“มึงเป็นใคร มาเสือกอะไรด้วย!” ชายขี้เมาชี้นิ้วพูดกับคาร์มินอย่างไม่พอใจ
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ…” เธอหันไปบอกเขาที่ยืนอยู่ข้างหลัง ภาวนาขอให้ทั้งสองไม่วางมวยกัน แม้คาร์มินไม่ตอบโต้อีกฝ่าย แต่ขึ้นว่าว่า ‘น้ำนิ่งไหลลึก’ ย่อมอันตรายอยู่แล้ว
แม้ลึกๆ ไม่พอใจกับการกระทำของชายขี้เมาคนนี้ แต่ก็ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น
“อยากมีเรื่องก็มาดิวะ! กลัวที่ไหน!” ชายขี้เมายังคงพูดจาหาเรื่องคาร์มิน ผิดกับอีกฝ่ายที่เอาแต่ยืนมองนิ่งๆ อย่างไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
มิราตัดสินใจดึงแขนคาร์มินออกไปจากตรงนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้
หมับ!
ผัวะ!
คาร์มินปล่อยหมัดใส่ชายขี้เมาเต็มแรงในจังหวะที่อีกฝ่ายกระชากไหล่ให้หันกลับไป
“!!!!” เธอเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพชายขี้เมานอนแน่นิ่งไม่ได้สติบนพื้น หลังจากถูกหมัดหนักๆ ของคาร์มินตะบันเข้าใส่หน้า
เขาจะไม่ตายใช่ไหม…
คาร์มินดึงแขนมิราที่อยู่ในอาการช็อกให้เดินตามออกไปจากบริเวณนี้ ด้วยความสติสตังยังไม่กลับมาทำงาน จึงไม่ได้ขัดขืนการกระทำของอีกฝ่าย
“ขึ้นรถ”
“คะ?” เธอขานรับพร้อมกับทำหน้างุนงง ก่อนจะหันไปมองรถหรูราคาแพงสีดำของเขาที่จอดอยู่
“ขึ้นรถ”
“ขะ…ขึ้นทำไมคะ หนูไม่ขึ้นหรอก..ว้ายย!!” กำลังหมุนตัวเพื่อเดินหนี ทว่ากลับต้องร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกคาร์มินกระชากแขนแล้วดึงเข้าไปหาจนตัวเธอแนบชิดกับเขา
“ปะ…ปล่อยหนูนะ”
“เมื่อกี้ฉันเพิ่งช่วยเธอจากผู้ชายคนนั้น ไม่คิดจะตอบแทนคนที่เพิ่งช่วยตัวเองหน่อยเหรอ”
ตอบแทน? เขาอยากให้เธอตอบแทนแบบไหนกัน คนเจ้าเล่ห์อย่างคาร์มินคงไม่ได้แค่ต้องการแค่คำขอบคุณหรอก สิ่งที่เขาต้องการคงมากกว่านั้น
“คุณจะให้หนูตอบแทนยังไง”
“ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตอบแทนฉันยังไง”
“ถ้างั้น… ขอบคุณที่ช่วยหนูไว้นะคะ” เขาพูดเองว่าขึ้นอยู่กับเธอ เพราะฉะนั้นแค่บอกว่าขอบคุณก็เพียงพอแล้ว
คิ้วเข้มขมวดชนกันเมื่อคนตรงหน้าแค่เอื้อนเอ่ยคำขอบคุณ ไม่รู้ว่าเธอไร้เดียงสาหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่
“แค่ขอบคุณ?”
“กะ…ก็คุณพูดเองนิคะว่าแล้วแต่หนู”
ใช่ เขาพูดมันเอง แต่ไม่คิดว่ามิราจะตอบแทนด้วยคำว่าขอบคุณ
“รับคำขอบคุณของหนูไปเถอะนะคะ หนูไม่รู้ว่าจะให้อะไรเป็นการตอบแทนคุณ”
“ไม่รู้จริงเหรอ?”
“ถ้าคุณอยากให้หนูตอบแทนด้วยเรื่องเซ็กซ์ หนูว่าตัวเองพูดชัดเจนแล้วนะคะ”
คาร์มินกระตุกยิ้มมุมปาก เด็กคนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ ดูไปดูมามิราก็น่าสนใจดีเหมือนกัน เธอตัดทุกช่องทางเพื่อไม่ให้เขาเข้าไปมีบทบาทในชีวิต แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยเจอมาโดยสิ้นเชิง
“ขึ้นรถ”
“หนูไม่ขึ้น แล้วก็จะไม่ไปกับคุณด้วย”
“ฉันดูน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“คุณไม่ได้น่ากลัว แต่คุณแค่… ไม่น่าไว้ใจ” ประโยคหลังเธอพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับเสสายตาไปทางอื่น
ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะพูดตรงไปตรงมาขนาดนี้ คำพูดมิราไม่ได้ปรุงแต่ง มันออกมาจากความคิดจริงๆ ของเธอทั้งหมด ตอนแรกคิดว่าเธอคงเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยเจอมา แต่ทว่ากลับไม่ใช่ มิราเด็ดขาดในคำพูดตัวเอง จบคือจบ
“คุณปล่อยหนูเถอะค่ะ ดึกมากแล้วหนูจะรีบกลับบ้าน”
“เดี๋ยวไปส่ง ขึ้นรถ”
“หนูไม่รบกวนหรอกค่ะ”
“จะขึ้นรถเอง หรือจะให้ฉันอุ้ม?”
“คุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไง หนูบอกว่า..ว้าย!!” พูดไม่ทันจบประโยค เท้าทั้งสองของเธอก็ลอยหวือจากพื้นเพราะถูกคาร์มินช้อนตัวขึ้น
“ปะ…ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะคะ! ถ้าไม่ปล่อย หนูจะตะโกนดังๆ ให้คน…ว้าย!” เธอผวากอดคอเขาไว้โดยอัตโนมัติ หลังจากถูกแกล้งทำเหมือนจะปล่อยลงพื้น
“ไหนบอกให้ปล่อย แล้วกอดฉันไว้ทำไม”
“ก็หนูกลัวตกนี่คะ…” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ปล่อยแบบนี้อย่าปล่อยเธอเลยจะดีกว่า…
“ฉันจะไปส่งที่บ้าน ไม่ได้จะทำอะไร”
เธอมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“หนูกลับเองได้”
“ระแวงฉันมากรึไง”
“ก็นิดนึงค่ะ”
คาร์มินไม่สนใจคำตอบของมิรา วางคนตัวเล็กลงบนเบาะของรถเฟอร์รารี่หรูคันโปรด จังหวะโน้มลงไปใกล้เพื่อคาดเข็มขัดนิรภัยให้ กลิ่นน้ำหอมเจือด้วยแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปเตะเข้าจมูก พลอยทำให้หัวใจดวงน้อยไหววูบทันใด
“…” เธอนั่งตัวแข็งทื่อให้คาร์มินคาดเข็มขัดนิรภัยให้ หน้าเขาอยู่ใกล้เธอเกินไปแล้ว ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ จากเขา
เจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าอัพเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ พาตัวเองเข้ามานั่งหลังพวงมาลัยแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดลำตัว
“หนูไว้ใจคุณได้ใช่ไหมคะ”
“อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าฉันไม่น่าไว้วางใจ?”
“ทุกอย่างที่เป็นคุณ” บอกตามตรงไม่เคยกลัวและระแวงใครหนักเท่าผู้ชายคนนี้มาก่อน เขาเปรียบเสมือนกองไฟที่หลอกล่อฝูงแมลงเม่าให้บินเข้าไปหา สุดท้ายแมลงเม่าเหล่านั้นก็ได้รับอันตราย
คาร์มินไม่พูดอะไรต่อจากนั้น สายตาทอดมองถนนในยามค่ำคืนตรงหน้า บรรยากาศภายในรถสร้างความอึดอัดให้มิราไม่น้อย หญิงสาวเบือนใบหน้าไปมองวิวนอกกระจกข้างๆ
•••
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกหลังจากรถหรูจอดสนิท หันไปเปิดประตูเพื่อลง แต่อีกคนดันไม่ยอมปลดล็อกประตูให้
“เปิดประตูรถให้หนูหน่อยค่ะ”
“อุตส่าห์มาส่งถึงบ้าน แค่ขอบคุณเองเหรอ?”
“คุณอยากมาส่งหนูเอง ไม่ได้ขอสักหน่อย”
มุมปากหยักกระตุกเบาๆ เด็กคนนี้ชอบท้าทายอำนาจมืดของเขาอยู่เรื่อย ไม่เคยเจอใครฝีปากดีเท่ามิรามาก่อน
“คะ…คุณจะทำอะไร” จู่ๆ เขาก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ ทำให้เธอขยับออกห่างจนตัวแนบชิดประตูฝั่งตัวเอง สองมือดันไหล่คาร์มินออก
ริมฝีปากเขาเฉียดแก้มเธอไปเพียงนิดเดียว กลิ่นหอมเจือด้วยแอลกอฮอล์จากเขาที่เตะจมูกมาทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง
ไม่แปลกใจทำไมผู้หญิงหลายคนถึงหลงเสน่ห์ผู้ชายคนนี้ ขนาดเธอยังเสียอาการ เพราะการกระทำของเขาเลย…
“คุณคาร์มินถอยออกไป…” ออกแรงดันไหล่แกร่งจนถูกเขารวบมือทั้งสองเอาไว้ หรือว่าเธอกำลังถูกกองไฟกองนี้เล่นงานเข้าเสียแล้ว…
“คุณจะทำอะไรหนู!”
“กลัวฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ตัวสั่นเชียว” น้ำเสียงแหบพร่าเจือด้วยเสน่ห์กระซิบลงข้างใบหูมิรา
“กะ…ก็คุณชอบทำให้หนูกลัว…”
คาร์มินเลื่อนใบหน้ามามองมิรา แววตาเธอตอนนี้อัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัว นิ้วเรียวยาวสัมผัสลำคอระหงเบาๆ ใช้นิ้วชี้กรีดผ่านร่องอกมายังหน้าท้องแบนราบจนคนตัวเล็กนั่งตัวเกร็งและหายใจไม่ทั่วท้องในเวลาเดียวกัน
งับ!
“โอ้ย!” เขาร้องอุทานออกมา จู่ๆ ยัยเด็กมิราก็งับเข้าหูราวกับหมาบ้าตัวหนึ่ง
“เป็นหมารึไงวะ!”
“หนูจะเป็นหมาบ้ามากกว่านี้อีก ถ้าคุณไม่ยอมเปิดประตูรถให้หนูลง!” ลึกๆ กลัวเขาเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง เกรงว่าค่ำคืนนี้เธออาจถูกเขาเอาเปรียบอีกได้
เธอสู้คนนะ!
“ถ้าไม่เปิด รถแพงๆ ของคุณพังยับแน่!” มิราแยกเขี้ยวขู่คาร์มินจนลืมไปเลยว่าเขาเป็นลูกชายมาเฟีย
สีหน้าเจ้าของรถหรูแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจเป็นอย่างมา ตัดสินใจเปิดประตูให้เธอลงไป ไม่ได้กลัวรถพังยับ แต่หมดอารมณ์จะทำอะไรต่อเพราะการกระทำก่อนหน้านี้ของมิรา
“เด็กบ้า…” เขานั่งมองมิราที่รีบวิ่งแจ้นเข้าบ้านพลางจับหูข้างที่โดนเด็กนั่นกัดด้วยความหัวเสีย
รอบหน้าเจอกันเขาเอาคืนแน่!