บทที่2
ไปโรงแรม
การมามหาวิทยาลัยในครั้งนี้ของปริญญ์เขามีเพื่อนหลายคนที่เข้ามาทำความรู้จักทั้งออกัส โคย สองคนนี้คุยแป๊บเดียวก็สนิทกันเลยนี่เป็นจุดเริ่มต้นของแก๊งวิดน้ำสิวะที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมา ปริญญ์กลับมาบ้านเขาก็เจอกับคำถามและคำสรรพนามว่านักศึกษาแพทย์ทั้งที่จริงแล้วเขาเป็นแค่นักศึกษาวิศวะ
"วันนี้ป้าอิ๋วจะมาทานข้าวกับเรานะลูก ได้ข่าวว่าแอร์เรียนจบแล้วสอบติดคุณหมอเหมือนกันน่าจะคุยกันง่ายนะลูก"
ปริญญ์ไม่ตอบอะไรเขาเดินขึ้นบ้านเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวและเก็บข้าวของไปพลาง ๆ เพราะเร็ว ๆ นี้เขาจะต้องย้ายไปอยู่คอนโดเพียงลำพังนั่นคงเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ การมาอยู่กับแม่ทำให้เขาเสียสุขภาพจิตไม่เหมือนอยู่กับพ่อเลย
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อนข้างน่ารำคาญแต่ละคนจ้องแต่จะอวดความสำเร็จของตนเองปริญญ์เป็นพวกขวางโลกอยู่แล้วเขาปล่อยให้แม่ยกยอปอปั้นจนพอใจเมื่อป้าอิ๋วถามถึงอนาคตเขาก็ตอบไปตามตรงว่าเขา
"ผมเรียนวิศวะครับ"
เพล้ง!
เสียงช้อนหลุดมือจากปรีชญาสิ่งที่ลูกพูดมาเมื่อกี้ทำให้คนเป็นแม่มือไม้สั่นปากสั่นน้ำตาคลอถึงว่าทำไมเพื่อนที่เป็นอาจารย์แพทย์ของมหาวิทยาลัยที่ลูกไปเรียนไม่ส่งข่าวคราวมาเลยที่แท้ลูกชายตัวดีไม่ได้เลือกเรียนแพทย์ตามที่คาดหวังเอาไว้
"ปริญญ์! แม่ไม่เล่นนะลูก"
"ผมพูดจริง ๆ ครับผมไม่ได้เรียนหมอผมตัดสินใจที่จะเรียนวิศวะ" พูดจบเขาก็เดินขึ้นห้องก่อนจะปิดประตูขังตนเองอยู่ในนั้นเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้แม่ของเขากำลังทุกข์ใจจนต้องโทรไปทะเลาะวิวาทกับพ่อของเขาอีกเช่นเคย
ปรีชญาตัดใจในเมื่อลูกชายต้องการแบบนี้ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันในเมื่อลูกอยากแยกออกไปอยู่ตามลำพังก็คงต้องเป็นแบบนั้นการที่ลูกอยู่ที่นี่ดูเหมือนลูกชายจะต่อต้านทุกอย่างปริญญ์คนนี้ไม่เหมือนปริญญ์คนเดิมที่เขาเคยเลี้ยงดูมาเลย
เขาถูกพามาส่งยังคอนโดมิเนียมหรูชั้นที่เขาอยู่มีเพียง 4 ห้องเท่านั้นไม่รู้ว่าเป็นบุพเพหรือว่าเป็นเวรกรรมอีก 3 ห้องที่เหลือนั้นเป็นห้องของสมุทร ออกัส และโคย ทำให้เขารู้สึกคลายเหงาไปบ้าง อย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมที่รู้จักกันดี ทั้ง 4 คนสนิทสนมกันอย่างไม่น่าเชื่อแต่ก็ยังมีปัญหานั่นคือคู่อริที่ไม่รู้ว่าเขาเองไปเหยียบหางกันตอนไหน เพื่อนร่วมรุ่นอย่างเมธีถึงได้จ้องแต่เขม่นเขานัก
"วันนี้มีงานรวมตัวกันที่ร้านทีบาร์ไม่ไปคงน่าเกลียดวะ" ออกัสเดินมานั่งพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่ม
"ก็ลองไปดูเผื่อจะมีเพื่อนเพิ่ม" โคยออกความคิดเห็น
"ไงมึงไอ้ปริญญ์ ไปเปล่า" สมุทรหันมาถาม
"ไปก็ดีกูรู้สึกเซ็ง ๆ กับชีวิตฉิบหาย พ่อไปทางแม่ไปทางแต่ทุกคนคาดหวังให้กูเป็นหมอ ไม่ใช่ว่ากูไม่อยากเป็นนะแต่กูรู้สึกว่ากูเหนื่อยเกินไปกว่าจะเรียนจบแต่ละปีไหนกูจะต้องทนแรงกดดันกูทำไม่ได้ว่ะ"
"แต่ที่ผ่านมามึงก็เรียนดีไม่ใช่หรือ" สมุทรย่อมรู้ดีเพราะว่าเขารู้จักกับปริญญ์มานาน
"เรียนมัธยมกับมหาลัยมันไม่เหมือนกันเว้ย ถึงขึ้นมหาลัยไปมันก็ปูพื้นฐานมาจากมอปลายนี่แหละแต่หลังจากนั้นทุกอย่างมันจะเริ่มยากขึ้นไอ้ทำมันทำได้เว้ย แต่ที่มันยากคือความอดทน คนชอบมองว่าหมอพยาบาลเป็นการทำงานบริการที่ต้องแบกรับอารมณ์คนไข้เป็นร้อยคนแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าทั้งหมอและพยาบาลจำเป็นต้องมารองรับอารมณ์ของคนเป็นร้อยคนด้วยหรือไง"
"มึงก็พูดถูก คนอารมณ์ร้อนอย่างมึงอย่าเป็นหมอเลย"
-_-!
ถึงเวลารวมตัวทุกคนเดินทางมายังร้านทีบาร์ร้านลับที่นักศึกษาวิศวะชอบมารวมตัวกันทุกวันศุกร์ จะดีกว่านี้ถ้าเกิดโต๊ะที่ปริญญ์นั่งไม่มีเมธีอยู่ด้วย ทุกคนนั่งคุยกันตามประสาผู้ชายเกมบ้างบอลบ้างปัญหาเรื่องความรักบ้างจะมีอยู่แค่สี่หนุ่มที่คุยกันไปเรื่อยเปื่อยส่วนมากจะเป็นเรื่องรถเพราะว่าแต่ละคนมีรถบิ๊กไบค์ขับกันทั้งนั้นมีแค่ปริญญ์ที่ยังต้องนั่งรถแท็กซี่อยู่
"ผู้หญิงตรงนั้นสวยว่ะ" เสียงของเมธีพูดขึ้นมากลางวงทุกคนที่นั่งอยู่จึงหันไปมองตาม
"เออว่ะโคตรสวยเลย"
ปริญญ์หันไปมองยังเป้าหมายที่ทุกคนพูดถึงใครจะไปคิดว่าโลกแม่งโคตรกลมพี่เป้ยพี่สาวคนสวยกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวอาการเหมือนคนอกหักหัวใจของปริญญ์เป็นตุบตับเพราะความตื่นเต้นเขาภาวนาขอให้ทั้งสองเลิกกันทุกสามเวลาหลังอาหาร
"พวกมึงเดี๋ยวกูมานะนั่นพี่แถวบ้านกูเอง" เขารีบเดินตรงไปหาสาวสวยหน้าเวที "พี่เป้ย!"
"หือออ ใครอะ"
"ผมเองปริญญ์ไงพี่"
"จำไม่ได้ ปริญญ์ไหนอ่าา"
"ผมอยู่ข้างบ้านพี่ไงเมื่อก่อนพ่อกับแม่ผมชอบพาผมไปฝากแม่พี่เลี้ยง ตอนเด็ก ๆ เราเคยเล่นคุณหมอกับคนไข้พี่เป็นคนท้องมาทำคลอดกับผมแถมพี่ยังถอดกางเกงให้ผมดูปิ๊พี่ด้วยนะ^^"
"อ๊ะ! นายจะบ้าเหรอมาพูดอะไรตรงนี้น่าเกลียด!"
"ก็ผมพูดจริงนี่ แล้วนี่ทำไมพี่มานั่งคนเดียวล่ะผัวทิ้งแล้วดิ"
"สู่รู้! ไปไหนก็ไปเลย-_-!"
"อะไรไม่ไปหรอก ก็พี่มานั่งคนเดียวให้ผมนั่งเป็นเพื่อนไหม"
สาวสวยมองหน้าเด็กหนุ่มเธอเริ่มจำได้ถึงวีรกรรมสมัยเด็กแล้วแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรตอนนี้เธออกหักเพราะถูกแฟนนอกกายนอกใจที่สำคัญมือที่สามดันไม่ใช่คนอื่นคนไกลเสียด้วย
"พี่พักอยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง"
"ฉันยังไม่เมา ฉันยังไม่กลับ"
"แต่หน้ากับเสียงพี่ไม่ไหวแล้วนะ เอางี้ผมไปส่งรอแป๊บ"
หมับ!!
เพียงแค่ปริญญ์ลุกขึ้นสาวสวยก็คว้ามาหมับเข้าที่แขนของปริญญ์
"อะไรพี่ไหวปะเนี่ย?"
"คืนนี้ว่างไหมไปต่อกับฉันเถอะ"
"ปะ ไปไหนพี่พรุ่งนี้ผมว่างแต่ตอนบ่ายว่าจะไปซื้อของเข้าห้องหน่อย"
"โรงแรม!!"
บรื้นนนนน!!!
----------------------------
ตอนนี้ไรท์บรรยายเรื่องราวในอดีตก่อนนะคะ ตอนที่3-4น่าจะกลับเข้าสู่ช่วงปัจจุบันค่ะ