บทที่ 9
ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินกวงกับซิงอีเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จนความอึดอัดระหว่างพวกเขาค่อย ๆ จางหายไป แม้ว่าในบางครั้งชายหนุ่มจะกังวลเรื่องความรู้สึกของภรรยาตน แต่ทุกครั้งที่มองลูกสาวตัวน้อย หัวใจของเฉินกวงก็เต็มไปด้วยความสุข จนเขาเริ่มลืมเรื่องเก่า ๆ ที่เคยคาใจไปจนเกือบจะหมดถ้าไม่มีอะไรมาสะกิด
“วันนี้คุณจะไปไหนเหรอเห็นแต่งตัวให้หงหงตั้งแต่เช้าแล้ว” ซิงอีที่ปกติจะตัวติดกับเฉินกวงตลอด กลับทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะไปเดินเล่นแถว ๆ นี้เท่านั้น เดี๋ยวตอนเที่ยงจะมากินข้าวด้วยนะคะ” เธอพูดราวกับไม่มีอะไรในใจและเดินออกไปข้างนอก แต่เฉินกวงที่สังเกตหญิงสาวมาตลอดเห็นถึงความผิดปกติในทันที ภรรยาของเขาหลบตา ซิงอีมักจะทำแบบนี้เวลาที่โกหกเขา
เฉินกวงรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยชอบมาพากล อีกฝ่ายไม่ชวนเขาไปเหมือนทุกครั้งด้วยซ้ำ
ความสงสัยในใจเขายังคงไม่หายไป ชายหนุ่มเดินตามออกไปมองซิงอีที่ออกจากบ้านไปพร้อมกับอาอิง มือซ้ายที่ไว้ใจได้ของเขา แต่ทันทีที่ซิงอีขึ้นรถ เฉินกวงก็สังเกตเห็นหานตงเดินมาที่หน้าคฤหาสน์ก่อนจะขึ้นรถไปพร้อมกับพวกเขา
เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ทันทีที่เห็นภาพนั้นหัวใจของเขาก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เฉินกวงมองพวกเขาจากกระจกห้องนอนพร้อมกับความคิดและความรู้สึกที่หนักอึ้ง เขาไม่รู้ว่าทำไมซิงอีถึงทำอย่างนี้ทั้ง ๆ ที่ช่วงนี้ชีวิตครอบครัวของพวกเราก็ดีขึ้นแล้วด้วยซ้ำ
และถึงแม้ว่าเฉินกวงจะไม่อยากคิดไปในทางไม่ดี แต่ความสงสัยที่ถูกกดทับมาเนิ่นนานก็เริ่มชัดเจนขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง
“ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอยังคิดถึงหานตงอยู่อีกเหรอ” เฉินกวงถามตัวเอง คำถามนี้ยังคงก้องอยู่ในหัว แม้เขาจะพยายามปัดมันออกไปก็ตาม
ชายหนุ่มไม่เป็นอันทำงาน เวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่เขากลับรู้สึกว่ามันนานเอามาก ๆ
เมื่อซิงอีกลับมาถึงบ้านพร้อมกับหงหง เธอเดินเข้ามาด้วยท่าทีปกติทั้งยังหัวเราะเล่นกับลูกอย่างมีความสุข แต่กลับพบเฉินกวงที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก โดยมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนักส่งมาให้ ทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าของซิงอีจางไปด้วยความสงสัย
“กลับมาแล้วเหรอ” เฉินกวงถามเสียงเรียบก่อนจะหันหน้าไปหาหงหงแล้วอุ้มเด็กน้อยมาส่งให้พี่เลี้ยง อู๋ไฉ่หงได้พยายามต่อต้านแต่ก็ทำไม่ได้
“ไม่ ปะป๊า จะอยู่กับแม่” เฉินกวงหันมาหาลูกสาว
“ขอพ่อคุยกับแม่เขาเดี๋ยวเดียวนะครับเด็กดี” หงหงมองไปยังคนเป็นพ่อและแม่ด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก
อู๋ไฉ่หงย้อนคิดกลับไปถึงเรื่องเมื่อเช้าที่หานตงติดรถออกไปข้างนอกด้วย เธอมั่นใจเมื่อดูจากสีหน้าของเฉินกวง อีกฝ่ายต้องเห็นแน่ ๆ แม่นะแม่บอกแล้วว่าไม่เอาก็ใจดีไม่เข้าท่า
ซิงอีที่ถูกเอาลูกไปก็ชะงักเล็กน้อย
“มีอะไรรึเปล่าคะ” เธอรู้สึกถึงความตึงเครียดที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของสามี น้อยครั้งมากที่เฉินกวงจะเป็นอย่างนี้ แล้วเป็นทีไรขนาดเธอไม่ได้เป็นคนต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายก็ยังกลัว แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายกลับแสดงท่าทางแบบนี้กับเธอ แม้จะกลัวแต่ซิงอีก็พยายามเก็บอาการเอาไว้
“ไปไหนมา” เฉินกวงถาม
“ไปทำธุระเล็กน้อยกับอาอิงค่ะ พอออกไปแล้วนึกได้พอดีว่าต้องทำ” ซิงอีตอบพลางพยายามหลบสายตาเฉินกวงที่เริ่มจ้องเธอ
“ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ”
“กับอาอิง... หรือหานตง” เฉินกวงถาม น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชากว่าทุกครั้ง
ซิงอีตกใจเล็กน้อย
“หานตงเขาขอติดรถออกไป”
เฉินกวงยืดตัวขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ
“ไปด้วยกันจริง ๆ สินะ” เสียงของชายหนุ่มดูสั่นน้อย ๆ
“ฉันไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร หานตงก็ลูกน้องของคุณเหมือนกัน” ซิงอีตอบเสียงเบา เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีของเฉินกวงที่เหมือนกำลังคิดมากเกินไป
“เธอคงรู้ว่าเพราะอะไรหานตงถึงได้ต่างจากคนอื่น” เฉินกวงถามเสียงเข้ม แม้ว่าเขาจะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ควรคิดแบบนี้ แต่ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใจกลับยิ่งเพิ่มขึ้นทุกทีในทุกวันที่ใช้ชีวิตกับซิงอี
ซิงอีมองหน้าสามี เธอไม่ได้มองหานตงอย่างนั้นนานแล้ว แต่เฉินกวงก็ไม่เคยเชื่อ ตอนที่เธอเรียกเขาว่าที่รักก่อนหน้านี้ เขาก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องเรียกถ้าไม่ได้รักจริง ๆ คนอย่างเธอมันคงผิดเสมอสินะ
เฉินกวงมองหน้าซิงอีเงียบ ๆ ใจเขายังคงสับสน
“แล้วทำไมถึงไม่ให้ฉันไปด้วย” ประเด็นสำคัญที่สุดถูกถามออกไป เขาไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงต้องโกหกแล้วแอบออกไปอย่างนั้น
“ฉันแค่ไม่อยากรบกวนคุณต้องทำงาน” ซิงอีอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและคิดว่าเฉินกวงจะเข้าใจแต่ก็ไม่
“หรือแค่ไม่อยากให้มีใครไปขัดเธอมากกว่าหรือเปล่า ก่อนหน้านี้เธอตามฉันไปทุกที่ซิงอี” คำถามที่หลุดออกมาจากปากของเฉินกวงทำให้ซิงอีชะงักไป เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะพูดแบบนี้
ซิงอีถอนหายใจลึก ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเฉินกวง
“ฉันเลือกคุณแล้ว คนที่อยู่ในใจของฉันเป็นคุณตั้งนานแล้ว แต่คุณก็ยังอยากให้ฉันไปรักกับคนที่เขาเคยทิ้งฉันไป ไม่เชื่อก็ไม่เป็นอะไรค่ะ”
เฉินกวงมองหน้าซิงอีด้วยความสับสน เขารู้สึกผิดกับคำที่พูดออกไปแล้วก็เจ็บปวดกับแววตาของซิงอีที่มองมา
ตลอดมาแม้เขาจะไม่อยากให้ความคิดเหล่านั้นเข้ามารบกวน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันยังคงค้างอยู่ในใจเขาตลอด ไม่เคยหายไปไหน และใช่ เขาไม่เชื่อที่ซิงอีบอกเลย เขาไม่นึกว่าเธอที่ทุ่มเทความรักให้กับใครสักคนจะหันกลับมามองเขา