ฤทธิ์เมารสเสน่หา ตอนที่ 1

1887 คำ
ที่สวนผลไม้ดวงหทัยดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะตอนค่ำของวันนี้จะมีงานเฉลิมฉลองให้กับคนงานได้พักผ่อนหย่อนใจและคลายเครียด งานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพราะคนงานมีจำนวนมาก มีพวกพ่อค้าแม่ค้ามาเช่าที่ขายของกันอย่างหนาตา ทางเจ้าภาพถึงกับจ้างวงดนตรีมาแสดงสดให้ดูกันฟรีๆ คนงานต่างครึกครื้นกันใหญ่ พวกผู้ชายต่างก็ช่วยกันจัดสถานที่ให้เป็นสัดส่วนโดยการควบคุมของณกร ฝ่ายผู้หญิงก็ดูแลการตกแต่งและอาหารการกิน งานนี้ทางบ้านใหญ่ต่างมาร่วมสนุกกันพร้อมหน้ายกเว้นเพียงภูมิศิลาเท่านั้นที่ยังไม่กลับจากกรุงเทพฯ แต่เขาก็ส่งของขวัญมาให้เพื่อมอบแก่คนงานดีเด่นที่ทำงานด้วยความขยันและซื่อสัตย์ มธุรสก็ได้มาร่วมกับเขาด้วย หญิงสาวกำลังสาละวนกับการช่วยทำอาหารเลี้ยงคนงานโดยมีดวงหทัยคอยนั่งเป็นเพื่อนชวนพูดคุยเรื่อยเปื่อย “น้ำหวาน หมอเพชรไปไหนแล้วลูก” ดวงหทัยหันมาถามเด็กในอุปการะของตน และหมอเพชรที่ถามถึงก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นลูกชายของแม่ครัวที่บ้านของเธอนั่นเอง เขาเพิ่งเรียนจบแพทย์มาและย้ายมาประจำที่โรงพยาบาลในอำเภอซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน เมื่อย้ายกลับมาอยู่บ้านหมอหนุ่มจึงไปรับไปส่งมารดาเป็นประจำเนื่องจากมารดาของเขาที่เป็นแม่ครัวไปเช้ากลับเย็นไม่ได้อยู่กินที่บ้านใหญ่อย่างคนงานอื่นๆ                                                                                        “พี่หมอไปเตรียมกล่องยาค่ะคุณป้า...เอาไว้ใช้เผื่อฉุกเฉินคืนนี้ค่ะ หากสาวๆ เต้นกันจนเป็นลมเป็นแล้งจะได้ช่วยได้ทันการ” มธุรสพูดแกมขำแต่เมื่อหันมาเห็นผู้อุปการะที่เมื่อกี้ยังคุยเจื้อยแจ้วแต่ตอนนี้สีหน้าซีดเผือดก็ตกใจรีบวางงานในมือลงทันที “คุณป้า...คุณป้าเป็นอะไรไปคะ ทำไมหน้าซีดอย่างนี้” บรรดาสาวๆ ที่กำลังปรุงอาหารต่างก็ตกใจเมื่อได้ยินเสียงมธุรสต่างกรูกันเข้ามาห้อมล้อมนายหญิงของตน “คุณหทัย...คุณหทัยเป็นอะไรไปคะเมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนี่” “ไม่รู้เหมือนกันอยู่ๆ ก็หน้ามืดเวียนหัวพิกล ฉันไม่เป็นอะไรมาก ทุกคนไปทำงานเถอะเดี๋ยวจะเสร็จไม่ทัน หมดสนุกกันพอดี ฉันจะให้น้ำหวานพาไปพัก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ดวงหทัยไม่อยากให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงสำหรับคนงานจึงขอปลีกตัวโดยมีน้ำหวานคอยพยุง “น้ำหวานพาป้าไปพักนะ แล้วเรียกเพชรมาดูหน่อยก็แล้วกัน” “ค่ะ คุณป้า” หลังจากพาดวงหทัยไปยังเพิงพักชั่วคราว มธุรสก็รีบเร่งไปตามนภดลหรือหมอเพชรทันที ซึ่งชายหนุ่มกำลังสาละวนทำแผลให้กับคนงานชายคนหนึ่งที่เผลอเดินไปเหยียบตะปูเข้า “พี่หมอคะ พี่หมอ...ทางนี้ค่ะ เร็วๆ” หญิงสาววิ่งเข้ามากระชากแขนชายหนุ่มทันที “เดี๋ยว...รอพี่เก็บของก่อนน้ำหวาน รีบร้อนไปไหนครับ” หมอหนุ่มที่เสร็จจากการทำแผลพอดี และกำลังเก็บอุปกรณ์ก็เร่งมือทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวอาการรีบร้อน “เร็วสิคะ พี่หมอ” “ครับๆ เสร็จแล้วครับไปกันเถอะ” ทั้งสองจูงมือวิ่งไปพร้อมๆ กันโดยมีคนงานที่บาดเจ็บนั่งยิ้มอยู่ด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของทั้งคู่ “อ้าว...ทำแผลเสร็จแล้วเหรอไม้ หมอเพชรไปไหนแล้วล่ะ” เสียงชายหนุ่มที่คุ้นหูเป็นอย่างดีเรียกให้คนงานหนุ่มหันไปตามเสียง “เสร็จแล้วครับนาย ฉีดยากันบาดทะยักแล้วด้วยครับ ส่วนหมอเมื่อกี้เห็นคุณน้ำหวานลากไปไหนก็ไม่รู้ครับ” “น้ำหวานเหรอ...” “ครับนาย...คุณน้ำหวานมาตามเมื่อกี้ครับ คุณหมอก็รีบไปเลย ดูๆ สองคนนี่ชักยังไงอยู่นะครับเห็นติดกันแจเมื่อกี้ก็จับมือกันกะหนุงกะหนิงจนผมงี้ยังอดยิ้มไม่ได้เลยครับ” ไม้ยังคงเล่าไปยิ้มไปโดยไม่ได้มองหน้านายหนุ่มของตนว่าตอนนี้มันเหมือนองค์ทศกัณฐ์ลงร่างอย่างไรอย่างนั้น แล้วจู่ๆ นายของเขาก็เดินจ้ำอ้าวออกไป “อ้าวนาย...ไม่รอพบหมอก่อนเหรอครับ เอ...รีบไปไหนเนี่ย” ไม้เกาหัวด้วยความมึนงง ณกรบอกให้เขานั่งรอก่อนหลังจากฉีดยาทำแผลเสร็จจะให้คนมารับเขากลับที่พักเนื่องจากตะปูแทงเข้าไปลึกจนสุดตัวคืนนี้เขาคงต้องพักผ่อนให้มากจึงไม่สามารถไปร่วมงานได้ และถ้าอาการไม่ดีขึ้นเขาอาจจะต้องไปโรงพยาบาลอีกที แล้วทั้งนายทั้งหมอหายไปแบบนี้เมื่อไหร่เขาจะได้พักล่ะเนี่ย พลบค่ำงานรื่นเริงเริ่มขึ้นแล้ว คนงานทั้งหญิงชายได้รับอนุญาตให้สนุกสนานกันได้อย่างสุดเหวี่ยงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะได้มีการขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายมาดูแลความเรียบร้อยและคอยระวังภัยให้ บ้างก็ร้องเล่นเต้นรำ บ้างก็รับประทานอาหารดื่มกินกันอย่างเฮฮา แต่อีกมุมหนึ่งบริเวณโต๊ะไม้สักตัวใหญ่ชายหนุ่มเจ้าของไร่ที่นั่งรวมกับกลุ่มคนงานกำลังยกแล้วน้ำเมากระดกเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าเหมือนว่ามันเป็นเพียงน้ำเปล่า สายตาคมดุจับจ้องไปยังสองหนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่เลือกตักอาหารรับประทานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข “แหม...นายครับ น่าอิจฉาคุณหมอนะ กลับมาไม่ทันไรมีหวานใจเสียแล้ว แถมคุณน้ำหวานก็สวยน่ารักเสียด้วย” “นั่นสิครับ...เหมาะสมกันมาก คุณน้ำหวานจะได้เจอสิ่งดีๆ กับเขาเสียที ชีวิตเธอน่าสงสารมามากแล้ว” บรรดาคนงานต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปโดยหารู้ไม่ว่ามัจจุราชผู้บัญชาชีวิตมธุรสนั่งร่วมอยู่กับพวกเขา และคำพูดเหล่านั้นบวกกับเหตุการณ์หลายอย่างช่างขัดหูหัดตาเขาเสียเหลือเกิน ณกรนั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จากับใคร มือก็คอยยกเหล้ากรอกเข้าปากไม่ยั้ง เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นมธุรสสนิทสนมกับหมอหนุ่ม ทีกับเขาเวลาเจอกลับทำหน้าเหมือนเห็นผีก้มหน้างุด ไม่ก็คอยแต่จะหลบหน้าจะให้มายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนตอนนี้ไม่เคยมี แถมทำตัวสนิทสนมกันเกินขอบเขตจนคนงานในไร่พูดกันหนาหู ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนจะละอายใจตัวเองบ้างไหมที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขาถึงจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เรียกได้ว่าถึงเนื้อถึงตัวเกินเลยไปมาก ยังจะตอนที่เขาไปนอนค้างที่บ้านก็ยังแอบดอดเข้าห้องหญิงสาวไปนอนกกกอดอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นควงผู้ชายอีกคนเปิดตัวในงานเลี้ยงหน้าตาเฉย วันนี้ทั้งวันหญิงสาวคอยแต่จะหลบหน้าเขาไม่รู้กลัวนภดลจะรู้หรืออย่างไรกัน ผู้หญิงที่ดูซื่อๆ อย่างมธุรสแท้จริงแล้วก็สาวไวไฟจับผู้ชายไม่เลือกเหมือนผู้หญิงสำส่อนทั่วไป แถมยังมีกลยุทธ์แบบสาวน้อยไร้เดียงสาไว้คอยอ่อยเหยื่อ จนเขาเองก็เผลอหลงเชื่อมาแล้ว น่าเจ็บใจตัวเองนัก อีกฝากสองหนุ่มสาวที่ถูกจับตามองหาได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาไม่ ต่างก็เลือกหาอาหารรับประทานและนำไปให้ดวงหทัยที่ไม่สบายในห้องพัก “น้ำหวานเรากลับบ้านกันเถอะ...ป้ากินยาแล้วรู้สึกง่วงมาก นอนที่นี่ก็คงไม่หลับหนวกหูเหลือเกิน” หลังจากรับประทานอาหารและยาเข้าไปดวงหทัยก็มีอาการง่วงเหงาหาวนอนแต่ก็นั่งทนจนดึกเพราะไม่อยากรบกวนใคร อีกอย่างเธออยากให้มธุรสได้เปิดหูเปิดตาบ้างได้มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องคอยพะวงห่วงเธอ ส่วนคนอื่นๆ ที่บ้านเธอห้ามไม่ให้บอกใครเพราะไม่อยากให้ใครต้องกังวลจนหมดสนุก “ค่ะ...แต่ให้บอกคุณณกรกับคุณลุงก่อนไหมคะเดี๋ยวจะเป็นห่วง” “อืม...น้ำหวานไปบอกคุณลุงหรือคุณตาคุณยายก็ได้นะว่าป้าง่วงขอกลับก่อน ส่วนณกรไม่ต้องหรอกจ้ะ เขาเหนื่อยกับงานมามากแล้วให้เขาสนุกไปเถอะ เดี๋ยวบอกแล้วจะไปส่งเราอีกวุ่นวายกันเปล่าๆเรากลับกับหมอเพชรนี่ล่ะ” ดวงหทัยยิ้มเหนื่อยๆ ให้กับสาวน้อย มธุรสยิ้มรับก่อนจะเดินออกไปพร้อมหมอนภดล หลังจากไปบอกกล่าวผู้ใหญ่เสร็จแล้วทั้งสองก็เตรียมตัวจะพาดวงหทัยกลับบ้าน มธุรสรู้สึกใจโหวงเหวงชอบกลความจริงแล้วเธอยังไม่อยากกลับหรอก ในเมื่อชายหนุ่มในดวงใจยังคงอยู่ที่นี่และเธอยังอยากคอยมองดูเขาห่างๆ แบบที่ทำมาตลอด อีกทั้งตั้งแต่ตอนเย็นมาแล้วที่เธอสังเกตเห็นว่าเขาดื่มเหล้าหนัก ใจนั้นรู้สึกเป็นห่วงอยากอยู่คอยดูแลแต่เธอจะปล่อยให้ดวงหทัยกลับไปคนเดียวก็ไม่ได้ สาวน้อยใบหน้าเศร้าหมองลงทันที “น้ำหวานเป็นอะไรไปครับ” นภดลที่เดินเคียงคู่เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าเศร้าจึงเอ่ยถามขึ้น               “เปล่าค่ะ...น้ำหวานแค่เหนื่อย” มธุรสพยายามฝืนยิ้มให้ดูไม่มีพิรุธ ชายหนุ่มเอามือขยี้ผมเธออย่างเอ็นดู สายตาที่ทอดมองนั้นกลับมีความหมายแฝงซึ่งหญิงสาวก็หลบตาคมนั้นทันทีเหมือนไม่ต้องการให้เขาอ่านใจเธอ “เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว...พี่จะจัดวิตามินบำรุงให้ก็แล้วกันตื่นเช้ามาจะได้ไม่เพลีย” ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วง ถึงแม้เขาจะรู้จักมธุรสเพียงไม่นานเพราะเพิ่งย้ายมาที่นี่ หลังจากไปรับไปส่งมารดาที่เป็นแม่ครัวให้ที่บ้านของเธอ เขาก็ได้รู้จักสาวน้อยนัยน์ตาเศร้าคนนี้ ความน่ารัก ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอ่อนหวานของเธอตรึงใจเขาตั้งแต่แรกเห็น ฐานะทางบ้านเขาใช่ถึงขนาดว่าต้องเป็นลูกจ้างคนอื่นแต่เป็นเพราะมารดาไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ จึงมาเป็นแม่ครัวให้ที่บ้านนี้อยู่หลายปีแล้ว ทำงานแบบไปเช้ากลับเย็นบวกกับฝีมือที่เคยเป็นถึงกุ๊กมือหนึ่งของโรงแรมทำให้ทางนั้นติดอกติดใจกักตัวไว้ไม่ยอมให้ลาออกเสียด้วย เขาจึงสนิทสนมกับครอบครัวเจ้านายของแม่พอสมควร แต่หลังจากไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ จึงได้ห่างๆ ไป มาพบกันอีกครั้งก็ตอนมาประจำที่นี่แหละ ยามว่างเขาจะเข้ามาช่วยงานมารดาเหมือนอย่างเคย ซึ่งได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี และความสนิทสนมกับหญิงสาวก็มีเพิ่มเรื่อยๆ จนระยะหลังเหมือนเธอจะไว้วางใจเขาดั่งคนในครอบครัวคนหนึ่งไปแล้ว นภดลเดินไปทางที่พักของดวงหทัยพร้อมกับหญิงสาว เขาแอบมองและส่งยิ้มให้หญิงสาวตลอดทางโดยไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาคมคู่หนึ่งมองมาด้วยอารมณ์เดือดสุดขีด  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม