“มันโป๊ไงไข่ มึงก้มๆเงยๆ นมจะออกอยู่แล้ว” ภีมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะการอ่อยแต่ละครั้งของไข่ดาวมันไม่ธรรมดาเลยเรียกว่าเปลืองตัวก็ได้ นั่นทำให้ภีมต้องเก็บอาการหงุดหงิดของตัวเองไว้เพราะทำอะไรไปมากกว่าการพูดเตือนไม่ได้
“คนแก่หัวโบราณ กูก็พูดอยู่ว่ากูแต่งตัวมาอ่อยผู้อะ” ไข่ดาวก็คือไข่ดาวเพราะทุกครั้งของการมาคลับจะต้องเรียกว่าเป็นการมาเช็คเรตติ้งของตัวเองจะให้เธอมานั่งเฉยๆดื่มแอลกอฮอล์ไม่สนใจผู้คน ไม่มีทางหรอก
“รำคาญอีสองคนนี้จังเลย รู้ไหมว่ามึงสองคนเหมือนผัวที่กำลังหวงเมียเลยนะ รู้ตัวหรือเปล่า” ดิวดี้ที่นั่งสังเกตการกระทำของเพื่อนสนิททั้งสองคนก็พูดขึ้นทันที
ดิวดี้พอดูออกว่าภีมคิดยังไงแต่ไม่รู้ทำไมไข่ดาวถึงดูไม่ออก จะพูดว่าโง่ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากเพราะไข่ดาวไม่เคยมีแฟนได้แต่อ่อยคนนู้นคนนี้อย่างเดียว
“หุบปากไปเลยดิวดี้” ภีมที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นเพราะการที่ดิวดี้พูดออกมาแบบนั้นมันก็ทำให้เขารู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ต้องดูออก
“นั่นสิ กูกับภีมก็เพื่อนนี่แหละจะเป็นอย่างอื่นได้ยังไง” ดิวดี้แทบจะขำออกมาให้ฟันหลุด
อีกคนอยากเป็นมากกว่าเพื่อน คอยดูแลใส่ใจมากมายต่างกับอีกคนที่ขีดเส้นไว้ชัดเจนและไม่ขอเป็นมากกว่านี้
“เจ็บไหมภีม เป็นกูกูร้องไห้แล้วนะ” แน่นอนว่าดิวกี้ก็ยังไม่หยุด
ใจจริงก็อยากเชียร์ให้ทั้งสองคนได้กันเองเพราะภีมดูแลไข่ดาวดีราวกับเป็นแฟนกันจริงๆแต่ไม่รู้ทำไมภีมถึงไม่ยอมพูดออกไปเสียที
“มึงหุบปากไปเลยนะ” ภีมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะถ้าหากบอกเรื่องความรู้สึกกับไข่ดาว เขาก็อยากเป็นคนบอกเองไม่อยากให้ไข่ดาวรู้จากคนอื่น
“เหมือนโต๊ะนั้นอยากชนแก้วกับกูอะ เดี๋ยวกูมานะ” ไข่ดาวพูดขึ้นพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะไปทันที ภีมที่กำลังจะเอ่ยปากห้ามก็ไม่ทันเพราะตอนนี้เพื่อนตัวดีของเขาก้าวเท้ายาวๆที่ใส่ส้นสูงหลายนิ้วตรงไปยังโต๊ะผู้ชายคนหนึ่ง
“เป็นแค่เพื่อนมึงก็ไม่มีสิทธิ์อะไรหรอกไอ้ภีม” ดิวดี้พูดขึ้นเพราะคำว่าเพื่อนมันหวงกันออกหน้าออกตาไม่ได้หรอกนะ
“กูก็ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนแต่มึงก็เห็นว่ามันขีดเส้นไว้ชัดขนาดนั้น” ก็จริงเพราะไข่ดาวมักขีดเส้นไว้ตลอดว่าไม่มีทางเอาเพื่อนมาเป็นแฟน
“มึงก็ต้องลบเส้นของมันให้ได้ ทุกวันนี้มึงสองคนแทบจะเหมือนผัวเมียกันอยู่แล้ว” ดิวกี้พูดขึ้นอีกครั้งแต่ก็นั่นแหละเพราะความเป็นเพื่อนสนิทและทุกคนรอบตัวรับรู้จึงไม่มีใครคนอื่นคิดไปไกลนอกจากคำว่าเพื่อน มันจึงทำให้ไข่ดาวฮอตปรอทแตกอยู่แบบนี้
“กูก็พยายามอยู่นะ พยายามเข้าไปมีบทบาทในชีวิตมันเยอะๆและรอจังหวะดีๆกูคงพูดออกไป” ภีมพูดขึ้นอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบอก ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด เขาอยากบอกอยากพูดจะตายแต่ผลที่ตามมาก็กลัวว่าจะไม่คุ้ม
“ดีนะที่ไอ้ไข่มันก็แค่อ่อยแค่เต๊าะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหน ไม่งั้นนะภีมมึงแง้วแน่ๆ” แน่นอนว่าสิ่งที่ดิวกี้พูดมันเป็นเรื่องจริง
ถ้าวันไหนโชคร้ายหน่อยไข่ดาวมีคนคุยหรือมีคนที่ถูกใจจริงๆ วันนั้นคงเป็นวันที่เขาคงจะแง้วจริงๆ
“พอ เลิกพูดมันเดินมานู้นแล้ว” ภีมพูดขึ้นเพราะตอนนี้ไข่ดาวเดินกลับมาแล้วและสีหน้าก็ดูจะสดใสร่าเริงอยู่ไม่น้อย
“พวกมึงนินทากู” ไข่ดาวพูดขึ้นทันทีเพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองของเธอต้องพูดถึงเธอ
“ไม่ได้นินทา กูกับไอ้ภีมแค่พูดถึง” ดิวกี้ตอบกลับไปเพราะทั้งสองคนไม่ได้นินทาจริงๆ
“เอาเถอะ ไม่สนหรอก ว่าไปโต๊ะนั้นงานดีชะมัด” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตั้งแต่เธอเดินไปจนถึงตอนนี้เธอก็ยังตกตะลึงในความหล่อของผู้ชายโต๊ะนั้นอยู่
“กูว่าไอ้ภีมดูดีกว่าอีกนะ” ดิวกี้เองก็ไม่น้อยหน้าพูดขึ้นทันที
“ไม่ปฏิเสธหรอกว่าไอ้ภีมหน้าตาดี แต่โต๊ะนั้นก็หน้าตาดีเหมือนกัน” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะยกแก้วขึ้นเป็นการชนแก้วกลายๆกับผู้ชายโต๊ะเดิม
“ไข่มึงนั่งดีๆ ถ้ามึงยังนั่งอ่อยผู้ชายอยู่แบบนี้ กูจะจับมึงนั่งตักแล้วนะ” ภีมพูดขึ้นเพราะยิ่งแอลกอฮอล์เข้าปาก ไข่ดาวก็เหมือนจะแรงกว่าเดิม
“ถ้ามึงจับกูนั่งตักคนอื่นก็จะเข้าใจผิดคิดว่ามึงเป็นผัวกูดิภีม” เพื่อนที่ไหนเขานั่งตักกันล่ะ
“ถ้าทำให้มึงเลิกอ่อยเลิกเปลืองตัวแบบนี้ กูยอมให้คนอื่นเข้าใจผิดก็ได้” เพราะมันเป็นการเข้าใจผิดที่โคตรจะคุ้มเลยแหละ ถ้าคนอื่นๆคิดว่าไข่ดาวมีเจ้าของแล้ว
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวกูจะนั่งดีๆเป็นกุลสตรีไทยให้สมใจมึงเลยภีม” แน่นอนว่าหลังจากไข่ดาวพูดจบก็จัดการเปลี่ยนท่านั่งของตัวเองเป็นท่าที่ดีกว่าเดิมและท่านั่งของไข่ดาวก็ถูกใจภีมไม่น้อยเลยเพราะมันดูสงบเสงี่ยมตัวเองดี
“แบบนี้ค่อยโอเคหน่อย” ภีมพูดขึ้นทันทีเพราะเวลาแบบนี้ไข่ดาวน่ารักกว่าการทำตัวอ่อยเสียอีก
“รู้ไหมที่บอกว่าเหมือนมีพ่อเพิ่มมากูพูดจริงๆนะภีม” ไข่ดาวพูดขึ้นอีกครั้งเพราะทุกครั้งเธอเองก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงแต่ก็อย่างที่บอกคือไม่ได้อึดอัดอะไร
“กูไม่ได้อยากเป็นพ่อมึง” ภีมตอบกลับไปทันทีเพราะเขาไม่ได้อยากเป็นพ่อและสิ่งเดียวที่เขาอยากเป็นเขาพูดออกไปไม่ได้
“จะบอกว่าอยากเป็นผัวกูหรอภีม” ไข่ดาวถามขึ้นเพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันถ้าภีมพูดออกมาแบบนี้ เธอตอบกลับไปแบบนี้ประโยคต่อไป ภีมจะพูดว่ายังไง
“ถ้ากูบอกว่าอยาก” แน่นอนว่าไข่ดาวถึงกับวางแก้วในมือลงบนโต๊ะด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าภีมจะพูดออกมาแบบนี้
“พูดจริงหรือเปล่า” ไข่ดาวถามขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าไอ้ภีมพูดจริงมึงว่าไงอะไข่” เป็นดิวดี้ที่พูดขึ้นอีกครั้งเพราะดิวดี้ก็อยากรู้เหมือนกันว่าไข่ดาวจะพูดอะไรออกมา
“คงไม่ดีหรอก กูกับมึงเป็นเพื่อนกับมึงนะภีม” ไข่ดาวพูดขึ้นพร้อมหันหน้าไปมองภีม
แน่นอนว่าภีมเองก็เก็บสีหน้าของตัวเองไว้ไม่ให้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเพราะไม่อยากให้ใครได้รับรู้สิ่งที่เขากำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้
“กูก็พูดไปแบบนั้นแหละ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว”
“เพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว ความสัมพันธ์นี้ยาวนานจะตาย”
❤️
กระอักเลือดตายยังภีม