12

1248 คำ
“หนูจินนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก...ออกไปกับมาร์คเมื่อเช้านี้” สีหน้าของพิมลวัลย์เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ลูกสาวของเธออยู่กับปกรณ์ เขาพาลูกของเธอไปไหน พาไปทำไม เธอคิดไปต่างๆ นานา ห่วงลูกสาวของเธอยิ่งนัก “พาไปไหนคะ?” เธอถามเสียงสั่น “มาร์คพาไปที่ทำงานด้วยละมั้ง?...เพราะวันนี้ลูกชายฉันมีประชุม หนูลองไปตามที่บริษัทสิ” จักราเสนอความคิดเห็น ถึงจักราไม่พูดพิมลวัลย์ตั้งใจจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว “มลลาเลยนะคะ...สวัสดีค่ะ” พิมลวัลย์ทำความเคารพผู้สูงวัย “เดี๋ยว!!...เอารถของฉันไป...เธอรู้จักบริษัทของลูกชายฉันมั้ย?” จักรายื่นกุญแจรถให้กับพิมลวัลย์ เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมมือไปรับกุญแจนั้น “มลรู้จักค่ะ” เธอตอบ ทำไมเธอจะไม่รู้จัก เพราะรายละเอียดต่างๆ ของปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเล่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ของบริษัท รวมทั้งที่อยู่ของบริษัทในเครือต่างๆ พิมลวัลย์ท่องจำอย่างขึ้นใจ ก่อนจะเดินไปที่รถยนต์คันหรูที่จักราชี้นำทางให้ เธอทะยานรถออกไปจากบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว ตอนนี้หัวใจของเธอเดินทางไปถึงบริษัทของปกรณ์แล้ว กลัวว่าเขาจะทำร้ายลูกของเธอ คิดไปต่างๆ นานา เพราะปกรณ์ไม่แยแสลูกสาวของเธอ แล้วจะพาลูกสาวของเธอไปทำไม หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เธอจะทำให้เขาได้รับรู้ถึงคำว่าเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเป็นยังไง “ถ้าคุณทำอะไรลูกฉันแม้แต่ปลายเล็บ...คุณแหลกแน่คุณปกรณ์” เธอพูดกับตัวเองและสาบานจะทำอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ พิมลวัลย์เดินทางมาถึงที่ทำงานของปกรณ์ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เหตุที่มาล่าช้าเพราะต้องฝ่าฟันกับสภาพจราจรที่ติดขัด กว่าจะผ่านมาได้แต่ละแยก หญิงสาวต้องทำใจให้สงบอยู่นาน พอมาถึงเธอเดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที จุดหมาย ปลายทางคือชั้นที่ 52 พอมาถึงพิมลวัลย์ต้องเจอกับด่านแรกที่นั่งทำงานอยู่ที่หน้าประตูห้องประธานบริษัท “มาหาใครคะ?” เลขาฯ สาวแต่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เอ่ยถามผู้มาเยือน “มาหาคุณปกรณ์ค่ะ” เธอตอบออกไป “ท่านประธานกำลังเข้าประชุมอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ และนัดท่านไว้หรือเปล่าคะ?” “ดิฉันชื่อพิมลวัลย์ค่ะ และไม่ได้นัดไว้ค่ะ” “ถ้าคุณไม่ได้นัดไว้ รอท่านประธานที่ห้องรับรองก่อนนะคะ พอท่านออกมาจากห้องประชุมดิฉันจะรายงานให้ท่านทราบ...เชิญค่ะ” ราตรีเลขาฯ ของปกรณ์พาหญิงสาวไปที่ห้องรับรองแขกที่อยู่ติดกับห้องของท่านประธานหนุ่ม พิมลวัลย์เดินตามไปอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะมาที่นี่เพื่อรับลูกของเธอกลับ ไม่ได้อยากจะเสวนากับปกรณ์มากเท่าไหร่ เหตุการณ์ที่เรือนหลังเล็กในวันนั้น ทำให้เธอต้องย้ำเตือนตัวเองไว้เสมอว่า อย่าอยู่ตามลำพังกับเขาเด็ดขาด “รอที่นี่ก่อนนะคะ ดิฉันจะไปเอาน้ำมารับรอง” ราตรีพูดอย่างเป็นมิตร พิมลวัลย์ยิ้มน้อยๆ กับไมตรีที่ราตรีมีให้ “เอ่อ...เดี๋ยวค่ะ ไม่ทราบว่าคุณปกรณ์พาเด็กผู้หญิงที่มาด้วยไปไว้ที่ไหนคะ?” เธอเอ่ยถามราตรีเพราะหญิงสาวคนนี้อาจจะให้คำตอบที่เธออยากรู้ได้ เนื่องจากใครเข้าออกห้องของท่านประธานต้องผ่านเธอก่อน “ไม่นี่คะ...ดิฉันไม่เห็นท่านประธานพาเด็กที่ไหนมาเลยค่ะ” ราตรีตอบตามความเป็นจริง ตั้งแต่เช้าเธอไม่เห็นเด็กที่ไหนสักคน และไม่มีใครเดินทางมาหาเจ้านายหนุ่มด้วย มีพิมลวัลย์เป็นคนแรกที่เป็นแขกของท่านประธาน คำตอบของราตรีทำให้สีหน้าของพิมลวัลย์ซีดลง ตัวสั่นหัวใจเองก็สั่นตามไปด้วย เขาพาลูกเธอออกมาจากบ้าน แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วเขาพาศิริกาญจน์ไปอยู่ที่ไหน อยู่ที่ไหน พิมลวัลย์ถามย้ำกับตัวเองด้วยความร้อนรน ไม่ได้แล้วเธอรออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ต้องไปถามเขาให้รู้เรื่องก่อนที่เธอจะอกแตกตาย “ห้องประชุมอยู่ที่ไหน?...ฉันต้องการพบเจ้านายของคุณเดี๋ยวนี้” พิมลวัลย์เดินออกมาจากห้องรับรอง ก่อนจะถามราตรีเมื่อก้าวเข้ามาถึงโต๊ะทำงานของเธอ “ไม่ได้ค่ะ คุณพบท่านประธานตอนนี้ไม่ได้ คุณต้องรอท่านอยู่ที่ห้องรับรองก่อนนะคะ” “ฉันรอไม่ได้ ฉันเป็นห่วงลูก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “คุณต้องรอครับ บอสสั่งไว้ว่าถ้าคุณอยากพบหนูจินนี่คุณต้องคอยท่านก่อน เชิญครับ ผมจะพาคุณไปรอบอสที่ห้อง” พนาพูดสมทบขึ้น เขาได้รับการรายงานจากราตรีว่ามีหญิงสาวชื่อพิมลวัลย์มาขอพบ เขาจึงมารายงานปกรณ์ และถ่ายทอดคำสั่งของผู้เป็นนายให้เธอฟัง พิมลวัลย์จำต้องเดินตามพนาไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหัวใจของเธออยู่ในกำมือของเขา พิมลวัลย์เดินไปเดินมาอยู่ในห้องทำงานของเขา ในใจของเธออัดแน่นด้วยความเป็นห่วง พะว้าพะวัง คิดไปต่างๆ นานา จนเธอแทบจะเป็นบ้า ศิริกาญจน์แม้ว่าไม่ใช่ลูกของเธอ หากแต่ความรักและความผูกพันที่มีมากกว่าคนที่เป็นแม่บางคนเสียอีก เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งถึงเที่ยงตรง ร่างของปกรณ์จึงเดินเข้ามาในห้องทำงาน “คุณเอาลูกของฉันไปไว้ที่ไหน?...บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” เธอถามเขาทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่สนใจกับคำถามของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาเดินเลยผ่านเธอไป ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทำงาน พิมลวัลย์อยากจะกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขา เธอจึงเดินมาหยุดใกล้กับเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ ผลักบ่าของเขาอย่างแรงชวนหาเรื่องเต็มที่หากไม่ได้รับคำตอบจากเขา “ฉันถามว่าจินนี่อยู่ที่ไหน หูหนวกหรือไงถึงไม่ได้ยิน?” เธอกระชากเสียง ถาม ดวงตาหวานสวยกลายเป็นดุกร้าวราวกับสมิงสาว เขาปรายตามองเธอนิด ยิ้มอยู่ในใจเมื่อเห็นสีหน้าปานขาดใจของเธอ สมน้ำหน้า ปกรณ์คิดในใจ อยากเห็นผู้ชายอื่นดีกว่าลูกของตัวเอง ต้องเจอแบบนี้บ้างถึงจะดี “ได้ยินแต่ไม่อยากตอบ มีอะไรมั้ย?” เขาตอบกลับอย่างกวนๆ มีหรือที่พิมลวัลย์จะยอม ถ้าเป็นเรื่องอื่นเธอยอมได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของศิริกาญจน์เธอยอมไม่ได้ “มีแน่...นี่ไง...ผลัวะ...” ฝ่ามือบางฟาดลงไปที่ระหว่างบ่าและหลังของเขาอย่างแรง ทำให้ปกรณ์รู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก เนื่องจากมือของเธอใช่จะเบาเสียที่ไหน หนักยิ่งกว่าหินเสียอีก พิมลวัลย์หมายจะซ้ำเป็นครั้งที่สอง หากแต่ลำแขนหนาตวัดที่เอวของเธอไว้ ก่อนจะออกแรงฉวยร่างบางในจังหวะที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้พิมลวัลย์มานั่งอยู่ที่ตักหนา เมื่อรู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม