เช้าวันรุ่งขึ้น
เบลที่นอนหลับด้วยความอ่อนเพลียตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงจำได้ลาง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง เธอคิดได้ดังนั้นจึงร้องออกมาด้วยความตกใจทำให้มาร์คที่นอนกอดเธออยู่รู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความงัวเงีย
“อือ ร้องทำไมคุณ หรือว่าเจ็บตรงนั้น ผมดูให้ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉะ ฉันแค่ตกใจที่เรา เอ่อ”
“เรามีอะไรกัน”
“อืม” หญิงสาวพยักหน้าให้ชายหนุ่มด้วยความเขินอาย เธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถึงได้ใจกล้าบ้าบิ่นขอให้เขามาเป็นผัว เพราะความเมาแท้ ๆ ที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น สาบานว่าต่อไปนี้จะไม่แตะต้องของมึนเมาอีกแล้ว
“ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ในเมื่อผมเป็นคนแรกของคุณ ผมจะรับ ผิดชอบเอง”
“ไม่ต้อง คือ ฉันจำได้ว่าฉันเป็นคนขอให้คุณ เอ่อ ให้คุณทำแบบนั้นเอง คุณไม่ต้องรับผิดชอบหรอก ถือว่าฉันมาหาประสบการณ์แล้วกันก่อนที่จะได้ใช้จริง ๆ”
“ไม่ได้!!!” ชายหนุ่มพูดออกมาเสียงดังเขารู้สึกไม่พอใจที่เธอบอกให้เขาไม่ต้องรับผิดชอบ ทำราวกับว่าเขาเป็นผู้ชายที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างนั้นแหละ ถึงเขาจะนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็ได้ประโยชน์จากเขาต่างคนต่างได้ประโยชน์ มาร์คไม่เคยเจอผู้หญิงบริสุทธิ์มาก่อนทำให้เขารู้สึกผิดอยู่ในใจที่ไม่ยับยั้งชั่งใจจนมันเลยเถิดไปไกลขนาดนี้ชายหนุ่มจึงอยากรับผิดชอบการกระทำของตนเอง
“ทำไมจะไม่ได้ ร่างกายของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
“หึหึ ร่างกายของคุณมันก็ของผม ถ้าจะเอาไปให้คนอื่นเสียบแทนผมอย่าหวังเลย ถ้าไม่อยากลงจากที่นอนแล้วนอนครางใต้ร่างของผมอย่างเดียวจงทำตามที่ผมบอก จะเดินไปอาบน้ำแต่งตัวดี ๆ หรือจะให้ผม อาบให้”
“คนบ้า! ฉันไปเอง”
“แต่ผมไปส่งดีกว่า”
พรึบ
มาร์คลุกไปอุ้มหญิงสาวออกจากผ้าห่มทั้งเธอและเขาไม่มีเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น แล้วพาหญิงสาวเข้าไปที่ห้องน้ำโดยไม่ฟังเสียงการคัดค้านของเธอเลยสักนิด
ชายหนุ่มอาบน้ำให้หญิงสาวด้วยความเร่าร้อนจัดไปหลายน้ำ กว่าจะเสร็จหญิงสาวก็หลับคาอกเขาไปอีกครั้ง มาร์คอุ้มเธอกลับมาส่งที่เตียงจัดท่านอนให้หญิงสาวได้นอนสบาย
ส่วนเขาก็เดินไปสั่งงานลูกน้องผ่านโทรศัพท์สักพักก็เดินกลับมานอนกับหญิงสาวเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วจะพยศกับเขาอีกไหมถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
หลังจากที่ทั้งคู่ตื่นขึ้นมาเบลนั่งกินข้าวไม่พูดไม่จา ก้มหน้าก้มตากินข้าวที่มาร์คทำให้อย่างเอร็ดอร่อย ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวกินข้าวแล้วอมยิ้มที่มุมปาก พอเขาขู่ว่าถ้าหากยังไม่ฟังที่เขาพูดเขาจะจัดการเธอขั้นเด็ดขาด เธอจึงทำตัวดีนั่งกินข้าวอย่างเรียบร้อยมองค้อนเขาไปหลายครั้งกว่าจะกินข้าวหมด
“ผมว่าเรามาคุยเรื่องที่ค้างคาให้จบดีกว่านะครับ”
“ก็ดีเหมือนกัน”
“โอเค ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมจะรับผิดชอบคุณ”
“เฮ้อ ฉันไม่ต้องการคุณไม่เข้าใจเหรอ”
“ใช่ผมไม่เข้าใจ คุณเพิ่งเสียความบริสุทธิ์ให้ผมแท้ ๆ ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณทำไมคุณถึงไม่อยากให้ผมรับผิดชอบ ผู้หญิงทุกคนอยากได้ผมเป็นสามีทั้งนั้นมีแต่คุณเท่านั้นแหละที่ไม่ต้องการ” มาร์คพูดเรื่องจริง ใคร ๆ ก็วิ่งเข้าหาเขายิ่งได้ขึ้นเตียงกับเขายิ่งดี มีแต่ผู้หญิงจะเสียตัวให้เขาทั้งนั้น ยกเว้นเธอ
“หึหึ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น แล้วที่ฉันบอกว่าไม่ต้องรับผิดชอบเพราะยังไงฉันก็ต้องแต่งงานอยู่แล้ว” หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเศร้าสร้อยเสียใจในโชคชะตาของตนเอง เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมครอบครัวของเธอต้องพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย พ่อของเธอโดนโกงจากเพื่อนที่ไว้ใจทำให้เกิดภาวะวิกฤตทางด้านการเงิน ถ้าเธอไม่แต่งงานกับลูกชายของนักธุรกิจคนนั้นบ้านของเธอก็จะล้มละลาย
“คุณมีคนรักแล้วเหรอ”
ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความสงสัยและรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ในอก ถ้าเธอมีคนรักอยู่แล้วจะทำยังไง เขาจะปล่อยให้หญิงสาวไปแต่งงานกับคนอื่นหรือคัดค้านให้ถึงที่สุด
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ไม่ใช่ แล้วทำไมคุณถึงต้องแต่งงาน”
“เฮ้อ อธิบายไปคุณก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าคุณรู้แค่นี้ก็พอ”
“ไม่พอ ถ้าคุณไม่ยอมพูดผมจะบุกไปที่บ้านของคุณแล้วบอกเรื่องของเราให้พ่อกับแม่ของคุณรู้ทันที”
“ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณทำแบบนั้นพ่อกับแม่ฉันต้องโกรธมากแน่ ๆ”
“งั้นคุณก็บอกผมสิ ว่าคุณต้องแต่งงานทำไม”
มาร์คเริ่มสงสัยในสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมา เธอไม่มีแฟนแล้วทำไมถึงต้องแต่งงาน หรือว่าบ้านของเธอกำลังมีปัญหาคิดได้แบบนั้นเขาจึงพยายามบังคับให้เธอพูดออกมา หญิงสาวที่ไม่รู้จะทำยังไงจึงตัดสินใจพูดกับมาร์คตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจแล้วปล่อยเธอไป
“ที่ฉันต้องแต่งงานเพราะที่บ้านของฉันกำลังจะล้มละลาย พ่อของฉันโดนเพื่อนหักหลังต้องใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อแทนเขา ทางเดียวที่จะทำให้บ้านของฉันไม่ล้มละลายคือแต่งงานกับลูกชายนักธุรกิจที่ต้องการครอบครองธุรกิจของพ่อฉัน”
“บ้านคุณทำธุรกิจโรงแรมใช่ไหม”
“ค่ะ คุณรู้ได้ไง”
“เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับผม”
“นั่นสินะ คุณเป็นถึงทายาทของตระกูลดังเรื่องแค่นี้ธรรมดามาก”
“หึหึ พูดถึงเรื่องของคุณดีกว่า ตกลงคุณจะแต่งงานกับหมอนั่นจริง ๆ เหรอ”
“คงต้องเป็นแบบนั้น ถ้าฉันไม่แต่งครอบครัวก็ต้องแย่ ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นพ่อกับแม่อยู่อย่างทุกข์ใจ”
“ถ้าผมมีทางเลือกมาให้คุณล่ะ คุณจะว่ายังไง”
“ทางเลือกอะไร” หญิงสาวทำหน้าสงสัยเขามีทางเลือกอะไรมาให้เธอแต่ดูจากท่าทางของเขาแล้วเธอน่าจะเสียเปรียบมากกว่า
“แต่งงานกับผม แล้วผมจะช่วยเรื่องหนี้สินของครอบครัวคุณ”
“แต่งงาน!!! คุณจะบ้าเหรอ”
“ผมไม่ได้บ้า แต่ที่ผมต้องการให้คุณแต่งงานด้วยเพราะต้องการให้คุณมาเป็นภรรยาของผมเพื่อให้แม่ของผมเลิกจับคู่ให้ผมสักที”
แม่ของมาร์คอยากอุ้มหลานจึงพยายามที่จะจับคู่ลูกชาย เพื่อให้ชายหนุ่มแต่งงานมีหลานให้ท่านสักที ชายหนุ่มคิดเรื่องนี้มาสักพักไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดีแต่บังเอิญมีเรื่องของเขากับเธอเกิดขึ้นมาทำให้เขาคิดแผนออกว่าจะแก้ปัญหาไม่ให้มารดาของตัวเองมายุ่งวุ่นวายกับตนเองได้อย่างไร
“ฮะ!!! คุณจะให้ฉันแต่งงานหลอก ๆ เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้แม่ของคุณมาจับคุณไปแต่งงานน่ะเหรอ”
“ใช่ แต่ผมไม่ได้ต้องการให้คุณแต่งงานกับผมนานหรอกนะ ครบปีเมื่อไหร่เราก็หย่ากัน”มาร์คเสนอให้หญิงสาวแต่งงานกับตนเองครบปีเมื่อไหร่ค่อยหย่ากัน แต่จริง ๆ แล้วชายหนุ่มแค่ไม่อยากให้เธอตกไปเป็นของคนอื่นจึงใช้วิธีนี้ผูกมัดเธอเอาไว้
ส่วนเรื่องของมารดาเป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น เวลาหนึ่งปีมันมากพอที่จะทำให้เขาและเธอเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ถ้าเข้ากันได้ดีเขาและเธอก็ไม่ต้องหย่าแต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เลิกกันไปแค่นั้นก็จบชายหนุ่มคิดเรื่องนี้ได้เมื่อสักครู่เอง
“ฉันขอคิดก่อนได้ไหม” หญิงสาวขอเวลาให้ได้คิดก่อนไหน ๆ ก็เสียตัวให้เขาแล้วการแต่งงานก็เป็นทางออกที่ดีได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เธอสามารถปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้ส่วนเขาก็จะถูกเลิกแม่จับคู่ให้สักทีแค่ปีเดียวเองก็หย่ามันคงไม่นานหรอก
“อืมได้ผมให้เวลาคุณแค่วันเดียว พรุ่งนี้ผมต้องมีคำตอบและหวังว่าคุณจะให้คำตอบที่น่าฟัง”
“ได้ ฉันจะไปคิดให้ดีแล้วจะบอกคำตอบกับคุณ”
หญิงสาวขอเอาเรื่องไปคิดอีกทีเผื่อเจอทางออกที่ดีกว่านี้ แต่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่พ้นจะต้องแต่งงานกับชายหนุ่มเป็นแน่