บทที่7
ปลาปุ้มปุ้ย
วันต่อมา
วันนี้เป้ยต้องเข้าออฟฟิศจึงได้ฝากลูกสาวไว้กับเพื่อนบ้านอย่างกระแตแต่วันนี้กระแตต้องไปช่วยงานที่วัดจึงได้พาปุ้มปุ้ยไปด้วย เด็กน้อยตัวอ้วนกลมมีพื้นที่เล่นสกู๊ตเตอร์แล้วเธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ
"ลมหายใจเข้าลมหายใจออก"
ครืดดด ครืดดดด
ปุ้มปุ้ยขับสกู๊ตเตอร์พร้อมร้องเพลงที่เธอชอบฟังแต่ก็ดันถูกคนตัวสูงเดินมาขวางทางจนเธอต้องเบรกเอี๊ยดแล้วมองหน้าอย่างเอาเรื่อง
"ไอ้เด็กวัดมาขวางปุ้มปุ้ยทำไม!"
"เด็กอ้วนบอกมาว่าพ่อเธอเป็นใคร -_-!"
"ทำไมปุ้มปุ้ยต้องบอกเด็กวัดด้วย"
"นี่เป็นคำสั่งถ้าเธอไม่บอกพี่จะจับเธอโยนลงไปในน้ำให้ปลาสวายกิน อ้วนๆ แบบนี้ปลาสวายคงแย่งกันกินเลยล่ะ"
"ฮึก! แงงงงง!!!!"
ปุ้มปุ้ยแหกปากร้องลั่นลานวัดปริญญ์มองซ้ายมองขวาตอนนี้เสียงเพลงบนศาลาที่เปิดโดยแม่ครัวหัวป่าทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงของเจ้าหนูปุ้มปุ้ยเขาจึงโอ๋เธอด้วยการให้อมยิ้มที่เขาไปขอเณรมาสดๆ ร้อนๆ
"พี่ให้แล้วไม่ต้องร้องเราสองคนมาเป็นพวกเดียวกันดีกว่า"
"นี่ปุ้มปุ้ยนะ ไม่คบเด็กวัดหรอก"
"โหร้ายว่ะ พี่ไม่ใช่เด็กวัดแต่พี่เป็นหลานเจ้าอาวาสนะเว้ย ยิ่งใหญ่ไหมล่ะ"
ปุ้มปุ้ยกลอกตามองบนถึงเธอจะเด็กก็ใช่ว่าเธอจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเธอรับอมยิ้มมาเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วหยิบเงิน 10 บาทให้กับปริญญ์เป็นค่าอมยิ้มแท่งนี้
"อะไรพี่ไม่เอา ตั้งใจให้เห็นว่าเป็นลูกของพี่เป้ยหรอกนะ"
"ปุ้มปุ้ยไม่ชอบติดบุญคุณใคร นี่ปุ้มปุ้ยนะ"
"ไม่ธรรมดาจริงๆ เด็กคนนี้ถ้าเจอหน้าพ่อเมื่อไหร่นะตบให้หัวทิ่มเลยสอนลูกยังไงก้าวร้าวฉิบ-_-!"
เขาบ่นเบาๆ แต่ปุ้มปุ้ยไม่ได้สนใจส่งเงินให้เสร็จเธอก็ขับสกู๊ตเตอร์มาเล่นใต้ร่มไม้แต่ปริญญ์ก็ยังเดินตามเพื่อหลอกถามถึงพ่อของเธอ
"นี่เด็กอ้วนบอกพี่มาเถอะเดี๋ยวพี่ซื้อปลาไปให้"
"ปลาอะไรนี่ปุ้มปุ้ยนะ"
"รู้แล้วล่ะว่าชื่อปุ้มปุ้ยเดี๋ยวพี่ซื้อปลาปุ้มปุ้ยไปให้โอเคไหม"
"ก็ได้ค่ะ ปุ้มปุ้ยไม่รู้เหมือนกันค่ะ"
"อ้าวได้ไงวะไม่รู้จักพ่อตัวเองเนี่ยนะ!" ปริญญ์ทำท่าตกใจหรือว่าพ่อของเธอจะเป็นไอ้หลานอบต. แห่งหมู่บ้านซอยเล็กน้อย เขาคิดว่าต้องใช่แน่ๆ ไอ้เวรนั่งมันคงไม่รับเด็กในท้องเป็นลูก ทำให้พี่เป้ยคนสวยของเขาต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
"นี่ปุ้มปุ้ยนะ"
"รู้แล้วว่าชื่อปุ้มปุ้ยแล้วตอนนี้ปุ้มปุ้ยอยู่กับใครบ้างบอกพี่มาหน่อย"
"อยู่กับแม่คะแม่ขาสองคนค่ะ"
"จริงดิ!" แบบนี้ก็ทางสะดวกปริญญ์นั่งยิ้มอยู่คนเดียวหันมาอีกทีปุ้มปุ้ยก็หนีไปเล่นอีกฝั่งแต่ไม่เป็นไรวันนี้เขาได้ข้อมูลของพี่เป้ยคนสวยมามากพอแล้วไว้เย็นนี้เขาจะเอาปลาไปให้เด็กอ้วนลูกสาวของพี่เป้ยคนสวยก็แล้วกัน
หลังจากที่ปุ้มปุ้ยกลับมาถึงบ้านเธอก็เฝ้ารอปลาที่ปริญญ์ได้บอกกับเธอไว้ว่าจะเอาปลาปุ้มปุ้ยมาให้ถือว่าฝันว่าจะได้เลี้ยงปลาทองตัวอ้วนๆ ป่านนี้ปริญญ์คงไปเลือกซื้อปลาไม่รู้กี่ตัว
"ปุ้มปุ้ยทำไมไม่เข้าบ้านลูกรอใครรอป้ากระแตเหรอคะ"
"นั่นไงมาแล้ว!"
เด็กตัวอ้วนรีบลงจากโต๊ะเธอปรบไม้ปรบมือสายตามองไปยังถุงด้านหลังของปริญญ์ ส่วนปริญญ์ก็เดินยิ้มหน้าบานเข้ามาก่อนจะหยิบถุงด้านหลังส่งให้ปุ้มปุ้ยเด็กตัวอ้วนใบหน้าถอดสีเม้มปากน้ำตาคลอเธอหันไปมองหน้าผู้เป็นแม่แล้วมองค้อนกลับไปหาปริญญ์เป็นสายตาที่คนเป็นแม่ยังไม่เคยเห็น
"พี่เอาปลากระป๋องปุ้มปุ้ยมาให้ตามสัญญา"
"ไอ้เด็กวัดหลอกปุ้มปุ้ย แงงงงงง แม่คะ แม่ขาไอ้เด็กวัดมันหลอกปุ้มปุ้ยค่ะ ฮืออออ"
ปุ้มปุ้ยเสียใจมากเธอโยนปลากระป๋องปุ้มปุ้ยทิ้งลงพื้นก่อนจะหันไปสวมกอดผู้เป็นแม่ความเจ็บปวดครั้งนี้ทำให้ผู้เป็นแม่รีบถามถึงสาเหตุที่แท้จริง
"ก็ผมบอกว่าจะให้ปลาปุ้มปุ้ยผมก็เอามาให้แล้วนี่ไงผมผิดตรงไหน" คนหน้ามึนตอบหน้าตาเฉยแต่กลับทำให้สองแม่ลูกโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
"นายรู้ไหมว่าปุ้มปุ้ยมีปลาอยู่หนึ่งตัวพ่อนายเป็นคนซื้อให้ตอนอยู่ที่ต่างจังหวัดปุ้มปุ้ยรักปลาตัวนั้นมากแต่วันเดินทางระยะทางมันไกลเกินไปทำให้ปลาน็อกฉันเองก็จนปัญญาที่จะช่วยเลยรอจังหวะที่ปุ้มปุ้ยหลับจึงรีบทิ้งไปฉันบอกกับลูกว่าปลาตัวนั้นยังอยู่ที่บ้านนอกไม่ได้เอามาด้วยแต่จะพาลูกไปซื้อใหม่ ปุ้มปุ้ยคงคาดหวังว่านายจะเอาปลาทองแบบที่เธอชอบมาให้เลี้ยงแต่นายกลับมาทำร้ายความรู้สึกลูกฉันแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน!"
"ก็ผมไม่รู้ ผมขอโทษครับปุ้มปุ้ยพี่ขอโทษนะเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่รีบไปซื้อปลาทองมาให้เอาตัวใหญ่เลยไหมมีออกซิเจนหรือเปล่า"
ปริญญ์รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเขาเดินมานั่งคุกเข่าแล้วจับแขนอ้วนๆ ของปุ้มปุ้ยเธอหันมาพร้อมหยดน้ำตาของความผิดหวังและเสียใจเขาจึงดึงเธอมากอดแล้วอุ้มมายังอ่างปลาที่สองแม่ลูกช่วยกันขัดล้างทำความสะอาดเติมน้ำพักเอาไว้เพื่อรอปลามาปล่อย
"พี่ขอโทษนะเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะรีบตื่นแต่เช้าไปซื้อปลาเอาตัวใหญ่เลยไหม"
"ปุ้มปุ้ยมีปลาตัวใหญ่มันอ้วนมากค่ะ ฮึก!"
"โอเคครับเดี๋ยวพี่ไปเลือกปลาตัวอ้วนๆ ให้เลย"
-----------------------
ไอ้ชั่ว ไอ้เลวฮ่าาา แกเอาปลากระป๋องปุ้มปุ้ยมาหลอกหลานฉัน