ฉันเพิ่งวางกระเป๋ากลับเข้าที่และถูกเรียกตัวไปที่ห้องทำงานของแองเจิล เพื่อนร่วมงานของฉันรู้ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ พวกเขามองมาที่ฉันด้วยความเห็นอกเห็นใจ ฉันรู้ว่าเกือบทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ นี่มันแย่มาก ฉันควรทำยังไงดี
“เข้ามาก่อนสิ” ก่อนที่ฉันจะเคาะประตูฉันได้ยินเสียงคำรามโกรธของแองเจิล
“คุณอธิบายมาสิ ทุกคนทำงานดึกเมื่อวานนี้และคุณเป็นคนเดียวที่ออกไปก่อนหมายความว่ายังไง” อังเกอร์พูดพร้อมกับฮัมจมูกของเขา
“ฉันทำงานเสร็จทุกอย่างแล้วดังนั้นเวลานั้นคือเวลาเลิกงานแล้ว” ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญเกินไป
“คุณนี่มีข้อแก้ตัวตลอดเวลา ฉันจำได้ว่าคุณจะต้องเป็นคนดูแลงานเมื่อวานนี้แต่คุณกลับออกไปก่อนโดยที่ไม่รายงานหัวหน้าของคุณงั้นหรอ”แองเจิลค่อนข้างไม่มีเหตุผล
“ฉันขออนุญาต วอร์เรน วิลสัน ก่อนจะออกไปเมื่อวานนี้” ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปพูดถึงเจ้านายของเธอ
“โอ้คุณนี่น่าทึ่งมากทั้งยุ่งกับวอร์เรนวิลสัน นี่สมิธคนเดียวไม่เพียงพอรึไง คุณดูเหมือนอีตัวที่คอยไล่ตามผู้ชายและไม่มีความละอาย คุณมันอยากมาใช่ไหม ฉันบอกคุณแล้วไงสมิธเป็นของฉันอยู่ห่าง ๆ จากเขา อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณทำอะไรในลิฟต์เมื่อวานนี้ ครั้งต่อไปถ้าฉันเจอเหตุการณ์นี้อีก ฉันจะฉีกปากของคุณซะ!”แองเจิล เป็นเหมือนสิงโตบ้าฉันไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป ฉันหยิบโทรศัพท์ที่ฉันบันทึกเสียงของเธอออกมาจากกระเป๋าของฉัน
“แองเจิล ฉันบันทึกเสียงของคุณไว้หมดแล้วและถ้าคุณยังหยาบคายกับฉันอีกครั้ง ฉันจะเปิดมันให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมิธ เพราะงั้นเขาจะรู้ว่านิสัยของคุณมันร้ายกาจและชั่วร้ายแค่ไหน กับสิ่งที่คุณเป็น แองเจิล แองเจิล แองเจิล แองเจิล แองเจิล คุณนี้น่าขยะแขยงเกินไป เธอใกล้จะถึงจุดจบของเธอแล้วแหละ”
ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องหลังจากเดินไปสักสองสามก้าว จากนั้นก็มีเสียงของสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกโยนลงบนพื้นและมันก็สะท้อนอยู่ในโถงทางเดิน
แอนดี้มาหาฉันทันที “อเล็กเซีย เธอไม่ควรสู้กับแองเจิล ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของประธานกลุ่ม เธอไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถูกยั่วโมโหแบบนี้นะ”
“ฉันจะไม่ไปยุ่งกับเธอ แต่ถ้าเธอมายุ่งกับฉันอีก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้เฉยๆ แน่”ฉันพูดด้วยหัวใจที่หนักหน่วง
แอนดี้ไม่ใช่แค่ช่วยให้คำแนะนำกับฉันได้ คนอย่างเธอเป็นได้มากกว่านั้น “คนอย่างเธอไม่เหมาะเป็นผู้บังคับบัญชาของเรา ฉันจะลาออกจากบริษัท” เธอมีการคลังสำรองข้อมูลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
“ฉันแค่หวังว่าเธอจะเงียบปากไปสักสองสามวัน” คำพูดของฉันมาจากใจจริงๆ ฉันทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อฉันบอกว่าฉันไม่ได้วางแผนที่จะทำงานในบริษัทนี้ฉันจริงจังท้ายที่สุดกับเจ้านายอย่างคุณแองเจิล อนาคตของฉันจะแย่มาก แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องการลาออกฉันรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เศร้าเพราะความรู้สึกที่ผ่านมากับที่นี่ แต่มันคุ้มค่าจริง ๆ หรอที่จะอยู่กับสิ่งที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้
ช่วงพักกลางวัน ฉันทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของบริษัท
ทันใดนั้นวอร์เรนก็นั่งลงถัดจากแอนดี้กับฉัน
“หือ ทำไมคุณมากินอาหารในโรงอาหารของบริษัทละ” แอนดี้ถามดูอยากรู้อยากเห็นมาก
“ฉันคิดว่าตัวตนของคุณ ควรจะออกไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านหรูๆ มากกว่ามาอยู่ในโรงอาหารนี้นะ”
วอร์เรนขำออกมากับท่าทางของแอนดี้ เขาตลกมากและไม่ใช่คนแบบที่เราคิด
วอร์เรนหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและเพิ่มเราทั้งคู่ลงในรายชื่อผู้ติดต่อของเขา
มื้อนี้สนุกมากแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าจะโดนเอาไปนินทาแบบไหน โอ้ ฉันเหนื่อยกับการอยู่ในบริษัทนี้ ฉันไม่สามารถรู้สึกถึงความตื่นเต้นที่ฉันเคยมาทำงานทุกครั้งได้
หลังจากวอร์เรนออกจากโรงอาหารไปแอนดี้กระซิบในหูของฉัน
“อืมม วอร์เรนชอบคุณ ฉันเห็นเขาขอข้อมูลการติดต่อของเธอ”
“ไม่เอาน่า เขาไม่ได้เพิ่มเธอลงในรายชื่อผู้ติดต่อของเขาด้วยหรอ? คุณรู้ไหม เขากำลังตามล่าคุณอยู่” ฉันสนุกกับแอนดี้กลับมา แต่ฉันก็นึกถึงสมิธ ที่ให้ข้อมูลการติดต่อของเขา พระเจ้าบุคคลนี้น่าสนใจเกินไป
วันนี้เป็นวันศุกร์ ฉันตั้งตารอวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยม แต่ฉันพบว่าตัวเองมีงานมากมายที่ฉันควรจะรีบทำให้เสร็จ
ฉันรู้ดีว่าแองเจิลจะใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานของเธอเพื่อสร้างปัญหาให้กับฉัน
ฉันทำงานทั้งวันและไม่ได้ดื่มอะไรตลอดทั้งวัน ถึงแม้จะทำงานหนักและขอความช่วยเหลือจากแอนดี้ในตอนท้ายของวัน แต่ก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องจัดการ เมื่อฉันดูเวลาอีกทีมันก็ใกล้เวลา 21.00 น.ยังเหลืองานที่ต้องทำอีกเยอะมาก ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นว่าแม่ของฉันโทรหาฉันสองสามครั้งและฉันจึงโทรกลับหาเธออย่างรวดเร็ว
“นี่ลูกลืมว่าลูกมีนัดวันนี้หรอ? ผู้ชายคนนั้นรอลูกมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ” น้ำเสียงของแม่ของฉันเร่งด่วนเกินไป ฉันลืมไปเลยว่าวันนี้ฉันมีนัดดูตัว นี่มันไม่ใช่สไตล์ของฉันที่จะรอให้ฉันตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำงานในมือต่อให้เสร็จ
“เร็วเข้า ฉันจะโทรหาแจ็คและบอกเขาว่า ลูกทำงานเสร็จช้าและจะมาถึงเร็ว ๆ นี้” แม่กังวลมากกว่าฉัน
ฉันไม่ต้องการเสียเวลาและฉันไม่ต้องการทำให้แม่โกรธ ดังนั้นฉันบังคับตัวเองให้เก็บของเพื่อไปเจอกับผู้ชายคนนี้ ที่ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นทนายความ ฉันเดาว่าเขาน่าจะเชื่อถือได้มากกว่าสองสามคนแรก
อย่างไรก็ตามเมื่อฉันยืนอยู่หน้าลิฟต์ ฉันรู้สึกกังวลใจที่จะเข้าไปและก็เริ่มเวียนหัว ฉันน่าจะลงบันไดดีกว่าฉันไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูงมา จึงไม่มีปัญหามากนักที่จะเดินลงไปถือว่าเป็นการออกกำลังกาย
ขณะที่ฉันเดินไปที่บันได ประตูลิฟต์อีกบานก็เปิดออกและสมิธยืนอยู่ข้างใน
“เข้ามาสิ”ฉันเข้าไปในลิฟต์อย่างไม่เต็มใจและอธิษฐานว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดูเหมือนว่าฉันจะโชคไม่ดีที่มาเจอกับมิสเตอร์สมิธ ตรงกันข้ามกับที่ฉันอธิฐานไว้เลย
ฉันเข้ามาในลิฟต์และสมิธยืนอยู่ใกล้กับปุ่มทันใดนั้นฉันก็ประหม่ามากพระเจ้าใบหน้าของฉันเป็นสีแดงทันที
จนลิฟต์ลงมาถึงชั้นใต้ดินที่เป็นที่จอดรถและฉันไม่ได้ขับรถยนต์ ฉันอายเกินไป แค่ให้สมิธออกจากลิฟต์ไปที่รถของเขาและฉันจะออกไปและเรียกแท็กซี่ที่ชั้นบน
“คุณจะไปไหน ผมจะขับรถไปส่งคุณที่บ้าน”
“ไม่ ไม่ ฉันจะนั่งแท็กซี่ไปค่ะ” ถ้าฉันอยู่คนเดียวกับเขาฉันอาจไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
สมิธ เปิดประตูและฉันไม่มีทางเลือกนอกจากขึ้นไปบนรถของเขา
“เอามือถือมาให้ผม ผมจะเปิดเพลง”
เขาคนนี้แปลกแค่ไหน ทำไมเขาถึงเอาโทรศัพท์ของฉันไปทำนั้นทำนี่ตามอำเภอใจเสมอ แต่ฉันไม่สามารถปฏิเสธเขาได้
ท้ายที่สุดเขาเป็นเจ้านายของฉัน
“แกมันเป็นอีตัวและร่านนักใช่ไหมแกอยากนอนกับเขาใช่ไหม!!” ฉันแตะปุ่มแสดงผลโดยไม่ตั้งใจ เสียงที่บันทึกไว้ดังออกมา เขามองมาอย่างมีเลศนัย
พระเจ้าให้ฉันขุดหลุมและซ่อนตัวเองตลอดไปทีเถอะ
“ฉันขอโทษ ฉันจะลบมันเดี๋ยวนี้ค่ะ” ฉันตอบกลับท่าทีของเขาด้วยความตกใจ
“ไม่ เก็บไว้เถอะ” ทันใดนั้นสมิธก็จับมือฉันและกอดฉันไว้แน่นเป็นเวลานาน เราอยู่ใกล้เกินไปร่างกายเกือบจะสัมผัสกันทุกส่วน
ฉันพยายามผลัดออกจากเขาและลงจากรถอย่างรวดเร็ว เขาตามมาจับมือฉันกลับมา
ฉันก้มศีรษะลงและใบหน้าของฉันก็แดงขึ้นอีกครั้ง
“คุณกลัวผมหรอ” สมิธถามด้วยเสียงที่นิ่งและหยาบกระด้าง
“ไม่ค่ะ ไม่”
ฉันถอนหายใจและรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
จากนั้นฉันก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มคิดถึงมันอีกครั้ง ทำไมเขาไม่ให้ฉันลบการบันทึก เขาต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือไม่
ที่นี่สมิธหันหัวมามองและคืนโทรศัพท์ให้ฉัน
ฉันหยิบมันมาและรีบเดินจากไป ฉันไม่ได้แม้แต่จะกล่าวคำขอบคุณง่ายสักคำ ฉันแค่เดินหนีไป
เมื่อฉันไปถึงร้านกาแฟมันเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
ฉันคิดว่าคงจะไม่เจอใคร แต่ด้วยความประหลาดใจของฉันทนายความแจ็ควิลเลียมส์ยังอยู่ที่นั่น เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามาในร้าน
“ขอโทษค่ะ คุณแจ็ค วิลเลี่ยมส์ใช่ไหมคะ?” ด้วยความสุภาพฉันยังคงแนะนำตัวเองกับบุคคลนั้น
“ฉันเป็น”
“คุณเป็น--” ชายคนนั้นได้ยินเสียงของฉันและเงยหน้าขึ้นมองฉัน
ช่วงเวลาที่เขาเห็นฉันฉันเห็นว่าสิ่งที่กระพริบในดวงตาของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออเล็กเซีย บราวน์ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอ พอดีมีงานด่วนเข้ามาเลยทำให้ฉันมาเจอคุณช้า”
“โอ้ไม่มีปัญหาไม่มีปัญหา คุณป้าบอกผมแล้ว” ความโกรธของแจ็ควิลเลียมส์หายไป เขาจะไม่คิดว่าป้าของเขาจะแนะนำเขาให้รู้จักกับสาวสวยคนนี้
เราเริ่มพูดคุยและบรรยากาศก็สนุกมาก
ในเวลาเดียวกันในห้องส่วนตัวไม่ไกลจากฉันมีคนนั่งอยู่ในระยะไกลและสามารถเห็นฉันได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงาน แต่ฉันคิดว่าแจ็ควิลเลียมส์เป็นคนดี ดังนั้นเมื่อเขาขอให้ฉันแลกเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือฉันเห็นด้วยอย่างเต็มใจ
แค่ฉันคิดว่าฉันถูกจับตามองทั้งคืน จากช่วงเวลาที่ฉันนั่งลงฉันรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองมาที่ฉันและวันนี้ร้านกาแฟเงียบอย่างน่าประหลาดใจ
ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
ตอนแรกฉันคิดว่าฉันเห็นสมิธ แต่แล้วฉันก็ปฏิเสธความคิดนี้ อาจเป็นเพราะวันนี้ฉันเหนื่อยเกินไป
“คุณอเล็กเซีย บ้านคุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปส่งคุณ”
“ขอบคุณ แต่ฉันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่จำเป็นเลยค่ะ” ฉันหัวเราะ
ท้ายที่สุดมันเป็นครั้งแรกที่เราพบกันแม้ว่าเขาจะทำให้ฉันประทับใจ แต่ฉันก็ต้องระวัง
“แบบนั้น โอเค แต่ระวังระหว่างทางด้วยนะ” แจ็ควิลเลียมส์พยักหน้าเบา ๆ ความสุภาพของสุภาพบุรุษคนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกดีกับเขามากขึ้น
เมื่อเราเดินไปที่มุมร้านบริกรผลักประตูเปิดออกและฉันก็เหลือบมองไปที่ร่างที่ทำให้ฉันอยากอาเจียนโดยไม่รู้ตัว
มันคือแอนนี่โจนส์
เธอมาที่นี่ได้อย่างไร ฉันเหลือบมองไปที่แม่ของเธอและแอ๊บบี้วิลเลียมส์ที่น่าขยะแขยงและเพื่อนที่มหาวิทยาลัยอีกหลายคน
“แจ็ค คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ นั้นเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันและฉันจะกลับบ้านกับเธอ” ฉันบอกลาแจ็ควิลเลียมส์และเดินเข้าไปในห้อง
“เฮ้ดูสินั่นไม่ใช่อเล็กเซียบราวน์ใช่ไหม เธอมานัดบอดหรอแม่ของเธอจัดการเรื่องนี้ให้สินะไม่คิดว่าเธอจะตกต่ำจนต้องให้ลูกสาวมาดูตัวกับผู้ชายคนอื่นๆ ตลอดเวลา”แอ๊บบี้ วิลเลียมส์พูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีเยาะเย้ย พร้อมรอยยิ้มบนหน้าเธอ
“ขอโทษ มาผิดห้องแล้ว” ฉันจงใจหลีกเลี่ยงการจับมือของ แอ๊บบี้ วิลเลียมส์ ฉันไม่ต้องการสัมผัสเธออีกต่อไปเพราะเมื่อฉันเห็นเธอมันจะทำให้เกิดความทรงจำที่น่ากลัวเหล่านั้น
“ทำไมเขาเดินออกไปแบบนั้นล่ะ ดูผู้ชายที่นัดบอดเขาไม่ได้หล่อเหมือนจอห์นนี่อีแวนส์เลย” แอ๊บบี้วิลเลียมส์พูดอย่างจงใจเพื่อทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด
“แอ๊บบี้วิลเลียมส์เมื่อคุณคุกเข่าลงและขอร้องให้ฉันอนุญาตเธอเพื่อกำเนิดลูกของจอห์นนี่อีแวนส์คุณต้องการให้ฉันเตือนคุณหรือเปล่าล่ะ ฉันจำได้ว่าคุณตั้งครรภ์และคุณออกจากประเทศไปใช่ไหม ฉันแน่ใจว่าคุณแต่งงานแล้วและเด็ก ๆ น่าจะอยู่ในโรงเรียนประถม”
ไม่กี่คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้น ทุกคนคิดว่าจอห์นนี่อีแวนส์แต่งงานกับฉันและออกจากประเทศกับแอ๊บบี้ วิลเลียมส์ แต่ไม่รู้ว่ามีข้อบกพร่องอยู่เบื้องหลัง
“อเล็กเซียบราวน์คุณกล้าที่จะพูดเรื่องไร้สาระที่นี่งั้นหรอก็เห็นๆกันอยู่ว่าเขาเป็นคนทิ้งเธอเอง”เพื่อนของ แอ๊บบี้ วิลเลียมส์ โต้กลับ
“โอ้คุณควรรู้ว่าฉันกำลังพูดเรื่องไร้สาระ” ฉันจ้องที่ใบหน้าของแอ๊บบี้วิลเลียมส์และตอบอย่างเย็นชา