ตอนที่ 2 ไม่ใช่เมียน้อย

2583 คำ
ด้านริชาร์ทพอเซ็นต์สัญญากับลูกค้าเสร็จ เขาก็นึกอยากจะไปหาลิต้า เพราะว่าเขาเห็นเธอทำท่าทางงอนเขา เขาจึงอยากจะไปเซอร์ไพรส์เธอที่คอนโดสักนิด จนกระทั่งเข้าขับรถมาที่คอนโดของลิต้าในเวลาเกือบสี่ทุ่ม ก่อนจะเอาคีย์การ์ดห้องของลิต้ามา แล้วเดินเข้าไปในคอนโดทันที “ทำไมเงียบจัง หรือว่าจะหลับไปแล้ว” ริชาร์ทเอ่ยพูดออกไป เมื่ออยู่หน้าห้องของแฟนสาว ก่อนจะทำหน้าสงสัย แล้วเสียบคีย์การ์ดเข้าไปในห้องของลิต้าทันที “อ้ะ อ้ะ ฟิลลิปขา แรงอีกค่ะ อ้ะ อ้ะ” ลิต้าร้องครางออกมาเสียงดังจนริชาร์ทที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยิน เขาจึงรีบมาดูที่ห้องนอนของลิต้าที่เปิดทิ้งไว้ โดยมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายเต็มพื้น “ผมกับแฟนคุณ ใครเอามันส์กว่ากัน ตอบผมสิที่รัก” ฟินลิปซึ่งเป็นนายแบบที่ถ่ายแบบกับลิต้าวันนี้เอ่ยถามออกไป เพระเขาได้ยินมาว่าไอ้หมอนั่นลีลาดี เขาก็อยากจะรู้ว่าระหว่างเขากับไอ้หมอนั่นใครลีลาดีกว่ากัน “อ้ะ อ้ะ คุณสิคะ อ้ะ อ้ะ ดีกว่ามาก อ้ะ อ้ะ” ลิต้าเอ่ยตอบไปอย่างโกหก เพราะเอาจริงๆแล้วลีลารักของฟินลิปสู้ไม่ได้กับริชาร์ทเลยด้วยซ้ำ แต่เธอต้องโกหกเพราะตอนนี้เธอกำลังมีเซ็กส์กับเขาอยู่ ริชาร์ทที่อยู่ด้านนอกได้ยินและได้เห็นความร่านของลิต้าก็กำหมัดแน่นอย่างแค้นใจ เขาคิดว่าเธอจะรักเขา แต่มันไม่ใช่เลย เธอก็เป็นเหมือนผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาหาเขา ริชาร์ทหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปของทั้งสองไว้ ทันที ก่อนจะเอ่ยพูดออกไป “สงสัยผมคงดับความร่านในตัวของคุณไม่ได้สินะ ถึงต้องให้ไอ้นี่มันมาช่วย” ริชาร์ทเอ่ยพูดไปก็กำมือถือที่ถ่ายคลิปไว้มั่น ส่วนฟินลิปและลิต้าพอได้ยินเสียงบุคคลที่สาม ก็รีบผละออกจากกันทันที พอเห็นว่าเป็นริชาร์ททั้งสองก็หน้าซีดราวกับไข่ต้ม “ริกค่ะ ลิต้าขอโทษ ลิต้าไม่ได้ตั้งใจ” ลิต้าเอ่ยพูดออกไปเสียงสั่น เธอจะทำยังไงดี ริชาร์ทต้องโกรธเธอมากแน่ จะทำยังไงดีนะ ลิต้าคิดในใจอย่างว้าวุ่น “หึ ผมไม่อยากจะเชื่ออะไรคุณอีกแล้วลิต้า ผมตั้งใจถ่ายคลิปของคุณกับไอ้ชู้ของคุณที่มันลีลาดีกว่าผมไว้ด้วยนะ ไหนๆมันก็ลีลาดีแบบนี้ โชว์ให้คนอื่นๆเขาดูหน่อยเป็นไง” ริชาร์ทเอ่ยพูดก็กดโหลดคลิปของทั้งสองลงในอินเตอร์ทันที “ไม่นะคะริก อย่าทำแบบนี้กับลิต้านะคะ ไม่นะคะ” ลิต้าพูดไปก็ร้องไห้ออกมา เพราะหากมีคลิปหลุดออกไป อนาคตของเธอในวงการนี้ต้องดับลงไปแน่ “ทำไมจะทำไม่ได้ คุณเลือกจะทรยศผม ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาสิ อ่ะเก็บไว้ดูซะจะได้รู้ว่าแกน่ะ ยังไม่ได้ครึ่งของฉันด้วยซ้ำ ลีลาแบบนี้ไปฝึกมาใหม่นะไอ้อ่อน” ริชาร์ทเอ่ยพูดอย่างเยาะเย้ยด้วยความสะใจ ก่อนก็โยนโทรศัพท์ให้กับไอ้ชู้รักที่กำลังทำหน้าเครียดอยู่ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องทันที “กรี๊ด ไอ้บ้า ไอ้เลว ฉันไม่น่าหลงไปคบคนอย่างแกเลย ไอ้เลว” ลิต้าพ่นคำด่าออกมาด่าริชาร์ทอย่างโมโห เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะร้ายกับเธอขนาดนี้ คอยดูเถอะ เธอจะไม่มีวันตกต่ำแน่ แค่คลิปนั่นก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ริชาร์ทเดินออกมาจากคอนโดของลิต้าอย่างโมโห เขาก็ขับรถสปอร์ตคันหรูออกไปอย่างรวดเร็ว “โธ่เว้ย” ริชาร์ทสบบทออกมาอย่างหัวเสีย พร้อมกับเหยียบเร่งคันเร่งมิดไมล์จนไม่เห็นรถที่กำลังจะข้ามถนน เขาจึงหักพวงมาลัยหลบจนรถพลิกคว่ำไปชนกับต้นไม้ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยมีชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นพามาส่ง สามเดือนผ่านไป ด้านรมิดาก็เรียนการแสดงและร้องเพลง เพื่อจะเอาไปใช้ในละครที่เธอกำลังจะได้เล่นบทนางเอก จึงต้องปรับตัวและเรียนรู้ทุกๆอย่าง จนตอนนี้เธอดรอปเรียนเพื่อจะมาทำงานอย่างเต็มตัว เธอจึงนัดเพื่อนสาวทั้งสองคนที่เธอสนิทที่สุดมารับรู้การตัดสินใจของเธอในครั้งนี้ “ยัยฟ้า แกแน่ใจนะว่าจะดรอปเรียนอ่ะ อีกแค่สองปีพวกเราก็จะจบแล้วนะ ทำไมแกไม่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยอ่ะ” มีนา หลานสาวคนเล็กของเจ้าสัวนิรุจ เอ่ยถามเพื่อนสาวออกไป เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนสาวทำ “ปล่อยยัยฟ้าไปเถอะมีนา ขนาดฉันพูดจนปากจะแฉะอยู่แล้ว ยัยฟ้ามันยังไม่ฟังฉันเลย” เจนสุดา เพื่อนสาวของรมิดาเอ่ยพูดออกไป เพราะเธอก็ไม่ได้อยากจะให้เพื่อนสาวมาทำงานไปด้วยแล้วเรียนไปด้วย “มันเหนื่อยไงแก อีกอย่างฉันดรอปแค่เทอมเดียวเองไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า แล้วนี่ปัญหาที่บ้านแกเคลียร์แล้วเหรอ ถึงได้มานั่งเฝ้าฉันได้เนี่ย” รมิดาเอ่ยถามออกไป เพราะตั้งแต่ที่ลูกพี่ลูกน้องของมีนาประสบอุบัติเหตุเข้าโรงพยายาบาลไปเมื่อสามเดือนก่อน เธอก็แทบจะเห็นหน้าเพื่อนสาวนับครั้งได้ เพราะมีนาไม่ค่อยว่างมาหาเธอสักเท่าไหร่ “อืม ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้วล่ะ ต่อไปฉันก็คงเรียนอย่างเดียวแล้วล่ะแก ยิ่งพี่รันมาสอนแบบนี้ฉันก็คงต้องตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ” มีนาเอ่ยบอกไป ก่อนจะพูดไปถึงลูกพี่ลูกน้องสาว ที่อายุห่างกันห้าปี จะมาเป็นอาจารย์สอนในคณะของเธอ “อ่อ อาจารย์ที่มาใหม่เป็นพี่แกเหรอ เอ๊ะ แกมีพี่ชายไม่ใช่เหรอมีนา แล้วพี่รันนี่มาจากไหนยะ” เจนสุดาเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา เธอก็รู้แค่ว่ามีนาคือหลานสาวของเจ้าสัวนิรุจ และมีพี่ชายแค่คนเดียว ก็คือธีทัต “เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉันน่ะ พี่รันกับพี่ริกเขาเป็นลูกของอาฉันกับแหม่มฝรั่งน่ะ พึ่งกลับมาจากอิตาลี่เพราะว่าพี่ริกป่วย พี่รันก็เลยมาช่วยดูแล ตอนนี้ฉันก็เลยต้องคอยดูแลพี่รันไปด้วย เพราะยังไม่ชินทางในกรุงเทพ” มีนาเอ่ยบอกไปอย่างละเอียดจนเพื่อนสาวทั้งสองหายสงสัย “อ่อ เป็นลูกครึ่งนี่เอง คงจะสวยจะหล่อใช่ย่อยเลย อิจฉาแกว่ะ” เจนสุดาเอ่ยไปก็ยิ้มอย่างเพ้อฟันตามประสาสาวช่างเพ้อ “อิจฉาบ้าอะไร ไปกินข้าวกันได้แล้วไป วันนี้ฉันต้องไปหาพี่รันอีก” มีนาเอ่ยพูดก็พาเพื่อนสาวทั้งสองคนไปทานข้าวทันที ด้านริชาร์ทที่มาโรงพยาบาลตามที่หมอนัดก็คิดไม่ตกกับอาการที่เขาเป็นอยู่ เพราะตอนนี้เขาเริ่มเดินได้เหมือนปกติแล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าน้องชายของเขามันใช้งานไม่ได้ดังเดิมนี่สิ มันเรื่องแปลก “อย่าพึ่งคิดมากนะไอ้ริก ตอนนี้แกต้องค่อยๆรักษาไปก่อน เดี๋ยวอาการมันก็จะดีขึ้น” ชยุตซึ่งเป็นหมอประจำตัวของริชาร์ทเอ่ยบอกเพื่อนหนุ่มออกไปอย่างให้กำลังใจ “เรื่องนั้นฉันไม่กังวลหรอก แต่เรื่องที่ฉันกังวลมันคือเรื่องน้องชายของฉันต่างหาก มันเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ขนาดฉันลองชักว่าวมันยังไม่แข็งเลยไอ้ยุต ฉันควรจะทำยังไงดีว่ะ” ริชาร์ทถามออกไปอย่างเครียดๆ เพราะมันถือเป็นชีวิตและจิตใจของเขา เขาจะต้องรักษามันให้หายให้ได้ “อะไรนะ นี่แกยังมีอาการเสื่อมสมรรถภาพอีกเหรอวะ ฉันขอตรวจแกแบบละเอียดก่อนได้ไหมวะ จะได้สรุปอาการได้ชัดเจน” ชยุตเอ่ยพูดออกไป เมื่อได้รู้อาการล่าสุดของเพื่อนหนุ่ม มันอาจจะเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร จากนั้นชนยุตก็เริ่มถามรายละเอียดกับเพื่อนหนุ่ม ก่อนจะพาริชาร์ทไปตรวจแสกนร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง “ผลตรวจร่างกายของแกก็ปกติดีนะไอ้ริก แต่เรื่องเสื่อมสมรรถภาพนี่สิวะมันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับแกได้” ชยุตเอ่ยพุดก็เอามือเกาหัวอย่างสงสัย ก่อนจะโทรหาอาจารย์หมอที่อเมริกาเพื่อปรึกษาเป็นกรณีพิเศษ ก่อนจะได้วิธีแก้ไขมาเพื่อช่วยเพื่อนหนุ่ม “ไงไอ้ยุต ฉันต้องรักษาไอ้โรคบ้านี่ยังไง” ริชาร์ทเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ เพราะเขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต “เฮ้อ อาจารย์ฉันบอกว่าเคสแกเป็นหนึ่งในล้านเลยนะเว้ยที่จะเกิดขึ้นได้ แกต้องรักษาอาการนี้โดยมีพยาบาลคอยบำบัด แต่ที่นี่ไม่มีพยายาบาลที่จะไปบำบัดน้องชายแกหรอกนะเว้ย แกต้องไปหาเอาเอง” ชยุตเอ่ยบอกไป เพราะอาการที่เพื่อนของเขาเป็นจะต้องรักษาด้วยการกระตุ้นอวัยวะเพศทุกวัน จนกว่ามันจะมีอาการเป็นปกติ “อะไรวะ แล้วยาล่ะ ไม่มีรึไง ถ้าคนอื่นรู้ฉันก็อายแย่สิวะ คาสโนว่าแบบฉันต้องมาเสื่อมไอ้นี่ โธ่โว้ย ” ริชาร์ทเอ่ยถามออกไปอย่างกล้ำกลืน เพราะถ้าจะให้เขามีพยาบาลแบบนั้นมันหาไม่อยากหรอก แต่เขาต้องการย่นเวลาให้มันเร็วขึ้น เพราะเขาไม่อยากจะให้ใครมารับรู้เรื่องน่าอับอายนี้ของเขา “ ยาน่ะมี อาจารย์ฉันจะส่งมาให้ในอีกสองอาทิตย์ ฉันว่าแกต้องไปหาที่รักษาตัวแล้วล่ะว่ะ ถ้าไม่อยากจะให้ใครรู้เรื่องของแก จะให้ดีนะ ไปในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ร่างกายแกจะได้พักผ่อนไปด้วย” ชยุตแนะนำไปตามที่เขาคิด “ฮ้อ มันเวรกรรมอะไรของฉันวะเนี่ย” ริชาร์ทพูดไปก็ทำหน้าเซ็ง เมื่อต้องรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพที่ไม่มีใครอยากจะเป็น หลังจากที่คุยกับเพื่อนหนุ่มเสร็จ ริชาร์ทก็ตัดสินใจขอปู่ของเขาไปรักษาตัวที่ไร่ชนาธรที่อยู่กลางหุบเขาในเขตจังหวัดเชียงราย เพราะเป็นไร่ที่ปู่ของเขาทำไว้สมัยยังหนุ่มๆ สองปีผ่านไป ณ ร้านอาหารในโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองกรุงเทพที่ลายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย แต่มีห้องอาหารส่วนตัวที่ท่านอัคชัย ธนาวัตรได้จองไว้ สำหรับคุยธุระกับลูกสาวของเขา ด้วยความที่เขานั้นเป็นลูกผู้ดีอยู่ในสังคมไฮโซ จึงทำให้เขาไม่สามารถยกย่องดาหลัน ภรรยาของเขาที่เป็นเพียงแค่ลูกสาวชาวนาออกนอกหน้านอกตาได้ จนวันหนึ่งแม่ของเขาได้ไล่ลูกและเมียของเขาออกจากบ้านไป โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ห่างๆเท่านั้น จนกระทั่งแม่ของเขาเสียไปเมื่อสองปีก่อน เขาจึงอยากจะพาลูกสาวของเขาไปอยู่ที่บ้านด้วย แต่รมิดาก็ไม่ยอม เพราะยังไม่ให้อภัยเขาเรื่องที่ทำให้ดาหลันต้องตรอมใจตาย มาจนถึงวันนี้เขาได้นัดลูกของเขาให้มา เพื่อจะตักเตือนเรื่องข่าวที่กำลังดังกระช่อนไปทั่วประเทศ “สวัสดีค่ะ” รมิดา เอ่ยสวัสดีพ่อผู้ให้กำเนิดก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ โดยมีบอดี้การ์ดของพ่อเธอเป็นคนดึงเก้าอี้ออกให้เธอนั่ง “เมื่อไหร่ฟ้าจะเลิกทำตัวแบบนี้สักที รู้ไหมว่าพ่อเหนื่อยแค่ไหนกับการต้องแก้ข่าวพวกนี้ให้” อัคชัยเอ่ยถามลูกสาวออกไป เพราะรมิดากลายเป็นดาราชื่อดังไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเป็นข่าวพัวพันกับเรื่องรักสามเศร้ากับช่างภาพคนหนึ่งอยู่ “ฟ้าก็ไม่เคยบอกให้ท่านแก้ข่าวพวกนี้ให้นิคะ อีกอย่างฟ้าจะดูไม่ดียังไงก็ไม่ทำให้ท่านรัฐมนตรีอย่างท่านต้องเสียชื่อเสียงหรอกค่ะ เพราะใครๆเขาก็คงไม่รู้ว่าท่านซุกลูกนอกคอกแบบฟ้าไว้ ไหนๆก็ปิดมาได้ตั้งนานก็ทำต่อไปสิคะ” รมิดาเอ่ยประชดออกไป เพราะพ่อของเธอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง จึงมีข่าวทำให้ท่านเสื่อมเสียไม่ได้ “นี่ฟ้าจะทำให้พ่อโมโหไปถึงไหน ห้ะ” อัคชัยเริ่มโมโห เมื่อลูกสาวพูดออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจของเขา “คุณท่านครับ ผมว่าใจเย็นๆก่อนดีกว่านะครับ คุณหนูเธอยังเด็กครับ” มานพคนสนิทของอัคชัยเอ่ยห้ามออกไป เพราะเขารู้ดีว่าที่รมิดาพูดไปนั้น ก็แค่เรียกร้องความสนใจตามประสาคนเอาแต่ใจก็เท่านั้น “ฟ้าไม่ใช่เด็กแล้วค่ะลุงนพ ฟ้าโตแล้ว โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ และรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และใครที่ทำให้แม่ของฟ้าต้องตรอมใจตาย” รมิดาเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเข้ม เธอยังจำวันนั้นได้ดี วันที่แม่ของเธอต้องตรอมใจตาย เพราะพ่อของเธอสัญญาว่าจะกลับมาหา แต่ท่านก็ไม่กลับมา และพ่อของเธอก็แต่งงานกับวิชุนีซึ่งเป็นไฮโซที่ย่าของเธอหามาให้ และพ่อของเธอก็ยกย่องออกหน้าออกตา จนแม่เธอเสียใจอย่างหนักก่อนจะตายไปในที่สุด พ่อก็เสียใจไม่ต่างกัน พ่อถึงพยายามดูแลฟ้าให้ดีที่สุดไง แต่ฟ้ากลับ เอาแต่สร้างเรื่องปวดหัวให้พ่อไปวันๆ ” อัคชัยพูดไปก็ทำหน้าจริงจัง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ ตั้งแต่ดาหลันตายเขาก็รู้สึกผิดมาตลอด เขาจึงแอบส่งเงินค่าเลี้ยงดูรมิดาให้กับดวงพร พี่สาวของดาหลันที่คอยดูแลรมิดาแทนหลังจากที่ดาหลันตายไปอย่างไม่ขาด “ ท่านเรียกฟ้ามาคุยแค่นี้ใช่ไหมคะ ฟ้าจะได้กลับ ฟ้าไม่อยากมานั่งทะเลาะกับท่านแล้วค่ะ ฟ้าเหนื่อย” รมิดาเอ่ยพูดไป เพราะในใจของเธอนั้นอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ แล้วกอดผู้เป็นพ่อไว้ แต่มันก็ทำได้แค่ความคิด เมื่อทิฐิในใจยังคงมีอยู่ “พรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงที่บ้านของเจ้าสัวนิรุจกับพ่อ ทุกคนจะได้รู้ว่าฟ้าน่ะเป็นลูกของพ่อไม่ใช่เมียน้อยแบบที่เป็นข่าวออกไป” อัคชัยเอ่ยบอกไป เพราะเขาก็ตกเป็นข่าวกับลูกสาวเช่นกัน เขาจึงอยากจะพารมิดาไปเปิดตัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม