5 ออกจากเมืองไม่ได้
เมื่อออกจากเกาะลอยกลางแม่น้ำ เสี่ยวชิงมุ่งหน้าไปยังเมืองปีศาจ เมื่อนางไปถึงก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ หายไปจากท้องฟ้า
ในวันนี้เมืองปีศาจดูไม่ค่อยคึกคักมากนัก
ตลาดกลางคืนวันนี้เงียบเหงามาก ไม่กี่วันก่อนร้านหมึกย่างที่ตรงทางแยกยังมีปีศาจต่อแถวซื้อกันยาวหลายร้อยตน แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเลย
เสี่ยวชิงคิดว่าสถานการณ์เวลานี้ค่อนข้างแปลก นางเดินไปรอบ ๆ ร้านค้าที่เปิดโล่งแต่ไม่มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ายืนประจำอยู่ โคมไฟสีแดงแกว่งไกวไปตามสายลมยามค่ำคืน หญิงสาวจึงกลับไปยังลานบ้านหลังเล็กๆ ที่ตนอาศัยอยู่กับพี่สาว
อย่างไรก็ตามลานบ้านของนางก็เงียบเหงาเช่นกัน โดยปกติพี่สาวเสี่ยวซู่มักจะออกมาพูดคุยเกี้ยวพารากับปีศาจตัวผู้ตนอื่นๆ บางครั้ง ปีศาจตัวผู้ถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งกันเลยก็มี
แต่เวลานี้กลับเงียบสงบมาก
เสี่ยวชิงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในหัวใจ นางผลักประตูและเดินเข้าไป
ความพินาศที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว เครื่องเรือนและสิ่งของต่างๆ ในห้องล้มระเนระนาด แตกกระจายบนพื้นเป็นชิ้นๆ เสื้อผ้าของพี่สาวและนางถูกโยนทิ้งกระจายเกลื่อน
"นี่มัน... เกิดอะไรขึ้น..." เสี่ยวชิงรู้สึกสับสนและเดินไปด้านในห้อง
แม้ว่าทุกอย่างจะถูกทุบทิ้งกระจัดกระจาย แต่ก็ไม่มีคราบเลือดบนพื้นและไม่มีกลิ่นคาวในอากาศอยู่ในห้องนี้ ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“พี่เสี่ยวซู่” เสี่ยวชิงเรียกเสียงเบามองไปรอบๆ มันยังคงเงียบไม่มีการตอบสนอง
ตึง! ตึง! ตึง!
มีเสียงของหนักบางอย่างชนกระแทกอยู่ที่ห้องด้านหลัง ดูเหมือนว่าเสียงนั้นดังมาจากห้องโถงบรรพชนที่ท่านพี่เสี่ยวซู่ใช้กราบไหว้บรรพบุรุษ
เสี่ยวชิงใช้ความกล้าแอบเดินไปตามทางมืดๆ นางกลั้นหายใจและยืนอยู่นอกโถงบรรพชน โดยเอาหูแนบกับกรอบประตู แต่นางก็ไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวใดๆ อีก
เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อสักครู่ข้าได้ยินผิดไป
ในขณะที่หญิงสาวกำลังสับสนนางก็ได้กลิ่นดอกกุ้ยอันคุ้นเคย ซึ่งเป็นกลิ่นประจำกายของพี่เสี่ยวซู่
เสี่ยวชิงรู้สึกยินดี นางผลักประตูไม้ที่ปิดไว้ครึ่งหนึ่งเข้าไปทันที “พี่เสี่ยวซู่!”
แสงสีขาวเย็นวาบพุ่งผ่านไปหน้านางไปอย่างรวดเร็ว
เคร้ง!
โชคดีที่เสี่ยวชิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว กระโดดหลบไปด้านข้าง ไม่เช่นนั้นมีดสั้นเล่มนั้นคงปาดคอนางเป็นแน่!
“พี่เสี่ยวซู่...นี่ข้าเอง เสี่ยวชิงอย่างไรเล่า”
เสี่ยวซู่ลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง นางปัดฝุ่นออกจากชายกระโปรง หยิบเก้าอี้เตี้ยที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วนั่งลง
"นั่ง" เสี่ยวซู่ชี้มือไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบอกให้เสี่ยวชิงนั่งลง
"พี่เสี่ยวซู่..." เสี่ยวชิงมองไปที่นางแล้วเห็นบนหัวไหล่ของผู้เป็นพี่สาวมีดาบปักอยู่ และมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นระยะ ด้านหลังของนางมีร่างของบุรุษราวสามสี่คนนอนคว่ำหน้าอยู่ "ท่านดึงดาบออกมาก่อนเถอะ"
เสี่ยวซู่ชำเลืองดาบที่อยู่บนหัวไหล่แล้วดึงออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน หญิงสาวร่ายคาถารักษาบาดแผลจนเลือดหยุดไหล แล้วหันไปมองเสี่ยวชิง "เจ้าหายไปไหนมา"
"นี่..." เสี่ยวชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "เรื่องของข้าพูดไปแล้วมันก็ค่อนข้างยาว ... ตอนนี้ข้าอยากรู้ว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
"ราชาปีศาจเหยาซุน ถูกขโมยสมบัติไป ดูเหมือนว่าสมบัติชิ้นนั้นจะสำคัญมาก ตอนนี้ทั้งเมืองตกอยู่ในความโกลาหล บรรดาทหารของราชาปีศาจถือโอกาสสร้างความวุ่นวายให้กับคนในเมือง เหล่าสตรีที่ยังไม่มีคู่ตกเป็นเป้าหมายของทหารเหลือเดนเหล่านั้น…" เสี่ยวซู่หันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง "โชคดีที่วันนี้เจ้ากลับมา ข้ายังรอเจ้าอยู่ที่นี่กลัวว่าหากเจ้ากลับมาแล้วจะไม่พบใคร"
"ทำให้พี่สาวต้องเป็นห่วง…ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก" เสี่ยวชิงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก ก่อนที่จะพบกับพี่สาวเสี่ยวซู่ นางเป็นเพียงปีศาจงูจรจัด ตั้งแต่วันแรกที่นางมีพี่สาว หญิงสาวก็รู้สึกว่าตนเองมีครอบครัว
"ที่ข้าไม่หนีไปก่อน ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ค่อยฉลาดนัก หากหนีไปคนเดียวก็ไม่แน่ว่าจะถูกจับ ข้ารอไปพร้อมกับเจ้าดีกว่า ไปด้วยกันสองคนยังพอที่จะพึ่งพากันได้"
เสี่ยวชิงสูดลมหายใจเข้าลึก "ในเมื่อพวกเราอยู่เมืองปีศาจไม่ปลอดภัย พวกเราก็ควรจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด"
เสี่ยวซู่ไม่คัดค้านข้อเสนอของเสี่ยวชิง และทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรในบ้านให้เก็บ ดังนั้นพวกนางจึงรีบเดินทางทันที
เสี่ยวชิงหยิบขนมไหว้พระจันทร์สองชิ้นบนแท่นบูชาขึ้นมาใส่กระเป๋าข้างเอวเพื่อเป็นเสบียง อาศัยแสงจันทร์สลัวเดินไปตามตรอกเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้คนเข้ามา แม้ว่าถนนจะอ้อมไปหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกอันปลอดภัยในสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งสองเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงทางเข้าของเมืองปีศาจ แต่ก็ช้าไปเพราะตอนนี้ประตูเมืองถูกล้อมโดยเหล่าทหารของราชาปีศาจ
"ดูเหมือนว่าเหยาซุนจะปิดเมืองเพื่อหาคนขโมยสมบัติ" เสี่ยวซู่หันมาปรึกษาน้องสาว
เสี่ยวชิงขมวดคิ้ว "แล้ว…พวกเราควรทำอย่างไรดี"
"ในเมื่อเมืองถูกปิด พวกเราแค่รออยู่ที่นี่และรอเหยาซุนจับโจรคนนั้นให้ได้เสียก่อนแล้วค่อยออกไป"
"โอ้" เสี่ยวชิงพยักหน้าแต่จู่ๆ นางก็ส่ายหน้า "ไม่ได้!...ข้าถูกร่ายมนตร์ ถ้าข้าไม่กลับไปตามที่ตกลงกันไว้ภายในสองวัน ข้าจะกลายเป็นน้ำแกงเนื้องู"
"ห๊า" เสี่ยวซู่อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ "ใครร่ายมนต์ใส่เจ้ากัน"
"เขาเป็นคนที่ทำให้ข้าหายไปสองวันนี่แหละ…เดี๋ยวข้าจะเล่าให้พี่ฟัง ตอนนี้ข้าต้องหาทางออกจากเมืองนี้ก่อน"
"ถ้าอย่างนั้น…เจ้าก็ลองคิดหาวิธีดู" เสี่ยวซู่ พูดพร้อมกับสร้างเกราะป้องกันโปร่งใสเพื่อห่อหุ้มนางและเสี่ยวชิง พวกนางทั้งคู่กลายร่างเป็นงูน้อยสีขาวตามเดิม แล้วค่อยๆ เลื้อยมาที่กำแพงเมือง
กำแพงเมืองปีศาจสูงมาก คะเนด้วยสายตาเกรงว่าต่อให้เป็นปีศาจลิงก็คงปีนข้ามไปได้ยาก เสี่ยวชิงเลื้อยวนรอบกำแพงเมือง แต่ก็ไม่พบทางออกอื่นอีก ดูเหมือนว่านางจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเสี่ยงดวงออกไปทางประตูที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา
เสี่ยวชิงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เกือบจะรุ่งสางแล้ว หลังรุ่งสางคนในเมืองจะต่อแถวรอออกไปนอกเมืองเป็นจำนวนมาก ในเวลานี้อาศัยแฝงตัวไปกับพวกเขา ไม่แน่ว่าอาจจะโชคดีออกจากเมืองไปได้
ช่วงรุ่งสางฝูงชนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอออกนอกเมือง เสี่ยวชิงเลื้อยอยู่บนพื้นเนื่องจากความวุ่นวายของฝูงชนนางเกือบถูกเหยียบหลายครั้ง แต่หญิงสาวก็เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ตามแถวของนางตอนนี้ระยะทางค่อยๆ ใกล้กับทางออกมากแล้ว
สามก้าว สองก้าว หนึ่งก้าว...
นางจะสามารถออกจากเมืองได้ในเวลาไม่นานนี้!
แกร๊ก!
เสี่ยวชิงตกใจเพียงแค่ยื่นศีรษะออกจากกำแพงเมือง เสียงแตกร้าวบางอย่างคล้ายกับกระจกก็ดังขึ้น
นางเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นตรงประตูเมืองมีกำแพงที่มองไม่เห็นขวางกั้นอยู่ เมื่อหญิงสาวเข้าไปใกล้กำแพงนี้ก็ดูเหมือนมันจะมีรอยร้าวขึ้นมา
เสี่ยวชิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ นางไม่มีความกล้าที่จะเดินผ่านกำแพงนี้ไปเพราะกลัวว่ามันจะแตกลงมา
เสียงแตกร้าวที่บริเวณประตูเมืองดึงดูดความสนใจของคนรอบข้าง
มีเสียงโครมครามดังขึ้นตามมาและประตูเมืองก็ถูกปิดทันที เสี่ยวชิงกลายเป็นจุดสนใจของฝูงชน หญิงสาวถูกพลังยกตัวให้ลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของชายร่างผอมสูงผมสีดำ
เขาถามด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว "เจ้าคือเป็นคนที่ขโมยของไปเช่นนั้นรึ"