ตอนที่ 4 ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
เสื้อผ้ากองโตก็ถูกกุ้ยหลินนั้นนำมาที่ซักล้าง ด้านหลังเรือนของนาง สาวใช้ตักน้ำขึ้นมาใส่อ่างให้ฮูหยินน้อย จากนั้นกุ้ยหลินใช้เชือกรั้งแขนเสื้อของตนเองให้เห็นข้อมือเรียวเล็กใต้ร่มผ้าที่ดูว่าจะแตกต่างจากผิวด้านนอก จนสาวใช้ตกใจอ้าปากค้าง
“ฮูหยินน้อยผิวของท่านช่างแตกต่างกันนัก” สาวใช้ผู้นี้นางนามว่า อาจิง เห็นผิวขาวกับผิวคล้ำนางต้องรีบมาดูเพื่อให้แน่ใจ ฮูหยินน้อยช่างงดงามยิ่งนัก หากผิวขาวจัดเหมือนข้างใน เกรงว่านายน้อยคงจะหลงใหลแน่นอน
แม้ว่าครอบครัวของจ้าวกุ้ยหลินจะไม่ร่ำรวย บ้านหลังเล็ก ๆ สภาพไม่เก่าและไม่ใหม่ แต่ด้านในจวนของนางนั้นมีเครื่องประดับราคาแพงเหมือนกัน แต่ว่าบิดา และมารดามักจะสอนสั่ง สมบัติคือของนอกกาย จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่ได้
ดังนั้นกุ้ยหลินจึงเป็นคนที่ประหยัด ขยันเก็บเงิน เสื้อผ้าของนางนั้นไม่ได้สวยบาดตาหรือเป็นผ้าไหมราคาแพงแต่อย่างใด นางใช้ชุดธรรมดาเรียบง่ายเท่านั้น นางทำตามคำสอนของท่านแม่ก็ว่าได้ ในเมื่อนางเป็นลูกสาวของคนที่คิดว่าแปลกประหลาด และทำให้นางเห็นว่า ท่านแม่นั้นกว้างไกลและมีความรู้มากมายนัก
ถึงแม้จะเขียนอักษรที่ใช้ปัจจุบันไม่ได้ แต่ทว่าท่านแม่กับเขียนอักษรของคนผมทองได้นี่ช่างน่าแปลกใจ และยังสอนนางพูด อ่านและเขียน กุ้ยหลินซึมซับเข้าหัว แต่นางก็ไม่ได้คล่องแคล่วเหมือนท่านแม่ นางพออ่านออกเขียนได้ และพูดคุยได้เล็กน้อย
“อย่าปากโป้งเล่า มิเช่นนั้นข้าจะตีเจ้า” กุ้ยหลินข่มขู่อีกฝ่าย อาจิงรับใช้เพียงแค่สองวันก็รู้สึกถูกชะตาฮูหยินน้อยยิ่งนัก นางไม่เหมือนใคร ทำให้ฮูหยินใหญ่หน้าดำหน้าแดง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว เมื่อเจอลูกสะใภ้ที่ไม่เหมือนใคร
การซักผ้าของทั้งสองคนก็ดูว่าเป็นไปด้วยดี จากนั้น เมื่อซักเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กุ้ยหลินจึงบ่นว่าหิวข้าวจนปวดท้องไปหมดแล้ว อาจิงสาวใช้ท้องของนางก็ร้องประท้วงขึ้นเหมือนกันกับนายสาว นางจึงได้อาสาไปหาอาหารมาให้
เมื่อเห็นว่าอาจิงว่าง่ายเพียงใด แววตาราวกับปีศาจได้ผุดขึ้นมาบนใบหน้างดงามของกุ้ยหลิน ด้านหลังที่ซักล้างนั้นเป็นป่ารกทึบ ในอาณาเขตของจวนตระกูลกวน มีป่าไผ่อีกด้วย และแน่นอนในป่าจะต้องมีของที่นางต้องการ
นั่นหากไม่ใช่หมามุ่ย นางก็ต้องการเปลือกไผ่
ลูกสะใภ้ตัวดี เดินดุ่ม ๆ เข้าไปในป่า ไม่ถึงสิบก้าวก็ต้องเท้าเอวหัวเราะร่าออกมาอย่างดีใจ เมื่อนางได้พบกับสิ่งที่ตนเองต้องการ โชคเข้าข้างเสียจริง “หาง่ายจริงเชียว ไม่ต้องเหนื่อยออกแรงสักนิด” กุ้ยหลินก่อนจะหยิบเจ้าต้นที่มีขนนั้น นางก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนเองหยิบและดึงลูกที่ยาวเพียงปลายนิ้วก้อยของนางเท่านั้น
นางเก็บมาเยอะแยะเสียมากมาย ครั้นจะหาที่ใส่ก็ไม่มี ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าของนาง เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ นางก็วิ่งกลับมายังเสื้อผ้าที่ตากเอาไว้ หลังจากนั้นนางก็ใช้เจ้าสมุนไพรพิษนี้ทาที่เสื้อผ้า รวมถึงเอี๊ยมและกางเกงในของแม่สามีอีกด้วย
“ฮ่า ๆ ท่านแม่พรุ่งนี้ใส่ให้สบายนะเจ้าคะ” รอยยิ้มราวกับปีศาจร้ายได้หายไป พร้อมกับทำสีหน้าราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะไปนางทิ้งหลักฐานเอาไว้ในป่า แต่ผ้าเช็ดหน้านั่นไม่อาจจะทิ้งได้ เพราะมันเป็นของเพียงชิ้นเดียวที่ท่านแม่เป็นคนปักให้นาง
ทว่าเหมือนกรรมทันตา กุ้ยหลินผู้ที่คิดจะเล่นงานแม่สามี ก็คันมือขึ้นมา เป็นผื่นทีเดียว มันคันยุบยิบ จนตัวเองจะต้องวิ่งกลับเข้าไปในเรือนและอาบน้ำเพื่อให้อาการนั้นหายไปเสีย อาจิงสาวใช้นึกสงสัยนัก จู่ ๆ ฮูหยินน้อยเหตุใดจึงได้อาบน้ำในเวลานี้กัน
“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ให้ข้าไปช่วยหรือไม่” อาจิงเอ่ยถาม เกรงว่านางจะทำอะไรไม่สะดวก เมื่อคืนนางก็อาบน้ำเอง อาจิงทำได้เพียงแค่ช่วยสางผมให้เท่านั้น
คนที่อาบน้ำอยู่ข้างในยามนี้กำลังเกาเนื้อตัวของตนเอง ที่หลงผิดคิดทำร้ายผู้อื่น จนตัวเองก็ต้องมาเป็นเช่นนี้ คนตัวเล็กรูปร่างผอมเพรียว อาบน้ำเสร็จ ก็รีบสวมชุดคลุมตัวใหม่ โยนชุดเก่าของตนเองและผ้าเช็ดหน้านั่นใส่เอาไว้ในตะกร้าสาน
เมื่อเท้าเล็ก ๆ ออกมาจากหลังฉากกั้นแล้ว อาจิง วางจากซาลาเปาและขนมอีกสองอย่างลงที่โต๊ะไม้เนื้อหยาบ หวังจะเข้าไปช่วยเจ้านายของตนเอง
กุ้ยหลินไม่กล้าเงยหน้า เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป อาจิงเดินสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ ช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ก้มหน้า มิยอมพูดจาโต้ตอบกลับมา
คนที่ถูกสาวใช้จ้องหน้า นางก้มหน้ามองปลายเท้าของตนเอง พลางถอนหายใจ นางซวยเข้าให้แล้วจริง ๆ นี่สินะที่ท่านแม่สอนว่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว เมื่อคนที่ทำผิดคิดแกล้งแม่สามีเงยหน้าขึ้นมา
อาจิงถึงกลับผงะถอยหลัง จากนั้นนางยกนิ้วขึ้นมาชี้ที่ใบหน้าของนายสาว “ฮูหยินน้อย ฮ่า ๆ ๆ ๆ” อาจิงกุมท้องหัวเราะจนท้องขดท้องแข็งน้ำตาเล็ดทีเดียว เมื่อเห็นใบหน้าที่งดงามจู่ ๆ ริมฝีปากของฮูหยินน้อยก็บวมเจ่อ ราวกับถูกผึ้งต่อยมา
จะไม่ให้นางหัวเราะได้ยังไง ไม่ใช่แค่ริมฝีปาก ใบหน้าของฮูหยินน้อยก็มีผื่นขึ้นอีกด้วย เพียงแค่นางเผลอเท่านั้น ฮูหยินน้อยคงจะเล่นอะไรเป็นแน่ ถึงได้แกล้งใช้นางให้ไปที่อื่น
“ฮูหยินน้อยถูกผึ้งต่อยหรือเจ้าคะ เหตุใดจึง ...ฮ่า ๆ ๆ ปากบวมเจ่อเล่า” อาจิงยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัด นางถูกใจนักหนา ฮูหยินน้อยเก่งกาจไม่เบา และยังป่วนจวนนี้แทบจะลุกเป็นไฟ
“อาจิง เจ้าหยุดหัวเราะข้าได้แล้ว” แต่แปลกนักกุ้ยหลินนั้นเชื่อใจว่าอาจิงไม่ยอมขายนางเป็นแน่ นั่นเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ อาจิงกับนางอายุก็ไม่ได้ห่างกันมาก แต่ดูแล้วว่านิสัยของอาจิงนั้นก็ชอบเล่นซุกซนเหมือนกับนาง
“โถ ฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ ปากบวมเจ่อเช่นนี้จะกินซาลาเปาได้หรือเจ้าคะ ข้าเพิ่งอุ่นมาให้ยังร้อน ๆ อยู่เลยเจ้าคะ” อาจิงพูดไปก็สังเกตได้ว่าฮูหยินน้อยนั่งไม่ค่อยนิ่ง นั่นเพราะขยุกขยิกตัวไปมาราวกับว่าตนเองคันเนื้อตัว
“กินได้น่า” คนงามเอ่ยพูดก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ นางมีกระจกขัดเงาอยู่หนึ่งบาน ขนาดไม่ได้ใหญ่มากแค่ฝ่ามือของนางเอง นี่เป็นกระจกที่แตกต่างจากคนทั่วไปใช้ เป็นกระจกเงาที่ว่ามองเห็นใบหน้านั้นชัดเจนกว่า
เมื่อเห็นใบหน้าตนเองนางก็ร้องอุทานเสียงหลงขึ้นมาว่า “หน้าคนหรือผีเนี่ย! เหตุใดจึงน่าเกลียดขนาดนี้เล่า”
“ฮูหยินเจ้าคะ หากนายน้อยมาพบท่านในสภาพแบบนี้ ข้าว่า” อาจิงจะบอกว่า นายท่านจะต้องวิ่งหนีแน่นอน
“ก็ดีนะสิ ข้ายิ่งไม่อยากจะเจอหน้าเจ้านายของเจ้า” เป็นความคิดที่ดีนักหากนางใบหน้าอัปลักษณ์ ใครกันที่จะทนร่วมอยู่ด้วย นี่จะทำให้นางเป็นอิสระ แต่ว่าก่อนจะขอหย่า นางก็ขอเล่นสนุกเสียหน่อย แก้เผ็ดคนพวกนี้ทำให้นางมีความสุขยิ่งนัก
ฮูหยินใหญ่กำชับบ่าวไพร่ต่อไปนี้ไม่ว่าฮูหยินที่มาจากตระกูลจ้าวนั้นทำอะไร คอยจับตาดูนางเอาไว้ เพราะแม่สามีเช่นนางรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างในไม่ช้านี้จะต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่
สาวใช้ร่างอวบอ้วนนั้นเดินไปดูเสื้อผ้าที่ฮูหยินใหญ่กำชับให้ฮูหยินน้อยหรือลูกสะใภ้นำไปซัก ยามนี้นั้นแห้งแล้ว นางจึงได้เก็บมาพับและนำเอามาใส่หีบ ทว่าสาวใช้ผู้นี้ก็รู้สึกคันยุบยิบยิ่งตามแขน นางทั้งร้อนและแสบผิวไปหมด ยังไม่ทันได้เอ่ยกล่าวนางก็รีบวิ่งไปยังเรือนคนใช้
ฮูหยินใหญ่เข้ามาในห้องตอนนี้คือยามเย็นที่นางจะต้องอาบน้ำและเข้านอน นางชอบเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ ๆ มันทำให้มีกลิ่นหอมของไอแดด
ฮูหยินใหญ่กำชับให้สาวใช้อีกสองคนหยิบเอี๊ยมและกางเกงชั้นในที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ ๆ นำมาให้นาง และยังมีชุดนอนสีขาว เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่ผ้านั้นนุ่มลื่นยิ่งนัก
เมื่อสาวใช้สองคนหยิบชุดออกมาหวังให้เจ้านาย แต่ละคนก็เกิดอาการไม่ต่างกัน แต่ก็ต้องทนเพราะฮูหยินใหญ่ไม่ชอบให้ใครพูดคุยขัดจังหวะในการอาบน้ำของนาง เพียงแค่ครู่เดียวนางก็อาบน้ำเสร็จ จากนั้นก็เช็ดตัวและแต่งตัว
พอฮูหยินใส่ไปได้ไม่ถึงอึดใจเดียว จู่ ๆ ก็รู้สึกคันที่กายสาวของตนเอง นางก็นั่งเกาอยู่เช่นนั้น สามีเดินเข้ามาหลังจากสาวใช้ดูแลเจ้านายกลับเรือนแล้ว
“นี่ทำไมถึงนั่งเกา...ได้น่าเกลียดเช่นนี้เล่า” สามีเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นภรรยานั่งเกาที่เป้ากางเกง ตรงนั้นมันคือกายสาวของภรรยา อีกทั้งบางครั้งก็เกาที่เนื้อตัวราวกับว่านางมีอาการคันอย่างรุนแรง
“ท่านพี่ ข้าคันไปหมดแล้ว” สิ้นเสียงหวานของภรรยาคู่ชีวิต นางมิได้เขินอายสามีแต่อย่างใด จึงได้เปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมด แต่ทว่าความจริงปรากฏ กายสาวของฮูหยินนั้นบวมแดงน่าเกลียดยิ่งนัก อีกทั้งยังมีเส้นไหมรกรุงรัง เมื่อสามีได้เห็นจึงได้หลุดปากพูดจาต่อว่าให้นางอับอาย
“ไอหยา เหตุใดตรงนั้นของเจ้าจึงได้บวมน่าเกลียด อุจาดตานัก ไป ๆ ไปให้พ้นหน้าข้า”
“ท่านพี่!” ภรรยาร้องอุทานเสียดัง เมื่อเห็นว่ากายสาวของนางเป็นเช่นไร
“อุจาดตาข้ายิ่งนัก ไสหัวเจ้าออกไปให้พ้นหน้าข้า”