บทที่9
ทุกคนรู้
วันต่อมาปริญญ์ขับรถบิ๊กไบค์มาจอดหน้าบ้านของปุ้มปุ้ยเด็กน้อยตื่นแต่เช้ารอให้อาหารปลาเพราะอาหารปลาถุงใหญ่ถูกแขวนอยู่ชั้นบนเธอหยิบไม่ถึงอีกอย่างแม่ของเธอกลัวว่าปุ้มปุ้ยจะมือไวให้อาหารมากเกินไปจนทำให้ปลาตาย
"เด็กวัดมาแล้วมานี่เร็วปลามันหิวดูสิอ้าปากหวอเลย"
ปริญญ์รีบเดินไปหาตามคำสั่งเขาหยิบอาหารปลาก่อนจะเปิดแล้วหยิบใส่มืออ้วนๆ ของปุ้มปุ้ยเด็กน้อยให้อาหารปลาพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะปลาตัวใหญ่แย่งกันกินอาหารปลาตัวเล็กเลยกินไม่ทันปริญญ์จึงโปรยอีกฝั่งให้ปลาตัวเล็กได้กิน
"ปลาตัวใหญ่ชื่อแม่เป้ยส่วนตัวเล็กนี่ชื่อปุ้มปุ้ยนะ"
"แล้วอีกตัวล่ะชื่ออะไร" คนมีความหวังแอบอมยิ้มจะชื่ออะไรได้ถ้าไม่ใช่ชื่อปริญญ์พ่อแม่ลูกน่ารักจะตาย
"แจ็คสันหวัง"
เข่าแทบทรุด! พูดมาได้ยังไงสิ้นคิดจริงๆ เขาไม่ได้เถียงเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาทำได้แค่กัดฟันยิ้มให้ปุ้มปุ้ยเท่านั้น
เป้ยเดินออกมาจากบ้านพอได้ยินเสียงลูกสาวหัวเราะชอบใจเธอเห็นปริญญ์มองมาพร้อมหยิบถุงกับข้าวหลายอย่างเดินมาหาเธอ
"ผมเอากับข้าวมาให้เมื่อคืนพี่คงทำงานดึกใช่ไหม"
"อืม งานไม่ดึกหรอกแต่อยู่กับลูกจนดึกสี่ทุ่มยังไม่ยอมเข้าบ้านเลย"
"คงตื่นเต้นกับปลาตัวใหญ่นั่นแหละ"
อาหารมื้อนี้มีตั้งห้าอย่างที่สำคัญมีต้มจืดของโปรดของปุ้มปุ้ยด้วยหลังจากทานข้าวเสร็จเป้ยก็ขอถามชื่อร้านกับข้าวจากปริญญ์เพราะว่าแต่ละเมนูถือว่ารสชาติดีเลยทีเดียว
"นายซื้อจากที่ไหนฉันจะได้ไปซื้อบ้างบางทีฉันตื่นสายกว่าจะทำกับข้าวเสร็จลูกคงหิวพอดี"
"ผมเอามาจากวัด-_-!"
-__-!
"แต่กินได้พวกนี้ผมแยกเอาไว้แล้วไม่มีใครแกะไปชิมแน่นอน"
"ขอบใจนะ" ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วตัวเองทานข้าวเสร็จก็รีบไปล้างถ้วยล้างจานก่อนจะหยิบงานมาทำที่ห้องนั่งเล่นส่วนปริญญ์กับปุ้มปุ้ยเล่นกันอยู่หน้าบ้านช่วยกันจัดตกแต่งอ่างปลาต่อ
"แม่คะแม่ขาปุ้มปุ้ยตั้งชื่อปลาว่าแม่เป้ยค่ะ ส่วนตัวนี้ชื่อปุ้มปุ้ยอีกตัวเป็นตัวพ่อชื่อว่าแจ็คสันหวัง"
เป้ยมองหน้าปริญญ์เขายิ้มให้ปุ้มปุ้ยตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าปุ้มปุ้ยเป็นลูกสาวของเขาถ้าเกิดเขารู้คงไม่ยอมให้ใครมาแทนที่เขาแน่นอน เป้ยรู้ดีว่าปริญญ์ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง
"หลังจากที่เป้ยกลับเข้ามาทำงานเงียบๆ ทั้งสองก็พากันเข้ามาเปิดการ์ตูนดูบนเตียงสำหรับนอนพักปริญญ์เป็นลูกไล่ของปุ้มปุ้ยเด็กน้อยสั่งอะไรก็ทำตามแค่บนปวดขาปริญญ์ก็รับหน้าที่หมอนวดทันทีเลย
"งานพี่เป็นยังไงบ้างยังทำที่เดิมอยู่ไหม"
"อืม ตอนนี้ฉันยังมีนักเขียนในทีมและก็ลองเขียนนิยายดูรับโปรโมตงานด้วย"
"เหนื่อยไหมพี่"
"ก็เหนื่อยแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้จะเลี้ยงลูกได้ยังไง"
"ถ้าปุ้มปุ้ยเป็นลูกผมก็ดีดิ ผมจะได้แบ่งเบาภาระของพี่บ้าง"
"ตั้งใจเรียนให้จบก่อนเถอะ"
"อะไรนะพี่"
"เปล่าไม่มีอะไร"
เป้ยหันกลับมาสนใจงานของตัวเองต่อส่วนปริญญ์ก็พาปุ้มปุ้ยไปท่องพิภพทั้งสองนอนหลับอยู่บนเตียงเล็กๆ เป้ยจึงรีบทำงานของตัวเองเสร็จแล้วก็ออกไปซื้อของมาทำมื้อกลางวันและมื้อเย็นให้ทั้งสอง วันนี้กระแตปิดร้านหนึ่งวันจึงมาช่วยเธอซื้อของเข้าบ้านและรอเล่นกับหลานสาวคนสวยแต่เมื่อเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ซื้อของเสร็จกระแตต้องตกใจเธอมองหน้าชายหนุ่มกับหลานสาวสลับกันไปมา ในใจเธอคิดว่าใช่ต้องใช่แน่ๆ
"เป้ยเข้าครัวกันเถอะฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" กระแตรีบเดินเข้าห้องครัวโดยลากเป้ยเข้ามาด้วย "แกตอบมาว่าเด็กนั่นเป็นอะไรกับปุ้มปุ้ยหลานฉัน?"
"แกอย่าเสียงดัง" เป้ยมองไปด้านนอกเห็นทั้งสองยังคงนั่งเล่นสมุดระบายสีจึงหันมามองหน้าเพื่อนด้วยสายตาอ้อนวอน
"บอกฉันมาเป้ย"
"อืม คืนที่ฉันตัดขาดกับแฟนเก่าฉันไปเมาที่ร้านเหล้าจนไปเจอกับปริญญ์แต่ฉันจำได้ว่าปริญญ์ป้องกันนะแก"
"ถุงแตกหรือเปล่าแกเช็กชัวร์ไหม"
"ก็เห็นถุงมันอยู่ที่พื้นฉันก็รีบโกยแนบแล้ว อีกอย่างปริญญ์เป็นผู้ชายคนแรกของฉันด้วยฉันไม่เคยมีอะไรกับใครเลย"
คนฟังลมแทบจับไม่รู้เพื่อนไปพลาดท่าท้องป่องได้ยังไง หลังจากช่วยกันทำกับข้าวจนเสร็จปริญญ์ก็ทำหน้าที่จัดโต๊ะรอ เขาดูแลปุ้มปุ้ยเป็นอย่างดีจับเด็กอ้วนขึ้นมานั่งพร้อมตักข้าวใส่ถ้วยน้อยๆ กระแตมองภาพนั้นอึ้งๆ ไม่ต่างจากเป้ยที่ยืนมองทุกการกระทำของปริญญ์ตาไม่กะพริบ
"เด็กวัดปุ้มปุ้ยกินเต้าหู้นะ" นิ้วชี้อ้วนๆ ชี้ไปที่ถ้วยต้มจืดเต้าหู้สีนวลๆ ปริญญ์รีบตักใส่ถ้วยแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ "อร่อยจัง เด็กวัดชิมสิ"
ปุ้มปุ้ยใช้ช้อนอันเล็กตักข้าวในถ้วยพร้อมเต้าหู้ไข่เธอเป่าจนแก้มกลมๆ ป่องไปด้วยลม ปริญญ์จึงใช้จังหวะนี้หอมแก้มปุ้มปุ้ยด้วยความมันเขี้ยว
"เด็กวัดหอมปุ้มปุ้ยทำไม ปู่เมศบอกอย่าให้ผู้ชายหอมแก้มนะ ไม่ดี" สีหน้าและน้ำเสียงของปุ้มปุ้ยจริงจังมาก
"ปุ้มปุ้ยคะรีบกินข้าวเถอะแม่มีขนมชั้นที่ปุ้มปุ้ยชอบด้วยนะ^^"
"ว้าว เด็กวัดกินขนมชั้นไหม อร่อยนะ^^"
------------------------
ไรท์หลงรักปุ้มปุ้ยเข้าเต็มๆ