ข้ามิใช่สตรีวิปลาส!

1375 คำ
ข้ามิใช่สตรีวิปลาส!! หญิงสาวถอนหายใจออกมาหลายเฮือก พลางคิดถึงภาพความซวยสุดท้ายของตนก่อนโผล่มาในโลกโบราณที่ค่อนข้างแปลกพิสดาร และนางรู้รายละเอียดต่างๆ ไม่ถึง ‘แปดบรรทัด’ จากถุงกระดาษที่เล่าประวัติสตรีโฉมงามนามว่า ซูกุ้ยฟาง ผู้เป็นมารดาของสองบุรุษหนุ่มสกุลหยางที่ช่วยกอบกู้แคว้นเจ้า ก่อนหน้านั้น ซูกุ้ยฟาง หรือในโลกเดิมก็คือ ‘แสนเสน่ห์’ มีชีวิตแบบสาวออฟฟิศเมืองกรุงทั่วไป หญิงสาวเป็นคนชนชั้นกลาง เรียนจบจากมหาวิทยาลัยของรัฐด้วยเกรดเฉลี่ยที่นับว่าดีงาม หล่อนฉลาดหลายเรื่อง แต่มีสิ่งหนึ่งที่มักผิดพลาดเสมอ คือการทุ่มเทให้กับความรัก ซึ่งส่วนมากเป็นการแอบรักข้างเดียว และล่าสุดหล่อนแอบหลงรักบอสหนุ่มสุดหล่อในที่ทำงานใหม่ แต่การเป็นพนักงานบัญชีเงินเดือนสองหมื่นนิดๆ จึงเกินเอื้อมที่จะเนรมิตให้ตนสละสลวย แสนเสน่ห์ไม่อาจเป็นสาวงามเฉกเช่นที่พบเห็นได้ตามหน้าปกนิตยสารหรือสื่อออนไลน์ของสังคมไฮโซ ไม่ได้ใส่ชุดสวยทันสมัยอย่างที่เขานิยมกัน หล่อนเป็นสาวสวยฉบับประหยัด สวยอยู่ในมุมเงียบๆ ซึ่งไม่อาจโดดเด่นพอไปเตะตาหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีเลิศ กระนั้นหญิงสาวก็มีความสวยในแบบฉบับของตน หล่อนใช้ชีวิตอย่างพาฝันด้วยการแอบรักแอบปลื้ม มาติน หว่อง เจ้านายลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน พอให้ได้นอนหลับฝันดีทุกคืน และยังพร่ำเพ้อเขียนบันทึกถึงชายหนุ่มผู้นี้ยาวเหยียด แสนเสน่ห์คอยติดตามข่าวบอสหนุ่มอยู่เสมอ หลายครั้งพยายามสื่อสารด้วย ซึ่งเจ้านายรูปหล่อฟังภาษาไทยได้ดีมาก แถมยังพ่นภาษาอังกฤษและจีนได้ไฟแลบไม่แพ้กัน หญิงสาวจึงทำได้แค่ยิ้มหวานๆ กลายเป็นคนบื้อใบ้เกือบทุกครั้งที่พบหน้ากัน ภาษาอังกฤษนั้นยังพอลื่นไหลเอาตัวรอดได้สบาย แต่เมื่อใดที่เขาใช้ภาษาจีนหรือไต้หวัน แสนเสน่ห์จึงได้แต่ทำหน้าเหวอพร้อมยิ้มกว้างเป็นตุ๊กตาไร้สมอง อย่างไรก็ตามหญิงสาวล่วงรู้ถึงรสนิยมของมาติน อีกฝ่ายชอบผู้หญิง สวย สุภาพ อ่อนหวาน แสนเสน่ห์จึงปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งมโหฬาร ทว่าสุดท้ายอกกลับหักดังเป๊าะ เมื่อบอสหนุ่มหล่อมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอเป็นหญิงไทยแท้แต่ย้ายไปอยู่ไต้หวันกับบิดาและมารดา และครอบครัวของทั้งคู่หมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่แรกเกิด เธอมีชื่อว่านาตาลี หรือลีน่า สวย เก่ง ฉลาด และรูปร่างดีมาก แถมหน้าอกหน้าใจบิ๊กไซซ์ จนแสนเสน่ห์อยากหาเงินสักก้อนไปเสริมสองเต้าของตนให้เทียบเท่าเธอ “อูย คู่นี้เขาเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก” เสียงของป้าศรีทำให้แสนเสน่ห์ต้องช้ำใจหนักเข้าไปอีก “ป้าทำให้อารมณ์หนูบูดแต่เช้าเลยรู้ไหม” แสนเสน่ห์ถอนหายใจเป็นครั้งที่สิบหลังจากได้ข่าวว่าบอสมีเจ้าสาวตัวจริง และนาตาลีบินมาหาเขาถึงที่ ซึ่งคนที่คาบข่าวมารายงานให้ฟังคือป้าศรี แม่บ้านประจำออฟฟิศ “แหม หนูแสน ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเรื่องนี้คือความจริง” ศรีกล่าวอย่างออกรสออกชาติ “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ขอให้หนูได้ฝันกลางวัน ต่อไปอีกสักปีสองปีไม่ได้เหรอ” “อย่าเลย ตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้วหันมองคนใกล้ตัวบ้างดีไหม ยังมีผู้ชายอีกเพียบเลยที่หนูแสนควรให้โอกาส” ศรีว่าพลางมองไปยังร่างสูงที่เดินผ่านไปมาอยู่หน้าประตูห้องครัว “อย่างเช่นใครคะ ป้าอย่าบอกว่าพี่เมสเซนเจอร์ ลุงยาม หรือน้าปิติแผนกบุคคล” แสนเสน่ห์ไม่ได้ดูถูกพวกเขา แต่ถ้าคนไหนใจมันไม่คลิก หล่อนคงไม่อาจหลับหูหลับตาแล้วคบกันไปแบบส่งเดชได้! “บางทีหนูแสนอาจมองข้ามคนใกล้ตัว” ป้าแม่บ้านย้ำอีกครั้ง แสนเสน่ห์ส่ายหน้าหวือ เอาเข้าจริงในสายตาหญิงสาวตอนนี้มีเพียงบอสหนุ่มจะให้มองใครได้อย่างไรเล่า ในเมื่อทุกคืนหล่อนเพ้อถึงแต่เขา และติดรูปอีกฝ่ายไว้เต็มห้องนอน ในขณะที่กำลังคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอย่างสุดๆ ร่างสูงของลายสิงห์ คนขับรถผู้บริหารก็โผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง! “อ๊ะๆ ผู้บ่าวคนนี้ เทียวเข้าออฟฟิศบ่อยๆ มีอะไรหรือเปล่าน้า” ศรีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างคนสนิทสนมกัน ลายสิงห์ยิ้มให้แม่บ้าน เขามองเลยมายังแสนเสน่ห์ สายตาเขาดูปกติ แต่ไม่รู้เหตุใดหญิงสาวถึงรู้สึกว่าลำคอแห้งผากเสียดื้อๆ ด้วยดวงตาคมคู่นั้นกับใบหน้าเรียบเฉยส่งแรงขับเคลื่อนของบุรุษซึ่งร้อนแรง ดุดัน อีกทั้งชวนให้ท้องน้อยร้อนวูบวาบ และแผ่นหลังหล่อนเริ่มมีเหงื่อชื้นๆ “สวัสดีค่ะ วันก่อนขอบคุณสำหรับกะหรี่ปั๊บนะคะ แต่อย่าลำบากเลยค่ะ สาวๆ กลัวอ้วนกันทั้งออฟฟิศ” หญิงสาวบอกเขา ทั้งที่ลายสิงห์ซื้อมาฝากทุกคน เขาไม่ได้เจาะจงให้หล่อนสักหน่อย แต่หล่อนกลับร้อนตัว ด้วยพอเดาออกว่าอีกฝ่ายสนใจตนอยู่แน่ๆ ลายสิงห์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนเอ่ยกับแม่บ้าน “ป้าครับ ขอกาแฟหอมๆ ใส่น้ำผึ้งสักแก้วได้ไหม” หญิงวัยกลางคนยิ้มรับคนรูปหล่อ แล้วหันไปชงกาแฟให้เขา ระหว่างนั้นแสนเสน่ห์เหมือนตัวจะหดเล็กลง หญิงสาวรู้สึกประหม่ามากเมื่อลายสิงห์นั่งลงที่เก้าอี้ข้างกัน อันที่จริงเขาหล่อ ดูสุภาพ และผิวเข้มๆ กับดวงตาคมก็ชวนให้มองอย่างไม่รู้เบื่อ “ช่วงบ่ายพี่นวลบอกคุณหรือยังว่าให้ไปรับเอกสารกับผมที่บ้านนาย วันนี้เขาไม่เข้าบริษัท” “คะ?” แสนเสน่ห์ตกใจ หล่อนใฝ่ฝันอยากไปบ้านของมาตินหลายหนแล้ว และนี่คงเป็นโอกาสได้ใกล้ชิดชายที่หล่อนฝันถึงตลอดมา “ไปรับเอกสารครับ...” ลายสิงห์บอกสถานที่แก่หญิงสาว เป็นตอนนั้นที่แสนเสน่ห์เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตสานสบกับอีกฝ่ายพอดี เหมือนโลกหยุดหมุนเสียดื้อๆ แต่หล่อนรีบดึงสติและหัวใจตัวเองกลับได้ทัน “ไปก็ไปค่ะ” แสนเสน่ห์ยิ้มในใจ หล่อนวางแผนในหัวหลายอย่าง ยามนั้นคิดถึงภาพบอสหนุ่มสุดหล่อซึ่งเพียบพร้อมไปเสียหมด รวย มีบริษัทใหญ่โต และยังใจบุญ “ถ้างั้นตอนบ่ายเจอกัน” ลายสิงห์บอกหญิงสาว และป้าแม่บ้านชงกาแฟให้เขาเสร็จพอดี ลายสิงห์หยิบถ้วยกาแฟขึ้น เขาดื่มรวดเร็วหมดแก้ว จนทั้งศรีและแสนเสน่ห์ต้องอึ้ง “อุ๊ยๆ ระวัง หน่อยซีพ่อคุณ เดี๋ยวได้ลวกปากพอดี” “ไม่เป็นไรหรอกครับ ร้อนนิดหน่อยผมทนได้ อีกอย่างน้องเขาคงอึดอัดที่ผมอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มเอ่ยตรงไปตรงมา คนที่นั่งเงียบอยู่เลยหน้าบึ้งตึงทันควัน “อยากนั่งก็นั่งไปสิคะ แสนจะกลับออฟฟิศแล้ว” หญิงสาวเอ่ยจบจึงลุกขึ้นยืน แต่ไม่รู้ยืนอีท่าไหนถึงได้สะดุดขาตัวเอง และเป็นจังหวะนั้นที่มือใหญ่คว้าร่างเพรียวไปอยู่ในอ้อมอกแกร่ง “โอ๊ะ...ผะ ผมขอโทษ เห็นคุณจะล้ม” ใช่ ภาพเมื่อครู่คือหล่อนเกือบล้มหน้าคะมำลงบนพื้นด้วยความเซ่อซ่า แต่เขาก็ไม่ควรคว้าตัวหล่อนไปแนบชิดเรือนกายแกร่งที่ส่งกระไอร้อนออกมาให้สัมผัสจนรู้สึกหวามใจ “แล้วจะปล่อยได้หรือยังคะ” แสนเสน่ห์ส่งเสียงสูงใส่เขา เมื่อลายสิงห์ปล่อยให้คนหน้าบูดเป็นอิสระ กลับกลายเป็นเรื่องชวนให้ฉงน หัวใจของแสนเสน่ห์กลับกระตุกไหวในจังหวะที่ทำให้ใบหน้าหวานแดงซ่านและร้อนผะผ่าว ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่กับมาติน ผู้ชายที่หล่อนอยากตีหัวแล้วลากเข้าป่าละเมาะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม