9 | รับผิดชอบ

1801 คำ
@โกดังเก็บสินค้า ตุ้บ! ผัวะ! ผัวะ! อังเดรยืนมองภาพชายสี่คนที่กำลังโดนลูกน้องตัวเองรุมกระทืบด้วยสายตาเย็นชา เขายกบุหรี่ขึ้นมาดูดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาอย่างใจเย็น มุมปากหยักได้รูปปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ ด้วยความพอใจ คนพวกนั้นคิดผิดที่กล้าลอบวางเพลิงโกดังเก็บสินค้าของเขา เขามองภาพตรงหน้าสองนาน สภาพแต่ละคนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นใครเพราะเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด เขาส่งสัญญาณบางอย่างให้ลูกน้อง ไม่นานนักชายฉกรรจ์ก็ถือถังน้ำผสมเกลือไปสาดใส่ชายทั้งสี่คน บาดแผลเมื่อเจอกับน้ำเกลือมักไม่เป็นมิตรต่อกัน เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเรียกรอยยิ้มจากมาเฟียหนุ่มได้ดีไม่น้อย "ใครจ้างพวกมึงมา" เนิ่นนานกว่าอังเดรจะยอมปริปากเอ่ยถามชายกลุ่มนั้น "ปะ...ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ" หนึ่งในสี่คนเอ่ยพูดพลางประนมมือขึ้นขอชีวิตจากอังเดร เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว "กูถามว่าใครจ้างพวกมึงมา" น้ำเสียงอังเดรเริ่มเย็นลงทำเอาคนฟังพานเสียวสันหลังวาบตามไปด้วย "ถ้าพวกเราบอก คุณจะปล่อยพวกเราไปใช่ไหมครับ" "อยู่ที่ว่าคำตอบของพวกมึงจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน" "พวกเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้าง ส่วนมากพวกเรารับงานผ่านการโทรเท่านั้น จะไม่เปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่ายรู้แม้แต่ตัวตนคนจ้างพวกเราก็ไม่รู้" "...." "แต่พวกเรามีเบอร์ที่ทางนั้นติดต่อมา" ชายคนนั้นนำโทรศัพท์มาวางลงต่อหน้าอังเดร มาเฟียหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้ไทจินำเบอร์นี้ไปตรวจเช็กว่าโทรมาจากที่ไหน "กูจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมึงไม่ได้โกหก" "พวกเราไม่กล้าเอาชีวิตมาล้อเล่นกับความตายหรอก" "หึ ก็ได้ กูจะไม่ฆ่าพวกมึง" อังเดรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่แววตาจุดประกายความร้ายกาจออกมา คำพูดนั้นของมาเฟียหนุ่มสร้างความดีใจให้แก่ชายทั้งสี่คนไม่น้อย แต่หารู้ไม่ว่าคนตรงหน้าไม่เคยปล่อยให้คนทำผิดหรือศัตรูหลุดรอดไปได้สักคนเดียว จุดจบของแต่ละคน อังเดรไม่เคยมีใครได้รับโอกาสให้หายใจต่อบนโลกใบนี้... "จะ...จริงนะ คุณจะปล่อยพวกเราไปจริงใช่ไหม" "แต่มีข้อแม้" "ข้อแม้อะไร" อีกคนถามขึ้น รอยยิ้มแสยะของอังเดรเริ่มทำให้ชายทั้งสี่คนหวาดระแวงเพราะเดาอะไรไม่ได้จากผู้ชายคนนี้เลย "เป็นหนูทดลองให้สินค้าของกู" เมื่ออังเดรพูดจบ ชายทั้งสี่คนก็ถูกลูกน้องอังเดรจับกดตัวนอนคว่ำลงกับพื้น สินค้าที่มาเฟียหนุ่มพูดถึงก่อนหน้านี้ได้ถูกนำออกมา "มึงคิดจะทำอะไรพวกกู!" "หึ" อังเดรกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมส่งเสียงในลำคอเบาๆ พลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องทำการฉีดสารบางอย่างให้ชายกลุ่มนั้น "มึงฉีดอะไรให้พวกกู!" "กูมีปืนให้พวกมึงคนละกระบอกวางอยู่ตรงนั้น ถ้าใครเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย นั่นหมายความว่า...คนนั้นรอด" "มึงมันบ้า!" "ขอให้สนุกกับเกมเอาตัวรอดนี้นะ" อังเดรพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้พร้อมกับลูกน้อง เหลือเพียงชายสี่คนและปืนที่มาเฟียหนุ่มจัดเตรียมไว้ให้ ไม่นานนักเสียงปืนก็ดังสนั่นท่ามกลางเสียงร้องโอดครวญของชายเหล่านั้น สารที่ฉีดให้คนกลุ่มนั้นเป็นสารที่ทำให้เกิดภาพหลอน ต่อให้อีกสามคนถูกปลิดชีพแล้วเหลือหนึ่งคนก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะสารนั้นจะคอยสร้างภาพหลอนจนทำให้เจ้าตัวหวาดกลัวแล้วปลิดชีพตัวเองในที่สุด เขาไม่ได้คิดจะปล่อยให้สี่คนรอดไปตั้งแต่แรก... รถหรูของมาเฟียหนุ่มพุ่งทะยานออกจากโกดังเก็บสินค้ามุ่งสู่ถนนใหญ่ นัยน์ตาสีดำทอดมองวิวนอกกระจกรถที่มีสายฝนเทลงมาจากฟากฟ้า พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างรอให้ถึงที่พัก ไม่นานรถหรูราคาหลายล้านก็แล่นมาถึงเพนท์เฮาส์ส่วนตัว มาเฟียหนุ่มเดินลงจากรถหลังจากไทจิลงมาเปิดประตูรถให้ เขามองนาฬิกาข้อมือพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว พอมาถึงที่พักฝนก็เทกระหน่ำลงมาหนักกว่าก่อนหน้านี้ อังเดรก้าวขาออกมาจากลิฟต์หลังจากประตูลิฟต์เปิดออก นิ้วเรียวยาวเอื้อมไปกดรหัสประตูแล้วเปิดเข้ามา สายตาคมเข้มกวาดมองไปรอบห้องที่มืดสลัวก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟ เขาชะงักเมื่อเดินมาแล้วเห็นลูเซียร์ยืนยิ้มให้ตัวเองหลังเคาน์เตอร์ครัว สายตาปรายมองเศษแก้วและรอยเลือดบนพื้นจากนั้นดึงสายตาไปมองเจ้าของรอยยิ้ม "ออกมานี่" "เอ่อ..." "จะให้ฉันลากออกมาหรือจะเดินออกมาเอง" ลูเซียร์จำใจเดินกะเผลกขาออกมาจากตรงนั้นอย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้เธอได้ทำแก้วน้ำหลุดมือเนื่องจากตกใจเสียงฟ้าร้อง เพราะความไม่ระวังบวกกับความมืดทำให้เธอถอยมาเหยียบเศษแก้ว ไม่ทันได้ทำอะไรไฟก็สว่างวาบทำให้รู้ทันทีว่าอังเดรกลับมาแล้ว "ไปทำอีท่าไหนให้เหยียบแก้ว" "เซียร์ออกมาน้ำดื่มแต่ว่าดันทำแก้วหลุดมือ แล้วตอนนั้นเซียร์ก็ไม่ได้เปิดไฟเลยไม่เห็นเศษแก้ว แล้วก็เผลอถอยหลังไปเหยียบ" "สมควร คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็หัดเปิดไฟด้วย" หญิงสาวก้มหน้างุดเมื่อโดนดุ อังเดรถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย จากนั้นอุ้มร่างบางของลูเซียร์ในท่าเจ้าสาวไปวางลงโซฟา "พี่เดย์จะทำอะไรคะ" "นั่งอยู่เฉยๆ" ลูเซียร์มองตามอังเดรที่เดินหายไป ไม่นานนักเขาก็เดินออกมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล "เดี๋ยวเซียร์ทำเองค่ะพี่เดย์" ลูเซียร์ประท้วงขึ้นเมื่อเขายกขาของเธอไปวางบนหน้าตักตัวเอง สายตาคมเข้มที่ตวัดมาทำให้เธอไม่กล้าขัดขืน ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากันเมื่อแอลกอฮอล์จากสำลีเริ่มสัมผัสลงแผลสด "ซะ...เซียร์แสบ" เธอพูดพร้อมชักขากลับ แต่เขากลับจับยึดเอาไว้ไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น เธอจิกโซฟาแน่นเพื่อระบายความรู้สึกต่างๆ ที่เล่นงานในยามอังเดรทำแผลให้ "อย่าดิ้น" "พี่เดย์ก็ทำเบาๆ สิคะ" "ฉันเบามือสุดแล้ว จะเอาเบาแค่ไหนอีก" "พี่เดย์...อื้อ!" คราวนี้เธอจิกแขนเขา ราวกับกำลังโดนแกล้งทางอ้อมเพราะเมื่อกี้เขากดสำลีที่มีแอลกอฮอล์ลงแผลเธอเน้นๆ เธอไม่ใช่แค่จิกเท่านั้นแต่ยังตีแขนเขาเต็มแรงของตัวเองอีกด้วย "นี่เธอกล้าตีฉันเหรอ" "พี่เดย์แกล้งเซียร์ก่อน" "ตรงไหนที่บอกว่าฉันแกล้งเธอ" "เมื่อกี้พี่เดย์กดเน้นๆ ลงมาที่แผลของเซียร์ แบบนี้เรียกว่าแกล้งกันชัดๆ" "ฉันไม่ตัดเท้าเธอทิ้งก็บุญเท่าไรแล้ว" อังเดรจ้องลูเซียร์ด้วยความหงุดหงิด จากนั้นหันกลับมาทำแผลให้เธอต่อ หญิงสาวลอบมองใบหน้าหล่อเหลาเป็นระยะ หัวใจดวงเล็กค่อยๆ พองฟูไปกับการกระทำของเขาอย่างห้ามไม่ได้ "เสร็จแล้ว ทีนี้ก็กลับไปนอนได้แล้ว" "พี่เดย์อุ้มเซียร์ไปส่งที่ห้องนอนหน่อยได้ไหมคะ" "ได้คืบอย่าเอาศอก" "เซียร์เดินไม่ไหว นะๆ" หญิงสาวทำตาปริบๆ ออดอ้อนคู่หมั้นหนุ่ม อังเดรลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเอือมระอาอีกครั้ง ยอมอุ้มลูเซียร์ไปส่งที่ห้องนอน การกระทำนี้เรียกรอยยิ้มหวานจากคนตัวเล็กได้ไม่ยาก หมับ "อะไรของเธออีก" เขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงรำคาญเมื่อโดนลูเซียร์คว้ามือเอาไว้ "พี่เดย์จูบและบอกฝันดีเซียร์ก่อนนอนหน่อยได้ไหมคะ" "ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น" "เซียร์อยากให้พี่เดย์จูบและบอกฝันดี" ลูเซียร์มองอังเดรด้วยความคาดหวัง มือยังคงจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย มาเฟียหนุ่มนั่งลงขอบเตียง ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปหาคู่หมั้นสาว "อยากให้จูบตรงไหน" "หน้าผากค่ะ" มาเฟียหนุ่มประทับริมฝีปากลงมาจูบคนตัวเล็กอย่างดูดดื่ม โดยที่เขาไม่ได้จูบตรงจุดที่ลูเซียร์เอ่ยขอ อังเดรบดคลึงจูบลงมาอย่างร้อนแรง กลิ่นหอมประจำตัวของหญิงสาวพานปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกายเขาให้ตื่นขึ้น บริเวณกลางกายเริ่มปวดหนึบจนรู้สึกทรมาน อยากจะนำสิ่งนั้นออกมาปลดปล่อยให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียตอนนี้ "อืมม~" เสียงในลำคอดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ มือเล็กของลูเซียร์ที่เลื่อนขึ้นมาวางทาบบนแผงอกกำยำถูกอังเดรจับข้อมือแล้วกดลงเตียงนอน รสจูบของเขาพลอยทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว หลังจากถอนจูบออก สายตาคมเข้มเคลื่อนมามองใบหน้าสวยหวานของคนใต้ร่าง เขาหลุดโฟกัสมามองริมฝีปากสีระเรื่อที่ลูเซียร์กำลังกัดเบาๆ "ยั่วกำลังยั่วฉันอยู่เหรอ" "คะ?" "รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันกำลังมีอารมณ์" "มะ...ไม่รู้ค่ะ" "เธอเป็นคนทำให้ฉันมีอารมณ์" "...." ลูเซียร์มองหน้าอังเดรนิ่งๆ เธอไม่เห็นว่าตัวเองจะทำอะไรให้เขาเกิดอารมณ์เลย แค่ขอให้เขาจูบหน้าผากแล้วบอกฝันดีแต่เขาดันมาจูบเธอซะอย่างนั้น "เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ" "ระ...รับผิดชอบยังไงคะ" "แบบคืนนั้นไง" "แต่เซียร์ยังเจ็บตรงนั้นอยู่" "เธอมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ?" เขาพูดพร้อมเข้ามาคร่อมร่างของลูเซียร์ มือเลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อ สายตาจ้องมองคนใต้ร่างราวกับสัตว์ร้ายหิวโหย "รอให้ตรงนั้นเซียร์ก่อนได้ไหมคะ" "ฉันเปิดหนังรักของเราในคืนนั้นเพื่อเตือนสติเธอดีไหมนะสาวน้อย" รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากหยักได้รูป ลูเซียร์เมื่อได้ยินอังเดรพูดเรื่องคลิปนั้นก็ถอดสีหน้าทันที เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ "บอกแล้วไง ว่าเมื่อไหร่ที่เธอทำตัวไม่น่ารัก คลิปนั้นจะไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ได้ดู"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม