กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
เสียงโทรศัพท์ของมาร์คร้องเสียงดังขึ้นมาในช่วงกลางคืน เขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นเบอร์ที่ปรากฏตรงหน้าจอถึงกับทำให้เขาอมยิ้มขึ้นมาทันที
“ฮัลโหล สวัสดีครับคุณเบล” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างนุ่มนวล
“สวัสดีค่ะ คุณมาร์ค” หญิงสาวถือสายรออย่างใจจดใจจ่อกลัวเขาจะไม่รับสายเธอ
“คิดถึงผมเหรอถึงได้โทรดึก ๆ แบบนี้”
“หลงตัวเองนะคุณเนี่ย”
“มันจริงไหมล่ะ ก็ผมหล่อ รวย นิสัยดี ใคร ๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละ”
“หึหึ ไอ้หล่อรวย ฉันพอจะเข้าใจแต่นิสัยดีฉันว่ามันไม่ใช่เลย”
หญิงสาวถึงกับต้องส่ายหัวในคำตอบที่ได้จากมาร์ค คนอะไรหลงตัวเองเป็นบ้า
“กล้าต่อปากต่อคำกับผมแบบนี้อยู่ใกล้จะจับจูบให้ปากเปื่อยเลย”
“คุณนี้มันวกเข้าเรื่องนั้นตลอดเลย”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ โอเค ๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว โทรมาหาผมมีอะไร”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดังที่ได้แกล้งคนปลายสาย
“ไม่อยากคุยด้วยแล้ว”
“อ้าว งอนเหรอ ให้ผมไปง้อไหมตอนนี้ผมว่างแต่ผมจะง้อ บนเตียงเท่านั้น” เขายังไม่หยุดที่จะแกล้งเธอ มาร์คไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมพอได้แกล้งหญิงสาวแล้วหัวใจมันรู้สึกพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณมาร์ค!!!” เธอตะโกนเรียกชื่อของเขาจนดังลั่นห้อง ถ้ามาร์คมาเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้คงได้แกล้งมากขึ้นไปอีกเพราะเธอหน้าแดงมาก
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ แกล้งคุณแล้วสนุกจังเลย”
“คุณมันโรคจิต”
“โอเคผมยอมรับก็ได้ พูดเรื่องของคุณมาเถอะ” มาร์คเลิกพูดจากวน ๆ รีบให้หญิงสาวเข้าเรื่องที่โทรมาหาเขาแบบนี้ต้องมีอะไรแน่นอน
“ฉันจะโทรมาถามว่า เราจะไปอเมริกาวันไหนแล้วไปกี่วันฉันจะได้เตรียมตัวได้ถูก”
“ไปอาทิตย์หน้า ไปกี่วันนั้นผมยังไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าไม่ต่ำกว่าเจ็ดวันแล้วกัน”
“ทำไมไปนานจัง”
“ก็ผมไม่รู้ว่าแม่จะเชื่อเรื่องของเรารึเปล่า ท่านฉลาดมาก ผมกลัวท่านจะไม่เชื่อ” เขาก็ยังไม่ใจว่ามารดาจะเชื่อจริง ๆ มาร์ครู้สึกแปลกใจที่ท่านไม่โมโหแต่กลับบอกให้พาไปพบท่านด้วย
“ถ้าเป็นแบบนั้นเราควรทำยังไงดี”
“คุณต้องมาอยู่กับผม ก่อนที่เราจะไปหาแม่ผม คุณต้องมาเรียนรู้เรื่องส่วนตัวของผม ส่วนผมก็จะต้องเรียนรู้เรื่องส่วนตัวของคุณ”
เรื่องนี้เขาเพิ่งคิดได้เมื่อกี้ เขาทนนอนเหงาคนเดียวไม่ได้อีกแล้วอยากมีเธอมานานข้าง ๆ แบบเนื้อแนบเนื้อจึงเอาเหตุผลเรื่องแม่มาเป็น ข้ออ้างให้หญิงสาวมาอยู่ด้วย
“อยู่แบบไหน ฉันไม่เข้าใจ”
“ก็อยู่แบบสามีภรรยาไง มาใช้ชีวิตด้วยกัน กินข้าว เข้านอน ทำอะไร ๆ เหมือนคู่รักเข้าทำยังไงล่ะคุณ”
“ฮะ!!! ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ” เบลไม่คิดเลยว่าจะต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งแดงรู้สึกเขินขึ้นมายังไงไม่รู้
“ใช่สิ ถ้าไม่ทำแบบนั้นเวลาอยู่ต่อหน้าแม่ของผมเราก็แสดงละครไม่แนบเนียน”
“ฉันว่าระดับคุณเนียนอยู่แล้ว”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว ผมหมายถึงคุณต่างหากที่จะไม่เนียน”
“ก็จริงของคุณ แล้วจะให้ฉันไปอยู่กับคุณวันไหน ที่ไหน” พอฟังเหตุผลของเขาแล้วมันก็จริงอย่างที่มาร์คพูด ความแตกแน่เพราะเธอโกหกไม่เก่งดังนั้นเธอควรทำตามที่เขาบอก
“พรุ่งนี้ ที่บ้านของผม”
“เฮ้ย แล้วฉันจะบอกพ่อกับแม่ยังไง ทำไมมันกะทันหันแบบนี้”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมจัดการเอง เตรียมตัวได้เลย”
“อืมก็ได้ค่ะ แต่ฉันอีกมีเรื่องจะถามคุณ”
“เรื่องเยอะจริง ๆ นะคุณ”
“นี่คุณอย่ามาว่าฉันนะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ พูดแค่นี้ก็ขึ้น ไหนว่ามาเรื่องอะไรอีก”
“ก็เรื่องแต่งงานของเราคุณมีสัญญาให้ฉันเซ็นไหม
“สัญญาอะไร”
“สัญญาการแต่งงานที่ระบุว่าเราจะแต่งแค่งานหนึ่งปีแล้วหย่าไง เหมือนในนิยายที่ฉันเคยอ่าน คุณไม่เข้าใจเลย” คนอ่านนิยายมาเยอะอย่างเธอก็คิดว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเหมือนกันเห็นทุกเรื่องที่แต่งงานแบบนี้ต้องมีการเซ็นสัญญาด้วยสิ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ คุณนี่มันชีวิตจริง สัญญาแบบนั้นผมไม่ทำหรอก”
“อ้าวแล้วคุณไม่กลัวว่าฉันจะไม่ยอมหย่าให้รึไง หรือกลัวว่าฉันจะฮุบสมบัติของคุณอะไรประมาณนี้”
“ไม่ ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ผมเชื่อในตัวคุณว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน”
“คุณนี่เชื่อคนง่ายจัง”
“ผมไม่ได้เชื่อคนง่ายหรอกนะเฉพาะกับบางคนเท่านั้นที่ผมเชื่อและคุณก็คือคนนั้น” มาร์คพูดหยอดเธออีกแล้วก็เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงให้ทนายทำสัญญาแต่เป็นเธอเขาไม่จำเป็นต้องทำ
“คุณพูดจาอะไรเลี่ยนชะมัด” เบลนั่งบิดตัวอยู่บนที่นอนรู้สึกเขินกับคำพูดของเขา
“ผมพูดจริงนะคุณ หรือว่าคุณกลัวพอถึงเวลาแล้วจะไม่ยอมหย่าให้ผมเพราะตกหลุมรักผม”
“เป็นไปไม่ได้คนอย่างฉันไม่ได้รักใครง่ายจะบอกให้” เธอตอบออกไปเสียงดังฟังชัดแต่ลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อยกลัวจะตกหลุมรักเขาจริง ๆ
“อืม แล้วผมจะคอยดูแต่ถ้าคุณไม่สบายใจเรื่องสัญญาผมจะให้ทนายทำขึ้นมาก็ได้นะ”
“ฉันแล้วแต่คุณ ฉันไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วกลัวแต่คุณเท่านั้นแหละ เผื่อในอนาคตคุณไปเจอใครแล้วเกิดรักเขาขึ้นมามันจะได้ไม่มีปัญหาก็แค่นั้นเอง” หญิงสาวพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงรู้สึกเจ็บเวลาที่คิดว่าเขาจะไปรักคนอื่น
“คุณพูดเหมือนกับว่าไม่อยากหย่ากับผมเลย”
“บ้า ใครเขาคิดแบบนั้นกัน ฉัน ฉัน ก็แค่เป็นห่วงเรื่องอนาคต”
“หึหึ ไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคตหรอก ไม่แน่เราอาจจะไม่ต้องหย่ากันก็ได้” มาร์คพูดเป็นนัย ๆ เผื่อว่าเธอกับเขารักกันจริง ๆ เรื่องหย่าไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
“ทำไมล่ะหรือว่าคุณเปลี่ยนใจจะไม่แต่งงานกับฉันแล้ว”
“ไม่ใช่แบบนั้นคุณ เอาเป็นว่าให้มันเป็นเรื่องของอนาคตก็แล้ว คิดตอนนี้ก็ปวดหัว”
“อืมก็จริงของคุณ ฉันต้องขอบคุณ คุณมาก ๆ นะคะที่เข้ามาช่วยครอบครัวของฉันถึงแม้ว่าคุณจะได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ก็ตาม แต่ฉันก็ต้องขอบคุณอยู่ดี” เบลพูดออกมาจากใจถึงแม้เธอจะต้องเสียความบริสุทธิ์ไปเพราะความเมาแต่โชคดีที่เธอเสียมันให้เขาถ้าเป็นคนอื่นไม่รู้เธอจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง
“คุณพูดจนผมรู้สึกซึ้งน้ำตาจะไหลเลยรู้ไหม”
“คุณมาร์คฉันพูดจริง ๆ นะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ฉันจะรับคุณไว้เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของฉันแล้วกันนะ แต่รองจากแพท” หญิงสาวหาเหตุผลให้กับตัวเองที่รู้สึกดีกับเขาแบบนี้เพราะอยากให้เขามาเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกับแพท
“ผมควรจะดีใจใช่ไหมที่คุณให้เกียรติขนาดนี้”
“แน่นอน ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“แต่ผมอยากไม่อยากเป็นเพื่อน” มาร์คพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงจนคนฟังสงสัยทำไมเขาถึงไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ
“อ้าวทำไมล่ะคุณ”
“ผมอยากเป็น ผัว เป็นเพื่อนมันทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้ เสียบคุณก็ไม่ได้ ไม่เอาดีกว่า”
“ทะลึ่ง!!! นี่คุณอย่าบอกนะว่าเราต้องทำ เอ่อ เรื่องแบบนั้นด้วย”
“แน่นอนสิคุณ แต่งงานกันแล้วเรื่องบนเตียงมันธรรมดา ถ้าคุณไม่ให้ผมทำกับคุณแล้วคุณจะให้ผมไปทำกับใคร หรือคุณยอมให้ผมไปนอนกับผู้หญิงอื่น” เขาลองหยั่งเชิงหญิงสาวดูถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่ากับคนอื่นเธอจะมีปฏิกิริยาแบบไหน
“ไม่ได้นะ!!! คือฉันก็แค่นึกว่าคุณจะแต่งงานหลอกๆ แค่จัดงานแต่ง จดทะเบียนแค่นั้นเอง เรื่องอื่นไม่มี”
“ผมเป็นผู้ชายนะคุณ เรื่องอย่างว่ามันต้องมี สมัยก่อนผมไม่มีเมียจะนอนกับใครก็ได้แต่ตอนนี้ผมกำลังจะมีเมียจะให้ไปนอนกับคนอื่นมันก็ไม่ใช่ไหม”
“อืม ก็จริงของคุณ เอาเป็นว่าตลอดเวลาหนึ่งปีที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดก็แล้วกันแต่คุณต้องสัญญากับฉันนะ”
เบลคิดตามที่มาร์คพูดซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาว่าดังนั้นเธอต้องทำหน้าที่เมียไม่ให้ขาดตกบกพร่องถึงจะไม่ได้รักกันแต่ก็ควรให้เกียรติกันดูแลกันอยู่ดี ส่วนเรื่องนั้นคงจะเลี่ยงไม่ได้
“สัญญาอะไร” มาร์ทำหน้าสงสัยเธอจะให้เขาสัญญาอะไร
“สัญญาว่าคุณจะไม่ไปมีคนอื่น จะไม่นอนกับผู้หญิงอื่น จะมีฉันคนเดียว เพราะถ้าคุณทำแบบนั้นฉันคงทนไม่ได้ถึงแม้เราจะแต่งงานกันเพราะเหตุผลอื่นไม่ใช่เพราะความรักแต่ฉันก็ทนเห็นสามีของตัวเองทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่นไม่ได้หรอก อย่าหาว่าฉันเห็นแก่ตัวเลย คุณเข้าใจฉันนะ”
“อืม ผมเข้าใจ ผมสัญญา ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นแน่นอนแต่คุณเองก็ต้องสัญญากับผมเหมือนกัน” เขาเป็นลูกผู้ชายพอแต่งงานกันแล้วเรื่องมือที่สามไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเขาเองก็ไม่ชอบ
“คุณมีสัญญาด้วยเหรอ”
“แน่นอน คุณต้องสัญญาว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคุณจะไม่ไปรักใครเด็ดขาด ผมก็เหมือนกันจะไม่รักใครเด็ดขาด” ชายหนุ่มรีบบอกเธอให้สัญญาเพราะเขากลัวว่าเธอจะไปเจอคนอื่นแล้วรักคนคนนั้น
ส่วนเขาไม่มีทางแน่นอนเพราะรู้ดีว่ากำลังรู้สึกดีกับคนในสายแค่ขอเวลาพิสูจน์ความมั่นใจว่ารักหรือหลงกันแน่
“อืม ได้สิฉันทำได้อยู่แล้ว เรื่องนี้สบายมาก”
“สัญญาทั้งหมดที่มีจะไม่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ผมเชื่อใจคุณและผมหวังว่าคุณจะเชื่อใจผม”
“คุณเชื่อใจฉันได้เลยและฉันก็เชื่อใจคุณค่ะ ฉันวางสายแล้วนะคะคุณตอนนี้ง่วงมากเลย” หญิงสาวให้คำมั่นสัญญาและขอวางสายก่อนเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว
“เดี๋ยวสิคุณเบล อือ คุณสบายใจหรือยังเรื่องที่บ้านของคุณ”
“สบายใจมากไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”
“ได้ยินแบบนี้ผมก็ดีใจ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ ผมจะไปรับคุณ ที่บ้าน”
“โอเคได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณมาร์ค”
“ครับ นอนหลับฝันดี ฝันถึงผมด้วย”
“แบบนั้นจะหลับฝันดีไหม ฮ่า ๆ ๆ ๆ good night ค่ะคุณมาร์ค”
“ครับ good night” มาร์ควางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุขที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ายิ้มทำไม
เขารู้สึกไม่อยากวางสายเลยอยากจะคุยกับหญิงสาวไปอีกสักพักแต่ก็เอาเถอะพรุ่งนี้ก็ได้เจอกัน ชายหนุ่มนอนยิ้มให้กับโทรศัพท์อยู่บนเตียงเหมือนคนบ้าไม่มีผิด
ส่วนเบลก็รู้สึกไม่ต่างกันเธอไม่เข้าใจตัวเองทำไมต้องรู้สึกดีกับมาร์คด้วยแค่ได้คุยกับเขาแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว เธอนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับโทรศัพท์เหมือนกัน คิดแต่เรื่องของมาร์คจนหลับไปในที่สุด