บทที่5พบหน้าอีกครั้ง

1627 คำ
ชายชราไปแล้วจางซูฉีเดินเข้าไปในกระท่อม อืมมีห้องนอนหนึ่งห้องอีกห้องเป็นห้องเก็บสมุนไพร ห้องตำรานึกอะไรก็ได้หรืองั้น อยากได้กระดาษกับดินสอมีไหม ไม่นานก็ปรากฏกระดาษกองใหญ่ แต่เป็นกระดาษในยุคนี้แผ่นใหญ่ๆ "แม่เจ้า มีกระดาษมีดินสอ ขอสีด้วยมีหรือไม่" สักพักปรากฏสีสำหรับวาดภาพหนึ่งกล่อง จางซูฉี่ดีใจรู้แล้วว่าจะทำมาหากินอะไร ก่อนจะหยิบแบบเครื่องประดับเมื่อคืนออกมาลงสีดูสิว่าสิ่งนี้ทำเงินได้ไหม งานอดิเรกคือเขียนนิยายวาบหวิวเดือนหนึ่งมีรายได้กว่าแปดหมื่นถึงหนึ่งแสนหยวน ที่นี่น่าจะมีพวกคุณหนูที่ชอบแอบอ่านตำราต้องห้ามเหล่านี้ เงินจ๋าเงินเจ๊มาแล้ว จางซูฉีออกจากมิติตรงไปตลาดมาถึงหลังร้านผ้าก็ค่อยๆเดินไป ลองมองร้านค้าตามทางดูเหมือนเงินที่พวกเขาใช้จะคล้ายกันกับที่อยู่ก้นหีบ "เอ่อท่านน้า ข้าขอซาลาเปาสองลูกเจ้าค่ะกี่อีแปะเจ้าคะ" คนขายบอกราคานางจึงจ่ายเขาไป ไม่มีการมองหน้าแปลว่าใช้ได้ สังเกตคนอื่นจ่ายเงินแล้วแปลว่าเงินก้นหีบนี้สามารถซื้อของได้ จากนั้นก็ตระเวณซื้อข้าวสารสามสิบชั่ง แป้งสาลียี่สิบชั่ง เนื้อหมูติดมันสิบชั่ง มันหมูสิบชั่ง กระดูกซี่โครงห้าชั่ง ยุคนี้เป็นยุคอาหารการกินค่อนข้างสมบูรณ์มีอาริยะพอสมควร เครื่องในมีราคาแพงเช่นกัน ไม่เหมือนในนิยายทะลุมิติที่เคยอ่านที่บอกกันว่ากินไม่เป็น เนื่องจากเป็นนักเขียนและยังเป็นนักอ่านด้วยจางซูฉีจึงปรับตัวได้ไวนางซื้อหมั่นโถวสามสิบลูกซาลาเปาหมูสับสามสิบลูก ไส้ผักยี่สิบลูกบอกคนขายว่าจะเอาไปไหว้บรรพบุรุษวันนี้วันครบรอบวันตายสามีนาง หาที่ลับตาคนจับทุกอย่างยัดลงมิติก็มายืนอยู่หน้าร้านเครื่องประดับที่ชื่อว่า *งามเหนือกาลเวลา* แม่เจ้าชื่อนี้มันเฮ้อโบราณเกิ้น "เอ่อ ท่านป้าขอรับไม่ทราบว่าท่านจะซื้อเครื่องประดับแบบใดดีขอรับ จะปิ่นหรือกำไล ต่างหูสร้อยคอที่ร้านงามเหนือกาลเวลาของเรามีทุกอย่างเลยขอรับ" จางซูฉีเดินวนจนคนงานเริ่มไม่พอใจ "นี่ท่านป้า ถ้าไม่มีเงินก็เชิญออกไปเถอะเดินวนมาสามรอบแล้วแต่ไม่หยิบสักชิ้น เพ้ย วางท่าอะไรกันทำเป็นแต่งตัวดีแต่ไม่มีตำลึงในมือ" คนงานดูถูกนางเสียงดังจนหนานกงเยี่ยที่เมื่อคืนเขาพักที่ร้านถึงกับต้องลุกออกมาดู เห็นสตรีอายุราวสี่สิบยืนอยู่ได้ยินนางกล่าว "ข้าไม่ชอบแบบมันเชยเกินไป ช่างเถอะไม่เต็มใจขายข้าไปร้านอื่นก็ได้ข้าแค่คิดว่าเจ้าจะสามารถทำเครื่องประดับตามแบบที่ข้าวาดได้ไหม ในเมื่อดูถูกขนาดนี้คงต้องขอตัว" ใบหน้านางอายุสี่สิบแต่เสียงที่เปล่งออกมากลับคล้ายเด็กสาวหนานกงเยี่ยเดินลงมา "ท่านป้า ขอข้าดูแบบนั้นได้หรือไม่ หากเราทำได้ข้ายินดี" จางซูฉีหันไปเจอหน้าเจ้าของเสียงฉิบหายแล้ว มาร้านใครไม่มาดันมาร้านไอ้หน้าโบทอกซ์หรือ ไม่ๆไปร้านอื่นเถอะจางซูฉีแต่ขาเจ้ากรรมมันก้าวไม่ออกนี่สิ "ท่านป้าว่าอย่างไร ข้าขอดูแบบนั่นได้ไหมขอรับ"หนางกงเยี่ยเอ่ยอีกครั้งจางซูฉีที่ไม่คิดว่าจะเจอตาบ้านี่เริ่มตั้งสติได้แล้วจึงเอ่ย "เฮ้อ พ่อหนุ่มเอ๊ยป้าเนี่ยนะเคยค้าขายเครื่องประดับมาก่อน หลายปีก่อนสามีข้าล้มป่วยแล้วจากไปข้าพอมีฝีมือวาดภาพนิดหน่อยก็แค่อยากรู้ว่าร้านประดับใหญ่ๆจะถูกใจฝีมือต่ำต้อยของข้าหรือไม่ ไม่คิดว่าจะให้คนดูถูกเพียงนี้ ตาเฒ่าต้องโทษเจ้าที่ทิ้งข้าให้ลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวจูจูของข้าเพิ่งจะสิบขวบเองฮือๆๆ" หนานกงเยี่ยหันไปตำหนิคนงานก่อนจะมาจับมือจางซูฉีประคองไปนั่ง คนตัวเล็กถึงกับขาแข็งไอ้บ้านี่ถึงเนื้อถึงตัวเจ๊ได้ไงกัน หนานกงเยี่ยเห็นนางขัดขืนก็แปลกใจเหมือนท่านป้าคนนี้จะไม่ชอบเขา จางซูฉีเห็นเขามองมาจึงแสร้งปาดน้ำตาแล้วยอมให้เขาประคองไปนั่ง "ไปเอาน้ำชามารับรองแขก คนงานร้านข้าไม่สามารถดูถูกผู้ใดได้หากมีครั้งหน้าก็เก็บของไปหางานที่อื่น ท่านป้าข้าขอดูได้หรือไม่หากพอใจข้ายินดีซื้อ"ประโยคหลังหันมากล่าวอย่างอ่อนโยนกับจางซูฉี จางซูฉีหยิบกระดาษลงลวดลายมาให้เขา หนานกงเยี่ยเห็นแบบเครื่องประดับที่นางวาดก็ตะลึง นี่ฝีมือน้อยนิดหรือ นี่มันงามมากนักหากทำออกมาครบชุดเช่นที่นางวาดแน่นอนว่าต้องขายดี แคว้นอู่มีแต่คนร่ำรวย แต่แค่แปลกใจทำไมรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงกลางคนตรงหน้านักโดยเฉพาะกลิ่นกายนางเหมือนเพิ่มได้กลิ่นเช่นนี้ผ่านมาไม่นาน "ไปตามคุณชายสวีมาหน่อย"เขาสั่งคนงานอีกคนไม่นานสวีไค่เฉิงก็มาถึง บุรุษรูปงามอันดับสองของแคว้นอู่รองจากหนานกงเยี่ย เมื่อมาถึงหนานกงเยี่ยส่งแผ่นกระดาษให้เขาดู ทั้งคู่ถือกระดาษใบเดียวยืนคู่กันมือสวยสองคู่นั้นชี้ตัวอักษรและภาพวาดไปมาบางครั้งส่งสายตาให้กัน ปิ้ง!! "แม่เจ้าฉันแต่งนิยายเรื่องขบถหัวใจแม่ทัพไร้พ่ายนี่นา พระเอกเป็นแม่ทัพนายเอกเป็นกุนซือ โอ๊ยภาพนี่ละมุนมากอีอ๋องกับคุณชายคนนี้ตรงคอนเซปนิยายเจ๊เลย นิยายเรื่องนี้ในแคว้นอู่ต้องเกิดแล้วปะใส่ภาพสีสักหน่อยตอนที่โจ๊ะพรึมๆกัน เหอะๆเงินจ๋าเจ๊มาแล้ว" จางซูฉีที่ตอนนี้ยิ้มแก้มปริจนรอยย่นที่แต่งแต้มนั้นทำให้ดูแก่ขึ้นไปอีกก่อนที่ทั้งคู่จะเดินมาหาสวีไค่เฉิงเอ่ยขึ้น "ท่านป้าขอรับ แบบเครื่องประดับชุดนี้ท่านคิดราคาเยี่ยงไรพวกเราขอซื้อได้หรือไม่ และแน่นอนต้องทำสัญญาท่านมิอาจขายให้ผู้อื่นได้" "เอ่อ ข้ามีอีกแผ่นหนึ่งหากพวกท่านเห็นแก่หน้าแก่ๆของข้าไม่กดราคาเกินไปย่อมได้ เฮ้ออีกสองวันครบรอบวันตายสามีข้าแล้ว ข้าตั้งใจว่าหากหาเงินได้ก็จะกลับไปไหว้เขาสักหน่อยไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นเช่นไรหญ้าบนหลุมศพเขาคงจะสูงกว่าพวกเจ้าแล้วกระมัง" หานกงเยี่ยจามติดต่อกันจนสวีไค่เฉิงต้องไปลูบหลังแล้วถามว่าเป็นอะไร เขาตอบว่าไม่รู้อยู่ก็จามแบบนี้มาทั้งคืนแล้ว มีโอบกอด มีลูบหลังมีปลอบโยนกันด้วยห่วงใยกันเหลือเกิน แม่ชายารองเจ้าไม่มาดูคนเขารักกันนี่เล่าหึฆ่าข้าก็ไม่เกิดประโยชน์หรอก "ใครนินทาเจ้าหรือเปล่าไปสร้างศัตรูที่ไหนมาล่ะ คงบรรดาตระกูลที่ถูกเจ้าตะเพิดออกนอกจวนกระมัง" จางซูฉี่แน่ใจว่าเป็นนางนี่แหละที่ด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของเขาตั้งแต่เมื่อคืนจนหลับไป "ท่านป้าข้าให้ท่านสองแบบนี้สองพันตำลึง เพราะเครื่องประดับที่ท่านออกแบบมาต้องทำเป็นชุดจึงสวยงาม ท่านเขียนหนังสือเป็นหรือไม่มาทำสัญญากันเถอะ" "เอ่อ พ่อหนุ่มสวีเจ้าเขียนมาเถอะข้าอ่านออกเดี๋ยวประทับลายนิ้วมืออย่างเดียวพอ" จางซูฉีมีลายมือเป็นเอกลักษณ์ฉะนั้นนางจะไม่เขียนอักษรพร่ำเพื่อ หนานกงเยี่ยรู้สึกว่าท่านป้าตรงหน้าพยายามที่จะไม่พูดคุยกับเขาเพราะอะไรจำได้ว่าไม่เคยเจอนางมาก่อนไม่น่ามีเรื่องขุ่นเคืองใจ หลังจากทำสัญญาเสร็จก็ประทับลายนิ้วมือนางทำสัญญาว่าจะส่งแบบเครื่องประดับเดือนละชุด วันนี้ทางร้านให้นางสามพันตำลึงเป็นการร่วมมือ อีกทั้งยังมอบจี้หยกให้อีกหนึ่งชิ้นเป็นสินน้ำใจ จากนั้นจางซูฉีก็ขอตัว "ท่านป้าด้านนั้นมีร้านฝากเงินเป็นของคุณชายเยี่ยเช่นกัน หากท่านกังวลสามารถไปใช้บริการได้" จางซูฉีกล่าวขอบคุณนางมีมิติที่ดีกว่าร้านฝากเงินหนานกงเยี่ยมากนัก รู้สึกว่ามีคนมองตามเสียวสันหลังอย่างไรไม่ารู้จากนั้นก็เข้าตรอกร้านขายเนื้อทะลุตรอกขายธัญพืชก่อนจะถึงหลังร้านผ้าแล้วรีบสาวเท้ากลับบ้าน ไอ้หน้าโบทอกซ์นั่นดูเหมือนจะสงสัยในตัวนางตลอดเวลา ตอนที่นางลงชื่อในสัญญานางบอกพวกเขาว่าชื่อไป๋ซู่ สามพันตำลึงยังไม่พอพาเด็กสองคนหนีไปตั้งตัวต้องหาเงินเพิ่มอีกหน่อย "อาเฉิง เหตุใดข้ารู้สึกเหมือนท่านป้าคนนี้นางไม่อยากคุยกับข้านักเล่า" "เฮ้อท่านอ๋อง ชื่อเสียงในหมู่สตรีของท่านดีนักนี่" "แต่ว่านางไม่น่ารู้จักข้านะ ไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นเจ้าของที่นี่"หนานกงเยี่ยพูดจบก็เดินจากไปสวีไค่เฉิงถอนหายใจ เครื่องประดับนี้นี่ต้องรีบทำเขาอยากเห็นว่าทำออกมาแล้วจะงามขนาดไหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม