@โกดังเก็บสินค้า
ตุ้บ! ผัวะ! ผัวะ!
อังเดรยืนมองภาพชายสี่คนที่กำลังโดนลูกน้องตัวเองรุมกระทืบด้วยสายตาเย็นชา เขายกบุหรี่ขึ้นมาดูดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาอย่างใจเย็น มุมปากหยักได้รูปปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ ด้วยความพอใจ คนพวกนั้นคิดผิดที่กล้าลอบวางเพลิงโกดังเก็บสินค้าของเขา
เขามองภาพตรงหน้าสองนาน สภาพแต่ละคนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นใครเพราะเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด เขาส่งสัญญาณบางอย่างให้ลูกน้อง ไม่นานนักชายฉกรรจ์ก็ถือถังน้ำผสมเกลือไปสาดใส่ชายทั้งสี่คน
บาดแผลเมื่อเจอกับน้ำเกลือมักไม่เป็นมิตรต่อกัน เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเรียกรอยยิ้มจากมาเฟียหนุ่มได้ดีไม่น้อย
"ใครจ้างพวกมึงมา" เนิ่นนานกว่าอังเดรจะยอมปริปากเอ่ยถามชายกลุ่มนั้น
"ปะ...ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ" หนึ่งในสี่คนเอ่ยพูดพลางประนมมือขึ้นขอชีวิตจากอังเดร เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"กูถามว่าใครจ้างพวกมึงมา" น้ำเสียงอังเดรเริ่มเย็นลงทำเอาคนฟังพานเสียวสันหลังวาบตามไปด้วย
"ถ้าพวกเราบอก คุณจะปล่อยพวกเราไปใช่ไหมครับ"
"อยู่ที่ว่าคำตอบของพวกมึงจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน"
"พวกเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้าง ส่วนมากพวกเรารับงานผ่านการโทรเท่านั้น จะไม่เปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่ายรู้แม้แต่ตัวตนคนจ้างพวกเราก็ไม่รู้"
"...."
"แต่พวกเรามีเบอร์ที่ทางนั้นติดต่อมา" ชายคนนั้นนำโทรศัพท์มาวางลงต่อหน้าอังเดร มาเฟียหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้ไทจินำเบอร์นี้ไปตรวจเช็กว่าโทรมาจากที่ไหน
"กูจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมึงไม่ได้โกหก"
"พวกเราไม่กล้าเอาชีวิตมาล้อเล่นกับความตายหรอก"
"หึ ก็ได้ กูจะไม่ฆ่าพวกมึง" อังเดรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่แววตาจุดประกายความร้ายกาจออกมา
คำพูดนั้นของมาเฟียหนุ่มสร้างความดีใจให้แก่ชายทั้งสี่คนไม่น้อย แต่หารู้ไม่ว่าคนตรงหน้าไม่เคยปล่อยให้คนทำผิดหรือศัตรูหลุดรอดไปได้สักคนเดียว
จุดจบของแต่ละคน อังเดรไม่เคยมีใครได้รับโอกาสให้หายใจต่อบนโลกใบนี้...
"จะ...จริงนะ คุณจะปล่อยพวกเราไปจริงใช่ไหม"
"แต่มีข้อแม้"
"ข้อแม้อะไร" อีกคนถามขึ้น รอยยิ้มแสยะของอังเดรเริ่มทำให้ชายทั้งสี่คนหวาดระแวงเพราะเดาอะไรไม่ได้จากผู้ชายคนนี้เลย
"เป็นหนูทดลองให้สินค้าของกู"
เมื่ออังเดรพูดจบ ชายทั้งสี่คนก็ถูกลูกน้องอังเดรจับกดตัวนอนคว่ำลงกับพื้น สินค้าที่มาเฟียหนุ่มพูดถึงก่อนหน้านี้ได้ถูกนำออกมา
"มึงคิดจะทำอะไรพวกกู!"
"หึ" อังเดรกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมส่งเสียงในลำคอเบาๆ พลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องทำการฉีดสารบางอย่างให้ชายกลุ่มนั้น
"มึงฉีดอะไรให้พวกกู!"
"กูมีปืนให้พวกมึงคนละกระบอกวางอยู่ตรงนั้น ถ้าใครเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย นั่นหมายความว่า...คนนั้นรอด"
"มึงมันบ้า!"
"ขอให้สนุกกับเกมเอาตัวรอดนี้นะ"
อังเดรพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้พร้อมกับลูกน้อง เหลือเพียงชายสี่คนและปืนที่มาเฟียหนุ่มจัดเตรียมไว้ให้ ไม่นานนักเสียงปืนก็ดังสนั่นท่ามกลางเสียงร้องโอดครวญของชายเหล่านั้น
สารที่ฉีดให้คนกลุ่มนั้นเป็นสารที่ทำให้เกิดภาพหลอน ต่อให้อีกสามคนถูกปลิดชีพแล้วเหลือหนึ่งคนก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะสารนั้นจะคอยสร้างภาพหลอนจนทำให้เจ้าตัวหวาดกลัวแล้วปลิดชีพตัวเองในที่สุด
เขาไม่ได้คิดจะปล่อยให้สี่คนรอดไปตั้งแต่แรก...
รถหรูของมาเฟียหนุ่มพุ่งทะยานออกจากโกดังเก็บสินค้ามุ่งสู่ถนนใหญ่ นัยน์ตาสีดำทอดมองวิวนอกกระจกรถที่มีสายฝนเทลงมาจากฟากฟ้า พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างรอให้ถึงที่พัก
ไม่นานรถหรูราคาหลายล้านก็แล่นมาถึงเพนท์เฮาส์ส่วนตัว มาเฟียหนุ่มเดินลงจากรถหลังจากไทจิลงมาเปิดประตูรถให้ เขามองนาฬิกาข้อมือพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว พอมาถึงที่พักฝนก็เทกระหน่ำลงมาหนักกว่าก่อนหน้านี้
อังเดรก้าวขาออกมาจากลิฟต์หลังจากประตูลิฟต์เปิดออก นิ้วเรียวยาวเอื้อมไปกดรหัสประตูแล้วเปิดเข้ามา สายตาคมเข้มกวาดมองไปรอบห้องที่มืดสลัวก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟ
เขาชะงักเมื่อเดินมาแล้วเห็นลูเซียร์ยืนยิ้มให้ตัวเองหลังเคาน์เตอร์ครัว สายตาปรายมองเศษแก้วและรอยเลือดบนพื้นจากนั้นดึงสายตาไปมองเจ้าของรอยยิ้ม
"ออกมานี่"
"เอ่อ..."
"จะให้ฉันลากออกมาหรือจะเดินออกมาเอง"
ลูเซียร์จำใจเดินกะเผลกขาออกมาจากตรงนั้นอย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้เธอได้ทำแก้วน้ำหลุดมือเนื่องจากตกใจเสียงฟ้าร้อง เพราะความไม่ระวังบวกกับความมืดทำให้เธอถอยมาเหยียบเศษแก้ว ไม่ทันได้ทำอะไรไฟก็สว่างวาบทำให้รู้ทันทีว่าอังเดรกลับมาแล้ว
"ไปทำอีท่าไหนให้เหยียบแก้ว"
"เซียร์ออกมาน้ำดื่มแต่ว่าดันทำแก้วหลุดมือ แล้วตอนนั้นเซียร์ก็ไม่ได้เปิดไฟเลยไม่เห็นเศษแก้ว แล้วก็เผลอถอยหลังไปเหยียบ"
"สมควร คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็หัดเปิดไฟด้วย"
หญิงสาวก้มหน้างุดเมื่อโดนดุ อังเดรถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย จากนั้นอุ้มร่างบางของลูเซียร์ในท่าเจ้าสาวไปวางลงโซฟา
"พี่เดย์จะทำอะไรคะ"
"นั่งอยู่เฉยๆ"
ลูเซียร์มองตามอังเดรที่เดินหายไป ไม่นานนักเขาก็เดินออกมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล
"เดี๋ยวเซียร์ทำเองค่ะพี่เดย์"
ลูเซียร์ประท้วงขึ้นเมื่อเขายกขาของเธอไปวางบนหน้าตักตัวเอง สายตาคมเข้มที่ตวัดมาทำให้เธอไม่กล้าขัดขืน ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากันเมื่อแอลกอฮอล์จากสำลีเริ่มสัมผัสลงแผลสด
"ซะ...เซียร์แสบ" เธอพูดพร้อมชักขากลับ แต่เขากลับจับยึดเอาไว้ไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น เธอจิกโซฟาแน่นเพื่อระบายความรู้สึกต่างๆ ที่เล่นงานในยามอังเดรทำแผลให้
"อย่าดิ้น"
"พี่เดย์ก็ทำเบาๆ สิคะ"
"ฉันเบามือสุดแล้ว จะเอาเบาแค่ไหนอีก"
"พี่เดย์...อื้อ!" คราวนี้เธอจิกแขนเขา ราวกับกำลังโดนแกล้งทางอ้อมเพราะเมื่อกี้เขากดสำลีที่มีแอลกอฮอล์ลงแผลเธอเน้นๆ เธอไม่ใช่แค่จิกเท่านั้นแต่ยังตีแขนเขาเต็มแรงของตัวเองอีกด้วย
"นี่เธอกล้าตีฉันเหรอ"
"พี่เดย์แกล้งเซียร์ก่อน"
"ตรงไหนที่บอกว่าฉันแกล้งเธอ"
"เมื่อกี้พี่เดย์กดเน้นๆ ลงมาที่แผลของเซียร์ แบบนี้เรียกว่าแกล้งกันชัดๆ"
"ฉันไม่ตัดเท้าเธอทิ้งก็บุญเท่าไรแล้ว"
อังเดรจ้องลูเซียร์ด้วยความหงุดหงิด จากนั้นหันกลับมาทำแผลให้เธอต่อ หญิงสาวลอบมองใบหน้าหล่อเหลาเป็นระยะ หัวใจดวงเล็กค่อยๆ พองฟูไปกับการกระทำของเขาอย่างห้ามไม่ได้
"เสร็จแล้ว ทีนี้ก็กลับไปนอนได้แล้ว"
"พี่เดย์อุ้มเซียร์ไปส่งที่ห้องนอนหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้คืบอย่าเอาศอก"
"เซียร์เดินไม่ไหว นะๆ"
หญิงสาวทำตาปริบๆ ออดอ้อนคู่หมั้นหนุ่ม อังเดรลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเอือมระอาอีกครั้ง ยอมอุ้มลูเซียร์ไปส่งที่ห้องนอน การกระทำนี้เรียกรอยยิ้มหวานจากคนตัวเล็กได้ไม่ยาก
หมับ
"อะไรของเธออีก" เขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงรำคาญเมื่อโดนลูเซียร์คว้ามือเอาไว้
"พี่เดย์จูบและบอกฝันดีเซียร์ก่อนนอนหน่อยได้ไหมคะ"
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น"
"เซียร์อยากให้พี่เดย์จูบและบอกฝันดี"
ลูเซียร์มองอังเดรด้วยความคาดหวัง มือยังคงจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย มาเฟียหนุ่มนั่งลงขอบเตียง ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปหาคู่หมั้นสาว
"อยากให้จูบตรงไหน"
"หน้าผากค่ะ"
มาเฟียหนุ่มประทับริมฝีปากลงมาจูบคนตัวเล็กอย่างดูดดื่ม โดยที่เขาไม่ได้จูบตรงจุดที่ลูเซียร์เอ่ยขอ อังเดรบดคลึงจูบลงมาอย่างร้อนแรง กลิ่นหอมประจำตัวของหญิงสาวพานปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกายเขาให้ตื่นขึ้น
บริเวณกลางกายเริ่มปวดหนึบจนรู้สึกทรมาน อยากจะนำสิ่งนั้นออกมาปลดปล่อยให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียตอนนี้
"อืมม~" เสียงในลำคอดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ มือเล็กของลูเซียร์ที่เลื่อนขึ้นมาวางทาบบนแผงอกกำยำถูกอังเดรจับข้อมือแล้วกดลงเตียงนอน
รสจูบของเขาพลอยทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว
หลังจากถอนจูบออก สายตาคมเข้มเคลื่อนมามองใบหน้าสวยหวานของคนใต้ร่าง เขาหลุดโฟกัสมามองริมฝีปากสีระเรื่อที่ลูเซียร์กำลังกัดเบาๆ
"ยั่วกำลังยั่วฉันอยู่เหรอ"
"คะ?"
"รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันกำลังมีอารมณ์"
"มะ...ไม่รู้ค่ะ"
"เธอเป็นคนทำให้ฉันมีอารมณ์"
"...." ลูเซียร์มองหน้าอังเดรนิ่งๆ เธอไม่เห็นว่าตัวเองจะทำอะไรให้เขาเกิดอารมณ์เลย แค่ขอให้เขาจูบหน้าผากแล้วบอกฝันดีแต่เขาดันมาจูบเธอซะอย่างนั้น
"เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ"
"ระ...รับผิดชอบยังไงคะ"
"แบบคืนนั้นไง"
"แต่เซียร์ยังเจ็บตรงนั้นอยู่"
"เธอมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ?" เขาพูดพร้อมเข้ามาคร่อมร่างของลูเซียร์ มือเลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อ สายตาจ้องมองคนใต้ร่างราวกับสัตว์ร้ายหิวโหย
"รอให้ตรงนั้นเซียร์ก่อนได้ไหมคะ"
"ฉันเปิดหนังรักของเราในคืนนั้นเพื่อเตือนสติเธอดีไหมนะสาวน้อย" รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากหยักได้รูป ลูเซียร์เมื่อได้ยินอังเดรพูดเรื่องคลิปนั้นก็ถอดสีหน้าทันที
เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ
"บอกแล้วไง ว่าเมื่อไหร่ที่เธอทำตัวไม่น่ารัก คลิปนั้นจะไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ได้ดู"