าเพิ่งเครียด ค่อยว่ากัน ตอนนี้มาแต่งหน้าก่อนเถอะ เดี๋ยวนายจะกลับมาแล้ว ต้องเตรียมพร้อม”
“ค่ะ”
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงนุ่มก็แต่งหน้าให้เด็กสาวหน้าใส กลายเป็นสาวเฉี่ยวเปรี้ยวเข็ดฟัน ด้วยการละเลงสีบนใบหน้าอย่างฉูดฉาด จนจำหน้าเดิมแทบไม่ได้
“พี่นุ่มคะ แน่ใจนะคะว่านายจะชอบ” อัณชญาถามเหมือนไม่แน่ใจกับสไตล์การแต่งหน้าสวยแซบของนุ่ม
“ต้องชอบอยู่แล้วแหละ พวกผู้หญิงตึกส้มก็แต่งแบบนี้กันทั้งนั้น”
เมื่อนุ่มยืนยันมั่นเหมาะแบบนั้น อัณชญาจึงไม่ได้สงสัยอะไรอีก แม้จะรู้สึกแปลกๆ กับสไตล์แต่งหน้าของนุ่ม ที่ดูๆ ไปก็คล้ายคลึงนางเอกลิเกอยู่หน่อยๆ เพราะแก้มแดงแปร๊ด ปากก็เหมือนกินเลือดสดๆ มา ตาก็วิบวับด้วยมุกแต้มบนเปลือกตา ดีว่าขนตางอนอยู่แล้ว ปัดแค่มาสคาร่าหนักๆ ก็พอ
แต่มันก็หนักไปไหมนะ เพราะดำปื้ดเลย
“เวลายกถาดวางบนโต๊ะ ก็ก้มต่ำ ให้นายเห็นร่องนม เข้าใจไหม ก้มต่ำ” นุ่มย้ำน้ำเสียงจริงจังมาก
“นายเห็นนมหนูแล้วจะอยากทำเมียเหรอคะ”
“แน่นอน นมนี่แหละคือใบเบิกทางเป็นเมียนาย”
“อ๋อค่ะ” อัณชญารับคำหนักแน่น คิดว่าแค่ก้มต่ำ มันก็ไม่ได้ยากอะไร
“ไปตึกใหญ่กัน ป่านนี้นายคงกลับจากไร่ และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องหนังสือเรียบร้อยแล้ว”
แต่เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนในตึก โดยเฉพาะบรรดาเด็กรับใช้ด้วยกัน นุ่มจึงให้อัณชญารออยู่ข้างตึก กระทั่งยกของว่างจากในครัวมาให้
“จำไว้นะ ก้มต่ำเข้าไว้”
“ค่ะ ก้มต่ำ ก้มต่ำ” อัณชญาพึมพำคำสอนของนุ่ม ขณะเดินไปยังห้องหนังสือที่อยู่ชั้นสอง ซึ่งนุ่มบอกเธอว่า ‘ห้องแรก’ แต่จำไม่ได้แล้วว่าปีกซ้ายหรือปีกขวา
แต่น่าจะเป็นปีกขวาแหละ
เมื่อมั่นใจว่าใช่แน่ เด็กสาวก็ยกถาดของว่างที่มีทั้งของคาว หวาน และผลไม้ เครื่องดื่มเป็นกาแฟดำ ตรงไปยังห้องแรกปีกขวาทันที
‘เคาะประตูก่อน แล้วค่อยเปิดเข้าไปได้เลย ไม่ต้องรอเสียงตอบรับจากนาย เพราะนายจะยุ่งอยู่กับงาน และเวลานี้นายก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเวลาเสิร์ฟกินของว่าง’
นั่นคือคำบอกกล่าวของนุ่มอีกเช่นเคย และอัณชญาก็ทำตาม ทุกขั้นตอน คือเคาะเบาๆ พอให้รู้ว่าของว่างมาแล้ว ก่อนจะหมุนลูกบิดแล้วผลักประตูเข้าไป เพื่อที่จะเห็น เห็น
“อุ๊ย!”
“เฮ้ย!”
ร่างสูงแกร่งด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ พร้อมสลัดผ้าขนหนูออกจากท่อนล่างถึงกับสะดุ้ง เขาอุทานอย่างตกใจ ที่จู่ๆ มีคนบุกรุกเข้ามาในห้องนอนของเขา
ชินภพรีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่เพิ่งสลัดไว้บนเตียงมาห่อหุ้มท่อนล่างอีกครั้ง ก่อนตวาดเสียงดัง
“เป็นบ้าอะไร เข้ามาในห้องฉันทำไม!”
ส่วนคนบุกรุกนั้นยืนตัวสั่น หน้าซีด ถาดในมือก็สั่นไม่ต่างร่างกายเจ้าตัว
“หนู เอ่อ ขอ...โทษค่ะ หนูคิดว่า...เอ่อ เป็นห้องอ่านหนังสือ หนูเอา เอ่อ ของว่างมาให้นาย” เธอรีบบอกด้วยน้ำเสียงอึกอัก ยอมรับว่าตกใจกับภาพเมื่อครู่ หัวใจก็เต้นแรง เหมือนจะทะลุออกมานอกอก
“ออกไปก่อน หาห้องหนังสือให้เจอ แล้วรอฉันที่นั่น!” เขาตวาดใส่อีกครั้ง พร้อมโบกมือไล่
“ค่ะ เอ่อ ขอโทษนะคะ” แล้วเด็กสาวเอ่ยละล่ำละลัก ก่อนจะเดินขาสั่นออกจากห้องนอนของผู้เป็นนาย เพื่อตรงไปยังห้องแรกของปีกซ้ายมือ
โอ๊ย ไม่น่าจำผิดเลย ตายแน่ๆ แน่ๆ
เข้าหานายครั้งแรกก็พังไม่เป็นท่า แถมยังไปเห็นนายโป๊ อะไรต่อมิอะไรของนายก็กระแทกตาชวนตะลึงมาก
ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนั้น!
เมื่อเข้ามาในห้องหนังสือแล้ว เธอก็วางบนโต๊ะในมุมที่มีโซฟา ที่จัดเป็นมุมนั่งเล่น อีกด้านที่อยู่ติดหน้าต่างเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ที่มีกองเอกสารและหนังสือวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
เด็กสาวนั่งอยู่บนพื้นห้องอย่างเจียมตัว ใจก็ยังสั่น ทั้งจากภาพเปลือยของนายที่ยังติดตา สีหน้าคมหล่อที่เต็มไปด้วยความโมโห นั่งกลัวความผิดอยู่ไม่กี่นาที ร่างสูงสง่าในชุดลำลอง กางเกงผ้าฝ้ายสีเทาตัวหลวมกับเสื้อยืดสีขาวพอดี ผมไม่ได้เซ็ทและชื้นนิดๆ คงยังไม่ได้เป่าผมจนแห้ง
เพราะรีบมาจัดการเธอแน่นอน
ดวงตาคมกริบเหมือนใบมีดโกนนั้น กวาดมองทั่วร่างเธออย่างสำรวจ ก่อนจะนั่งบนโซฟา นั่งนิ่งๆ จ้องมองร่างเล็กที่อยู่ในชุดแซกสั้น พอนั่งกับพื้นแบบนี้ชายกระโปรงก็ร่นไปถึงโคนขา ที่ทั้งเรียวสวยและขาวกระจ่างตา แล้วไหนจะท่านั่งที่ก้มหน้าตัวงอ คอเสื้อที่คว้านลึกอยู่แล้วก็ยิ่งลึกลงไปจนเห็นเต้าอวบขาวนวลลออตา
ชินภพถึงกับพรูหายใจเพื่อระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านภายใน ทั้งจากความโกรธ และอารมณ์บางอย่างที่จู่ๆ ก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่ทันเตรียมใจ ทว่าเสียงที่เปล่งออกมาคำแรกในตอนนี้
“เธอแต่งตัวบ้าอะไรเนี้ย!”
ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ยิ่งก้มหน้างุดลงไปอีก แน่นอนคอเสื้อก็ลึกตาม จนจะเห็นทั้งเต้าอยู่แล้ว
“เงยหน้าขึ้น แล้วตอบฉันมา!”
อัณชญาสะดุ้งอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่หล่อเหมือนฟ้าประทาน แต่ก็ช่างดุเหลือเกิน แล้วเธอก็เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
“คือ...เอ่อ...หนู....คือ....”
“คืออะไร!” ชินภพตะเบ็งเสียงใส่อย่างหงุดหงิด เพราะโมโหกับความอ้ำอึ้งของเด็กสาว
“หนูอยากแซบค่ะ”
“หา อะไรนะ!”
“พี่นุ่มบอกว่านายชอบผู้หญิงแซบ หนูเลยให้พี่นุ่มหาชุดแซบๆ และแต่งหน้าให้หนูค่ะ” เธอสารภาพไปตรงๆ เผื่อนายจะเลิกโมโหเสียที แต่ดูเหมือนว่า
“จะบ้าเหรอ อายุแค่นี้จะแซบไปทำไม!”
“ก็หนูอยากเป็นเมียนาย”
“ทำไมถึงอยากเป็น!”
“หนูอยากอยู่ที่นี่ หนูไม่อยากถูกนายไล่ออกจากบ้าน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพ่อจะขายหนูให้ไอ้เสี่ยโต หนูไม่อยากถูกส่งเข้าไปอยู่ในซ่อง” บอกพร้อมกับทำหน้าเศร้า ตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่นะ อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีก ทำตัวปกติ และตั้งใจเรียนหนังสือให้จบก่อนเถอะ” น้ำเสียงชินภพอ่อนลง อาจเพราะหน้าสวยๆ นั้นกำลังเบะปาก เขาอาจเสียงดังเกินไป หรือกลัวว่าเขาจะไล่ออกจากบ้านจริงๆ
“ค่ะ ค่ะ หนูจะไม่แต่งตัวแบบนี้อีกแล้ว หนูจะแต่งตัวตามปกติของหนูค่ะ” น้ำเสียงเริ่มร่าเริงขึ้นจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ และสงสัยท่าทีน้ำตาซึมเมื่อครู่
“ใช่ แต่งตามปกตินั้นแหละ แต่มีข้อแม้อย่างเดียวนะ”
“ข้อแม้อะไรคะ”
“ห้ามเอาหน้ามาให้ฉันเห็นอีก!”
“ค่ะ ค่ะ” นอกจากทำหน้าเศร้าแล้ว น้ำตายังไหลพราก เพราะเสียงนายเกรี้ยวกราดเหลือเกิน แถมใบหน้าหล่อเหลาราวฟ้าประทานนั้นก็ดุดันจนเธอรู้สึกกลัว
“ไปได้แล้ว!”
“ค่ะ ค่ะ” เด็กสาวลนลานออกจากห้องด้วยความกลัว ไม่คิดว่านายจะดุถึงเพียงนี้ เธอปล่อยโฮขณะวิ่งออกจากตึกใหญ่ วิ่งผ่านหน้านุ่มที่รอสังเกตการณ์อยู่ชั้นล่างตรงบันได
“อัณ เกิดอะไรขึ้น” นุ่มวิ่งตามหลังอัณชญาไปยังเรือนพัก กระทั่งขึ้นมาบนเรือน ก็เห็นอัณชญาปล่อยโฮอยู่ในห้องส่วนตัว
“อัณ เป็นอะไร นายทำอะไรอัณเหรอ! ”
อัณชญาก็ยังไม่ตอบ เอาแต่สะอึกสะอื้นตัวสั่น
“นายขยี้ความสาวของอัณแบบไม่ปราณีใช่ไหม แต่นายคงอดใจไม่ไหวน่ะ เพราะอัณแซบมาก อย่าโกรธนายนะอัณ เพราะพี่ได้ยินสาวๆ ที่ตึกส้มซุบซิบกัน เรื่องเซ็กซ์นายดุดันอยู่บ้าง แต่พวกนั้นก็ชอบกันทั้งนั้นนะ อัณไม่ชอบเหรอ”
“นายเขาตะเพิดหนูออกมา และบอกไม่ให้เอาหน้าไปให้เห็นอีกค่ะ ฮือๆ”
“อ้าว” นุ่มถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเลยงานนี้ แต่งงอยู่ได้ไม่กี่วินาที พลก็โทร. มาหานุ่ม บอกเสียงดังฟังชัด
[พวกมึงหาเรื่องใส่ตัวกันทำไมวะ อยู่ดีไม่ว่าดี นายโกรธมากรู้ไหม และมึงนะนังนุ่ม นายสั่งหักเงินเดือนครึ่งหนึ่งเป็นเวลาสองเดือน และถ้ามีครั้งหน้าอีก มึงได้ไปทำงานในไร่แน่]
“พี่พล นุ่มผิดไปแล้ว คุยกับนายให้หน่อยสิ โดนหักครึ่งหนึ่งตั้งสองเดือน นุ่มตายแน่ๆ ไม่พอส่งเงินค่างวดรถมอไซค์ให้พ่อน่ะสิ”
[เออ รอนายอารมณ์ดีก่อนจะคุยให้ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ]
เมื่อพลวางสายไป นุ่มถึงกับปล่อยโฮเสียงดังยิ่งกว่าอัณชญาเสียอีก
:::::::::::::::::::::
ความอยากแซบของอีหนูเป็นเหตุค่ะ