บทที่ 2 พ่อค้าหนุ่มรูปงาม

1493 คำ
                แคว้นจินมีพื้นที่น้อยกว่าแคว้นหมิงอย่างมาก ซ้ำยังไม่มีที่ราบมากพอจะปลูกข้าวเลี้ยงดูคนทั้งหมด จึงต้องสั่งซื้อข้าวสารจากแคว้นหมิงและแคว้นเหลียนซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม   มีแม่น้ำไหลผ่าน อุดมสมบูรณ์ยิ่ง จวิ้นอ๋อง หมิงเฉินกง กับจินวั่งซูจึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าข้าวสารและค้าเกลือ                   มิคาดในช่วงที่ทั้งสองแอบปรึกษากันที่ศาลานั่งเล่นในคฤหาสน์ตระกูลจิน น้องสาวคนเล็กของจินวั่งซูแอบได้ยินเข้า                 ‘พี่วั่งซูออกไปเที่ยวเตร่ต่างเมืองได้ แล้วข้าเล่า เมื่อไหร่ท่านพ่อจะอนุญาตเสียที’     จินฉิงอีเป็นลูกที่ท่านจิน คหบดีใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะได้มา เพราะครานั้น ฮูหยินรองก็คลอดบุตรชายมาเพิ่มแล้วหนึ่ง และบุตรสาวอีกหนึ่ง ฮูหยินเอก เซียงผิงที่ไม่ยอมตั้งท้องเสียทีภายหลังกลับมีจินฉิงอีออกมา ห่างกับจินวั่งซูถึงหกปี นางอายุสิบแปดปีนี้ ด้วยความห่วงและหวงลูกสาวคนเล็ก แม้จะมีผู้มาทาบทาม คหบดีจินก็ยังไม่ตอบรับผู้ใด                 “จวิ้นอ๋อง ให้หม่อมฉันไปเที่ยวด้วยคนได้หรือไม่?” ใบหน้าที่ละม้ายจินวั่งซู จมูกโด่งตรงเรียว และริมฝีปากบางค่อนข้างกว้าง คิ้วเข้มคมเฉียง นางมีลักยิ้มสองข้าง ในยามยิ้มแย้มชวนให้คนเอ็นดู                 จวิ้นอ๋องหันไปมองญาติพี่น้อง รีบส่ายหน้าอย่างว่องไว “เจ้าจะไปได้อย่างไร การเดินทางครั้งนี้ต้องข้ามหุบเขามังกรทะยาน ซ้ำแคว้นจินก็มีแต่ป่า ไหนจะมีโจรอีก เอาไว้คราวหน้าไปในที่ที่ไม่อันตรายเปิ่นหวางจะอนุญาต”                 จินฉิงอีใบหน้างอง้ำ นางได้รับการเอาใจอย่างถึงที่สุดจากบิดา แม้ว่ามารดาจะคอยปรามลงอยู่บ้าง แม้แต่พี่วั่งซูเอง ก็ตามใจนางอยู่บ่อยครั้ง จินวั่งซูหันมาสำทับ                 “ฉิงเอ๋อร์ คราวนี้อันตรายจริงๆ เจ้ารออยู่นี่ล่ะ แล้วพี่จะกลับมาเล่าเรื่องแคว้นจินให้เจ้าฟัง ดีไหม?”                 จินฉิงอีพยักหน้ารับ เดินจากไปอย่างเหงาๆ หากแต่ลับหลังกลับไปเรียกคนรับใช้ประจำตัวทั้ง ซ่งฮุ่ยจู และซ่งเหวินฉีมาเตรียมตัวอย่างเร่งด่วน                 “พวกเราจะออกไปผจญภัยในแคว้นฉิน พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม”                 ซ่งฮุ่ยจูหน้าซีดเผือด นางรู้ดีว่า จินฉิงอีนั้นอุตริเพียงใด ตั้งแต่เล็กจนโต นางต้องรับโทษแทนนายน้อยผู้นี้นับครั้งไม่ถ้วน “คุณหนู ไม่คิดให้ดีก่อนหรือเจ้าคะ? ครั้งที่แล้ว บ่าวยังไม่หายก้นบวมเลยเจ้าค่ะ”                 จินฉิงอีโบกมือแทนคำตอบ “ข้าตัดสินใจแล้ว พวกเจ้ารีบไปเก็บข้าวของ”                 ซ่งฮุ่ยจูส่ายหน้า แม้นางจะอายุมากกว่าจินฉิงอีถึงสามปี แต่ก็ไม่สามารถทัดทานเจ้านายของตนได้สักครั้ง ทั้งรักทั้งตามใจกันมาตั้งแต่เล็ก จึงต้องยอมกันเสมอมา         “คุณหนู เราจะเดินทางกันอย่างไร?” ไหนๆ ก็ไม่อาจทัดทานได้แล้ว คงได้แต่เตรียมการให้รอบคอบ                 “ข้าจะเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ท่านพ่อ เงินทองที่ซ่อนไว้ก็พอมีอยู่ พวกเจ้าเตรียมรถม้า เสื้อผ้าให้พร้อม เราจะออกเดินทางตามขบวนรถของพ่อค้า เฉินกงกับวั่งซูไป”                 จวิ้นอ๋องแอบกินยาที่ได้มาจากพระชายาเอกของชินอ๋อง เมื่อเห็นพระองค์ให้อยากตบแต่งกับจินเฟิ่ง พี่สะใภ้จึงให้กินยาขนานหนึ่ง เพียงแต่ให้กินส่วนน้อย ก่อนออกเดินทางในเช้านั้น ตามใบหน้าและลำคอของจวิ้นอ๋องปรากฎปานสีเทาเข้มเป็นแผ่นขนาดหัวแม่มือประปราย บดบังใบหน้าอันหล่อเหลาสง่างามราวเทพเซียนไปเสียกว่าครึ่ง แม้กระทั่งจินวั่งซูเองถึงกับออกปาก                 “เจ้า....เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”                 “ไม่รู้ว่า พระชายาเอาสิ่งใดให้ข้ากินเหมือนกัน เห็นบอกว่า เพื่อความปลอดภัย” ทั้งสองตกลงกันจะเป็นเพียงพ่อค้าข้าวและเกลือ จึงต้องเลิกใช้คำราชาศัพท์ในการเดินทาง ทั้งสองไปในนาม พี่น้องตระกูลเซียง เซียงเฉินกงและเซียงวั่งซู ผู้หวังไปบุกเบิกตลาดที่แคว้นจิน                 จินวั่งซูรู้สึกคลางแคลงใจในการกระทำของฟ่านซิ่วอิง พระชายาเอกผู้สร้างเรื่องโฉดมากมายไม่แพ้ตน แต่ยังหาเหตุผลไม่ได้                 ขบวนคาราวานค้าข้าวและเกลือยาวเหยียด เซียนเฉินกง มียอดฝีมืออารักขาสองคน คือ ฝาแฝดหยางจื้อและหยางเจี้ยน องครักษ์อันดับหนึ่งที่ต้องปลอมตัวเป็นเพียงจอมยุทธ์รับจ้าง ส่วนจินวั่งซูนำเอาเฟิ่งหู องครักษ์ประจำตัวที่ไม่เคยเอาไปไหนด้วยติดตามมาเป็นครั้งแรก ทั้งสองตกลงใจว่าจ้างสำนักคุ้มภัยอันดับหนึ่งของแคว้นหมิง ‘สำนักหงส์ไฟ’หากจะกล่าวว่าเป็นอันดับหนึ่งก็ย่อมได้ เพราะทั้งแคว้นก็มีเพียงสำนักเดียวในเวลานี้                 “เจ้าดูสิ แทนที่ข้าจะได้เงินค่าจ้างคุ้มกันขบวนค้าขายใหญ่ขนาดนี้ กลับทำไม่ได้ก็เพราะดันเป็นคนของจวิ้นอ๋อง” องค์หญิงซู่ลี่ หรือจอมยุทธ์ลี่ที่รับงานในการรับส่งสินค้าที่มีมูลค่ามหาศาล บ่นจนเนื้อตัวกระเพื่อมอยู่บนกอไผ่ขนาดใหญ่ที่บดบังร่างของนางแทบไม่มิด เพียงแต่ทุกคนในขบวนมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดิน จึงไม่ได้สนใจเงยหน้า                 “เอาเถิด ไว้งานหน้าก็แล้วกัน งานนี้แม้จะเงินดี แต่ก็เสี่ยงภัยนัก ต้องผ่านหุบเขามรณะของเทือกเขามังกรทะยาน รูปร่างของเจ้ายามนี้ จะเล็ดลอดไปตามซอกเขานั้น ลำบากนัก”                 จอมยุทธ์ลี่ถอดหายใจเฮือกใหญ่ นับตั้งแต่นางกินยาผิดสูตรของเจ้าผีไร้หลุมตัวนั้น ร่างกายที่เคยอรชรอ้อนแอ้นกลับขยายขนาดใหญ่กว่าคนปกติที่ตัวอวบถึงสามเท่า นอกจากจะสูญเงินจำนวนมากจนต้องมารับจ้างคุ้มภัยในแคว้นหมิงแล้ว ขนาดตัวที่ใหญ่เกินคาดไว้ก็ยังเป็นปัญหาอีกด้วย                 “นี่หัวหน้า ข้าอยากได้งานที่ไม่ไปไกลนัก หากข้าแอบออกจากวังมาบ่อยๆ อ๋องเก้าจะสงสัยเอา”                 หัวหน้าหงพยักหน้ารับ “ได้”                 ทั้งสองร่างจึงเด้งปลายต้นไผ่ลิ่วไปยังป่าด้านหลัง แต่น้ำหนักของจอมยุทธ์ลี่ที่ทิ้งลงบนปลายไผ่กลับกร่อนถึงลำต้นมันจนหักโค่น                 “โอ๊ะ! ต้นไผ่หัก” คนงานท้ายขบวนที่เข็นรถข้าวสารแตกตื่น เซียงเฉินกงหันไปมองเห็นลำต้นไผ่เขียวขนาดใหญ่ที่หักโค่นลงมาด้วยความแปลกใจ                 “พี่วั่งซู ท่านว่า ลำใหญ่ขนาดท่อนขา แถมยังเขียวขนาดนั้น หักลงมาได้อย่างไร?”                 เซียงวั่งซูปรายตามอง “อาจจะมีแมลงกินโคนลำต้นมันก็ได้”                 เซียงเฉินกงพยักหน้าน้อยๆ ไม่อยากจะเห็นด้วย แต่เขาก็ไม่มีความคิดเห็นอย่างอื่น เหล่าคนงานจึงลากเอารถเข็นให้พ้นจากระยะที่ลำไผ่หักโค่น                 รถม้าของจินฉิงอีตามมาทีหลัง “ชิ! ดูสิ เสียเวลาชะมัด ต้นไผ่โค่นลงมาได้เช่นไรล่ะนี่? เหวินฉีเร็วเข้า”                 ซ่งเหวินฉีทำหน้าที่ขับรถม้า รีบไปผลักเอาลำไผ่ออก เขานับเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่งจึงจัดการได้ไม่ยาก “มันไม่ได้หักตามธรรมชาติหรอกคุณหนู นี่น่าจะเป็นฝีมือของจอมยุทธ์สักคน”                 จินฉิงอีผู้มีเพียงวิชาตัวเบาเอาไว้หลบมารดาในยามที่นางเรียกหาเพื่อทำโทษ พยักหน้าหงึกหงัก “อืม....เริ่มเดินทางก็ได้เจอจอมยุทธ์แล้ว ช่างดีจริง”                 ซ่งฮุ่ยจูรู้สึกได้ถึงอันตราย หน้าส่ายหน้าในความรักสนุกของคุณหนู เคราะห์ดีที่จินฉิงอียังยอมให้นางกับเหวินฉีมาด้วย นางเขียนจดหมายอีกฉบับเรียนนายท่านแล้วว่า นางและน้องชายจะดูแลคุณหนูด้วยชีวิต                 สองพี่น้องเติบโตมาในตระกูลจินด้วยความเมตตาอย่างยิ่งของนายท่านและฮูหยิน ทั้งได้เรียนหนังสือและวิทยายุทธ์ไปพร้อมกับคุณหนู นางกับเหวินฉีเก่งกาจเรื่องการต่อสู้เพราะมุ่งหวังจะใช้วิชาปกป้องผู้เป็นนาย แม้คุณหนูจะเชี่ยวชาญเพียงวิชาตัวเบา หากแต่กลับเก่งกาจด้านอักษร ฮูหยินคอยเคี่ยวกรำให้คุณหนูของนางหัดทำอาหาร เพราะฮูหยินเห็นว่า บุตรสาวนั้นเย็บปักไม่ได้ความ หากพอทำอาหารเป็นบ้างก็จะได้ดูแลสามีในอนาคตได้                 รอนแรมในรถม้าสองวันก็ถึงชายป่าเทือกเขามังกรทะยาน                 “จากนี้เราต้องระวังตัวยิ่งขึ้น ป่าแห่งนี้ มีเรื่องลี้ลับมากมายนัก”                                  ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม