บทที่ 2

1520 คำ
“เจ้าเล็ก ช่วยหน่อย” เมื่อมองไม่เห็นทางว่าทั้งคู่จะฟังเขา เพราะในสายตาของน้องๆ เขาคือพี่ชายที่แสนจะใจดี ทั้งรักและตามใจน้องๆ ต่างจากเวลาทำงานที่ค่อนข้างจะจริงจัง เจ้าพวกนี้จึงไม่ค่อยจะเชื่อฟังเขาเท่าที่ควร ไอ้ครั้นจะพึ่งเจ้าสี่ก็เห็นจะไร้ผล มีแต่จะยิ่งทำให้เรื่องย่ำแย่หนักยิ่งกว่าเดิม เพราะเจ้านั่นเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกไปซะหมด คราวนี้จึงจำต้องขอความช่วยเหลือจากน้องคนเล็กอีกเช่นเคย “พี่ตรี ถามจริงพี่กลัวอะไร ทำไมต้องทำเหมือนจะเป็นจะตายที่พ่อจะให้ยายลักษณ์เข้าไปทำงานที่บริษัท” ตรีศูลตอบอย่างไม่ต้องลังเล “ไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากวางใจ ไม่อยากคบ ‘เด็กสร้างบ้าน’ กลัวจะไปทำความเสียหายให้ที่บริษัท อีกอย่าง ฉันไม่ไว้ใจแม่ลูกคู่นี้ด้วย ไม่แน่อาจจะวางแผนร้ายอะไรกันอยู่” “พี่ตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า” ปานภูมิหยั่งเชิง “ใครจะไปรู้ ถ้าแม่นี่เกิดคิดจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ ใครจะรับผิดชอบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น” “อะ โอเค งั้นผมพอจะเห็นทางออกดีๆ ให้ทุกฝ่ายแล้ว” เขาดีดนิ้วดังเปาะหนึ่งที เหมือนทำหรือคิดอะไรที่ได้ดังใจสักอย่าง “อยู่ที่ทุกคนจะโอเคหรือเปล่า” “แกคิดอะไรออกเจ้าเล็ก รีบว่ามาอย่าอ้อมค้อม” ปริญญ์เร่ง “ลักษณ์” น้องชายหันไปเรียกหญิงสาวเพียงคนเดียวในที่นี้ “คุณเล็กจะให้ลักษณ์ทำอะไรคะ ?” “อืม เธอเรียนจบบริหารการตลาดมานี่นะ” เหมือนเขาจะพึมพำกับตัวเองมากกว่าที่คิดจะถามจริงๆ “เธออยากทำงานที่บริษัทของคุณพ่อจริงๆ ใช่หรือเปล่า” “ไม่ค่ะคุณเล็ก ลักษณ์ไม่ได้อยากทำเลย ยิ่งไม่อยากจะมีปัญหาอย่างตอนนี้สักนิด แต่ขัดคุณแม่กับคุณลุงไม่ได้จริงๆ” หญิงสาวบอกเสียงดังฟังชัด “ข้ออ้างชัดๆ” ตรีศูลยังไม่ยอมง่ายๆ อะไรที่เขาเห็นว่าผิด ว่าไม่ดีไปแล้ว ย่อมเป็นอย่างนั้นเสมอ ไม่มีอะไรจะมาลบล้างไปได้ “ต่อให้ลักษณ์พูดหรือทำอะไรออกไปก็คงผิดอยู่ดี ต้องให้ลักษณ์กับแม่ทำยังไงหรือคะ คุณตรีถึงจะพอใจ ต้องให้เราออกไปเร่ร่อนข้างถนนเลยมั้ย คุณถึงจะมีความสุขได้” “นั่นมันเป็นสิ่งที่เธอกับแม่ควรจะทำตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือไง” คิดรึว่าแค่ไอ้หน้าใสๆ ตาแดงๆ และการทำตัวให้ดูน่าสงสารแบบที่เจ้าหล่อนกำลังทำอยู่ขณะนี้จะทำให้เขาเห็นใจ หรือเปลี่ยนความคิดได้ ฝันไปเถอะ ! หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เหมือนสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ มันหนักราวก้อนหินก้อนใหญ่ที่วางทับอยู่บนอก... “ไม่หรอกค่ะ ลักษณ์กับแม่ไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่ๆ ใครจะโง่ขนาดนั้นล่ะจริงมั้ยคะ ตอนนี้เรามีทุกอย่างแค่กระดิกนิ้วหรือเอ่ยปาก อยากจะได้อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” ตรีศูลกัดฟันแน่นจนกรามแทบแตก สายตาที่มองไปยังหญิงสาวยิ่งแสดงความเกลียดชังฝังใจเข้าไปอีก เพราะคำพูดของเจ้าหล่อนเมื่อครู่มันเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาเข้าใจมาตลอด ไม่ผิดเลยสักนิด “เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าลักษณ์อยากจะสบาย และก็ไม่ต้องมีปัญหากับพี่ตรี มาควงกับพี่สักเดือนสองเดือนมั้ยล่ะ อย่างลักษณ์รับรองพี่จะประเคนให้หมดหน้าตักเลย” เป็นบุตรเห็นสถานะตึงเครียดเลยอยากจะหาเรื่องให้ทุกคนขำขันก็เท่านั้น แต่ถ้านารถลักษณ์ตกลงเขาก็ถือว่าเป็นลาภลอยไป เพราะคนอย่างนายเป็นบุตร ไม่ปฏิเสธผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก และแสนจะมีเสน่ห์อย่างนารถลักษณ์อยู่แล้ว “กะล่อนให้มันดูเวลาหน่อยเจ้าสี่” “แล้วเราจะเอายังไงล่ะ ฮึ” ปานภูมิหันไปเอาคำตอบจากหญิงสาว “ถ้าอย่างนั้นลักษณ์ตัดสินใจทำงานค่ะคุณเล็ก ในเมื่อมีคนเขายินดีต้อนรับกันซะขนาดนี้ จะขัดศรัทธาได้ยังไง” แม้จะรู้ว่านารถลักษณ์ประชด แต่เขาก็เห็นว่าทางนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว “ส่วนพี่ตรี ถ้าหากพี่กลัวว่ายายลักษณ์จะทำความเสียหาย และคิดไม่ซื่อกับบริษัท ทางเดียวที่จะทำให้พี่สบายใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการที่ให้ยายลักษณ์อยู่ในสายตาพี่ตลอดเวลา โดยที่ให้ยายลักษณ์ไปเป็นผู้ช่วยพี่ตรีซะ” “แกจะบ้าเหรอเจ้าเล็ก” “กลัวอะไรเหรอพี่ กะอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว” แม้ปานภูมิจะพูดกับพี่ชาย แต่ความจริงแล้วเขาหมายจะยิงปืนนัดเดียวให้นกร่วงถึงสองตัว ไม่รู้ว่ามีใครจะสังเกตกันบ้างหรือเปล่า แต่เขาสังเกตเห็นมานานแล้วว่าอุปนิสัยบางอย่างของนารถลักษณ์และตรีศูล มีหลายอย่างที่คล้ายๆ กัน ไอ้เรื่องท้าไม่ได้ ยอมแพ้ไม่ได้นี่ละหนึ่ง เขาเลยหมายจะให้ประโยคเมื่อครู่กระเทือนไปถึงอีกคนด้วย “ลักษณ์ตกลงคะคุณเล็ก” ตรีศูลเห็นสายตาท้าทายที่อีกคนส่งมาให้ “ได้ ถ้าเธออยากลองดีนัก ฉันนี่แหละจะทำให้เธอทนอยู่ไม่ได้เอง” “ทำอะไรให้มันมีขอบเขตบ้างนะตรี งานคืองาน ถ้าน้องทำไม่ได้หรือไม่ดี เราค่อยมาว่ากันอีกที แต่ถ้าพี่เห็นแกเอาเรื่องส่วนตัวไปรังแกน้องในที่ทำงานเมื่อไร คงรู้นะว่าจะโดนอะไรบ้าง” ปริญญ์เห็นตรีศูลผลุนผลันออกไปอย่างมีอารมณ์ก็ได้แต่ทำใจ ก่อนจะหันมาตบบ่าหญิงสาวเบาๆ “ลักษณ์ไม่ต้องกลัวนะ มีอะไรก็มาบอกพี่ได้” พอทุกคนกลับไปหมด นารถลักษณ์ก็รู้สึกย่ำแย่ไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าต่อไปเธอจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ถึงยังไงก็จะต้องสู้ เมื่อเธอต้องอยู่กับครอบครัวนี้ การยอมมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสอนได้เป็นอย่างดีว่ามันไม่สามารถทำให้อะไรดีขึ้น “บุ๋มบิ๋ม กับข้าววันนี้มีอะไรบ้างฮึ” เสียงประมุขของบ้านที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาหน้าจอทีวี หลังจากที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อเช้า วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดแรกของหลายเดือนที่เขาได้มีโอกาสว่างอยู่กับบ้าน บุ๋มบิ๋ม คนรับใช้ท่าทางสะโอดสะองแต่มองดีๆ คงหนักไปทางบึกบึนซะมากกว่า แม้กายจะเป็นชาย แต่ใจนายกลับเกินหญิง “เห็นป้าจันแกเปรยๆ ว่ามี ลาบทอด ของโปรดคุณตรี ต้มโคล้งของคุณสี่ น่องไก่ทอดสูตรพิเศษของคุณเล็ก แล้วก็แกงสับนกให้คุณท่าน อ้อ มีผัดผักรวมมิตรอีกอย่าง ตบท้ายด้วยกล้วยบวชชีเป็นของหวานฮ่า” “อืม เดี๋ยวให้ป้าจันแกทำแกงคั่วหอยขม ของโปรดเจ้าโตแล้วก็หนูลักษณ์เพิ่มด้วยนะ” “วันนี้นายแม่กับคุณลักษณ์จะมาทานข้าวที่บ้านด้วยเหรอฮ้าคุณท่าน” “นุชคงมาไม่ได้ วันนี้เขาหนีฉันไปทัวร์เกาหลีรอบที่ร้อยแปดได้แล้วมั้ง แต่เดี๋ยวหนูลักษณ์กับหลานสาวฉันอีกคนจะมากินข้าวด้วยน่ะ” ปริตรบอกคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ทั้งที่ในบ้านยังไม่มีใครรู้เลยสักคน สงสัยบุ๋มบิ๋มนี่แหละที่รู้เป็นคนแรก “ดีจังเลยฮ่า บิ๋มไม่ได้เจอคุณลักษณ์ตั้งนานแล้ว คิดถึ้ง คิดถึง” บุ๋มบิ๋มคิดในใจอย่างวาดฝัน คราวที่แล้วคุณนารถลักษณ์ยังสอนวิธีมาร์คหน้าให้เธอไม่ครบจบขบวนการเลย เพราะโดนคุณตรีมาก่อกวนซะก่อน วันนี้แหละเธอจะขอสูตรเด็ดเคล็ดลับผิวสวยอมชมพูจากคุณหนูนารถลักษณ์ เผื่อจะได้งามตั้งแต่หัวจดปลายเท้าอย่างหญิงสาวบ้าง ปริตรมองหน้าเพ้อฝันของบุ๋มบิ๋มอย่างขำๆ “เฮ้อ ถ้าลูกๆ ฉันคิดได้อย่างแกก็คงดีนะ” ปริตรพูดไปถอดถอนใจไป เรียกสีหน้าเป็นห่วงกังวลแต่พร้อมเอาใจช่วยของคนฟังได้เป็นอย่างดี “นินทาอะไรพวกผมครับ” เป็นบุตรกระโดดลงมานั่งข้างๆ ผู้เป็นพ่อ “ไอ้ลูกคนนี้ อายุปาเข้าไปจะสามสิบอยู่แล้ว ยังจะทำตัวไม่รู้จักโต สาวที่ไหนมาเห็นเข้าอายเขาแย่” เป็นบุตรมองพ่อก่อนจะยิ้มกริ่ม “ผมไม่ทำให้สาวเห็นหรอกครับ แล้วอีกอย่างรูปหล่อ พ่อรวยอย่างผม ต่อให้ทำยิ่งกว่ากระโดด สาวๆ ก็ไม่เมินหรอกครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม