แขไขยิ้มเยาะลูกเลี้ยง เธอเกลียดนักกับท่าเชิดคอราวกับนางหงส์ แม้จะยอมลงให้เธอแต่ไม่เคยเคารพยกย่องเธอในฐานะภรรยาของพ่อ แม้ว่าเธอกับลูกจะกดข่มบังคับให้อีกฝ่ายทำงานบ้านราวกับทาสในเรือนเบี้ย ไม่ให้เรียนต่อเพื่อจะได้ดูด้อยกว่าลูกทั้งสองของเธอ แต่ดาริกาก็ไม่ลดท่าทีงามสง่านั้นลง ลูกๆของเธอเสียอีกราศีเทียบกับลูกเลี้ยงไม่ติด พาไปงานสังคมมาหลายครั้ง ก็ไม่เคยมีใครมาทาบทามสักที การหาสามีดีๆ ให้ลูกสาวเป็นความตั้งใจของแขไข เธอจะไม่ยอมให้ลูกทั้งสองต้องตกที่นั่งเดียวกับเธอ ผู้ชายที่มีแต่ความรักแล้วจน เทียบไม่ได้กับผู้ชายที่รวยๆ สามารถดูแลภรรยาได้ ถึงไม่ได้รักก็อยู่อย่างสุขสบายกว่าต้องทนกัดก้อนเกลือกิน
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นายพิพัฒน์ก็หันมาพูดกับลูกสาวด้วยท่าทางวิตกกังวล
“หนูดาว พ่อไม่ยอมให้หนูแต่งงานใช้หนี้หรอกนะลูก นังแขไขรับปากเขา ก็ให้ลูกสาวมันแต่งไปสิ”
“น้าแขเขาคงไม่ยอมปล่อยหนูดาวแน่ๆ เลยค่ะ เขาเลี้ยงนักเลงไว้คนหนึ่ง เขาเคยใช้นักเลงคนนั้นมาขู่ยายแก้วกับตาชม ไม่ให้ขัดขวางเขา ตอนที่เอารถของบ้านเราไปขาย พวกผู้จัดการโรงงานก็ถูกขู่ ถ้าใครไม่ยอมก็จะไล่ออก ไม่ก็ถูกซ้อม”
ดาริกาตัดสินใจเล่าถึงความเลวร้ายของแม่เลี้ยงให้บิดาฟัง เธออดทนและปกปิดเรื่องพวกนี้มาหลายปี ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ ด้วยรู้ว่าถึงบอกไปก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
“นังแขไขมันทำถึงขนาดนี้เลยหรือ โธ่... ทำไมลูกไม่เล่าให้พ่อฟัง ทนให้มันทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้ทำไม” นายพิพัฒน์ครางออกมาอย่างเจ็บใจ
“บอกไปเราก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ น้าแขยึดอำนาจไปหมดแล้ว หนูดาวได้แต่อดทน เกรงว่าน้าแขจะทำร้ายยายแก้วกับตาชม แล้วอาจจะทำร้ายคุณพ่อด้วย ถ้าคุณพ่อไม่อยู่หนูดาวจะทำยังไง หนูดาวรักคุณพ่อนะคะ”
ดาริกาน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น ในใจทุกข์ระทมกับปัญหานานาที่ถั่งโถมเข้ามาในชีวิต เธอพยายามเข้มแข็ง อดทน แต่ครั้งนี้เกินจะทนไหว
“พ่อก็รักลูก หนูดาวฟังพ่อนะ หนูต้องหาทางไปจากที่นี่ ไปให้พ้นจากนังแม่มดนั่น พ่อไม่ยอมให้มันทำลายชีวิตลูกสาวของพ่อหรอก เรื่องหนี้สินหากเราจะถูกเขายึดทรัพย์ไป ก็เพราะตัวเราเองไม่มีปัญญาชำระหนี้ได้ อย่าไปเสียดายกับของพวกนั้น ชีวิตของหนูดาวมีค่าที่สุด อย่าให้ใครมาทำลายชีวิตของหนูได้”
นายพิพัฒน์บอกลูกสาวอย่างตัดสินใจ เขายอมเสียทุกสิ่ง แลกกับอนาคตของลูก ชีวิตของเขาไร้ค่าเสียแล้ว มันจะมีความหมายอะไรหากเขายังอยู่ แต่ลูกต้องไปทนทุกข์
“หนูดาวทิ้งคุณพ่อไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าหนูดาวไปใครจะดูแลคุณพ่อ” ดาริกาส่ายหน้าไม่ยอมทำตาม
“โธ่... หนูดาว พ่อเป็นภาระของลูกจริงๆ” นายพิพัฒน์น้ำตาไหลออกมา
“ไม่นะคะอย่าคิดแบบนั้น คุณพ่อคือทุกสิ่งในชีวิตของลูก หนูดาวรักคุณพ่อนะคะ”
ดาริการ้องไห้ด้วยความสะเทือนใจ ในชีวิตของเธอมีบิดาเป็นแสงเทียนในใจ ท่านคือผู้ให้ชีวิตและผู้ที่เธอรักมากที่สุด
“หนูดาวฟังพ่อนะ ถ้าหนูรักพ่อหนูต้องไปจากที่นี่ อย่ายอมให้นังแขไขมันบังคับแต่งงาน ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อ ยังมียายแก้วกับตาชมอยู่ ทั้งสองคนจะดูแลพ่อเอง นังแขไม่กล้าทำอะไรพ่อหรอก”
นายพิพัฒน์เกลี้ยกล่อมลูกสาวอีกครั้ง ในสมองมีความคิดบางอย่าง เขามีหนทางของตัวเองแล้ว ที่สำคัญลูกสาวของเขาต้องรอดพ้นเงื้อมมือคนชั่วอย่างแขไข
“แต่คุณพ่อคะ หนูดาวเป็นห่วงคุณพ่อ” ดาริกาไม่กล้าตัดสินใจ เธอห่วงใยบิดามาก
“ไม่ต้องห่วงพ่อ หนูฟังพ่อนะ ถ้าหนูไม่ไปชีวิตทั้งชีวิตของหนู ก็จะเหมือนตกนรกทั้งเป็น หากถูกจับแต่งงานหนูจะมีความสุขหรือลูก ถ้าลูกสาวของพ่อมีความทุกข์ แล้วพ่อจะมีความสุขได้อย่างไร ไปให้พ้นจากที่นี่ก่อนนะลูก แล้วหาอะไรทำหาเงินสร้างตัว วันหนึ่งข้างหน้าหนูมีฐานะอำนาจในมือ ก็จะสามารถทำทุกอย่างได้ ถึงตอนนั้นหนูกลับมารับพ่อไปอยู่ด้วย นังแขก็ไม่มีปัญญาขัดขวางหนูได้”
สิ่งที่บิดาพูดทำให้ดาริกานิ่งคิดใคร่ครวญ มันก็จริงอย่างที่ท่านบอก หากเธอสร้างตัวมีฐานะมีเงินมากพอที่จะดูแลตัวเองได้ เธอก็จะกลับมาพาท่านออกไปจากบ้านนี้ ไปให้พ้นจากคนใจร้ายอย่างสามแม่ลูกนั่น
“คุณพ่อขา หนูดาวจะทำตามที่คุณพ่อบอก คุณพ่ออดทนนะคะ หนูดาวสัญญาว่าจะมารับคุณพ่อไปอยู่ด้วยกัน” ดาริกาตัดสินใจทำตามที่บิดาแนะนำ
“ดีแล้วลูก หนูดาวไปเปิดลิ้นชัก หยิบกล่องไม้ในนั้นมาให้พ่อที”
นายพิพัฒน์พยักหน้ารับด้วยความโล่งใจ ที่ลูกสาวยอมทำตาม แล้วบอกให้ลูกไปหยิบของออกมา
“กล่องไม้นี่ใช่ไหมคะ”
ดาริกาเปิดลิ้นชักหยิบกล่องไม้ออกมาส่งให้บิดา นายพิพัฒน์เปิดกล่องแล้วหยิบกุญแจส่งให้
“นี่เป็นกุญแจเซฟของธนาคาร รหัสเปิดเซฟคือวันเดือนปีเกิดของหนู เอาสิ่งของข้างในไปด้วย มันเป็นสมบัติที่แม่ของหนูทิ้งไว้ให้ มันจะช่วยหนูได้ในยามยาก”
“ของ... ของคุณแม่หรือคะ”
ดาริการับกุญแจมาเก็บไว้ พลางเอ่ยถาม
“ใช่ แม่ของหนูดาวทิ้งเครื่องเพชร รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ให้หนู หากหนูเดือนร้อนอะไรให้เอาไปใช้นะลูก และถ้าหนูต้องการความช่วยเหลือ ให้หนูติดต่อไปหาญาติของแม่ของหนู ถึงแม้พวกเขาจะไม่ชอบขี้หน้าพ่อ แต่คงไม่ใจดำกับหลาน เก็บรักษาไว้ดี อย่าให้นังแขไขมันรู้ รีบเก็บข้าวของหนีไปเสียคืนนี้ ไม่อย่างนั้นนังแขไข มันอาจจะรู้ทันแล้วขัดขวางหนู”
“ค่ะคุณพ่อ คุณพ่อดูแลตัวเองนะคะ หนูดาวขอตัวไปเก็บของก่อน”
ดาริกากอดบิดาแล้วขอตัวไปจัดเตรียมข้าวของ และคิดหาช่องทางหลบหนีในค่ำคืนนี้