วิวาห์ร้อนอ้อน(ให้)รัก EP.2 วิวาห์พาวุ่น (1)

1345 คำ
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ทำให้บุคคลที่นั่งอยู่ในห้องต่างนั่งนิ่ง มองมาทางเธอด้วยสายตาไม่ชอบใจ ‘แม่ดาโทร. มานี่นา’ “ค่ะแม่” บัวชมพูกดรับแล้วเอ่ยถามมารดากลับไป “ตอนนี้เหมียวอยู่ไหนแล้วลูก พ่อกับแม่นั่งรอเหมียวอยู่นะ” คุณปนัดดาถามบุตรสาวกลับอย่างเป็นห่วง เกือบสามทุ่มแล้วแต่ยังไม่กลับบ้านหรือคนขับแท็กซี่ที่อยู่ข้างบ้านก็ยังไม่กลับบ้าน หรือยังรับส่งลูกค้าอยู่ จนไม่มีเวลาไปรับบัวชมพูกลับบ้าน “เหมียวยังอยู่ที่โรงแรมค่ะแม่ น้ายมยังไม่มารับเลย” “แล้วนี่เหมียวจะกลับบ้านกี่โมงล่ะลูก” เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “ถ้าน้ายมมารับ เหมียวก็กลับเลยค่ะแม่” บัวชมพูตอบ “ถ้าดึกมาก แม่ว่าเหมียวเปิดห้องนอนที่โรงแรมเลยดีไหม กลับบ้านดึกดื่นขนาดนี้ แม่เป็นห่วง” คุณปนัดดาบอกมาตามสาย ถึงยมจะเป็นคนข้างบ้านก็เถอะ แต่ยังไงก็ไม่ใช่ญาติสนิทของท่านกับสามี “ถ้าสี่ทุ่มน้ายมไม่มารับ เหมียวจะขึ้นไปนอนกับอรที่ห้องก็ได้ค่ะแม่ อรก็เปิดห้องนอนที่นี่เหมือนกัน” “ดีแล้วล่ะลูก แม่กับพ่อจะได้ไม่เป็นห่วง ถ้าเกินสี่ทุ่มแล้วก็นอนกับหนูอรที่โรงแรมเลยนะ” ท่านยังบอกบุตรสาวอย่างห่วงใย “ค่ะ อย่านอนดึกนะคะแม่” บัวชมพูบอกมารดาอย่างเป็นห่วง “จ้า ถ้าห้าทุ่มแล้วเหมียวยังไม่กลับบ้าน แม่กับพ่อก็จะเข้านอนเลย’ “ดีแล้วล่ะค่ะแม่ นอนดึกไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ” ช่วงนี้บิดามารดายิ่งสุขภาพไม่ดีด้วย ต้องพักผ่อนเยอะๆ ร่างกายถึงแข็งแรง สภาพอากาศก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แปรปรวนอยู่ตลอด ชักเป็นห่วงสุขภาพของพวกท่านแล้วสิ! “เหมียวก็ระวังตัวด้วยนะลูก” “ค่ะแม่ เหมียวจะระวังตัว” บัวชมพูตอบผู้เป็นมารดาแล้วกดตัดสาย จากนั้นก็หันมาสนใจสองสามีภรรยาที่อ้างว่าเป็นบิดามารดาของเธอด้วยแววตาเฉยชา แล้วปรายตามองไปยังสามีภรรยาอีกคู่หนึ่งที่นั่งมองเธอด้วยสีหน้าและท่าทางสนใจในบทสนทนาระหว่างเธอกับมารดา ****** คุณอติเทพกับคุณขวัญฤดีมองว่าที่ลูกสะใภ้อย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง พวกท่านก็เห็นความต่างเล็กน้อย เพราะหญิงสาวคนนี้สวยน่ารัก โครงหน้าก็ดูอ่อนหวานกว่าคนที่พวกท่านรับมาเป็นสะใภ้ “คุณพี่ค่ะ ฉันว่าแม่หนูคนนี้ไม่ใช่หนูพลอยหรอกค่ะ การแต่งตัวก็แตกต่างกันถึงหน้าตาเหมือนกันแต่เป็นคนละคนแน่นอน” “ผมก็คิดเหมือนคุณ” “คุณลุง คุณป้าเข้าใจถูกแล้วล่ะค่ะ เหมียวไม่ใช่ว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณลุง คุณป้าแน่นอนค่ะ” บัวชมพูเดินไปดึงบัตรประชาชนในมือของหญิงสูงวัยที่บอกว่าเป็นมารดาของเธอแล้วเอาไปยื่นให้สองสามีภรรยาอีกคู่หนึ่งดูทันที “นี่คือบัตรประชาชนของเหมียวค่ะ” คุณขวัญฤดีรับบัตรประชาชนจากหญิงสาวที่ท่านคิดว่าเป็นลูกสะใภ้มาดู ก่อนเบิกตากว้างเล็กน้อยกับรายละเอียดในบัตร ‘นางสาวบัวชมพู บวรนนท์ เกิดวันที่... ที่อยู่...ไม่ใช่หนูพลอยจริงๆ ด้วย แล้วทำไมถึงหน้าตาเหมือนหนูพลอยขนาดนี้’ “เป็นยังไงบ้างครับคุณแม่” หนุ่มหล่อในชุดสูทสีขาวเอ่ยขึ้น สายตายังราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา ตั้งแต่รู้ว่าพรทิพาหายตัวไปหลังจากเข้าพิธีช่วงเช้า ใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น คิดอยู่ว่าถ้าหาตัวเจอเมื่อไร จะตอบแทนสิ่งที่เธอทำให้สาสม “แม่หนูคนนี้ไม่ใช่หนูพลอยหรอกตาเสือ” “แต่ลุงสงสัยนิดหน่อย ทำไมหนูถึงหน้าตาเหมือนว่าที่ลูกสะใภ้ของลุงขนาดนี้ล่ะ บอกลุงหน่อยได้ไหมว่าหนูเป็นใคร” คุณอติเทพถามอย่างสงสัยระคนแปลกใจ มองเลยไปยังคุณไตรภพกับคุณอริสราอย่างคาดคั้น นี่มันไม่ใช่หรือธรรมดาแล้ว ผู้หญิงที่หน้าตาถอดพิมพ์เดียวกันออกมา แต่ไม่ได้เป็นญาติหรือพี่น้องกัน ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ “คุณบอกผมหน่อยได้ไหมว่าคุณเป็นใคร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับคนรักของผม ที่สำคัญทำไมคุณถึงมีหน้าตาเหมือนน้องพลอย” อธิปถาม เท่าที่รู้มาพรทิพาเป็นลูกคนเดียวของคุณไตรภพกับคุณอริสรา บัวชมพูแสยะยิ้มหันมองสองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วหันมามองสองสามีภรรยาอีกคู่ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอสลับกับหนุ่มหล่อในชุดสูทสีขาว ทั้งที่อยากลบเรื่องในอดีตทิ้ง แต่เธอก็ทำไม่ได้เสียที ความจริงที่เธออยากลืม ปล่อยครั้งที่ถูกเปิดขึ้นมาให้เธอต้องเจ็บปวด และครั้งนี้ก็เช่นกัน “สามีภรรยาคู่นั้นคงตอบคำถามคุณลุง คุณป้าได้” “นี่มันเรื่องอะไรกันหรือครับคุณไตร คุณหนึ่ง” คุณอติเทพถาม คุณไตรภพกับภรรยาถึงกับเงียบไป เพราะพวกท่านเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนบุตรสาวเพียงคนเดียวของพวกท่านเป็นใคร ก่อนฉุกใจคิดถึงเรื่องในอดีต “ปะ...เป็นไปไม่ได้” คุณอริสราร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก ยกมือขึ้นปิดปาก มือไม้สั่น ร่างกายสั่นเทา ดวงตาอาบไปด้วยหยาดน้ำตา “นึกออกแล้วหรือค่ะว่าฉันเป็นใคร” บัวชมพูยิ้มเยาะ ที่จริงเธออยากลืมสองสามีภรรยาคู่นี้ แต่ความจริงก็คือความจริง พวกเขาคือคนที่ให้กำเนิดและทอดทิ้งเธออย่างเลือดเย็นเช่นกัน ทั้งที่พยายามลืม พยายามไม่เข้าไปใกล้ แต่ทำไมสวรรค์ถึงเล่นตลกกับเธอนัก “หนูพลอย...เอ่อ...หนูเหมียวบอกป้าหน่อยได้ไหมลูก ตกลงหนูเป็นใครกันแน่” คุณขวัญฤดีเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยระคนอยากรู้ เพราะคนที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับถอดพิมพ์เดียวกันออกมา ไม่มีในโลกนี้หรอก นอกเสียจากว่าทั้งสองเป็นฝาแฝดหรือพี่น้องที่คลานตามกันออกมา “ลุงก็อยากรู้กเหมือนกัน” คุณอติเทพบอก ท่านก็อยากรู้เช่นกัน “เมื่อยี่สิบปีก่อนเหมียวถูกสองสามีภรรยาคู่หนึ่งพาไปทิ้งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยเหตุผลโง่ๆ จากหมอดูคนหนึ่ง หึ! หมอดูคนนั้นบอกว่าเด็กที่เกิดมาแปลกประหลาด ต่างไปจากพ่อแม่หรือฝาแฝดจะเป็นตัวกาลกิณี ทำลายตระกูลให้พินาศล่มจม” “ป้าก็ไม่เห็นว่าหนูจะแปลกไปจาก เอ่อ...หนูพลอยตรงไหนเลย” คุณขวัญฤดีบอกอย่างแปลกใจ รู้สึกเห็นใจหญิงสาวไม่น้อย ไม่นึกว่าโลกนี้จะมีพ่อแม่ที่หลงงมงายอยู่กับเรื่องเล่าคร่ำครึแบบนี้อยู่อีก “สีตาไงค่ะที่เหมียวไม่เหมือนพวกเขา” บัวชมพูบอกด้วยรอยยิ้มหยัน ก่อนเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วเดินกลับออกมาอีกครั้งในเวลาไม่นาน “สีดวงตาเหรอจ้ะ” “นี่ไงค่ะ ตาเหมียวเป็นสีเฮเซล มันแปลกใช่ไหมค่ะที่คนไทยมีดวงตาสีแบบนี้ หึ! มันก็แปลกจริงๆ นั้นแหละ เพราะที่จริงแล้วดวงตาสีเฮเซลพบมากในคนเอเชียกลางกับตะวันออกกลาง การที่เหมียวมีตาแบบนี้เลยแปลกสุดๆ” บัวชมพูเล่าด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แสยะรอยยิ้มใส่บิดามารดาผู้ให้กำเนิดที่ทอดทิ้งเธอในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเลือดเย็นในอดีต โชคร้ายจริงที่ดันมาเจอคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุดในชีวิต คุณไตรภพกับคุณอริสราถึงกับนั่งเงียบ ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนบุตรสาว คุณอติเทพกับคุณขวัญฤดีมองหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนว่าที่ลูกสะใภ้อย่างสงสารและเห็นใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม