EP. 01
หอพักนรกแตก...
หอพักนรกแตกเป็นหอพักชายใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง การที่ถูกเรียกว่านรกแตกนั่นเพราะเป็นหอพักที่มีแต่กลุ่มนักศึกษาชายที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา มีทุกรูปแบบนิสัย แต่ส่วนมากเป็นกลุ่มชายหนุ่มที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับดี หอพักแห่งนี้เป็นอาคารตึกสามชั้นสองแถวหันหน้าเข้าหากัน มีลานจอดรถอยู่ด้านล่างตรงกลาง ประชากรส่วนมากของที่นี่มักเป็นเด็กหนุ่มที่มาจากต่างจังหวัดและเป็นนักศึกษาชายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ รองลงมาคือกลุ่มนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและคณะนิติศาสตร์รัฐศาสตร์
วรัท นที หนุ่มหน้ามนคนเมืองเหนือคือหนึ่งในสมาชิกหอนรกแตกแห่งนี้ ชายหนุ่มพักอยู่กับเพื่อนสนิทที่เป็นทั้งเพื่อนและญาติ ชื่อกณธี ทั้งสองหนุ่มเรียนในคณะนิติศาสตร์ ตามรอยรุ่นพี่จากบ้านเดียวกันเข้ามาในเมืองกรุง กระทั่งได้พำนักในสถานที่อันเต็มไปด้วยความรื่นเริง สนุกสนานเฮฮา ถึงแม้หอพักแห่งนี้จะมีนักศึกษาหลากหลายอุปนิสัย แต่ทุกคนต่างอยู่ในกรอบ ไม่มีสักครั้งที่จะทำในเรื่องเสื่อมเสีย
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หอพักแห่งนี้เป็นที่กล่าวขวัญไปทั้งนอกและในมหาวิทยาลัยคือ นักศึกษาชายทุกคนที่พักที่นี่ต่างหน้าตาดีกันทุกคน การันตีเดือนคณะทุกชั้นปีโดยรายล่าสุดรางวัลตัวแทนคณะส่งเข้าประกวดจนชนะในระดับมหาวิทยาลัยคือชายหนุ่มคนเมืองเหนือที่ชื่อ วรัท นที นั่นเอง
ร่วมสี่เดือนแล้วที่วรัทเข้ามาพักยังสถานที่แห่งนี้ เขาได้สัมผัสถึงความรัก ความโอบอ้อมอารีจากรุ่นพี่ที่มีให้แก่รุ่นน้อง ทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านปัญหาต่างๆ ให้แก่น้องอย่างไม่มีปิดบัง จนในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มที่พักยังหอพักแห่งนี้สนิทกันชนิดเมื่อมีงานเลี้ยงอะไรหรือที่ใดมักจับกลุ่มกันไปที่นั่น
เย็นวันนั้น เป็นเย็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอนในภาคเรียนแรก อีกสามวันก็เข้าสู่ฤดูกาลสอบปลายภาค บรรดานักศึกษาชายหลายคนต่างเก็บเนื้อเก็บตัวอ่านหนังสือ บางทีมจับกลุ่มกันติวอยู่ในห้อง วันนี้วรัทก็เหมือนกับทุกคน ชายหนุ่มกับกณธี เดินทางกลับหอพักเพื่อเตรียมตัวอ่านหนังสือ
ยังไม่ทันได้เข้าห้องเสียด้วยซ้ำ เสียงกริ่งโทรศัพท์ของวรัทจึงดังขึ้น
“ใครวะ” กณธีหันไปถามเพื่อนแล้วรับกุญแจมาเปิดห้อง
“แพรวว่ะ” ชายหนุ่มมองหน้าจอเครื่องมือสื่อสารแล้วบอกเพื่อน
“แยกกันยังไม่ถึงยี่สิบนาทีก็โทรหากันแล้ว ฉันนี่อิจฉาแกจริงๆ ว่ะเพื่อน ตามสบายนะ ฉันขอตัวอาบน้ำก่อนล่ะ”
ชายหนุ่มร่างสูงสมส่วน ดึงประตูเปิด โบกมือบอกเพื่อนเป็นสัญญาณแล้วก้าวเข้าห้อง ขณะวรัทกดรับสายทักทายเจ้าของเสียงใสของพิราตำแหน่งดาวของมหาวิทยาลัย เพื่อนสาวอีกคนของเขาที่ติดตามกันมาตั้งแต่ต่างจังหวัด
“แพรว ว่ายังไงครับ”
“ถึงห้องหรือยังวรัท...” เสียงใสดุจระฆังเงินดังมาจากเจ้ากระบอกเครื่องมือสื่อสาร ขณะวรัทมองเพื่อนในห้องนิดหนึ่งก่อนจะหมุนกายเดินไปยังมุมสงบของหอพัก
“เพิ่งจะถึงครับ แพรวล่ะถึงหรือยัง”
“เพิ่งถึงเหมือนกันจ้ะ วรัท อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยนะ อย่าลืมว่าวันจันทร์สอบวิชากฎหมายมหภาค เธอจะต้องอ่านให้ละเอียดนะ วิชานี้เป็นวิชาทฤษฏียากๆ ทั้งนั้นเลย ทุกข้อจะต้องเป๊ะ ไม่งั้นตกแน่”
“แพรวก็เหมือนกันนะครับ ตั้งใจอ่านด้วย”
“แค่นี้แหละจ้ะ อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ ฝากบอกกณธีด้วยอย่าเล่นเกมจนลืมอ่านหนังสือล่ะ”
“รับทราบครับพ้ม”
ชายหนุ่มยุติการสนทนาลงแค่นั้น เขาเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินกลับมายังห้อง เห็นกณธีกดรีโหมดเปลี่ยนช่องสัญญาณโทรทัศน์จึงวางกระเป๋าในที่ของตน แกะกระดุมแขนเสื้อนักศึกษาแล้วพับรั้งขึ้นไว้ที่ข้อศอกทั้งสองข้าง
“ว่ายังไง แม่แกว่ายังไงบ้าง”
“แม่ฉันก็บอกว่าอย่าให้ลูกชายเล่นเกมให้มาก หัดอ่านหนังสือซะบ้างน่ะสิ”
“ไอ้บ้า นี่ยายแพรวว่าแบบนั้นจริงๆ หรือวะ”
“แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ”
วรัทหัวเราะแล้วเดินไปยืนที่ระเบียงห้อง ทอดสายตามองบรรดาตึกรามบ้านช่องที่วางตัวลดหลั่นกันไกลออกไป เมืองกรุงช่างกว้างใหญ่เหลือเกินสำหรับเด็กจากต่างจังหวัดเช่นเขา ชายหนุ่มไม่คิดว่าในวันนี้เขาและเพื่อนจะได้มาเรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
เบื้องหลังได้ยินเสียงกณธีเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำ ไม่นานจึงได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัว เคล้ากับเสียงฮัมเพลงของกณธี ก่อนคนในห้องน้ำจะตะโกนข้ามผนังปูนมาว่า
“เฮ้ย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จไปหาอะไรกินกันก่อนค่อยกลับมาอ่านหนังสือ”