บทที่3

1038 คำ
บทที่ 3 อู๋ไฉ่หงคิดดีแล้ว เธอคงจะต้องทำตัวเป็นกาวใจให้กับพ่อแม่ของเธอแล้ว ไม่ว่าเนื้อเรื่องของนิยายเก่าจะเป็นอย่างไรเธอจะเขียนเป็นเรื่องใหม่ให้เอง เสียงหัวเราะของเด็กน้อยทำให้ซิงอีแปลกใจ “หงหง ซาลาเปาน้อยของแม่เป็นอะไรเนี่ย เมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่เลย ตอนนี้หัวเราะแล้ว” กู้ซิงอีคุยกับลูกสาวระหว่างที่เธออุ้มทารกน้อยเดินไปเดินมา พลางคิดว่าจะเอาใจสามีของเธออย่างไรดี เธอเองก็ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างนี้ไปตลอดหรอก และทั้ง ๆ ที่ไม่อยากโทษหานตง คนที่ทำให้เธอตัดสินใจโง่ ๆ มาขอแต่งงานกับคุณเฉิน จนได้กลายเป็นคุณนายเฉิน แต่สุดท้ายก็ต้องโทษที่อีกฝ่ายยังคงมองเธอด้วยสายตาไม่วางใจนั่นแหละ มันเลยทำให้สามีของเธอไม่วางใจเธอไปด้วย จะแปลกอะไรเฉินกวงมองเธอตลอดระหว่างที่เธอแอบรักหานตง ตอนนี้สามีของเธอก็อาจจะยังคิดว่าเธอยังรักบอดีการ์ดที่เป็นมือขวาของตัวเองเหมือนเดิมทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปนานแล้ว กู้ซิงอีถอนหายใจหนัก “มะ มา” แต่เสียงเด็กน้อยก็ทำให้เธอหัวเราะดัง “คงมีแค่หงหงสินะที่รักแม่” เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากทำให้กู้ซิงอีกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ทางด้านอู๋ไฉ่หงก็รู้แล้ว เธอพูดยาว ๆ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะบังคับคำไม่ได้ ถ้าตั้งใจจะพูดจริง ๆ และเปล่งเสียงออกมาสั้น ๆ ก็จะได้คำที่ผู้ใหญ่อาจจะเข้าใจ ที่สำคัญเรื่องคำพูดเรื่องการพอใจไม่พอใจหรือแม้แต่ขยับตัวถึงจะทำยาก แต่เรื่องหนึ่งที่ง่ายมาก ๆ ถ้ารู้สึกดี เสียงหัวเราะจะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ และถ้าไม่พอใจหรือเศร้าก็จะร้องโวยวายได้ทันที (เก่งมากอู๋ไฉ่หงเธอเป็นหงหงได้เก่งมาก) และระหว่างที่ทารกน้อยกำลังปลื้มกับสิ่งที่ตัวเองเรียนรู้เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนคนเป็นแม่อย่างซิงอีแปลกใจที่วันนี้ลูกสาวที่น่ารักของเธออารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างประหลาด และทั้ง ๆ ที่คิดว่าเข้าใจฟังก์ชันของร่างกายทารกได้ดีแล้วแต่ก็ยังสร้างปัญหาให้อยู่ดี แต่เป็นการสร้างปัญหาที่ทำให้พ่อกับแม่ของเธอหายมึนตึง “หงหงตัวร้อนเหรอ” หลังจากคุณเฉินมาเฟียใหญ่แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ออกไปจากบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบสรุปการประชุมเมื่อได้ข่าวจากคนที่บ้านว่าลูกสาวของเขาไม่สบาย ไฉ่หงอยากจะบ้าตายกับร่างกายเด็กน้อย เธอแค่คิดนั่นนี่มากไปหน่อยก็ทำให้ร่างกายของหงหงรับไม่ไหวจนไม่สบายซะแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องไม่ดี การไม่สบายของเธอทำให้กู้ซิงอีแม่ของเธอกระวนกระวายมาก และมันยังทำให้กำแพงที่พ่อของเธอก่อร่างสร้างเอาไว้ก่อนจะออกไปทำงานพังลงอีกด้วย (ไม่ต้องห่วงนะเรื่องแค่นี้ เดี๋ยวนักแสดงอันดับหนึ่งอย่างอู๋ไฉ่หงจัดการให้เอง) แม้ในใจจะคิดงั้นแต่เสียงที่ออกมากลับเหมือนกับเด็กครางงึมงำ “อา อู อา อา เอิก เอิก” “นี่ล่ะค่ะ เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้ แล้วก็ตัวร้อนขึ้นมา” ซิงอีบอกกับสามีอย่างเร็วซึ่งเฉินกวงก็เป็นห่วงมาก แต่เขาก็ห่วงภรรยาที่หน้าซีดด้วย “ผมให้หมอมาแล้ว ว่าแต่คุณกินข้าวหรือยังตั้งแต่ผมออกไป” คนเป็นสามีถาม “บู้ หม้ำ หม้ำ บู้” เฉินกวงมองหน้าภรรยา “จริงอย่างที่หงหงว่าหรือเปล่า คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม” ซิงอีพยักหน้ารับผิด “ก็วันนี้หงหงดูแปลก ๆ ฉันก็เลยป้อนนมแล้วอุ้มยัยหนูอยู่ตลอด” พอได้ยินคำนั้นมือแกร่งก็เอื้อมมาจับที่แขนของภรรยาตัวเอง “แข็งขนาดนี้ คงเกร็งอยู่เป็นชั่วโมง เมื่อเช้าคุณน่าจะบอกว่าลูกแปลก ๆ ให้เลือกงานกับกับคุณกับลูก ผมยังต้องบอกอีกเหรอว่าผมจะเลือกอะไร คุณไม่รู้จริง ๆ น่ะเหรอ” ซิงอีก้มหน้าหลบสายตาดุ ๆ ของสามีแต่อีกฝ่ายกลับเชยหน้าเธอขึ้น “เข้าใจไหมครับ” หญิงสาวพยักหน้า เธอรักอีกฝ่ายก็เพราะอย่างนี้ แพ้ต่อความดีและการเอาใจใส่ของอีกคน ชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกคนที่ตัวเองรักละเลยไม่สนใจ แม้กระทั่งเอาความเป็นความตายมาต่อรองก็ถูกเมินอย่างไม่ไยดี แต่กับเฉินกวง อีกฝ่ายดูแลเธอราวกับเจ้าหญิง แล้วจะไม่ให้เธอรักเขาได้อย่างไร “เดี๋ยวผมให้แม่บ้านทำอาหารที่คุณชอบมาให้นะ ส่วนหงหงผมอุ้มเอง คุณไปนั่งพักเถอะ” ซิงอีค้าน “ลูกตัวร้อนอยู่ฉันพักไม่ได้หรอกค่ะ” “ไม่ไว้ใจผมเหรอ” เฉินกวงถาม สีหน้าและแววตาบอกชัดถึงความน้อยใจ “ใครจะไม่ไว้ใจล่ะคะ ฉันก็แค่เป็นห่วงลูก แล้วก็เป็นห่วงคุณด้วย” และคำนั้นก็ทำให้มาเฟียหนุ่มยิ้มออกมาได้ “แล้วไม่คิดว่าผมจะคิดเหมือนกันบ้างเหรอ นั่งพักเถอะครับ ถึงจะพักแต่ก็ยังมองเห็นผมกับลูกตรงนี้นี่” สุดท้ายซิงอีก็ยอมและไม่นานหลังจากนั้นหมอก็มา “อารมณ์คงจะสวิงมากไปน่ะครับ จากที่ฟัง ถ้าอย่างไรก็อย่าให้หัวเราะจนเหนื่อยหรือร้องไห้มากไปนะครับร่างกายเด็กยังรับไม่ไหว วิธีอุ้มและพูดคุยด้วยอย่างที่คุณนายเฉินว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วครับ แต่วันนี้คุณหนูน้อย คงมีเรื่องตื่นเต้น อารมณ์ของพ่อแม่ก็สำคัญด้วยนะครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม